ตอนที่ 105
เมื่ออาซาฮินะได้ต่อยอากาศมันได้ทำเสียงหึ่ง
「ถ้าแกเป็นผู้ชาย แกต้องไม่วิ่งหนี!」
ตาของอาซาฮินะส่องแสงเป็นสีแดงและเธอตะโกนเหมือนคนบ้า และเหวี่ยงหมัดเธอด้วยกำลังทั้งหมด
แต่――
หมัดที่มันทำเสียงหึ่งเมื่อต่อยอากาศ
แม้ว่าคู่ต่อสู้เป็นชายตัวใหญ่ ถ้าเธอต่อยเขา เขาจะกระเด็นไปด้วยทีเดียว อาซาฮินะตอนนี้ ได้เท่ากับนักกีฬาระดับสูงสุด ไม่ เธอข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ดังนั้น “ถ้าเธอต่อยเขา” พลังมันควรจะไม่ปรกติ
แต่ โชคร้ายอาซาฮินะเป็นมือสมัครเล่นเมื่อมันเป็นเรื่องต่อสู้
เพราะก่อนเธอจะต่อย เธอจะยกมือของเธอเพื่อร้างแรง และเหวี่ยงมันลงด้วยกำลังทั้งหมดของเธอ
มันเหมือนจะบอกคนอื่นล่วงหน้าว่าเธอจะต่อยเขา แม้ว่า อีกฝ่ายเป็นนักเลง มันอาจจะมีคนที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ ดังนั้น พวกเขาไม่ควรจะถูกต่อยโดยหมัดมือสมัครเล่นแบบนี้
สำหรับเหตุผลนั้น อาซาฮินะต่อยไม่โดนเลยซักนิด แต่พวกนักเลงยังลังเลที่จะสู้กลับ
เหตุผลก็คือ――
「สาวคนนี้เป็นใครวะ?」
「เสียงต่อยแม่งบ้าไปแล้ว」
「เป็นผู้หญิงจริงๆเหรอวะ?」
「ตัวเธอผอมนะ แต่บางอย่างดูเหมือนจะแปลกๆ」
「เธอแปลกเพราะมันมีอะไรผิดบางอย่างกับตาเธอ ที่มันส่องแสงสีแดง」
ชัดเจนว่า เธอได้ทำให้พวกนักเลงรำคาญ
ก่อนหน้านี้ นักเลงที่สู้กับผมก็รำคาญอยู่แล้วเพราะพวกเขาถูกกำจัดอยู่ฝ่ายเดียวโดยผม ที่ดูอ่อนแอ มีแค่สี่คนที่ถูกกำจัดโดยผม อย่างไรก็ตาม พวกเขายังถูกกำจัดฝ่ายเดียวโดยผม
มากกว่านั้น ผมคุ้นเคยกับการต่อสู้กับนักเลง แม้ว่า อัตราของมันคือสี่ต่อหนึ่ง
แต่ครั้งนี้ อาซาฮินะปรากฏตัว
ก่อนหน้านั้น เธอได้สู้เพื่อปกป้องยูกะในโรงงานร้าง แม้ว่าลังเล เธอได้ด้อยกว่าอย่างท่วมท้นในการต่อสู้ และตอนนี้ ผมสมควรจะล้มลง แต่ เธอมาที่ที่ พูดอีกอย่าง เธอจะซัดนักเลงไม่ว่ากี่คนที่พยายามจะกำจัดเธอให้ล้ม อย่างไรก็ตาม เธอที่ควรจะเยินยังมีชีวิตชีวา
ก่อนถ้านั้น พวกเขาสู้อย่างไม่คุ้นเคยกับผม และตอนนี้ พวกเขาสู้อย่างไม่คุ้นเคยกับเธอด้วย
ในท้ายที่สุด พวกเขาจะรำคาญ
แต่――
「เหี้ย!」
หนึ่งในนักเลงได้โจมตีจากข้างหลังอาซาฮินะ ท่อเหล็กได้ฟาดลงไปสู่สมองของอาซาฮินะ และโดนเด็มๆด้วยเสียงเหล็กตีเนื้อ
「……เอ้ะ?」
อาซาฮินะเซเพราะเขาตีสมองเธอ
เธอน่าจะไม่คาดว่าจะโดนตี
「ชั้นจะทำมัน」
อาซาฮินะพึมพำระหว่างให้เลือดไหลออกมาจากขมับเธอ
「ครั้งนี้มันเป็นเวลาชั้น」
อาซาฮินะขึ้นเสียงและต่อยหมัดไปหลังเธอ หมัดโดนอากาศและทำเสียงหึ่ง
「โอ้ นั่น? สาวคนนี้ บางที…」
「บางทีสาวคนนี้…」
「บางทีสาวคนนี้คือ…」
「ไม่มีทางสาวคนนี้…」
อาซาฮินะเหวี่ยงหมัดเธอด้วยเสียงหึ่ง แต่ยังไม่โดน มันดูเหมือนพวกนักเลงที่ดูเธอในที่สุดก็สังเกต
「สาวคนนี้อ่อนแอ?」
เมื่อหนึ่งในนักเลงพึมพำ นักเลงคนอื่นรอบเขามองหน้ากัน
อาซาฮินะไม่ได้อ่อนแอทางกายภาพเธอเหนือกว่าพวกนักเลง เพราะทั้งหมด เธอก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ ถ้าเธอเรียนรู้ที่จะสู้ เธอจะชนะ แต่สำหรับตอนนี้ มันจะเป็นการยาก
ถ้าพวกเขาสังเกตเรื่องนั้น หลังจากนี้ พวกเขาจะทำอะไร――
「สาวคนนี้!」
「ล้อมมันเฮ้ย!」
「ระวังหมัด ระวังหมัด!」
ประสบการณ์การต่อสู้ของอาซาฮินะขาดไปอย่างท่วมท้น พวกนักเลงที่สังเกต ร่วมมือกัน
และ――
นักเลงหลายคนอยู่ข้างหน้าและล่อความสนใจเธอ ระหว่างที่เธอสนใจข้างหน้า ที่ล้อมอยู่ข้างหลังเธอตีเธอด้วยท่อเหล็ก
อาซาฮินะที่แสดงความโกรธออกมาหันตัวและพยายามจะต่อยข้างหลัง อย่างไรก็ตาม หมัดนั้นโดนเพียงอากาศ และในระหว่างนั้น เธอโดนตีด้วยท่อเหล็กจากข้างหลังอีก
นี่มันไม่ใช่การต่อสู้อีกต่อไป มันเป็นเพียงการรังแก
ถ้ามันมีคู่ต่อสู้ห้าหรือหกคน มันยังเป็นไปได้ที่จะสู้ แต่ตอนนี้ มันใกล้กำจำนวนหกสิบ พลังจะจะเอาชนะตัวเลขนั้นไม่เพียงพอ
และตอนนี้ อาซาฮินะได้เลือดไหลและยับเยิน และในไม่นาน เธอจะด้อยกว่า
นั่งอยู่บนกล่อง ผมมองดูการรังแกที่ย่ำแย่นี้
「เธอโง่ ที่เธอควรจะทำคือวิ่งหนีโดยเร็ว」
ริกกะทียืนข้างผมพึมพำ
「จริง」
ผมตอบริกกะและถอนหายใจ
ที่เธอควรทำคือหนีให้เร็ว คำพูดของริกกะพูดถึงไปที่อาซาฮินะ แต่มันไม่ใช่แค่อย่างเดียว เธอประหลาดใจโดยการกระทำของนักเลงที่โง่ด้วย
แน่นอนว่า อาซาฮินะด้อยกว่า ยังไงซะ มันช่วยไม่ได้อีกแล้ว
แต่มันแค่สำหรับ “ตอนนี้” นะ
「แต่ผู้นำเป็นข้อยกเว้น?」
ผมพึมพำระหว่างที่ตาผมชำเลืองมองริกกะที่ยืนต่อจากผม
ริกกะพยักหน้าตอบการมองของผม
「แค่จับเค้าและทำให้มั่นใจว่าเค้าไม่หนี อย่าซัดเค้า เค้าพลาดแล้ว หัวหน้ามันเป็นจานหลัก ถ้าเธอซัดเค้า อาซาฮินะจะโกรธเธอภายหลัง」
「น่ะ-นั่นน่ากลัว หนูจะระวัง…」
ตอบคำถามผม ริกกะเตะพื้น
หลังจากนั้น ริกกะกระโดยเป็นสิบกว่าเมตรโดยไม่มีความลำบากและลงพื้นเงียบๆ ข้างหน้าริกกะคือหัวหน้าของพวกนักเลงที่กำลังจะหนี
อย่างที่คาดกับหัวหน้า หลังจากเห็นอาซาฮินะยังสู้อยู่กับกลุ่มของเขา เขาพยายามจะหนีแทนที่จะสู้
มันดูเหมือนว่าเขาตัดสินใจที่จะวิ่งหนีเพราะเขาเห็นอะไรที่ไม่ทราบได้มาจากผมและอาซาฮินะ
ตัดสินใจได้ดี เขามีตาที่ดี
ไม่ต้องสงสัยเลย ทำไม่เขาถึงอยู่ตำแห่งสูงสุดขององค์กรที่จัดการกับกลุ่มนักเลงหลายขนาด
แต่ ยังไง เมื่อเขาเห็นริกกะ เขาสั่นเต็มที่ ริกกะยิ้มให้เขาหยิบเศษเหล็กที่หล่นอยู่บนพื้น
ริกกะห่อชิ้นส่วนเศษเหล็กด้วยสองมือปั้นเข้าตรงกลางเหมือนทำข้าวปั้น
――น่าา อยากเป็นแบบนี้มั้ย
ปากที่น่ารักสีชมพูซีดพูดเยี่ยงนั้น และเมื่อเธอเปิดมือของเธอ นั่นคือ…
เศษเหล็กได้กลายเป็นลูกบอล
ระหว่างที่ผู้นำเห็นนั่น เขาหล่นไปที่เข่าและทรุดลงตรงนั้น
ริกกะ มันดีเยี่ยมที่เธอไม่ให้ผู้นำหนีไปโดยไม่ต้องแตะเขา แต่เธอไม่ควรทำลายใจของเขานะ ถ้าหัวใจเขาแตกสลาย เขาก็จบแล้ว และหลังจากนั้น อาซาฮินะจะดุเธอ
ยังไงซาถ้าอาซาฮินะดุริกกะ ผมจะทำโทษอาซาฮินะ เพราะริกกะเป็น “ครอบครัว” ของผม
นานะฟูชิที่แบกยูกะที่สลบ ลากชิโนซากิ และดึงมือมารินะ ได้ออกไปจากโรงงานร้าง
ผมไม่รู้ว่าพวกเขาไปไหน แต่มันโอเคเพราะผมมีทามะมูชิ
「น่าา เธอได้เจอกับประสบการที่ย่ำแย่」
ระหว่างที่พึมพำ ผมยองลงแล้วกอดทามะมูชิ จากนั้นแกะเชือกที่มัดตัวเธอ
「อึน…♥」
ด้วยตาที่แฉะและปากที่นุ่มนิ่ม ทามะมูชิกอดผมทันทีที่เชือกหลุด
「นั่นมันน่ากลัว ♥ ชั้นได้กลัว ♥ มันเป็นเพราะนมเล็ก ♥ เพราะมันลื่น ♥ อาซาฮินะโง่ ♥」
ทามะมูชิเกาะผม ฝังหน้าของเธอลงไปในอกผม และสั่นระหว่างที่บ่น
ผมเข้าใจ ผมเข้าใจ อาซาฮินะไม่ได้อยู่ในมิตินั้น ที่เป็นของคนแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ มันเป็นความบ้าคลั่งที่ท่วมท้นที่เธอ เห็น และนั่นคงจะน่ากลัว
และผมก็เห็นด้วยที่อาซาฮินะโง่
――พูดถึงความเจ็บแล้ว ลูบหัวฉันหน่อยได้มั้ย♥
มันจริงที่ว่าเธอกลัว แต่เห็นได้ชัดว่า ทามะมูชิก็อยากโดนเอาใจด้วย
ผมพูดว่าผมจะให้รางวัลเธอ และผมพูดว่าผมจะให้รางวัลเธอเพิ่ม ผมจะตอบความต้องการของเธอได้มั้ย
「มันเจ็บมั้ยที่ถูกมัดด้วยเชือก?」
ระหว่างที่ผมถาม ผมกอดทามะมูชิที่เกาะอยู่และลูบหลังเธออย่างอ่อนโยน
ทามะมูชิยกหน้าและมองผมด้วยตาสีมรกตที่แฉะ
「อึน ♥」
จากนั้น ระหว่างเธอยังอายอยู่ เธอพยักหน้าด้วยเสียที่อ่อนแต่หวาน
「มันเจ็บที่ไหน?」
เมื่อผมถามเธอระหว่างที่ลูบหลังเธอ ทามะมูชิที่อายนำมือของผมไปอย่างอ่อนโยน
「โต่ะ-ตรงนี้ ♥ มันเจ็บ ♥ ซูซูฮาระ ลูบมันได้มั้ย? นายทำมันได้มั้ย?」
ระหว่างที่เล็ดการถอนหายใจที่หวาน ทามะมูชิพูดอย่างนั้นและวางมือของผมไว้บนหน้าอกเธอ
ความรู้สึกที่นุ่มและยืดหยุ่นได้ส่งผ่านมาผ่านเสื้อคลุมสีดำ รอยปูดที่งดงาม ที่ผู้รู้สึกถึงความนุ่มของมันได้
「โอ้ เข้าใจแล้ว」
ผมพยักหน้าและถูนมเธอบนเสื้อคลุมระหว่างที่เลี่ยงหัวนมที่มันแข็งชูชัน
「ฮ่าา ♥ ฮ่าา ♥ ฮ่าา ♥ ฮ่าา ♥」
ระหว่างที่หายใจหยาบอย่างหวาน ทามะมูชิกระตุกแล้วกระตุกอีก แม้ว่าผมถูกนมซ้ายและขวาผ่านเสื้อคลุม แต่ผมยังไม่สัมผัสที่นั่น ที่ที่เธออยากให้โดนเล่นมากที่สุด
「ซุ-ซูซูฮาระ ♥ หะ-หัวนมมัน ♥ หัวนมของหน้าอกชั้นมันแข็งแล้ว… และมันเจ็บที่สุดเลย~ ♥」
ระหว่างที่ทามะมูชิม้วนเสื้อคลุมของเธอ เธอพูดคำนั้นออกมาด้วยเสียงหวาน ระหว่างที่น้ำลายยืดจากมุมปาก และมองผมด้วยตาแฉะ ผิวที่ขาวผ่องและยังเด็กได้ถูกเปิดเผย และหน้าอกที่โตอย่างสะเทือนใจได้ถูกเปิดเผย เธอเอียงหัวนมให้ผมดูที่มันตั้งแข็ง
「ชั้นอยากให้นายถูมัน~ ♥ ชั้นอยากให้นายถูส่วนที่มันเจ็บที่สุด~ ♥ ส่วนที่มันแข็งและที่สุดเจ็บที่สุด~ ♥」
ระหว่างที่มองผมและร้องขอ ทามะมูชิบิดตัวเธออย่างเจ็บปวด และส่ายนมที่เล็กแต่ปูดของเธอ
เพราะนี่คือรางวัล ผมจะมไม่มีทางเลือกนอกจากทำมันเมื่อถูกถาม
ผมจับนมซ้ายและขวาด้วยสองมือ และถูหัวนมซ้ายและขวาด้วยนิ้วชี้ของสองมือ
อย่างอ่อนโยน อ่อนโยนมาก เหมือนลูบหัวลูกแมว
「ฮิ้นนน~ ♥ ใจร้าย~ ♥ ซูซูฮาระใจร้าย ♥」
ทามะมูชิน้ำลายยืดและดิ้นอย่างเลอะเทอะ
เธออยากจะถูกรังแกอย่างเจ็บปวดจนมันทำให้หัวนมเธอแข็งสุดแรง แต่ตอนนี้เธอทนมันไม่ได้เพราะเธอถูกรังแกอย่างอ่อนโยน
ไม่ เธอพูดว่าเธออยากให้ถูมัน ใช่ป่ะ? ผมก็ทำที่เธอบอกอยู่นี่ไง?
ด้วยรอยยิม ผมลากนิ้วรอบลานนมสีชมพูซีดด้วยนิ้วชี้ และลูบหัวนมเธออย่างอ่อนโยน
「หืมม~ ♥ คุนนน~ ♥ ซูซูฮาระชอบแกล้งไปทั่วเลย ♥ ใจร้าย~ ♥」
ทามะฒูชิมองขึ้นมาหาผมด้วยความแค้น ดิ้นอยู่ในความเจ็บปวด แต่ยังดูมีความสุข
เธอชอบที่จะถูกรังแกอย่างเจ็บปวด แต่เธอก็ชอบความน่าโมโหที่ไม่ถูกรังแก
นมที่ถูกถูได้ร้อน ลานนมสีชมพูซีดได้ถูกลากนิ้วผ่านเป็นวงกลมเริ่มบวม และหัวนมที่แข็งอยู่และ ใหญ่ขึ้นเหมือนจะระเบิดและเพิ่มความแข็งเข้าไปอีก
「ชั้นอยากให้นายรังแกชั้นมากกว่านี้ ♥」
ทามะมูชิพูดในเสียงหวานที่เหมือนจะละลาย และเธอดันริมฝีปากของเธอมาเจอกับของผม
ระหว่างที่รู้สึกกับริมฝีปากของเธอ
ลิ้นที่ลื่นได้รุกรานปากผม
「น้ะฟุ่~ ♥ คุนน~ ♥ น้คคุ่~ ♥」
ทามะมูชิทำเสียงจีบ ระหว่างที่ผมพันลิ้นกับเธอและลากนิ้วผ่านลานนมเธอด้วยปลายนิ้ว เธอกระตุกจนตาของเธอเหลือก
「อืน♥ อึน♥ อึน♥」
ทามะมูชิพันลิ้นของเธอรุนแรงขึ้น และรูฉี่ของเธอน้ำแตกออกมา เธอแตก พร้อมตาเธอที่เหลือก
「ตรงนี้ก็เจ็บด้วยมั้ย?」
ผมพึมพำคำพูดและปลดปากของผม จากนั้นเอือมมือไปที่หว่างขาของเธอ และเขี่ยเม็ดถั่วที่ไม่มีขนมาพัน นี่น้ำกามหยด
「อ๊า ♥ อ๊า ♥ อ๊า ♥」
โดยการกระตุ้นเม็ดถั่วที่ไม่ขนมาพัน เสียงลามกได้ก้อง และทามะมูชิได้ทำเสียงหวานและกระตุก
ระหว่างที่เห็นนั้น ผมได้ลูบเม็ดถั่วที่ท่วมท้นที่มันแดงจัดและถอกมัน
「อืน 」♥ 「อึน」 ♥「 อึน」
ทามะมูชิ ที่โดนลูบอย่างอ่อนโยนที่เม็ดถั่วตาเหลือกและแลบลิ้นออกมา จากนั้นเธอกระตุกอย่างรุนแรง ด้วยน้ำลาที่หยดเลอะเทอะ และรูฉี่น้ำแตกออกมาอย่างแรง
แม้ว่าเธอถึงจุดสุดยอด หัวใจของเธอได้โหยหามันอีกทุกวินาที
เธออยากจะโดนลูบไล้อย่างเจ็บปวด หัวนมและเม็ดถั่วที่มันแข็งอยู่นี้อยากจะโดนขยี้
ความต้องการดูเหมือนจะเอ่อล้นจากก้นบึ้งจากหัวใจ อย่างไรก็ตาม ทามะมูชิทนมัน และไม่ใส่มันมาเป็นคำพูด
ทน ทน ทน ทน ความทนทานอย่างดุร้าย การถึงจุดสุดยอดที่มหาศาลที่มันทำให้สลบได้ ทามะมูชิทนมันอย่างสิ้นหวัง
「อยากโดนถูที่ไหน?」
ผมถามขณะที่ลูบเม็ดถั่วที่แข็งของเธออย่างอ่อนโยนด้วยนิ้ว
「อา~ น้องหนูชั้นเจ็บ ♥ มดลูกชั้นเจ็บด้วย~ ♥ ชั้นอยากให้นายถูรูที่นายใส่เอ็นได้ ♥ ชั้นอยากให้นายถูกให้มากจนกำแพงน้องหนูมันถลอก ♥ ชั้นอยากให้นายถูมากจนมดลูกถูกแทง♥」
ทามะมูชิผู้ที่เงียบน้ำแตกแค่โดยการลูบเม็ดถั่ว ตาเหลือก แทงลิ้นออกมา แตกต่อไป ระหว่างที่ขอร้องด้วยเสียงหวานที่มันดูเหมือนจะละลาย จากนั้นผมนำมือของผมไว้ทั้งสองข้างของหว่างขาไร้ขน และเปิดเม็ดถั่วซ้ายขวา
กำแพงช่องคลอดที่ถูกเปิดอย่างบังคับ น้ำกามได้เอ่อล้นจากรูเล็กๆ
「เฮ้ย พวกแกทำอะไรกันวะ…」
เมื่อผมชำเลืองมองต้นทางของเสียง นักเลงได้ยืนอยู่รอบผมและทามะมูชิ
ยังไงซะ ผมสังเกตุได้โดยไม่มองมัน
ทามะมูชิที่ม้วนเสื้อคลุมของเธอขึ้นเปิดเผยหน้าอกที่เล็กแต่ปูดแน่นอน เปิดหว่างขาของเธอ และเม็ดถั่วระหว่างที่อาเฮะกาโอ พวกนักเลงได้ตกใจที่เห็นทามะมูชิแบบนั้นแต่ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่หยาบคายทันที
「เธอเป็นโลลิผมชมพู สวยดีว่ะ」
「และเธอดูลามกจนน่าขันเลย」
「น้องหนูของเธอน่าจะแน่น」
หว่างขาของนักเลงได้ปูดขึ้นและพวกเขายิ้มด้วยรอยยิ้มที่หยาบคาย
นักเลงบางคนได้เป็นอิสระเพราะอาซาฮินะล้มอยู่บนพื้น
ระหว่างที่ตัวเธอยังกระตุกและปกคลุมไปด้วยเลือด เธอพยายามจะยืนขึ้น อย่างไรก็ตาม นักเลงบางคนยังล้อมเธออยู่ และตีเธอด้วยท่อเหล็กดังนั้นเธอยืนขึ้นไม่ได้
นักเลงได้มอบการทรมานที่ดุร้ายให้อาซาฮินะต่อไป
เธอจบแล้ว ผมรู้ ว่าถ้าเธอสู้ไม่ดี เธอจะตาย แต่มไม่มีใครหยุดเธอได้
ตอนนี้ผู้นำไม่อยู่แล้วและมันทำให้สภาวะของกลุ่ม มันอยู่เหนือการควบคุม
อย่างไรก็ตาม มันยากที่จะให้ 60 คนตีอาซาฮินะพร้อมกัน มันมีคนเยอะเกินไป ดังนั้น ประมาณสิบคนได้ตีอาซาฮินะ ที่เหลื่อว่างและหันความสนใจมาหาเรา
「คนนั้นแค่ต้องมาอยู่ที่นี่」
「ฆ่าไอคนนั้นแล้วเล่นกับโลลิผมเงินเหอะ」
「ด้วยทุกคนเธอจะพังแน่」
พวกนักเลงยังคิดว่าว่างอยู่
พวกเขาเป็นคนโง่ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหัวหน้าไปแล้ว
นอกจากนี้――
ความน่ากลัวของอาซาฮินะจะเริ่มตอนนี้
「ตาย」
ด้วยนั้นพูด นักเลงได้เล็งท่อเหล็กมีที่หัวผมและเหวี่ยงมันเต็มกำลัง
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาอยากจะฆ่าผม
「อ๋า?」
นักเลงได้ส่งเสียงกระทันหัน
ท่อเหล็กที่สมควรจะโดนหัวผม
แต่――
「ขอโทษ ซูซูฮาระ แม้ว่าซูซูฮาระบอกว่าจะให้รางวัลชั้น」
ทามะมูชินำท่อเหล็กไปด้วยฝ่ามือที่เล็กของเธอ แล้วบอกกับผมอย่างขอโทษขอโพย
จากนั้น――
นัยน์ตาตรงกลางตาสีเขียวของเธอได้เปลี่ยนเป็นแนวตั้ง
「มึงมันเกะกะ」
ด้วยกันกับคำพึมพำ มือที่เล็กๆ ที่จับท่อเหล็กได้บีบ
「…อะไร?!!」
นักเลงได้ส่งเสียงที่โง่เขลา จากนั้น นักเลงอีกคนล้มเงียบๆ
มันเรียกว่าท่อเหล็กเพราะมันยังทำมาจากเหล็ก แม้มันบาง มันยังเป็นเหล็ก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะงอมันด้วยพลังของมนุษย์ ท่อเหล็กแบบนั้น ได้งออย่างกระดาษโดยการถูกจับเบาๆจากมือเล็กๆ
「ในอดีต ชั้นได้เป็นศัตรูกับซูซูฮาระ มันยังมีบาปที่ชั้นก่อครั้งนั้น ดังนั้น ชั้นตั้งใจจะชดใช้บาปนั้นไม่ว่าชั้นจะได้รับการปฏิบัติอย่างน่ากลัวขนาดไหน แต่ซูซูฮาระบอกชั้นว่าเค้าจะมอบรางวัลให้ชั้น มันเป็นคำนั้น ชั้นได้รางวัลแทนที่การชดใช้บาปของชั้น และจากนั้น…」
ระหว่างที่พึมพำทามะมูชิยืนขึ้นอย่างเงียบๆ และ――
เธอจ้องนักเลงด้วยนัยน์ตาแนวตั้ง
「มึงอยากจะมารบกวนกู」
ในเวลานั้น แสงสีมรกตขึ้นมาจากตัวที่เล็กของทามะมูชิ
――พลังแมลง
ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมรู้ว่าเป็นพลังแมลงทันที่ผมเห็นมัน
แสงสีเขียวที่สีเดียวกับตาของทามะมูชิ
นั่นคือพลังแมลงที่นานะฟูชิพูดถึง
ทันที เหงื่อเย็นวิ่งผ่านสันหลังผม
แสงสีเขียววิ่งทวนเข็มนาฬิกาข้างในตัวของทามะมูชิ และไปรวมที่แมลงตัวอ่อนที่มีชีวิตอยู่ข้างในมดลูกเธอ จากนั้นแสง หมุน หลังจากนั้น แสงได้ถูกปล่อยและวิ่งไปรอบตัวเธออีกครั้ง และเป้าหมายของมันคือแมลงในมดลูกเธอจากนั้น มันหมุนอีกครั้ง เพราะสิ่งนั้น ความเข้มของสีมรกตเพิ่มขึ้นทุกวินาที
「นี่มันอันตรายแล้ว…」
โดยไม่ได้ตั้งใน ผมพึมพำ
นานะฟูชิพูดว่าอสุจิของผมที่อยู่ข้างในทามะมูชิขยายพลังให้พลังแมลง แต่ในครั้งนั้น ผมดูความต่างไม่ได้
อย่างไรก็ตาม――
ตอนนี้มันต่างอย่างชัดเจน
นานะฟูชิพูดว่าการผสมอสุจิของผมเข้ากับพลังแมลงของทามะมูชิ มันเป็นไปได้ที่จะขยายพลังของพลังแมลงเหมือนการเคลื่อนไหวย้อนไปย้อนมาตลอด บางที่นี่คือที่เธอหมายถึง
――การสร้างพลังแมลงได้โดยไม่มีขีดจำกัด
「ทามะมูชิ!」
ผมผมขึ้นเสียงของผม ทามะมูชิมองผมจากหางตา
「ชั้นได้กลัวมาตลอด ชั้นได้กลัวที่จะถูกกลืนโดยความมืดมิด เพราะว่า ชั้นไม่สามารถต่อต้านความมืดมิดที่หมุนวนอยู่ในหัวใจชั้น แต่มันแปลก ตอนนี้ ชั้นไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว」
ด้วยสิ่งนั้นที่พูด ทามะมูชิกดท้องส่วนล่างของเธอ
「ชั้นรู้สึกเหมือนซูซูฮาระอยู่ข้างในที่นี่ มันเป็นเรื่องที่แปลก แม้ว่า ซูซูฮาระอยู่ตรงหน้าชั้น」
ทามะมูชิจับท้องส่วนล่างของเธอและกระซิบระหว่างที่ลูบมันด้วยความรัก
โอ้ นันใช่แล้ว ผมได้อยู่ในมดลูกเธอ พลังของผมและพลังของเธอมันผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ
นี่มันไร้สาระ
ผมไม่เข้าใจมันทั้งหมดจนผมได้เห็นมัน แต่ผมเข้าใจได้อย่างไรก็ไม่รู้
ผสานสองพลังในตัวอย่างสมบูรณ์แบบ มันยากแต่ไหนกัน
นานะฟูชิพูดว่าโอกาสที่มันจะสำเร็จมันต่ำมาก แต่ที่ผมเห็นต้อนนี้คือช่วงเวลาที่ความเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่า เธอยังไม่รู้ถึงการสร้างพลังแมลงไม่จำกัดที่สำเร็จ
มันดูเหมือนว่าพลังแมลงได้ถูกส่งไปให้นานะฟูชิอัตโนมัติ แต่ครั้งนี่ นานะฟูชิน่าจะตกใจจนกระพริบตา
อะ-อะไรกันนั่น! เธอทำอะไร! นั่นใช่แล้ว มันน่าสนใจที่จะจินตนาการ
ไม่ว่าอย่างไร――
「อย่ากังวลเพราะชั้นจะให้รางวัลเธอภายหลัง」
หลังจากที่พูดอย่างนั้นกับทามะมูชิ เธอผู้ที่รำคาญอยู่จังหวะหนึ่ง ย้อมแก้มของเธอเป็นสีแดงอย่างอายและยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้น――
「น่าา ชั้นได้ถูกรบกวนแล้วอารมณ์เสีย แต่ตอนนี้ ชั้นรู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น」
ทามะมูชิ ที่พูดกับนักเลงระหว่างสี่ส่องแสงสีเขียวจากทั้งตัวของเธอ ใส่มือของเธอเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุม
「ยังไงซะ อย่าฆ่ามันทันทีกันเถอะ」
ในเวลาเดียวกันกับคำนั้น ทามะมูลิดึงมือของเธอและเปิดมือเล็กๆของเธอ สิ่งเล็กๆ เหมือนเม็ดข้าวได้ตกไปที่พื้น
มันเป็นแมลงมันขดตัวเหมือนกิ้งกือกระสุน
แมลงตัวเล็กที่ตกไปที่พื้นเริ่มขยับทันที
จากนั้น แมลงได้มุ่งหน้าไปที่นักเลงโดยไม่มีเสียง
เมื่อแอบมองใจของทามะมูชิผมรู้ว่าแมลงคืออะไร
แมลงเป็นปรสิตที่เข้าตัวของมนุษย์และดูดจิตวิญญานของเขาเรื่อยๆ
เมื่ออยู่ในตัวมันจะฝังรากอยู่ถาวร และนำออกไปไม้ได้ ถ้าพยายามจะเอาออกไปโดยการผ่าตัดหรืออะไรแบบนั้น รากที่ยืดออกไปรอบๆตัวจะทำลาเครื่องในที่สำคัญ และมันเป็นแมลงที่อันตรายสุดขีดที่จะฆ่าโฮสต์
อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนจะไม่เจ็บมากถ้าปล่อยมันไว้คนเดียว มันดูเหมือนชิวิตจะสั้นลงและจิตวิญญานจะถูกดูด ถ้าพวกเขาพยายามจะน้ำแตก
「นะ-นั่นมันอะไรกันวะ…」
นักเลงส่งเสียงที่สั่นระหว่างที่จ้องทามะมูชิที่ส้องแสงสีเขียวจากทั้งตัวเธอ ได้ยินคำนั้น นักเลงคนอื่นจู่ๆก็ดูเธอ
「กยยยยยยยยย้าาาาา」
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องได้ดังก้องพวกนักเลงที่สั่งมองกลับไปในเวลาเดียวกัน
จากนั้น――
「คุคุ การโจมตีสวนของอาซาฮินะจะเริ่มแล้ว」
มันตลกมากจนผมส่งเสียงออกไปกระทันหัน
อาซาฮินะที่เลือดอาบและหล่นอยู่ที่พึม ยื่นมือขวาของเธอออกไป ตอนนี้ เธอจับหน้าของนักเลงหนึ่งคนระหว่างที่เขาเข่าติดพื้นด้วยมือขวาของเธอ
เธอไม่ได้แค่จับเขา นิ้วโป้งของเธอ จิ้มเขาไปในตาขวาด้วย
นักเลงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตาม มือขวาของอาซาฮินะยังจับเขาอยู่ ในทางตรงกันข้าม นิ้วโป้งซึ่งจิ้มเข้าไปในตาขวาทิ่มเข้าไปลึกขึ้น
อาซาฮินะที่กระตุกกระทันหันเอามือซ้ายไว้ที่พื้น และยกตัวเธอเองด้วยกำลังที่ยิ่งใหญ่
น้ำสีแดงได้หยด
อาซาฮินะที่ดันตัวของเธอมากกว่าเดิม เข้าใกล้หน้านักเลงที่เธอจับ และ――
「ซุกะ มะ เอตะ* ♥」
«TLN: ฉันจับแกได้แล้ว»
อาซาฮินะกระซิบใส่หูของเขา จากนั้นจ้องนักเลงด้วยตาสีแดงและยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ย่ำแย่
คุคุ แกจะทำอะไร? หัวใจเธอไม่มีวันแตกสลาย ใช่มั้ย? แม้ว่าแกตีมัน เธอจะฟื้นคืนชีพเหมือนซอมบี้และจะไล่นายตลอดชีวิต? และพวกแกแต่ละคนจะถูกขยี้แน่?
นายจะทำอะไร?
「ช-ชะ-ช่วยด้วย…」
นักเลงที่เลือดไหลออกมาจากตาขวาเพราะนิ้วโป้งของเธอสั่นและขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเคลื่อนไหว
มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ไม่พยายามจะตายอย่างคาดไม่ถึง แต่อาซาฮินะได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปไม่ว่าอย่างไร เธอถูกตีและทำลายต่อไปเรื่อยๆด้วยท่อเหล็ก
มันต้องแปลกแน่ที่เธอไม่ตาย แต่ตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ และถึงเวลาเธอโจมตีสวน
จากนี้ ความน่ากลัวที่แท้จริงของอาซาฮินะจะเริ่มขึ้น
คุคุคุ พวกแก มันสายเกินไปที่จะสังเกตมันเวลานี้แล้ว
「งั้น มันได้เวลาแล้ว」
เมื่อผมยืนขึ้นและพูดออกมา ผมหยิบท่อเหล็กสองอันที่มันตกอยู่ที่พื้น และถือมันด้วยมือซ้ายและขวา
「บางที ชั้นก็ต้องแสดงการทำอะไรเท่ๆด้วย」
เมื่อผมปิดตาข้างนึงไปให้ทามะมูชิ เธอพยักหน้าและแก้มของเธอแดง
「ยังไงซะ มาสู้เหมือนใช้ดาบคู่เถอะ」
ผมยิ้มและผมไขว้ท่อเหล็กสองอัน จากนั้นผมกระโดดไปที่นักเลงที่ตกตะลึง
「คนแรก」
เหวี่ยงท่อเล็กพร้อมฮัมเพลง และมันตีหลังหัวของนักเลง
「อ่ะก่ะ」
นักเลงครวญระหว่างที่จับหลังหัวของเขาและคุกเข่าลงกับพื้น
「ไอ้เหี้ย!」
นักเลงอีกคนที่ถูกเบี่ยงความสนใจไปทางอาซาฮินะที่โจมตีสวนอย่างคาดไม่ถึง มีสติกลับมาเมื่อเพื่อนของเขาได้ถูกตีโดยท่อเหล็ก
ทันที พวกนักเลงโจมตีจากทุกทิศทางด้วยท่อเหล็ก รับมือมันทีละคนทีละคนด้วยท่อเหล็กสองอัน พวกนักเลง ที่ได้มีช่องเปิดเต็มที่ได้ถูกตีทีละคนทีละคน
「แปด มันอ่อนไป」
จำนวนของพวกนักเลงลดลงไปทันที แต่ยังมีอีก
พวกนักเลงดูเหมือนจะกังวลเกี่ยวกับอาซาฮินะที่เริ่มโจมตีสวน แต่พวกเขารวมกันแล้วเผชิญหน้ากับผม น่าจะเพราะผมอันตรายกว่าเธอ
พวกเขาโง่ พวกเขาไม่ควรจะมารวมกัน มันมีขีดจำกัดของคนที่ทั้งหมดโจมตีได้ในทีเดียว แม้อย่างนั้น พวกเขารวมกันอย่างสูญเปล่า…
「มันสะดวกสำหรับกู」
เมื่อผมพึมพำและใช้การโจมตีพิเศษบนพวกนักเลง พวกนักเลงที่ใจร้อนโจมตีพร้อมกันทีเดียว อย่างไรก็ตาม ตัวของพวกเขาชนกันแล้วขยับไม่ได้ดีๆ
「ฮ่า ฮ่า! มาเพิ่มความเครียดให้กูนานๆครั้งมา!」
ผมตะโกน และด้วยท่อเหล็กในสองมือ ผมให้นักเลงรับการตีทีละคน
เมื่อพวกเขาเห็นเพื่อนได้ถูกซัดในทันที หนึ่งในนักเลงได้รีบมาจะตีผมด้วยท่อเหล็ก อย่างไรก็ตาม ท่อเหล็กแค่โดนลม
「อะไร !?」
เสียงได้ยินมาจากข้างหลัง
นักเลงที่ได้เหวี่ยงการตีมาจากข้างหลังผม จากนั้นย่อลงและพยายามจะตีด้วยท่อเหล็ก แตะการตีของเขา ได้ถูกขัดโดยท่อเหล็กของผม
เขาต้องตกใจกับผมที่เลี่ยงการโจมตีจากจุดบอดอย่างราบรื่น
「กูขอโทษ แต่กูเห็นได้ทุกอย่าง」
พึมพำอย่างนั้น หันไป และเหวี่ยงท่อเหล็กเข้าไปในหน้าเขา ในเวลาเดียวกัน เมื่อผมขยับไปข้างๆ ท่อเหล็กที่สมควรจะโดนผม โดนอากาศด้วย
「อุ นี่มันโกหก」
「ไอเหี้ยนี่มันอะไรวะ ทำไมกูตีมันไม่ได้…」
ความกลัวได้ขึ้นมาที่หัวใจของพวกเขาอย่างช้าๆจากพวกนักเลงส่วนใหญ่ ที่เห็นผมตีพวกเขาในเวลาเดียวกันกับหลบการโจมตีจากมุมและตำแหน่งที่หลบไม่ได้
พวกเขาอาจจะดีกว่านี้นนิดหน่อยถ้ามีผู้นำ แต่เมื่อคนของพวกนักเลงได้ติดกับอยู่ในความกลัว มันก็เกือบจบแล้ว
「อะไรกัน ถ้านายอยากจะทำมัน นายก็สู้อย่างเท่ๆได้ ♥」
อาซาฮินะกับหน้าของนักเลงแล้วกระแทกเข้าไปที่พื้นระหว่างที่ย้อมแก้มของเธอเป็นสีแดง
「ยังไงซะ มันเหมือนการเต้นเลย ♥ ชั้นรักในสิ่งนี้ ♥」
ทามะมูชิก็มีความสุขกับมัน
「ขอบคุณ」
ผมได้ถูกโจมตีจากซ้ายและขวาด้วยท่อเหล็กและพึมพำ ระหว่างที่โจมตีในเวลาเดียวกัน
ผมทำนี่ได้ถ้าผมอยากจะทำมัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า ผม “มองเห็น” ได้แค่ไหน ปฏิกิริยาตอบสนองและความสามารถทางกายภาพของผมเหนือกว่าคนธรรมดานิดหน่อย ดังนั้นปรกติผมจะเลี่ยงการต่อสู้ที่มีความเสี่ยง
「กูจะไม่ให้พวกมึงซักคนหนี」
จากนั้นอาซาฮินะโยนนักเลงที่ถูกกำจัดทิ้งและจ้องเหยื่อคนต่อไป
「คนที่นี่สามารถจะถูกฆ่าได้ทันทีถ้าโจมตีทายกายภาพ มาโจมตีโดยใช้แมลงที่นี่แบบผู้ใช้แมลงเถอะ」
ทามะมูชิหว่านแมลงเล็กๆรอบเธอ
นักเลงได้ถูกฆ่าที่ละคนโดยอาซาฮินะ ได้ถูกปรสิตกินโดยแมลงตัวเล็กๆที่คลานขึ้นโดยไม่มีเสียง และถูกล้มโดยผมไปทีละคน เพราะนั่น จำนวนของนักเลงลดลงทันที
「หนะ-หนี――!」
จากนั้น เสียงร้องของนักเลงดังก้อง
「อย่าให้พวกมันหนี?」
ริกกะได้หยิบเครื่องจักรยักษ์และโยนเครื่องจักร์ไปบนพื้น
ริกกะได้ยุ่งกับการทำที่กั้นสี่เหลี่ยมเพื่อเลี่ยงการหนีของพวกนักเลง
「อีกฝ่ายมันแย่นะ」
ผมหัวเราะและถาม ด้วยมือของผมอยู่บนไหล่ของนักเลง ที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น
นักเลงได้ร้องไห้และทำหว่างขาเปียกระหว่างที่สั่น จากนั้นการหายใจได้พ่นเข้าไปในหูของเขา
「กูยังไม่ได้ใจเย็นเลย ♥ มาเล่นด้วยกันมา ♥」
อาซาฮินะกระซิบอย่างหวานที่หูของนักเลงเหมือนเธอได้สารภาพรัก หน้าของเขาบิดเบี้ยว และด้วยรอยยิ้ม ตาตีแดงส่องสว่างอย่างน่ากลัว
มีประมาณ 15 คนเหลืออยู่ งั้นผมปล่อยที่เหลือให้อาซาฮินะ จากนั้นผม――
「ทามะมูชิ อยากจะทำรางวัลต่อร่ะหว่างดูพวกมันเป็นผ้าขี้ริ้วมั้ย?」
「เอ๋? ♥ จริงเหรอ? ♥」
「เย้ ♥ เย้เย้~ ♥」
ทามะมูชิยิ้มและกระโดดเพื่อแสดงความสุข
ไม่ใช่ว่านายคิดว่าเราจะหยุดสู้เพราะเราชนะแล้วเหรอ? ผมจะดูใกล้ๆ จนกว่าคนสุดท้ายจะสิ้นหวัง
และ――
「ทามะมูชิ เก็บแมลงให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ได้มั้ย? เพราะพวกนักเลงดูเหมือนจะหิวแล้ว」
「มันไม่มีอะไรมืดมนในแมลง! ทุกคนหน้าตาต่างออกไปและทุกคนยังน่ารัก! แต่ อืม ปล่อยมันให้ชั้นเอง!」
ทามะมูชิพยักหน้าระหว่างที่ตอบผม
เพราะเธอคิดว่าผมคิดว่าแมลงหน้าตาพิลึก
ไม่ ไม่จำเป็นต้องซาบซึ้งนะ ใช่มั้ย มันเป็นของขวัญเล็กๆจากผม ได้โปรดมีความสุขกับมันเต็มหัวใจโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน
เป้าหมายเดือนนี้
ค่าเน็ต 0/200
ค่าไฟ 0/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord