ตอนที่ 106
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
ผมมองทามะมูชิอย่างหวาน
「ชั้นขอโทษ มันใช้เวลานาน ได้โปรดรออีกนิด」
ระหว่างที่ยองอยู่ที่พื้น ทามะมูชิมองขึ้นมาหาผมและขอโทษ
จากนั้น ผมมองทามะมูชิอย่างหวานอีกครั้ง
――เพราะซูซูฮษระคาดหวังกับฉัน มาเตรียมแมลงที่ดีที่สุดกันเถอะ อย่างไรก็ตาม มันยากที่จะรวบรวมแมลงที่น่าขยะแขยงมากที่สุดเท่าทีทำได้
ระหว่างที่จ้องไปที่พื้น ทามะมูชิคิดเรื่องนั้น
「อะไรวะ…」
อาซาฮินะเข้าหาผมและหยิบแขนเสื้อของด้วยนิ้วและพึมพำพร้อมหน้าซีด
อาซาฮินะได้ดึงผม อาซาฮินะนั่นที่ไม่กลัวอะไรซักอย่างดึงผมอยู่
「เฮ้ย เธอต้องรู้สิ มาสเตอร์อยากได้แมลงพิลึกมากที่สุดเขาทีต้องการ
ริกกะที่มองดูทามะมูชิที่ยองอยู่และพูดออกออกมาด้วยพฤติกรรมที่แรงกดดันสูง」
「นั่นทำไมชั้นเตรียมอยู่ตอนนี้」
ทามะมูชิตอบโดยไม่กังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมที่หยิ่งของริกกะ
「เตรียมการ? นั่นเตรียมการเหรอ? ไม่มีทางน่า?」
หลังจากที่ได้ยินคำตอบจากทามะมูชิ ริกกะจ้องที่พื้นและพึมพำ จากนั้นเธอจ้องทามะมูชิอย่างเข้มข้น
「อ-อึม ยัง-ยังไงซะ」
ทามะมูชิหันหนีจากริกกะโดยเร็วและพึมพำด้วยความรู้สึกที่ขอโทษ
「โง่รึเปล่า!? ฟังที่มาสเตอร์เรียกร้องดีๆสิ!? สิ่งนั้นดูน่าอร่อยไม่ใช่ขยะแขยง!? เธอคิดว่านั่นดูขยะแขยงจริงๆเหรอ!」
ริกกะระเบิดความโกรธของเธอออกมาทันทีกับทามะมูชิ
ริ-ริกกะ เฮ้ย ริกกะ เธอบอกว่ามันดูน่าอร่อยเหรอ?
ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ มันดูขยะแขยง มันน่าขยะแขยงอย่างแน่นอน ส่วนไหนของมันที่ดูอร่อยกัน?
「อืมมมมม คิดอย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นแมลงกินได้และหวานมากๆ คนที่กินมันจะพอใจและเห็นสวรรค์」
ระหว่างที่พึมพำ ทามะมูชิดูสิ่งที่มัน “งอก” มาจากพื้น
「หืออออ !? เธอโง่รึเปล่า !? มันเป็นแมลงที่ไว้สำหรับให้พวกโง่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นกิน !? เธอต้องให้พวกเค้ากินแมลงที่ทำให้ป่วย!? เธอจะทำอะไรน่ะ ที่ทำให้พวกเค้าพอใจ!」
เพราะคำพึมพำของทามะมูชิ ริกกะได้โกรธกว่าเดิม และจากนั้นดึงมีดเล่มใหญ่จากข้างหลังเธอและหันคมมีดไปหาทามะมูชิ
「อืมอย่างที่คาดมันดูอร่อย ไม่ แต่ ชั้นมีแค่นี่ตอนนี้」
ระหว่างที่จ้องสิ่งที่บวมที่ “งอก” มาจากพื้น ทามะมูชิได้อาบในความโกรธของริกกะ ถอนหายใจกับปัญหา
「เฮ้ ซูซูฮาระ-คุง พวกเธอคุยเรื่องอะไรกัน? ชั้นไม่เจออะไรบางอย่างที่ดูน่ากินเลย ไม่ใช่เหรอ?」
อาซาฮินะดึงชายเสือแจ็คเก็ตของผม และส่งเสียงสั่นพร้อมหน้าซีด
ปัญหาคือริกกะ แม้ว่าทามะมูชิเป็นผู้ใช้แมลง เห็นว่า แมลงดูน่าอร่อยในสายตาริกกะ
ผมไม่คิดว่าเธอโกหกผม
ริกกะคิดว่ามันอร่อยอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สำหรับผมและอาซาฮินะ มันน่าขยะแขยงมากจนทำให้อาซาฮินดึงแจ็คเก็ตของผม
「จริงๆเหรอ เธอใช้มันไม่ได้ นั่นทำไมชั้นเกลียดคนที่พึ่งพาแต่แมลง แต่มาสเตอร์ที่ใจดีของชั้นยังคาดหวังกับเธอ ไม่ใช่ว่าเธออยากจะไปให้ถึงความคาดหวังของเค้าเหรอ?」
「ตะ-แต่ ชั้นมีแค่นี่จริงๆ」
ริกกะกอดอกของเธอและส่งเสียงทางจมูก จากนั้นทามะมูชิเกาหัวของเธอด้วยหน้าที่มีปัญหา
「ซูซูฮาระ โปรดตอบชั้นที ชั้นเป็นคนแปลกเหรอ? หรือพวกเธอสองคน มันไม่ได้ดูอร่อย」
「โอ้ ไม่ บางทีไม่มีใครแปลกหรอก」
ผมตอบอาซาฮินะที่ถามอย่างกลัวระหว่างที่กลืนน้ำหลาย
สำหรับทามะมูชิและริกกะ แมลงดูเหมือนจะอร่อย น่าจะเพราะสภาพแวดล้อมที่พวกเธอโตขึ้นมา
มันปรกติเพราะทามะมูชิเป็นผู้ใช้แมลง และริกกะใช้ชีวิตบนภูเขา และเธอมีสัญชาติญานสัตว์ป่าด้วย
「มันไม่แปลก พวกเขาแค่มีรสนิยมและความรู้สึกต่างกัน และบางที――」
ขณะที่พวกเธอพูด มันน่าจะอร่อยถ้าได้กิน
อย่างไรก็ตามผมไม่อยากจะกินมันด้วย
ถ้ามันถูกปรุงไหนแบบที่ไม่เหลือเค้าเดิมและเสิร์ฟมากับอาหารโดยที่ผมไม่รู้ บางที่ผมอาจจะกินมันได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเห็นนั้น ผมกินมันไม่ได้ไม่ว่ามันจะอร่อยขนาดไหน
ผมควรจะอธิบายมันยังไงดี
เพื่ออธิบายมัน มันเหมือนเห็ดที่บิดและบวม
ทรงมันคล้ายกับมัตซีทาเกะ และใกล้กับ “เอ็น”
สีมันเข้มและมันบวม ด้วยตุ่มทั่วไปทั้งตัวมัน และมีน้ำเหมือนน้ำกามเล็ดออกมาจากปุ่มเป็นครั้งคราว
นั่นโอเค แต่ อย่างไรก็ไม่รู้ มันมีขาบนมัน สิ่งที่เหมือนขาได้งอกออกมาและขาเดินอย่างมั่นคงระหว่างที่บวม
มากกว่านั้น บางอย่างเหมือนตัวสัมผัสได้อยู่ตรงปลายของมันและมันขยับกระพือๆ
ที่น่าขยะแขยงคือหน้ามัน คุณเห็นบางอย่างเหมือนหน้าของแมลงที่อยู่ข้างหลังได้
「นี่มันเป็นแมลงกินได้ที่ดีมาก มันเรียกว่า แมลงดอกไม้หวาน ขอบคุณการเคลื่อนไหวของมัน มันเป็นอะไรคล้ายกับผัก มันสะดวกและพกพาได้ และมันให้สารอาหารดีเยี่ยม มากกว่านั้น มันเป็นไปได้ที่จะสร้างมันเพิ่ม นอกจากนั้น ในแค่ของความอร่อย มันอร่อยมาก มันเป็นของที่ต้องมีที่ผู้ใช้แมลงทุกคนมี」
หลังจากได้ยินคำอธิบายนั้นของทามะมูชิ ริกกะจ้องทามะมูชิด้วยตาของเธอ มองสิ่งที่โตจากพื้น และกลืนน้ำลาย
「เธอทำอะไรของเธอที่จะให้ของที่มีประโยชน์ที่สำคัญกับศัตรูน่ะ?」
ริกกะที่อยากกินมากกว่าจะมอบให้ศัตรูถามทามะมูชิ
「แมลงดอกไม้หวานเห็นแมลงอาหารที่ได้ถูกพัฒนาและทำให้ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้แมลง ดังนั้น ถ้าใครที่นอกจากผู้ใช้แมลงกินนี้ มันจะทำให้เห็นอะไรที่ย่ำแย่」
「อะไรที่ย่ำแย่?」
ริกกะเอียงหัวจากคำพูดของทามะมูชิ
จากนั้น ผม “เห็น” ใจของทามะมูชิ ผมจับไหล่ริกกะและกอดเธอ
「มะ-มาสเตอร์?」
ทันทีนั่น ริกกะที่ถูกกอดโดยผม แดง
「ริกกะ มันเป็นคำสั่งอย่ากินมันไม่ว่ายังไง มันอันตราย」
「เอ๋? อา ได้」
ริกกะพยักหน้ากับคำพูดผมและผิดหวังนิดหน่อย
「มีอะไร?」
อาซาฮินะที่ดึงแขนเสื้อของแจ็คเก็ตผมด้วยหน้าไม่สบายใจ
「มันเป็นยา」
「เอ๋?」
「มันเป็นยา ถ้าบางคนที่นอกจากผู้ใช้แมลงกินมันน่ากลัวกว่าตาย」
「หมายความว่ายังไง?」
「มันเสพติด เมื่อมนุษย์กินมัน เขาจะกินมันต่อไปจนกว่าเขาจะตาย และจะบ้าไปแต่เขาจะบ้าถ้าเขาไม่ได้กินมันเพราะมันจะมีอาการถอนยา」
หลังจากที่ได้ยินคำพูดผม ทามะมูชิพยักหน้าโดนไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ
「สำหรับมนุษย์ มันดูเหมือนขยะแขยง แล้วก็ มีบันทึกว่ามันได้ถูกใช้เพื่อทรมานและสอบปากคำ」
ได้ยินคำพูดของทามะมูชิ อาซาฮินะได้มองมันด้วยหน้าที่ซีดเหมือนคนตาย
「ชั้นไม่อยากจะกินอะไรแบบนั้นแม้ว่าชั้นตาย」
ด้วยนั่นที่พูด อาซาฮินะซ่อนข้างหลังผม
อย่างที่คาด อาซาฮินปฏิเสธ
แต่ยังไงซะ อาซาฮินะอาจจะชินกับการถอน
「ฟุฟุ อาซาฮินะจะโอเค ชั้นคิดว่าเธอจะมีความสุขกับการถอนเป็นส่วนหนึ่งของการเล่น เป็นยังไงล่ะ? เธออยากจะกินมันมั้ย มันอร่อยเป็นบ้าเลยนะรู้มั้ย?」
ทามะมูชิโูเหมือนจะมีความคิดเห็นเดียวกับผม และมันดูเหมือนมันไม่มีปัญหากับอาซาฮินะที่มีพลังใจสัตว์ประหลาด ดังนั้นเธอได้แนะนำให้ตัวหนึ่ง
ซ่อนข้างหลังผม อาซาฮินะเกาะหลังผมและส่ายหัวของเธอ
หืมมม อาซาฮินะมีมุมที่เป็นผู้หญิงแบบนี้ด้วย
ยังไงซะ ธาตุแท้ของเธอก็คือพูด “อ้กกิคุนาเระ~” ระหว่างที่ถูหน้าอกแบนๆของเธอ
ไม่ว่ายังไง――
「ยูกะ โทโมเอะ」
เมื่อผมพึมพำสิ่งนั่น นักเลงที่นั่งเซสะเปลือยอยู่มีภาพเข้ามาในใจ
ภาพก็คือ พวกเขาหัวเราะระหว่างที่ทรมานยูกะที่ร้องเหมือนของเล่น
นักเลงทั้งหมดที่นี่ได้มีประสบการณ์ทรมานยูกะ
งั้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจ
「ทามะมูชิ ให้พวกมันกินแมลงมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าเป็นไปได้เตรียมมันสำหรับไม่กี่วัน」
ตอนแรก พวกเขาจะถูกบังคับให้กินมันและรู้สึกสิ้นหวัง จากนั้นพวกเขาจะสิ้นหวังอีกครั้งเพราะพวกเขาหยุดกินไม่ได้เพราะอาการเสพติด แตะเพราะมันมีแค่สำหรับไม่กี่วัน พวกเขาจะสิ้นหวังสำหรับอนาคตที่พวกเขาจะเจอกับอาการถอน และอนาคตคือความสิ้นหวัง
「ได้โปรดช่วยผมด้วย」
นักเลงที่ทั้งตัวได้ช้ำและหน้าได้บวมจนจำไม่ได้ ร้องไห้และสั่นขอความช่วยเหลือ
ขณะที่ผมเข้าหาหัวหน้า ผมมองลงไปที่หัวหน้า
「นายอยากจะถูกช่วยเหลือ?」
「ช-ช-ใช่」
「ได้」
「เอ๋?」
เขาไม่คิดว่าผมจะยกโทษให้เขา หัวหน้ายิ้มระหว่างยกหน้าของเขาพร้อมกับตาที่บวม
「มึงย้อนเวลากลับไปได้มั้ย?」
「เอ๋?」
「กูจะยกโทษให้มึงถ้ามึงทำได้ กลับไปในอดีตทันที และช่วยยูกะ และเขียนอดีตใหม่ที่เธอถูกทำเป็นของเล่น กูจะยกโทษให้มึงถ้ามึงทำอย่างนั้นได้」
「เอ๋? ไม่ นั่น…」
ผู้นำที่ยิ้มระเบิดน้ำตาออกมาทันที เขาสั่น
「ยูกะได้เป็นผู้หญิงที่ดีเพราะเธอถูกย่ำยีโดยพวกมึงและกลุ่มหัวเอ็นของพวกมึง จนเธอถูกแปดเปื้อนอย่างสมบูรณ์ ใจเธอแตกสลาย แต่เธอยังยืนขึ้น นั่นทำไมเธอมีเสน่ห์ที่ผู้หญิงคนอื่นไม่มี พูดขอบคุณซะ เพราะมึงย่ำยีเธอ เธอได้กลายเป็นแบบนั้น」
รระหว่างที่ยอง ผมยิ้มและพูดกับผู้น้ำที่ตาบวมที่ผมบอกทรงเก่าของมันไม่ได้
「แต่มันเป็นพลังของยูกะเองที่ทำให้ยูกะมีเสน่ห์ มันไม่ใช้พวกหัวเอ็นอย่างพวกมึง」
เมื่อผมยืนขึ้นแล้วพูดอย่างนั้น ผมมองกลับไปและเห็นทามะมูชิ
「ทำมัน」
เมื่อผู้นำได้ยินคำสั่งของผม เขาร้องไห้ สั่น และแลบลิ้นออกมา
กลัวความสิ้นหวังที่เข้ามาหา ดูเหมือนว่าเขาเลือกที่จะตาย
ผู้นำพยายามจะกัดลิ้นเขา
「น่าเสียดายนะ」
พึมพำแล้วถอนหายใจ ผมนำมือใส่เข้าไปในกระเป๋าและเริ่มเดิน
ผู้นำกัดลิ้นของเขาไม่ได้และร้องไห้ด้วยสองมืออยู่ที่พื้น
ผมไม่มีเจตนาซักเล็กน้อยที่จะยกโทษให้เขา แต่ถ้าเขากัดลิ้น ผมดูเขาได้นิดหน่อย
หลังจากทำความสะอาดพวกนักเลง ผมได้ออกจากโรงงานร้าง
ขอบคุณทามะมูชิที่ฝังแมลงไว้ที่พื้น พวกนักเลงอยู่ได้อีกประมาณ สามวัน อย่างไรก็ตาม หลังจากสามวัน แมลงจะหมดไปและการถอนที่หนักจะเกิดขึ้น
ถ้านั่นเกิดขึ้น บางคนจะทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงข้ออ้าง
พูดอีกอย่าง พวกเขาจะเอาเราไปบอกกับบุคคลที่สามและขอความช่วยเหลือ มันน่ารำคาญ แต่มันน่าจะโอเค
จากทามะมูชิ เมื่อพวกเขากินแมลงแล้ว พวกเขาจะไปจากมันไม่ได้ และแม้อาการถอนจะเกิดขึ้นจากการไม่ได้กิน มันดูเหมือนพวกเขาจะบ้าไปโดยขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้
สั้นๆก็คือ มันโอเคที่จะปล่อยไว้ลำพัง
นอกจากนี้ แม้ว่าบางคนในกลุ่มได้ขอความช่วยเหลือก สถานการณ์ไม่ได้สนับสนุนพวกเขา
มีนักเลงประมาน 60 ผู้ชายคนนึงที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ และอาซาฮินะที่ดูเป็นผู้หญิงสวยได้ซัดนักเลงอยู่ฝ่ายเดียว แล้วก็ มีโลลิอีกสองคน ไม่ว่าพวกเขาจะดูมันยังไง เราจะกำจัดนักเลง 60 คนได้มั้ย?
ไม่มีใครจะเชื่อเรื่องแบบนั้น
ผ่านจากส่งกระแสจิตระหว่างทามะมูชิและนานะฟูชิ พวกเราได้ตำแน่งปัจจุบันของนานะฟูชิและมุ่งหน้าไปที่นั่น
อาซาฮินะได้ยับเยินและเสื้อผ้าของเธอเลอะเทอะและหลุดลุ่ย แต่ทายกายภาพเธอได้ฟื้นเต็มที่และเดินอย่างเร็ว
「การฟื้นฟูของเธอเร็วเกินไป」
ทามะมูชิที่เดินต่อจากผมพึมพำระหว่างที่มองดูหลังอาซาฮินะที่เดินอยู่ข้างหน้า
แมลงในตัวอาซาฮินะรักษาผลของอาซาฮินะ แต่ไม่เร็วเท่าทามะมูชิ
ผมได้ยินมาก่อนว่า ถ้าเธอบาดเจ็บจริงๆ มันจะใช้เวลาครึ่งวันเพื่อรักษา
อาซาฮินะ ที่โดยรังแกอยู่ฝ่ายเดียวหลังจากได้สู้กับนักเลงในโรงงานร้าย ได้บาดเจ็บเกือบตายแล้ว ผมเห็นด้วย “ตา” ของผม มันไม่ต้องสงสัย
อาซาฮินะนั้นได้ถูกรังแกอยู่กับพื้น
แต่ดูอีกครั้งด้วย “ตา” ของผม ผมเห็นได้ว่ามันไม่ใช้แค่ภายนอกที่รักษา แต่ภายในก็ได้รักษาด้วย
「ชั้นคิดว่ามันเป็นอิทธิพลมาจาก “ตาแห่งพื้นดิน” แต่มันแปลก」
ทามะมูชิพึมพำการคาดเดาของเธอ
ตัวทามะมูชิเองก็ไม่รู้ว่าอะไรที่แปลกไป แต่มันมีบางอย่างแปลก
――ถ้าเธอได้ถูกผลของ “ตาแห่งพื้นดิน” ค่าของความสามารถของเธอจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก คนที่ได้รับอิทธิพลมากที่สุดคือกึ่งมนุษ์ที่ซูซูฮาระเห็นเป็น “ครอบครัว” ในความเป็นจริงแล้ว ความสามารถของสาวกึ่งมนุษย์นั้นสูงมากกว่าก่อนหน้ามาก
ทามะมูชิครุ่นคิดในหัวเธอขณะที่เธอเดินจากนั้นสั่นเหมือนเธอสังเกตุบางอย่าง
――ความสามารถของสาวกึ่งสัตว์ ได้เพิ่มขึ้นโดยรวม ในทางกลับกัน อาซาฮินะนั้นแปลก มันเหมือนจะมีจุดเดียว ก็คือการรักษา ที่ได้เพิ่มอย่างมาก กำลังและความเร็วอยู่ประมานระยะของมนุษย์ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม มีแค่ความทนทานที่ผิดปรกติด มันเหมือนกับ…
ระหว่างพึมพำในใจเธอ เธอเหงื่อออกและกลืนน้ำลาย
――การเปลี่ยนแปลงในสาวกึ่งสัตว์นั้นปรกติ ค่าของความสามารถเพิ่มขึ้นอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่สนใจเจตนาของคนนั้น และโดยรวมนั้นมั่นคง อย่างไรก็ตาม ของอาซาฮินะดูเหมือนจะเพิ่มเฉพาะความสามารถที่เธออยากได้ มีเรื่องโง่ๆแบบนั้นด้วยเหรอ? เป็นไปไม่ได้ อิทธิพลของ “ตาแห่งพื้นดิน” นั้นถูกมองอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่สนความต้องการของคนรับ แต่ถึงอย่างไร ถ้าเป้าหมายที่รับไปเลือกความสามารถที่เธออยากจะเพิ่มได้ งั้น มันดูเหมือนกับควบคุม “ตาแห่งพื้นดิน”
ผม “เห็น” คำพึมพำในใจของทามะมูชิ ผมรู้สึกถึงความเย็นวาบวิ่งผ่านสันหลังผม
ควบคุม
อาซาฮินะไม่ได้รับอิทธิพลจากความสามารถของผม แต่ “ใช้” ความสามารถของผมเพื่อเพิ่มความสามารถที่เธอต้องการ
พิจารณาจากเรื่องราวของทามะมูชิและนานะฟูชิ ความสามารถผมพูดได้ว่าเป็นความสามารถที่ “กัดกร่อน” ในบางที่ ถ้าคนที่ตกอยู่ภายได้ความสามารถของผมจะกัดกร่อนและมีผล
การกัดกร่อนน่าจะขึ้นอยู่กับเจตนาของผมและเป้าหมายมีมีผลอยู่ฝ่ายเดียว
แม้อย่างนั้น อาซาฮินะไม่กัดกร่อนด้วยความสามารถของผม และใช้มันในทางตรงกันข้าม
「แน่นอนว่า สาวที่ชื่อมารินะมีเบื้องหลังเป็นพลังจิต」
ทามะมูชิได้หยุดกระทันหัน จากนั้นพูดชื่อของมารินะ และชำเลืองมองผม
เมื่อทามะมูชิหยุด ผมหยุดและริกกะที่เดินอยู่ข้างหลังผมก็หยุด
อย่างไรก็ตาม มีแค่อาซาฮินะที่เดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้จุดหมาย เดินไปข้างหน้าต่อไป
กระแสจิต
ความสามารถที่จะส่งผ่านคำพูดผ่านใจ
อย่างมี่ฮิซูกิพูด มารินะดูเหมือนจะมีเบื้องหลังความสามารถแบบนั้น และเธอได้ถูกอิทธิพลจากความสามารถของผม และมันได้พัฒนา
ทามะมูชิและนานะฟูชิใช้มันเพื่อสื่อสาร แต่มันเป็นความสามารถที่แค่สองคนใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ฮิซูกิพูดว่าความสามารถของมารินะใช้กับใครก็ได้และมีวงกว้าง
「ถ้าคิดว่าอาซาฮินะได้ควบคุม “ตาแห่งพื้นดิน” และความสามารถของมารินะเข้าไปด้วย」
ระหว่างที่ตาสั่น ทามะมูชิพึมพำด้วยรอยยิ้ม
「และอาซาฮินะเป็นสาวที่เอาชนะตาแห่งสวรรค์」
จากนั้น ทามะมูชิสั่นด้วยเหงื่ออยู่บนแก้ม
「ชั้นคิดว่าฮิซูกิที่ไม่สามารถใช้ “ตาแห่งสวรรค์” นั้นไร้ความสามารถแต่ถ้าเธอใช้ความสามารถของมารินะ และให้ตาแห่งสวรรค์เข้าไปในอาซาฮินะ เป็นไปได้ว่า」
เมื่อผมได้ยินคำพึมพำของทามะมูชิ ผมเปิดตากว้าง
เฮ้ จริงเหรอ? มันเป็นไปได้ที่ทำอย่างนั้นได้เหรอ?
「เหตุผลที่ฮิซูกิไม่สามารถเก็บสติของเธอเพราะใจของเธอได้ “ดี” หลังจากที่ได้ถูกกำจัดโดยอาซาฮินะ และตาแห่งสวรรคืไม่ใช่ความสามารถที่รับมือกับใจที่ “ดี” ได้ นั่นทำไมฮิซูกิเสียสติไป」
ทามะมูชิมองผมและบอกสิ่งนั้นกับผม
「ตาแห่งสวรรค์เป็นความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดและไม่มีคู่ต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ระยะมันจำกัด ตาแห่งพื้นดินก้าวข้ามตาแห่งสวรรค์ อาซาฮินะที่ควบคุมตาแห่งพื้นดินได้จะสามารถควบคุมตาแห่งสวรรค์ได้ และเป็นไปได้ว่า ด้วยพลังใจของอาซาฮินะ…มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะผสมตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินเข้าด้วยกัน」
ทามะมูชิส่งเสียงที่สั่น
「การส่งกระแสจิตเป็นพลังที่เชื่อมต่อจิตใจ พูดอีกอย่าง ความสามารถที่จะสร้างทางเชื่อมต่อใจ มากกว่านั้นการสื่อจิตของมารินะเป็นหมวด บี อย่างแน่นอน ถ้าอย่างนั้นมันเป็นไปได้ที่จะให้ตาแห่งสวรรค์ไหลไปหาอาซาฮินะ」
เพราะตอนนี้ ฮิซูกิได้ถดถอยไปเป็นเด็กอ่อนอย่างรวดเร็ว ผมรู้ว่านั่นเป็นเพราะตาแห่งสวรรค์
ในเวลานั้น ฮิซูกิได้พัฒนาตาแห่งสวรรค์เหมือนคนบ้า เธอได้คิดเกี่ยวกับการจะได้ผม โดยพยายามจะทิ้งอย่างอื่นทิ้งให้หมด
อย่างไรก็ตาม เธอแพ้อาซาฮินะ
ถ้ามันเป็นฮิซูกิที่ยังบ้าอยู่ เธอจะสามารถควบคุมตาแห่งสวรรค?ได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม การแพ้อาซาฮินะทำให้เธอเป็นคน “ดี” ขึ้้นและเธอไม่สามารถทนพลังมหาศาลจากตาแห่งสวรรค์
คิดว่า ฮิซูกิเหมือนอยู่ในสภาพที่อยู่ในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำร้อน เมื่อน้ำร้อนได้เติมเข้ามา มันจะล้นออกมาจากอาง
น้ำร้อนที่ล้นจากอ่างนั้นจะถูกเทไปทีอาซาฮินะโดยใช้ความสามารถของมารินะ
จากนั้น อาซาฮินะอาจจะทนมันได้
「แต่ถ้าเป็นไปได้มันจะเป็นเรื่องใหญ่มาก เมื่อคิดว่าอาซาฮินะควบคุมตาแห่งพื้นดิน ถ้าเธอให้ตาแห่งสวรรค์ไหลไปที่เธอ ตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินจะรวมกันในอาซาฮินะ นั่นเป็นบางอย่างที่…ไม่เคยได้ยิน」
ผมไม่มีความรู้ แต่มันเข้าใจได้ว่าทามะมูชิพูดบางอย่างที่ไร้สาระ
เมื่อฮิซูกิได้สู้กับอาซาฮินะมันเป็นแค่ปีศาจ
ไม่มีใครคิดว่าอาซาฮินะจะชนะฮิซูกิครั้งนั้น
ตาแห่งสวรรค์ของฮิซูกิเห็นทุกเหตุการณ์
คิดมันปรกติ เธอจะไม่แพ้
อย่างไรก็ตามเธอแพ้
มีคนที่เอาชนะฮิซูกิได้อย่างสมบูรณ์ คนที่เป็นแค่ “มนุษย์” แต่มีความสามารถที่พูดได้ว่ามีอำนาจทุกอย่าง และทำใจเธอแตกสลาย
ถ้าสัตว์ประหลาดแบบนั้นผสมตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินในตัว
「ค่าที่แท้จริงของความสามารถนั้นจะแสดงเมื่อใช้ตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินเพื่อ “บางคน” ทั้งสองอย่างเป็นความสามารถสนับสนุนที่ตรงกันข้ามกันเหมือนแง่บกกับแง่ลบ เมื่อสองความสามารถหลอมรวมกัน มันจะกลายเป็น “มีอำนาจเหมือนทุกสิ่ง” ความสามารถสนับสนุนที่ไม่มีอะไรเทียบได้ อาซาฮินะนั่นอาจจะมีมัน」
ความสามารถของฮิซูกิ ซึ่งก็คือแสงอาทิตย์ และความสามารถของผมซึ่งก็คือเงามืด จากนั้น หลอมรวมความสามารถทั้งสองโดยใช้ความสามารถของมารินะเพื่อจะเป็นอะไรที่ “มีอำนาจเหนือทุกสิ่ง” ในอาซาฮินะ?
มันจะจินตนาการไม่ได้ แต่――
「แต่ปัญหาก็คือ…」
ทามะมูชิมองไปข้างหน้าระหว่างที่สั่น ที่เห็นอยู่คือหลังของอาซาฮินะที่เดินไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล แม้ว่าเธอไม่รู้เป้าหมาย
「อาซาฮินะโง่」
「……นั่นถูกต้อง」
นั่นถูก อย่างที่ทามะมูชิพูด
ไม่ว่าความสามารถจะดีขนาดไหน ถ้าเธอโง่ เธอช่วยไม่ได้ มากว่านั้น อาซาฮินะไม่ใช่โง่ธรรมดา เธอโคตรโง่ที่ไม่รู้อะไรนอกจากตรงไปข้างหน้าโดยไม่หลงบนทางที่เธอตัดสินใน ไม่แม้แต่จะฟังคนอื่นด้วย
แต่นั่นทำไม――
「เพราะมันเป็นอาซาฮินะแบบนั้น มันอาจจะเป็นไปได้」
ทามะมูชิที่เหงื่อออกที่แก้ม หัวเราะกับผมขณะที่ผมพึมพำ
「ถ้าอาซาฮินะมีอำนาจเหนือทุกสิ่ง เธอจะทำอะไรก่อน」
ทามะมูชิที่ถามในเสียงที่สับสน เห็นผมและริกกะ
เมื่อผมมองริกกะข้างหลังผม ริกกะมองขึ้นมาบนผมยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เกร็ง
「โดยไม่ได้ตลก อาซาฮินะ-ซามะ… หนูรู้สึกว่าเธออยากจะให้นมเธอใหญ่ขึ้น อะไรแบบนั้น」
「ริกกะเธอไม่ผิด ชั้นก็คิดอย่างนั้นด้วย」
「ชั้นได้ยินนั่นแล้ว ชั้นก็คิดอย่างนั้นด้วย」
ผมเห็นด้วยกำคำตอบของริกกะ และทามะมูชิก็เห็นด้วยด้วย
ถ้าบางคนได้ความสามารถที่ทรงพลังแบบนั้นที่เธอคาดไม่ถึง มันจะเป็นเรื่องที่ทำให้คนธรรมดาทำลายตัวเอง ไม่ว่าคิดเกี่ยวกับมันยังไง มันไม่ใช่ความสามารถที่รับมือได้โดย “มนุษย์” ธรรมดา
แต่อาซาฮินะจะดีใจที่ทำให้นมของเธอใหญ่ขึ้น สำหรับตอนนี้ ผมคิดว่าเธอจะทำให้นมของเธอใหญ่ขึ้นและอวดมันกับผม
ผมคิดอย่างจริงจังว่าเธอจะใช้พลังที่มันทรงพลังเกินไปสำหรับอะไรโง่ๆแบบนั้น
เพราะเธอมันอีโคตรโง่ มากกว่าโง่ธรรมดา
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite