อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 31 3 สาว + อัลฟ่า (มุมของเรด)

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 31 3 สาว + อัลฟ่า (มุมของเรด)

 

ได้รับการยืนยันแล้วว่าคัตสึมิคุง ความจำเสื่อม

 

จากการยืนยันของคิราระที่ได้ต่อสู้เคียงข้างเขาคราวก่อน ยิ่งทำให้พวกเรามั่นใจมากกว่าเดิม

 

วันนี้พวกเราก็มีรวมตัวกันในห้องคัตสึมิคุงเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ แม้จะมีหัวข้อที่หลุดกรอบออกไปนิดหน่อยก็เถอะ

 

 

「ไม่ว่าจะพูดยังไง มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ฟอร์มของฉันถูกใช้เป็นคนแรกหรอกนะ」

 

 

「ลำดับไม่ได้สำคัญ การใช้ง่ายที่บ่อยต่างหากเหนือกว่า」

 

 

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เห็นได้ชัดว่าฟอร์มต่างๆที่เปลี่ยนไปของเขามีต้นแบบมาจากอาวุธและความสามารถของพวกเรา

 

หมายความว่าเขาไม่ได้ลืมเรื่องราวในอดีตไปจนหมดสิ้น

 

นอกจากนี้การที่เขาใช้อาวุธของฉันก่อนเป็นอันดับแรกยิ่งทำให้ความประทับใจของฉันสูงขึ้นเสียอีก

 

ฉันกับอาโออิจ้องหน้ากัน

 

ส่วนคิราระได้แต่ทำหน้าเซ็ง ก้มหน้าไม่คุยกับใคร

 

ในสถานการณ์เช่นนี้ เด็กสาวผมสีดำเพียงคนเดียวในห้องก็ถอนหายใจออกมา

 

 

 

「พวกเธอไม่รู้สึกเศร้าใจบ้างหรือไงที่ต้องมาแข่งเรื่องอะไรแบบนี้กัน?」

 

 

อัลฟ่าดูการกระทำของพวกเราแล้วทำหน้าเอือมออกมา

 

ยิ่งมองดูใบหน้าของเธอบ่อยแค่ไหนก็ยิ่งบอกได้ว่าเธอเป็นคนสวยมาก แม้กระทั่งเพศเดียวกันยังหลงเลย

 

 

「เพราะมันเป็นเรื่องเดียวที่พวกเราจะพูดเกี่ยวกับเขาได้นี่นา」

 

「หรือมีเรื่องอื่น?」

 

「ขะ ขอโทษค่ะ……」

 

 

ไม่รู้เพราะอะไรใบหน้าของเธอถึงได้ซีดไปทันทีที่จ้องตากับพวกเราตรงๆ

 

ฉันเคยไปทำอะไรให้เธอหรือยังไงกันนะ ไม่เข้าใจจริงๆ

 

 

 

「พวกเธอ รู้หรือเปล่าว่าเรายังมีเรื่องที่สำคัญมากกว่าคุยเรื่องไร้สาระพวกนี้」

 

 

คิราระพูดขณะเอามือกอดอกไว้

 

 

 

「ยังพูดได้อีกหลายทีเลยแหละ ว่าเยลโล่ยังไม่ถูกใช้งาน」

 

「เห็นใจเธอนะ แต่มาพาลมันไม่ดี」

 

「ก็เอาสิยะ มาซ้ำกันเลยเรียกว่าเยลโล่แทนคิราระไปเลยดีไหม?」

 

「「……」」

 

「นี่ พูดกันแบบนี้จะดีจริงเหรอ? พวกเธอเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง?! ยังมีเรื่องที่น่าปวดหัวให้บ่นกันอีกเยอะนะ?!」

 

เหมือนอัลฟ่าจังจะเห็นว่าพวกเราเล่นกันแรงเกินไปเลยพยายามดึงสติกลับมา

 

 

เอาเป็นว่าก็ทิ้งเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วมาพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มแทนดีกว่า

 

 

 

「เอาเป็นว่าจบเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกัน」

 

「เห็นด้วย พวกเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน」

 

「ก็นะ」

 

 

บรรยากาศโดยรอบห้องขังเริ่มสงบลง

 

อัลฟ่าทิ้งตัวลงนอนบนเตียง โดยใบหน้าแสดงออกมาเหนื่อยล้าเต็มที

 

 

 

「งื้อ ไม่ไหวแล้วอ้า คัตสึมิ ฉันคิดถึงนายยยย……」

 

 

 

เด็กน้อยจริงๆ

 

 

ดูจากท่าทางและการกระทำของเธอแล้วมันช่างน่ารักและไร้เดียงสาจริงๆ

 

 

「อัลฟ่าจังนี่เป็นผู้หญิงประเภทที่ทำให้เพศเดียวกันไม่ชอบแปลกๆเนอะ」

 

「หมายความว่าเธอก็เกลียดฉันงั้นเหรอ?」

 

「……」

 

「อย่างเงียบสิ พูดอะไรหน่อย……?」

 

 

เสียงของอัลฟ่าจังสั่นขณะที่ฉันเอียงคอยิ้มให้กับเธอ

 

ฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไรเธอหรอกนะ แต่เธอเป็นคนที่จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด

 

ในหลายๆความหมาย

 

 

「เรื่องที่ฉันอยากจะพูดก็คือ…เรื่องของคนที่เรียกว่าพี่สาวนั่น」

 

「「……」」

 

「ใช่แล้ว เธอคนนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นพี่สาวของคัตสิมึคุง」

 

 

มันคือเรื่องที่คิราระรู้มาตอนเจอกับคัตสึมิคุง

 

 

 

 

「ใช้ประโยชน์จากการที่เขาความจำเสื่อม……」

 

「และทำให้ตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในฐานะพี่สาว……」

 

 

 

「「นั่นมันสุดยอดเลยไม่ใช่หรือไง……!」」

 

 

「บางครั้งฉันก็แอบกลัวความคิดของพวกเธอนะ ขนาดตัวฉันยังคิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้เลย」

 

 

ดูเหมือนว่าอัลฟ่าจะตกใจกับคำพูดของฉันและคิราระ

 

ส่วนทางอาโออิเหมือนจะไม่ได้กังวลเรื่องนี้และพูดขึ้น

 

 

「สำหรับฉันที่ตั้งเป้าเข้าหาในฐานะรุ่นน้อง ตรงนี้ถือว่าไม่มีปัญหา」

 

 

 

「สภาพเธอดูไม่เหมือนรุ่นน้องเขาเลยนะ ถามจริง?」

 

「รุ่นพี่คัตสิมึ เขาเป็นรุ่นพี่ฉัน」

 

「อยู่ดีๆก็จะมาทำตัวเป็นรุ่นน้องซะได้ ยัยเด็กเนิร์ตวิทย์นี่…」

 

 

 

พอมาคิดดูแล้ว…คัตสึมิคุงจะคิดกับฉันแค่เพื่อนร่วมชั้นเฉยๆหรือเปล่านะ พอได้มาอยู่กับอาโออิบ่อยๆก็ลืมไปเลยว่าเธออ่อนกว่าฉันไป 1 ปี

 

 

 

「ส่วนเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นก็ดีแค่ไหนแล้ว」

 

 

「อุหวานั่นสิเนอะ คิราระจะเรียนจบแล้วนี่นา จะทำยังไงต่อดีน้อ!!」

 

「ตายแล้ว เด็กปี 3!?」

 

「แล้วมันยังไงกันยะ!?」

 

「วุ่นวายกันจริงๆพวกเธอ……」

 

 

เหมือนทางคิราระจะกังวลเกี่ยวกับหน้าที่การงานในอนาคตหลังเรียนจบพอสมควร

 

อันที่จริงฉันก็ไม่ต่างกันหรอก แม้จะมีเงินเก็บจากการเป็นจัสติสครูเซเดอร์มากระดับหนึ่ง แต่ใจก็อยากเรียนต่อมหาลัยนะ

 

ทว่ามันก็คงเป็นไปได้ยากจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้รุกรานบุกโลกไม่พัก

 

 

 

 

「จริงสิ ปกติแล้วพวกเธอหนีออกจากโรงเรียนหรือแก้ตัวกับคนอื่นยังไงเหรอ?」

 

「ก็ใช้เครื่องสร้างภาพโฮโลแกรมขึ้นมาหลอกตาคนอื่นน่ะ 」

 

「ความจะไม่แตกเอาเหรอ……?」

 

「ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ไม่เกิดเรื่องเกินคาดในชั้นเรียน นอกจากนี้ก็มีคนให้ความร่วมมือในห้องด้วย」

 

 

แม้ว่าเรื่องภาพโฮโลแกรมจะความแตก แต่ก็มีคนคอยแก้ตัวให้อยู่

 

จึงพูดได้ว่าพวกเราสามารถทำหน้าที่ในฐานะจัสติสครูเซเดอร์ต่อไปได้เพราะความพยายามของคนอยู่เบื้องหลัง

 

 

 

「อันที่จริงถ้าใช้พลังของฉัน พวกเธอคงออกจากห้อ――」

 

「ถ้าคิดจะเปลี่ยนการรับรู้ของฉันอีก ฉันจะไม่ยอมปล่อยไปเฉยๆแน่เข้าใจไหม?」

 

「ขะ ขอโทษค่ะ……」

 

 

อัลฟ่าทำท่าหวาดกลัวจริงจัง

 

นี่ฉันไปทำอะไรให้เธอกลัวขนาดนั้นกัน

 

 

 

「เธอไม่ควรจะใช้พลังของตัวเองแบบไม่คิดนะอัลฟ่าจัง ถึงจะไม่ตั้งใจก็เถอะ แต่นั่นมันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นนะ」

 

「ฉันก็เข้าใจอยู่หรอก คนของที่นี่ฉันก็รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนเลวอะไร จะให้ใช้พลังใส่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีแต่ว่า….」

 

 

เธอหยุดไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ

 

 

 

「ฉันอยากจะเจอกับคัตสึมิแล้วนี่นา….」

 

「……พวกเราก็ไม่ต่างกันหรอก」

 

「พลังของโอเมก้าสามารถป้องกันพลังของอัลฟ่าอย่างฉันได้ หากเขาไม่อนุญาตฉันก็ไม่สามารถใช้พลังกับเขาได้…..」

 

เพราะงั้นเธอถึงไม่สามารถฟื้นความทรงจำของเขาได้สินะ

 

ทางประธานก็บอกว่าการฝืนบังคับให้ความทรงจำกลับมามันจะได้ผลตรงข้ามแทนมากกว่า

 

นอกจากนี้ ชีวิตที่เขาใช้อยู่ตอนนี้ก็ดูสดใสเสียเหลือเกิน จนแอบคิดว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อจะดีไหม 

 

 

 

 

 

「คือว่า……」

 

「โอ้ว ว่าไงสาวๆ ดูเหมือนพวกเธอจะกลายเป็นเด็กเหงากันไปหมดแล้วนา!」

 

ประธานเคาะประตูอย่างแรงก่อนจะเปิดห้องเข้ามาโดยมีเทอมินัลติดมือมาด้วย แล้วแสดงมันให้อัลฟ่าดู

 

 

「อย่างที่เธอบอกเลย มีการสั่นสะเทือนของห้วงอวกาศในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันก่อน ท่าทางเขาจะถูกวาร์ปไปที่ไหนสักที่หนึ่งอีกแล้วสิ」

 

「……นี่ครั้งที่ 2 แล้วนะ……」

 

 

เมื่อสัปดาห์ก่อน คัตสึมิคุงเหมือนจะถูกดึงหายไปจากโลกอีกครั้ง 

 

ก่อนจะกลับมาหลังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง….หรือจะมียานอวกาศแอบมาลักพาตัวเขาอีกกัน?

 

ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งรู้สึกกังวล

 

 

 

「เดี๋ยวฉันจะพยายามสืบหาข้อมูลให้ได้มากกว่านี้」

 

「เข้าใจแล้วค่ะ」

 

「แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จเลยก็คืออุปกรณ์คาดเดาการมาถึงของผู้รุนราน ฉันเข้าใจว่าพวกเธอกังวล แต่ช่วยทนกันอีกหน่อย」

 

 

หากยังแก้สถานการณ์ที่ตามใครไม่ทันแบบนี้คงลำบาก

 

จะให้ออกตัวก่อนก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงรอคอย

 

 

 

「จริงสิ เรื่องยานพาหนะของพวกเธอก็รวมในนั้นเหมือนกัน」

 

「ยานพาหนะ ที่จะให้พวกเราขี่น่ะเหรอ?」

 

「อ้า มันจะขับเคลื่อยโดยแกนพลังงานของสูทพวกเธอ ดังนั้นคงจะฝึกใช้งานได้ง่าย ให้คิดซะว่ามันเป็นอะไรที่คล้ายกับของที่คัตสึมิคุงใช้ละกัน」

 

 

ของที่เหมือนกับเขา

 

หากได้มันมาก็อาจจะไล่ตามเขาหรือออกทำงานง่ายขึ้น

 

 

 

「บอกไว้ก่อนนะว่าขนาดคงไม่ได้เล็กเหมือนของเขา ถึงใจอยากจะสร้างแบบมอเตอร์ไซค์ก็เถอะ แต่ทรัพยากรที่มีตอนนี้คงไม่ไหว」

 

「อาวุธล่ะคะ?」

 

「ของมันต้องมีอยู่แล้ว ฉันคิดเอาไว้แล้วว่ายานของพวกเธอจะติดอะไรไว้」

 

 

มันจะช่วยทำให้พวกเราสามารถตอบโต้ศัตรูที่เข้ามาโจมตีขณะขับยานได้

 

ระหว่างที่กำลังคุยกัน ประธานก็เหมือนจะนึกอะไรออก

 

 

「พอมานึกๆดูวันก่อนที่แอบพวกลูกน้องหนีไปกินยากินิกุคนเดียวฉันเจออะไรน่าสนใจเข้าด้วย」

 

「เรื่องน่าสนใจ……?」

 

「อ้า บังเอิญไปเจอกับชิราคาวะคุงเข้าน่ะ ฮ่าๆๆ」

 

 

ชิราคาวะจังเหรอ?

 

อดีตพนักงานที่เข้ามาใหม่ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาทางจิตกับคัตสึมิคุง

 

เธอได้ตัดสินใจลาออกหลังเกิดเรื่องนั้น ประธานจะบอกว่าบังเอิญไปเจอเธอเข้าสินะ

 

 

「แถมเธอมากับแฟนด้วยนะเออ」

 

「「「「!?」」」」

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้แต่อัลฟ่าจังก็ยังแปลกใจ เธอรู้จักกันด้วยเหรอ?!

 

ประธานพยายามกั้นหัวเราะเมื่อเห็นอาการของพวกเรา

 

 

「อุหวาาม่ายหวายยย!! มาพูดเรื่องรักๆใคร่ๆกับสาวน้อยไร้ประสบการณ์พวกนี้ไปทำไมนะตัวฉัน!! บุ้วๆๆ!!」

 

「「「……!!」」」

 

「โฮ่ย พวกเธอใจร่มๆก่อน! เข้าใจแหละว่าโกรธกัน แต่จะแปลงร่างเลยมันเกินไปนะเห้ย!!!!」

 

 

 

หลังสถานการณ์สงบลง พวกเราก็กลับมานั่งคุยกันตามปกติ

 

 

 

「อันที่จริงเขาอยู่กับน้องชายน่ะ น่าแปลกจริงๆที่ได้เห็นมุมใหม่ๆของเธอตอนอยู่กับครอบครัว」

 

「ชิราคาวะจังมีน้องชายด้วยเหรอคะ」

 

「น่าแปลกเนอะ…จะว่าไปพวกเราก็ไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวกันด้วยนี่นา」

 

 

อยู่ดีๆอัลฟ่าจังก็ทำตัวแปลกๆไป เธอยืนขึ้นจากเตียงแล้วพึมพำบางอย่างที่เหมือนเกินความเข้าใจตัวเอง

 

 

 

 

「หืม? เป็นอะไรไปน่ะ?」

 

「อัลฟ่าจังเป็นอะไรหรือเปล่า?」

 

 

อัลฟ่าถึงกับเอามือกุมหัวตัวเองไว้

 

เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ?

 

 

 

「นะ นั่นจริงเหรอ ไอ้โรคจิต」

 

「หา? ก่อนอื่น ช่วยเลิกเรียกฉันว่าไอ้โรคจิตได้ไหม พอโดนเรียกมาต่อกัน 4 เดือนติดจิตใจมันก็รับไม่ไหวนะเออ」

 

 

เธอพูดต่อโดยไม่ได้สนใจประธานที่ถูกทำร้ายจิตใจเลย

 

 

「ก็เพราะว่า ชิราคาวะ ฮาคัวน่ะไม่มีน้องชายได้นี่นา」

 

「……ไม่มี?」

 

 

เดี๋ยว เธอไม่มีน้องชาย?

 

ในระหว่างที่ฉันกำลังสงสัยว่าทำไมอัลฟ่าจังถึงรู้เรื่องของชิราคาะจัง เรื่องที่พวกเราคุยกันก่อนหน้านี้ก็แวบเข้ามาในหัว

 

หญิงสาวที่อ้างว่าเป็นพี่สาวของคัตสึมิคุง

 

ชิราคาวะจังที่หายตัวไปตั้งแต่ขอลาออกจากเหตุการณ์นั้น

 

 

 

「ฉันเลยสงสัยว่า นั่นนะเป็นน้องชายของเธอจริงๆหรือเปล่า?」

 

————-

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท