อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 32 ผู้รุกรานยามราตรี

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 34 ผู้รุกรานยามราตรี

 

ฉันสงสัยจังว่าตัวเองทำอะไรอยู่ก่อนเสียความทรงจำ

 

ตัวเองเป็นคนแบบไหน ถูกห้อมล้อมด้วยผู้คนอย่างไร

 

บางครั้งฉันเกิดความกังวลขึ้นมาภายในใจ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนมีความว่างเปล่าเข้ามากัดกินหัวใจ

 

สงสัยชีวิตที่ฉันใช้ก่อนหน้าคงจะโดดเดี่ยวพอสมควร

 

 

 

 

「เอาละ วันนี้ก็พอแค่นี้แล้วกัน」

 

「อ่ะ ครับ」

 

 

พอเป็นช่วงฤดูร้อนพระอาทิตย์มันก็เลยตกช้ากว่าเดิมนิดหน่อย

 

ฉันทำความสะอาดร้านพร้อมกับดูแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ก่อนจะสังเกตเห็นกรอบรูปหนึ่งวางอยู่ในครัว ตรงจุดที่ลูกค้ามองกันไม่เห็น

 

 

 

「เอ่อ มาสเตอร์」

 

「มีอะไรเหรอ? 」

 

「เมื่อก่อนมาสเตอร์เคยทำงานอยู่กองกำลังป้องกันตัวเองหรือเปล่าครับ? 」

 

 

เพราะภาพภายในนั้นเขาสวมชุดและหมวกลายพรางถ่ายคู่กับคนที่น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา

 

ฉันรู้สึกสนใจขึ้นมาก็เลยถามออกไป เขาก็พยักหน้ารับด้วยสีหน้าปั้นยาก

 

 

「อ้อ ก็เมื่อก่อนน่ะ ฉันออกมาประมาณปีก่อน」

 

「ทำไมล่ะครับ? 」

 

「นายยังจะถาม…จริงสิ….ทั้งหมดก็เพราะเรื่องในวันนั้น」

 

「เรื่องในวันนั้น? 」

 

 

ฉันถามต่อแต่เขาเหมือนลังเลที่จะตอบ

 

หลังเงียบไปไม่กี่วิ เขาก็ส่ายหน้าไปมา

 

 

「เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ แล้วพรุ่งนี้งานคนจะหนักน่าดู แกรีบกลับไปบ้านเถอะ」

 

「อ่า เข้าใจแล้วครับ งั้นไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่」

 

「…จริงสิ รอเดี๋ยว」

 

「ครับ? 」

 

ฉันหยุดเดิน

 

 

 

「พอดีว่ามีคนรู้ชักเขากำลังลำบากน่ะ นายสนใจอยากรับงานเสริมหน่อยไหม」

 

「งานเสริม? 」

 

「อ้า มันต้องใช้แรงกายนิดหน่อย ดังนั้นฉันเลยคิดว่านายน่าจะเหมาะ」

 

「……ไม่ใช่งานแปลกๆ ใช่ไหมครับ? 」

 

พอฉันถามกลับไป มาสเตอร์ก็หัวเราะออกมา

 

 

 

「ใช่ก็บ้าแล้วไอ้เด็กนี่ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันจะมาบอกแกหรือไง ก็แค่งานใส่ชุดคอสตูมน่ะ」

 

「งานหนักอย่างที่ว่าเลย……」

 

「ก็งั้นอยู่แล้ว ฉันเลยอยากได้วัยรุ่นมาช่วยสักหน่อย ฤดูร้อนมันโหดจะตาย」

 

 

พอมาคิดก็ไม่ได้แย่อะไรนัก

 

ความแข็งแกร่งของร่างกายตัวเองก็แอบมั่นใจอยู่พอสมควร

 

สุดท้ายฉันก็ยังไม่ได้ให้คำตอบแล้วแยกทางกับมาสเตอร์ที่นอกร้าน

 

 

ทิวทัศน์ของเมืองกำลังถูกย้อมไปด้วยแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ฉันค่อยๆ เดินไปอย่างสบายอารมณ์

 

 

 

「วันนี้ไม่มีพวกผู้รุกรานด้วยสิ ดีจริงๆ 」

 

 

โดยปกติแล้วพวกมันมักจะบุกมากันช่วงกลางวัน

 

ดังนั้นหากเป็นเวลานี้คงไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก

 

『โฮก』

 

「ขอโทษทีนะชิโระที่ต้องมาให้อยู่ในกระเป๋าแคบๆ 」

 

 

หมาป่าจักรกลโผล่ออกมาจากกระเป๋าของฉัน และส่ายหัวไปมา

 

ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเจ้านี่แสดงอารมณ์ต่างๆ ออกมาได้มากขึ้น

 

ราวกับว่ากำลังเรียนรู้สังคมโลกใบนี้ไปเรื่อยๆ

 

 

 

「พี่น่าจะใกล้กลับถึงบ้านแล้วด้วย วันนี้ทำมื้อเย็นเป็นอะไรดีนะ」

 

 

ก่อนอื่นต้องลองไปดูของในซูเปอร์สักหน่อย

 

……。

 

 

 

「วิถีชีวิตแบบนี้จะคงอยู่ไปอีกนานแค่ไหนกันน้อ」

 

จู่ๆ ฉันก็บ่นกับตัวเอง

 

มีผู้รุกรานจากต่างดาวมายังโลกด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

ความทรงจำก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาโดยสมบูรณ์

 

แถมไม่ว่าจะคิดยังไง พวกมันก็เหมือนตั้งใจจะมาหาเรื่องฉันโดยเฉพาะแบบแปลกๆ

 

ในอนาคตพี่และคนรอบตัวฉันอาจจะโดนทำร้ายเพราะฉันก็ได้

 

 

 

「———อึก」

 

 

เสียงกระดิ่งดังก้องขึ้นมาในหัวอีกครั้ง เป็นเสียงที่ฉันเกลียดสุดๆ

 

เพราะมันคือสัญญาณของผู้รุกราน

 

ฉันถอนหายใจออกมาแล้ววิ่งเข้าไปในตรอกพร้อมกับชิโระที่แปลงร่างเป็นหัวเข็มขัด

 

 

 

「วันนี้ก็ต้องลุยอีกรอบ」

 

『LUPUS DRIVER!!!!』

 

 

ผู้รุกรานมันจะมาตอนไหนก็ได้แท้ๆ ฉันคิดง่ายไปเองจริงๆ

 

ฉันทำการแปลงร่างเป็นอัศวินขาว

 

จากนั้นก็ขี่ Lupus Striker ไปยังจุดที่เสาแห่งแสงตกลงมา สภาพโดยรอบเรียกว่าพังยับเยิน

 

รถพลิกคว่ำ พื้นถนนเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว และรอยกรงเล็บขนาดใหญ่

 

ฉันหยุดรถเพื่อสอดส่องที่เกิดเหตุ ก่อนจะสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังถูกโจมตี

 

 

「ฮว้าาาา!!」

 

「!」

 

 

เสียงกระโดดพุ่งมาจากทางด้านหลัง ฉันจึงหมุนรถให้ล้อกระแทกเข้ากับสิ่งที่พุ่งมา

 

หลังถูกล้อกระแทกไป มันก็พยายามลุกขึ้นยืนแล้วจ้องมาทางฉันในสภาพน้ำลายไหลยืด

 

 

 

「มนุษย์สัตว์เหรอ? 」

 

 

โครงสร้างร่างเป็นมนุษย์แต่รูปร่างของมันคล้ายกับแมว มีขนสีเทาปกคลุมทั้งร่าง

 

บริเวณ อก ขา แขน มีเข็มขัดรัดเอาไว้อยู่เหมือนเป็นกลไกบางอย่าง และมีตัวเลข 189 สลักเอาไว้ตรงอก

 

 

 

「189? เลขนั่นมันอะไรกัน? 」

 

 

ฉันตั้งท่าระวังและคิดถึงความหมายของตัวเลข

 

คนรอบๆ ดูท่าจะอพยพกันไปหมดแล้ว แต่จะให้วางใจเลยก็ไม่ได้เพราะอาจจะยังเหลือคนที่ตกค้างอยู่

 

เอาเป็นว่าก็รีบจัดการแมว….มนุษย์แมว? หรืออะไรสักอย่างก่อนละกัน

 

 

「เฮี้ยยยย!」

 

「เร็วชะมัด? 」

 

 

มนุษย์แมวพุ่งโจมตีด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ

 

ฉันหยิบมีดออกมาป้องกัน แต่กรงเล็บของมันที่โจมตีมารุนแรงเสียจนผลักฉันกลับไปได้

 

 

「บลู!? ไม่ดีกว่าพลังทำลายไม่น่าพอ! งั้นก็ต้องอันนี้!!」

 

『RE:BUILD!! SWORD RED!! → OK? 』

 

 

ฉันกดหัวเข็มขัดแล้วเปลี่ยนร่างขาวให้เป็นแดง

 

ศัตรูดูจะประหลาดใจเล็กน้อยที่ร่างของฉันเปลี่ยนไป แต่ไม่นานมันก็บุกเข้ามาต่อทันที

 

 

『CHANGE!! SWORD RED!!』

 

『FLARE CALIBER!!』

 

 

ฉันถือดาบที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงฟาดฟันสวนกับอีกฝ่ายที่โหมการโจมตีเข้ามา

 

 

ขนาดไอ้นี่ยังตึงมือเลยเหรอ!!

 

 

 

「อึก!!」

 

「ฮ้าาาาาา!!」

 

 

คู่ต่อสู้แข็งแกร่งชะมัด!

 

ต่างจากศัตรูก่อนหน้านี้ คู่ต่อสู้คราวนี้เหมือนจะใช้แค่สัญชาตญาณดิบในการโจมตีฉันอย่างเดียว

 

มันไม่มีอะไรนอกจากความเกลียดชังและความโกรธภายในดวงตาของมันเลย!!

 

 

 

「ฮ้า!!」

 

ฉันสลับดาบไปที่มือซ้ายแล้วใช้หมัดขวาซึ่งปกคลุมด้วยเพลิงอัดเข้าที่ร่างของมัน

 

ร่างของมันกระเด็นไป ฉันจึงตั้งใจจะเอาดาบไปฟันซ้ำอีกทีแล้วในจังหวะที่โน้มตัวเข้าไปนั้นเอง

 

 

「——กุ ฮ้าาาา!!」

 

「เชี่ยอะไรวะนั่น!? 」

 

 

ทันใดนั้น เข็มขัดที่รัด แขน ขา ของมันก็ถูกปลดออก

 

จากนั้นร่างของมันก็หายไปจากรัศมีการมองเห็นฉันทันที เพียงเสี้ยววิ ความเจ็บปวดอันรุนแรงก็ส่งมาจากบริเวณแผ่นหลังของฉัน

 

 

「อะไรฟะ!? 」

 

 

เกิดอะไรขึ้นกัน?!

 

ความเร็วและพลังของมันสูงขึ้น?!

 

ฉันหันกลับไปแต่ก็ไม่พบร่างของมันแล้ว

 

 

「ยังจะเร็วได้อีกเหรอฟะ!! อึก?!」

 

 

ฉันถูกโจมตีอีกทีบริเวณไหล่ ประกายไฟได้เกิดขึ้นจากแรงปะทะ

 

ไอ้เจ้าตัวบ้านี่มันเร็วกว่ากระต่ายคราวก่อนซะอีก

 

ก็จริงอยู่ว่าหากใช้บลูฟอร์มจะยิงดักมันได้ แต่พลังทำลายและลักษณะการต่อสู้ในระยะประชิดของมันไม่น่าเอื้ออำนวย

 

 

 

 

「ไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว ยังไงก็ต้องลองดูก่อน」

 

『NO!』

 

「หือ? 」

 

ชิโระส่งเสียงปฏิเสธออกมา

 

ฉันจึงเอียงหัวสงสัยแต่อีกฝ่ายก็ใช่จะมีเวลาให้ฉันพัก มันทำการฟาดฉันด้วยกรงเล็บจนล้มกลิ้งไปมา

 

 

 

『COMPLETE!! AXE YELLOW!!』

 

「อีกแล้วเหรอ….ฟอร์มใหม่สินะ?? 」

 

AXE YELLOW?

 

 

แอบไปสร้างฟอร์มนี้มาตอนไหนกันนะ?! ทำไมถึงไม่ยอมบอกฉันตั้งแต่แรกนะ?!

 

「ช่วยไม่ได้ ลองดูซักตั้งซิ!!」

 

 

ฉันเอื้อมมือไปที่หัวเข็มขัด ในขณะใช้มืออีกข้างพยายามป้องกันการโจมตี

 

สับหัวเข็มขัด 3 ครั้งเพื่อทำการเปลี่ยนฟอร์มใหม่

 

 

 

『RE:BUILD!! AXE YELLOW→ OK? 』

 

「จัดมาดิ๊!!」

 

 

ฉันแตะปุ่มบนเข็มขัดเพื่อยืนยัน จากนั้นก็มีสายฟ้าลงมารอบตัวฉัน

 

และสายฟ้าดังกล่าวมันก็ได้พัดเอามนุษย์แมวที่พุ่งเข้ามากระเด็นออกมา โดยมีเกราะสีเหลืองได้เข้ามาประกอบร่างของฉันระหว่างนั้น

 

 

『CHANGE!! AXE YELLOW!!』

 

 

ฉันสะบัดแขนเพื่อปัดเป่าให้สายฟ้ารอบตัวหายไป

 

 

——รู้วิธีใช้งานมันแล้ว!!

 

ที่เหลือก็แค่จำกัดอีกฝ่าย!!

 

 

「ฮ๊าาาา!!」

 

ท่าทางมันจะโมโหจัดเลยพุ่งเข้ามาทันที

 

 

เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น แต่คราวนี้ฉันจับความเร็วของมันได้ทัน ก่อนจะสวนหมัดกลับไปหนึ่งดอก

 

 

「!? 」

 

「เอาเรื่องวุ้ย แต่ร่างกายตอนนี้เบาชะมัด!!」

 

 

ย่อสะโพกให้ต่ำเล็กน้อย แล้วพุ่งไปข้างหน้า

 

ก่อนจะชกเข้าไปที่ท้องของมันอีกรอบ มันส่งสายตาประหลาดใจออกมาราวกับไม่เข้าใจว่าได้ยังไงกัน แต่ฉันก็ไม่ให้มันพักหายใจแล้วกระหน่ำต่อยเตะไปทั้งร่าง

 

 

「เรดคือความสมดุล บลูคือพลิกแพลง เยลโล่คือพลังและความเร็ว」

 

 

แต่ฟอร์มนี้ไม่น่าจะเหมาะกับการใช้ในที่ที่มีคน

 

เพราะหากสังเกตดีๆ ทุกครั้งที่ฉันเคลื่อนไหวจะเกิดประกายไฟฟ้ารอบๆ ซึ่งมันมีพลังทำลายในตัวมันอยู่ด้วย

 

 

 

「หากเป็นร่างนี้จะเคลื่อนไหวแค่ไหนก็สบาย!!」

 

『LIGHTNING CRUSHER!!』

 

 

ขวานยักษ์คมเดียวได้ปรากฏขึ้นบนมือขวา

 

จากนั้นฉันจึงจับมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วเคลื่อนตัวโดยใช้ความเร็วสูงสุดอีกที

 

 

 

「ย้ากกกก!!」

 

「ฮว้าาาา!!」

 

 

เราทั้งสองเคลื่อนไหวพร้อมกันสลับกันรุกรับ

 

แต่ด้วยฟอร์มใหม่นี้จึงทำให้ทั้งพลังโจมตีแล้วความเร็วของฉันสูงกว่าอีกฝ่าย สุดท้ายขวานของฉันก็ได้กระแทกเข้ากับร่างของมันจังๆ

 

 

 

「อ้าาาา!? 」

 

「ยังไม่หมดเฟ้ย!!」

 

 

ฉันเร่งความเร็วต่อและใช้ขวานเพื่อตัดกำลังมันไปเรื่อยๆ

 

สุดท้ายพอเห็นว่ามันเริ่มหมดสภาพแล้ว ฉันก็ทิ้งขวานแล้วเตรียมใช้ท่าพิเศษ

 

 

 

「แล้วแกจะต้องร่ำไห้……!!」

 

『DEADLY!! AXE YELLOW!!』

 

 

ทันทีที่มันถูกเปิดการใช้งาน กระแสไฟฟ้าทั้งร่างของฉันก็ไปอัดแน่นอยู่ตรงขาขวา

 

ฉันพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ก่อนจะเตะไปยังลำตัวของมัน

 

 

 

「อุก!? 」

 

 

แรงเตะนั้นทำให้มันกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

จากนั้นฉันก็รวมพลังไว้ตรงเท้าเพื่อกระโดดขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นก็เตะมันลงพื้น แล้วสลับเตะเสยขึ้นไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว

 

 

「「「โอ้ววววว!!」」」

 

 

 

『LIGHTNING!! FULL CRASH!!』

 

 

ฉันพุ่งเตะใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่อง

 

จนเกิดเป็นภาพลวงตาของร่างฉันสิบกว่าร่างกำลังพุ่งเข้าเตะร่างของมนุษย์แมวทั้งจากบนล่างซ้ายขวาพร้อมๆ กัน

 

 

「……เอาล่ะแค่นี้ก็……เอ๋? 」

 

 

ไม่เกิดการระเบิดขึ้น?

 

พอฉันหันกลับไปก็พบกับความแปลกประหลาดบนร่างของมัน ร่างของมันค่อยๆ ปล่อยความร้อนออกมา

 

จากนั้นร่างของมันก็ค่อยๆ บวมขึ้น จนทำให้เข็มขัดที่รัดอกมันไว้แตกออก

 

 

 

「เชี่ยอะไรวะนั่น!? 」

 

「กุ โฮกกกกกกก!!!」

 

「ชิบ!!」

 

 

เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น มนุษย์แมวถูกแสงขนาดใหญ่ห่อหุ้มเอาไว้

 

ลมร้อนได้พวยพุ่งออกมา ก่อนที่มันจะขยายร่างจนใหญ่ยักษ์

 

 

 

 

「โฮกกกกก……!」

 

 

 

「ทำไมมันขยายร่างได้ฟะ……」

 

 

ร่างของมันใหญ่ขึ้นจนเท่ากับรถบัสแบบใหญ่พิเศษ

 

ฉันละอดตกใจไม่ได้ที่จากลูกแมวกลายเป็นสิงโตยักษ์ไปซะแล้ว

 

 

「โฮกกกกก!!」

 

 

 

「เห้ย เดี๋ยวสิวะ นั่นแกจะไปไหน ไอ้เวรนี่!!」

 

『CHANGE SAVE FORM!!!』

 

 

มันวิ่งตรงไปทางตัวเมืองโดยไม่สนใจเสียงฉันเลย

 

หากเป็นร่างนี้ ความเสียหายที่มันก่อได้คงสูงกว่าเดิมหลายเท่า

 

หลังกลับมาเป็นร่างปกติ ฉันก็เรียกLupus Strikerมาแล้วขับตามมันไปทันที โดยคิดว่าจะเอาชนะมันยังไง

 

————-

Note 1 : ไรเดอร์ไม่มีหน้าที่จำกัดสัตว์ประหลาดตัวเบิ้ม งานของเซนไตต้องมาละแหละ

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท