Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru – ตอนที่ 51

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

ฮ่าาา เหนื่อยจัง…

 

หลังจากแข่งกับห้องของโทโจอินซังเสร็จ ผมก็มานั่งพักหายใจนิดหน่อย

อยู่ๆ ผมก็ได้เป็นพิชเชอร์โดยไม่มีการเตรียมตัวเลย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฟอร์มผมก็ยังดีอยู่พอสมควร

 

มีเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมทำได้ดี

 

ตอนนี้ผมกำลังคลายกล้ามเนื้อหลังแข่งด้วยการเล่นแคทช์บอลเบาๆ กับยูอิจิอยู่

 

วันนี้ผมขว้างลูกเต็มแรงโดยไม่ค่อยได้ซ้อมมากนัก ซึ่งหากไม่ดูแลให้ดีทั้งไหล่และข้อศอกของผมคงพังแน่ๆ

 

มันอาจจะไม่เป็นไร แต่ระวังตัวเอาไว้คงดีกว่า

 

หลังจากเล่นแคทช์บอลเบาๆ กับยูอิจิเสร็จ ผมก็เดินไปหาที่ที่เพื่อนในห้องรวมตัวกันอยู่

 

เพราะทีมเบสบอลของผู้ชายชนะ เพื่อนๆ ทุกคนจึงคุยกันด้วยความตื่นเต้นอยู่มุมหนึ่งของสนาม

 

ตอนที่ยูอิจิกับผมมาถึงก็มีผู้หญิงหลายคนสังเกตเห็นเราและเดินเข้ามาหา

 

“ยูอิจิคุง! โฮมรันเมื่อกี้สุดยอดมากเลย!”

“สุดยอดเลยที่สามารถตีลูกโฮมรันจากเอซของชมรมเบสบอลได้!”

“โอ้ ขอบใจนะ!”

 

ตามที่คาดไว้ ยูอิจิเป็นที่นิยมมากในหมู่เด็กผู้หญิงในห้องเรา ดังนั้นเขาจึงถูกรายล้อมไปด้วยพวกเธออย่างรวดเร็ว

 

เมื่อยูอิจิยิ้มอย่างสดใส แก้มของสาวๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

 

โอ้ เป็นพระเอกหล่อๆ นี่ดีจริงๆ แหะ ถึงแม้ว่าโฮมรันเมื่อกี้จะสุดยอดจริงๆ ก็เถอะ

 

“ขอโทษนะ ขอทางหน่อยได้ไหม?”

“อ๊ะ ทะ-โทโจอินซัง… เชิญค่ะ”

 

โทโจอินซังเดินเข้ามาและไล่เด็กสาวในชั้นเรียนออกไปด้วยรอยยิ้ม

สาวๆ ในห้องคงไม่อยากมีปัญหากับโทโจอินซังแน่ๆ

 

ก็ไม่แปลกที่จะต้องใช้ความกล้าหาญในการยืนต่อหน้าเธอทั้งในด้านรูปลักษณ์และอำนาจ

 

“เล่นได้ดีมากเลยนะยูอิจิ”

“อ่า ขอบใจนะ คาโอริ”

 

พอโทโจอินซังเข้ามาใกล้ยูอิจิ สาวๆ ในห้องที่ล้อมรอบยูอิจิอยู่ก็หายไปเกือบหมด เหลือแค่ฟุจิเซะ ชิโฮะ เท่านั้น

 

“ชิเงโมโตะคุงเหนื่อยไหม นี่ผ้าเย็นจ่ะ”

“โอ้ ขอบใจนะฟุจิเซะ ฮ่าาา รู้สึกดีจัง”

“ฟุจิเซะซัง ผ้านั่นของเธอเหรอ?”

“ก็ใช่อยู่หรอกค่ะ…”

 

ฟุจิเซะทำตัวเหมือนผู้จัดการที่เอาผ้าเย็นมาให้ยูอิจิเองเลย ถ้ามีผู้จัดการน่ารักๆ แบบนี้คงทำให้มีกำลังใจมากมาย

 

“ผ้านั้น ฉันขอซื้อต่อได้ไหม?”

“เอ๊ะ?”

“ผ้าที่ซับเหงื่อของยูอิจิ…มีค่าอย่างมาก เธอไม่เข้าใจเหรอ?”

“ไม่ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

 

แม้แต่ยูอิจิก็ต้องแย้งคำพูดของโทโจอินซัง

 

แน่นอน ผมคิดว่าคงไม่มีใครเข้าใจนอกจากโทโจอินซังหรอก

 

“มีอะไรหรือเปล่ายูอิจิ? เหงื่อของนายมีค่ามากกว่าเพชรอีกนะสำหรับฉัน?”

“ไม่ ไม่ ไม่ เพชรมันมีค่ามากกว่าแน่ๆ”

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แน่นอนว่าถ้ามีโอกาส ฉันก็อยากจะลองเลี-…”

“เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้เธอจะพูดเลียใช่ไหม? เหงื่อฉันอะนะ? การกินเข้าไปอาจจะดีกว่าการเลีย แต่มันก็ยังแย่อยู่ดี”

“ไม่เป็นไร ฉันจะกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะงั้นฉันไม่คิดว่าจะมีอาการเสพติดหรอก”

“พูดอะไรของเธอหน่ะ นี่เธอคิดว่าเหงื่อของฉันเป็นยาเสพติดหรือไง?”

 

อย่างที่คิด โทโจอินซัง… รสนิยมทางเพศของเธอนี่ค่อนข้างแปลกหรือจะพูดว่าค่อนข้างอันตรายดีนะ…

 

“อ๊ะ ฮิซามูระคุง มีอะไรอยากจะพูดกับฉันรึเปล่าจ๊ะ?”

“มะ-ไม่มีอะไรครับ”

 

ต้องระวังไว้ว่าความคิดของผมอาจถูกอ่านได้ โดยเฉพาะเวลาผมคิดอะไรที่มันไม่สุภาพ

 

“แล้วฟุจิเซะซังหล่ะคิดว่ายังไง? ฉันจ่ายได้ถึง 100 ร้านเยนเลยนะ”

“100 ล้าน…?!”

 

ผมอดไม่ได้ต้องพูดออกมา มันเยอะไปหรือเปล่า?

 

แค่ผ้าที่ซับเหงื่อยูอิจิ มันมีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ…

 

ถ้าผมคิดว่ามันเป็นผ้าที่ซับเหงื่อของเซย์จังหล่ะก็… 

หยุดคิดดีกว่า 

 

ถ้าคิดต่อผมอาจจะมีปัญหาเหมือนโทโจอินซังก็ได้

 

“ฟุฟุ ขอโทษนะ โทโจอินซัง นี่เป็นผ้าที่ฉันชอบมากเลยขายให้ไม่ได้หรอกจ่ะ”

 

ฟุจิเซะยิ้มแล้วปฏิเสธข้อเสนอเงิน 100 ล้านเยนของโทโจอินซังแบบไม่ลังเลเลย

 

“เอ๊ะ? ฟุจิเซะ นี่ผ้าผืนโปรดของเธอเหรอ? ให้ฉันใช้ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“อืม ไม่เป็นไรจ่ะ ชิเงโมโตะคุงเช็ดเหงื่อเสร็จหรือยังจ๊ะ?”

“อ่าา มันรู้สึกดีมากเลยแหละ”

“งั้นก็ดีแล้วจ่ะ”

 

ฟุจิเซะพูดแล้วรับผ้าจากยูอิจิ

 

“ถ้าไม่ว่าอะไร ให้ฉันเอาไปซักที่บ้านแล้วมาคืนก็ได้นะ…”

“ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ เดี๋ยวฉันซักเอง ฉันไม่ทำเหมือนโทโจอินซังแน่นอน ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ”

“อ่ะ อืม ฉันไม่ได้สงสัยอะไรหรอก”

 

ใช่แล้ว ฟูจิเสะไม่ได้ถูกนำเสนอแบบนั้นในงานต้นฉบับ ดังนั้นผมไม่คิดว่าเธอจะมีความหลงใหลแปลกๆ ที่เป็นอันตรายหรอกมั้ง…

 

โทโจอินซังกับฟุจิเซะยังคงเถียงกันเรื่องยูอิจิต่อ แต่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วเลยรีบหนีออกมา

 

ผมรู้สึกเหมือนยูอิจิมองหาแล้วพูดว่า “ช่วยฉันด้วย!” อยู่ แต่บางทีผมอาจจะแค่คิดไปเองแหละมั้ง

 

ว่าแต่เซย์จังอยู่ไหนกันนะ? หลังแข่งเสร็จผมยังไม่เห็นเซย์จังเลย

 

พอผมลองมองไปรอบๆ หาเซย์จัง ก็เจอว่าเธออยู่ไม่ไกลจากที่โทโจอินซังกับฟุจิเซะกำลังเถียงกันอยู่

 

ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ใกล้กว่าที่ิคิด ผมจึงเดินไปหาเซย์จัง 

เซย์จังที่เห็นผมเดินเข้ามาหาก็ยิ้มบางๆ ให้

 

น่ารัก อยากเป็นแฟนกับเธอจังนะ… อ๊ะ เป็นแฟนกันอยู่แล้วนี่นา

 

และในขณะที่ผมคิดเรื่องนี้และกำลังจะเรียกหาเซย์จังนั้นเอง

 

“ขอบคุณที่พยายามอย่างหนักในการแข่งขันนะฮิซามูระคุง!”

“ตอนที่เป็นพิชเชอร์นั่นสุดยอดมากเลย! ขว้างลูกได้เร็วมาก! เคยเล่นเบสบอลมาก่อนเหรอ?”

 

มีผู้หญิงสองคนเข้ามาขวางระหว่างผมกับเซย์จังและเริ่มชวนผมคุย

 

“เอ๊ะ เอ่อ ขอบคุณนะ พอดีเคยเล่นตอนอยู่ชั้นประถมหน่ะ”

 

ผมรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆ พวกเธอก็เข้ามาชวนผมคุย แต่ผมก็ไม่สามารถเมินพวกเธอได้ เลยทำได้แค่ตอบกลับไป

 

คือว่า…ผู้หญิง 2 คนนี้ใครฟะ? 

ผมจำได้แค่ว่าเราเรียนห้องเดียวกัน แต่จำชื่อพวกเธอไม่ได้เลย…ต้องขอโทษด้วยนะ

 

“งั้นเหรอ… เธอเล่นกีฬาเก่งมากเลย!”

“ใช่ เท่มากเลย!”

“อ่า ฮะฮะ ขอบคุณ”

 

การถูกชมก็ดีใจอยู่หรอกนะ แต่รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่

 

ถึงจะบอกว่าเล่นกีฬาเก่ง…แต่ผมก็แค่เคยเล่นเบสบอลตอนอยู่ประถมเอง แค่มีประสบการณ์มากกว่าคนที่ไม่เคยเล่นก็เท่านั้นแหละ

 

เมื่อเทียบกับยูอิจิที่เป็นมือใหม่แต่ยังตีโฮมรันได้ง่ายๆ ผมยังห่างไกล

 

แล้วก็เซย์จัง…จริงด้วย ผมกำลังจะเข้าไปทักเซย์จังนี่หว่า

ผมคิดอย่างนั้นในขณะที่คุยกับผู้หญิงทั้ง 2 คนและมองไปที่เซย์จัง

 

“อะ-อ๊ะ!”

“หือ? เป็นอะไรเหรอฮิซามูระคุง?”

“ปะ-เปล่า ไม่มีอะไร”

 

ผมเกือบจะส่งเสียงร้องออกมาแล้วเมื่อกี้จากการที่เห็นเซย์จังยืนอยู่ข้างหลังผู้หญิง 2 คน ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่สังเกตุเห็นเซย์จังเลย… แต่เซย์จังก็จ้องมองพวกเธอด้วยสายตาที่ค่อนข้างน่ากลัวอยู่

 

บรรยากาศให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนที่โทโจอินซังไล่สาวๆ รอบๆ ยูอิจิออกไปเลย

 

เอ๊ะหรือว่าเซย์จัง…หึงเหรอ?

โกหกหน่า…เรื่องจริงเหรอ?!

 

ผมรู้ว่ามันไม่ดีที่จะพูดแบบนี้ แต่… ผมมีความสุขจริงๆ

 

ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้และมองไปที่เซย์จัง เซย์จังก็สังเกตเห็นการจ้องมองของผมได้เหมือนกัน 

 

ในตอนนั้นเองที่อยู่ๆ เซย์จังก็หน้าแดงและหันหน้าหนีผมอย่างงุ่มง่ามก่อนจะวิ่งหนีไป    

 

ผมไม่รู้ว่าเธอหึงหรือเปล่า แต่เธอคงอายที่ผมเห็นเธอในสภาพนั้นเลยวิ่งหนีไป

“ขอโทษทีนะ พอดีฉันพึ่งนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ต้องไปทำหน่ะ”

“เอ๊ะ เอ่อ จ่ะ”

หลังจากขอบคุณผู้หญิงที่คุยกับตัวเองแล้ว ผมก็เดินตามเซย์จังไป

 

เซย์จังไม่ได้วิ่งไปไหนไกล เธออยู่ที่ปลายสุดของสนามโรงเรียน ซึ่งมีอาคารเรียนบังแสงอาทิตย์อยู่

 

อากาศเย็นสบายเพราะไม่มีแสงแดดทำให้ตรงนั้นเหมาะจะเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนหลังออกกำลังกาย

เซย์จังกำลังเอนหลังพิงกำแพงอยู่ตรงนั้น

 

เธออาจจะแค่พิงกำแพง แต่ไม่ว่าผมจะมองยังไงก็อดไม่ได้ที่จะมองว่ามันช่างเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

 

“ขอบคุณที่เหนื่อยนะเซย์จัง”

“ฮิซามูระ…ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แต่ก็ขอบคุณที่เหนื่อยเช่นกันนะ”

 

ตอนที่ผมคุยกับเธอ เซย์จังก็เอาแต่มองต่ำโดยไม่สบตาเลย

 

มีนักเรียนหลายคนอยู่รอบๆ พวกเรา แต่พวกเขาทั้งหมดกำลังคุยกันอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครมองมาที่ผมและเซย์จัง

“เธอไม่รู้สิ่งที่ตัวเองทำไปเหรอ? เป็นเพราะฉันได้เสียงเชียร์จากเซย์จัง เพราะงั้นฉันเลยพยายามได้ขนาดนี้ ขนาดฉันเองยังแปลกใจเลย”

“หะ-เหรอ แน่นอนฉันเห็นแล้ว ฉันหมายถึึง…นายเท่มากเลย”

“หือ!? ขะ-ขอบใจนะ…”

ผมไม่ได้คิดเลยว่าเซย์จังจะชมผมตรงๆ แบบนี้ ดังนั้นผมเลยไม่รู้จะพูดอะไรเพื่อแสดงความขอบคุณ

 

“นายเล่าให้ฉันฟังว่าเคยเล่นเบสบอลมาก่อน แต่ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเล่นเก่งขนาดนั้น”

“ฉันก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่เพราะก่อนนั้นได้รับกำลังใจจากเซย์จัง อะดรีนาลีนของฉันเลยสูบฉีดหน่ะ”

“พะ-พวกผู้หญิงในห้อง…เอาแต่ชมว่านายเท่กัน ดะ-ดีจังเลยเนอะ?”

“หือ?”

 

ทำไมจู่ๆ เซย์จังถึงเริ่มพูดถึงผู้หญิงในห้องเรากัน… อ่า บางทีเธอคงกำลังพูดถึงผู้หญิง 2 คนที่จู่ๆ ก็มาจีบผมก่อนหน้านี้มั้ง?

 

“ฉันก็ดีใจที่พวกผู้หญิงในห้องชื่นชมอยู่หรอก แต่ฉันก็ไม่สนใจขนาดนั้น สิ่งเดียวที่ฉันสนใจก็คือการประเมินตัวฉันของเซย์จังดีขึ้นหรือไม่ต่างหาก”

“นะ-แน่นอนว่าต้องดีขึ้นอยู่แล้วสิ…นายพยายามขนาดนี้เพื่อฉัน และมันก็คงจะดีขึ้นต่อไปถึงแม้ว่านายจะทำผลงานไม่ได้ก็ตามด้วย”

“…อะ-โอ้ ขอบคุณนะ”

ผมมีความสุขเหลือเกิน และเซย์ก็จะน่ารักเกินไปแล้ว…!

ผมรู้สึกเหมือนโดนสวนกลับด้วยการโจมตีก่อนหน้านี้เลย

 

ไม่สิ บางทีเซย์จังก็คงเขินเหมือนกัน เพราะผมรู้สึกเหมือนเรากำลังแลกหมัดกันอยู่เลย

 

ผมไม่สามารถมองหน้าเซย์จังได้เลยและทำได้เพียงมองไปทางอื่นและคอยหันมองกลับมามองเธอเป็นครั้งคราว

จากนั้น เซย์จังก็ดูเหมือนจะมองมาที่ผมพร้อมๆ กัน และเราก็สบตากัน

หลังจากสับสนอยู่ครู่หนึ่ง พวกเราก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ฮ่าฮ่า ตลกจังเลยเนอะ”

“ฮิฮินั่นสิ มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลย”

แม้แต่บทสนทนาสบายๆ แบบนี้ บทสนทนาที่ไม่มีความหมายอะไรก็ยังสนุกเมื่อมีเซย์จังอยู่ใกล้ๆ

บรรยากาศค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ผ่อนคลายมากขึ้น

 

“ไม่ใช่ว่าใกล้ถึงเวลาแข่งบาสเก็ตบอลหญิงแล้วเหรอ?”

“อ่านั่นสินะ ฉันว่าเราไปยิมกันเลยดีกว่า”

นอกจากนี้การแข่งนัดต่อไปของเซย์จังจะเป็นการพบกับห้องของโทโจซังด้วย

จนถึงตอนนี้ห้องของเราได้รับชัยชนะอย่างง่ายดายต้องขอบคุณเซย์จัง แต่มันคงจะไม่เป็นเช่นนั้นต่อเมื่อต้องต่อสู้กับห้องของโทโจอินซัง

 

“นัดต่อไปเจอกับโทโจอินซังสินะ?”

“อืม เธอน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในการแข่งขันประเภทบอลครั้งนี้แล้วแหละ”

“โชคดีนะเซย์จัง”

เซย์จังฝึกซ้อมเมื่อวานและวันก่อนเพื่อที่จะเอาชนะโทโจอินซัง

 

พวกเราซ้อมกันแต่การซู๊ต 3 แต้มตลอดเวลา ผมไม่รู้ว่าเธอชู๊ตลงไปกี่ลูกเพราะไม่ได้นับ แต่รู้สึกเหมือนจะประมาณ 100 ลูกติดต่อกันละมั้ง

“ในเมื่อฮิซามูระช่วยฉันไว้มาก ฉันจะต้องชนะเพื่อฮิซามูระอย่างแน่นอน”

“อืม…!”

มุมปากของผมขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกบอกแบบนั้น

มันไม่ใช่การโจมตีสวนกลับหรืออะไรก็ตาม แต่เป็นการต่อยตรงมาที่ใบหน้าซึ่งทำให้ผมไม่ทันระวังตัว

 

“จะเท่เกินไปแล้วนะเซย์จัง…!”

 

ผมอดไม่ได้ที่จะกระซิบขณะเอามือทั้ง 2 ข้างปิดหน้า

 

“อ๊ะ!? อะ-อยู่ๆ อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ!”

 

เซย์จังดูเขินอายขณะที่ตอบกลับผม

 

ระหว่างที่เราพูดคุยกัน เซย์จังกับผมก็มุ่งหน้าไปที่โรงยิม

 

 

 

-Facebook Fanpage-

Translarator

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท