บทที่ 854 ที่คุณชายมิเคยปรากฏตัว ถือว่าแสดงท่าทีของคุณชายแล้ว!
ตาเฒ่าขี้เมายกกาสุราขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
สู้กันถึงตอนนี้ เขายังมิได้ทุ่มกำลังทั้งหมดที่มีจริง ต้นหลิวและก้อนหินยังมิอาจกำราบเขาได้
เขาเรียกน้ำเต้าขนาดเล็กกว่าฝ่ามือออกมาด้วยความเคร่งเครียดระมัดระวัง ก่อนจะยกขึ้นมาจ่อปาก รินของเหลวแวววาวเข้าปากหนึ่งหยด ก่อนจะกลืนลงไป
ชั่วพริบตานั้น ทั้งตัวเขาเปล่งประกายเจิดจ้า พลังปราณพุ่งพรวด กำลังรบยกระดับขึ้นไปไม่น้อยอย่างเห็นได้ชัด!
“ฮ่า ๆ สาแก่ใจนัก!”
เขาหัวเราะร่วนราวกับเมามาย คนทั้งคนฮึกเหิมเหลือแสน เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง
น้ำเต้าเล็กนั่นเป็นน้ำเต้าสุราเช่นกัน ของเหลวในนั้นก็คือสุรา
แน่นอนว่า สุราในนั้นต่างจากสุราในน้ำเต้าใหญ่ที่เขาพกอยู่ตลอด ห่างชั้นกันมากทีเดียว มิอาจนำมาเทียบกันได้เลย
นี่คือเหล้าวิเศษอย่างแท้จริง ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ เป็นสุราที่เขาหมักด้วยโอสถวิเศษต่าง ๆ ของโลกหลังฉาก ปกติเขามิกล้าดื่มเลย มีเพียงยามอยากจริง ๆ จึงจะนำออกมาดื่มสักหยด
และร่างแยกของเขาร่างนี้ก็นำติดตัวมาด้วยแค่สามหยดเท่านั้น!
เขาอดทนไม่ดื่มมาตลอด บัดนี้ดื่มไปแล้วหนึ่งหยดเพื่อกำราบต้นหลิวและก้อนหิน!
‘อีกสองหยดเก็บไว้ดื่มยามต่อกรกับหลี่จิ่วเต้า มีโอกาสสูงว่าเขาจะจัดการได้ยากยิ่ง!’
เขาคิดในใจ
ทว่าเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขาคือ ต้นหลิวและก้อนหินมิได้มีท่าทีเกรงกลัวสักนิด ซ้ำเขายังได้ยินเสียงหัวเราะของต้นหลิวและก้อนหินอีกด้วย
เกิดอันใดขึ้น?
ต้นหลิวและก้อนหินมีไม้ตายก้นหีบอันใดยังมิได้ใช้อีกหรือ
ชั่วพริบตานั้น เขารอบคอบขึ้นมาก
“ใช้ได้นี่ ก้อนหิน เจ้าลุยเลย ให้เขาได้เห็นฝีมือของเจ้าหน่อย”
ต้นหลิวเอ่ยกลั้วหัวเราะ “เขาบังอาจเอ่ยว่าพวกเราสิ้นฝีมือแล้ว ใช่เช่นนั้นจริงหรือ”
“น่าขันนัก ไฉนเลยจะสิ้นฝีมือได้”
ก้อนหินหัวเราะร่วน “เส้นผมยาวปัญญาสั้น ประโยคนี้ใช้กับบุรุษได้ด้วย! ท่านดูสิ ผมของเขายาวเหยียด ปัญญานั้นสั้นยิ่ง”
มันก้าวออกไป ประกายน่าสะพรึงปะทุ เจิดจ้าแยงตาเสียยิ่งกว่าตาเฒ่าขี้เมา!
นอกจากนี้ บนตัวมันยังมีคลื่นริ้วมากมายปรากฏ จรัสงดงาม ไหลเวียนไปตามจุดต่าง ๆ
นี่คือลวดลายที่คุณชายวาดบนตัวมันเมื่อช่วงก่อนยามตกปลา ครานั้น มันมิรู้ว่าเหตุใดคุณชายถึงต้องวาดลวดลายบนตัวมัน
บัดนี้ มันเข้าใจแล้ว
นี่คือพลังที่คุณชายมอบให้มันไว้ต่อกรกับตาเฒ่าขี้เมา!
แท้จริงแล้วมันคิดผิด ครานั้นหลี่จิ่วเต้าเพียงต้องการให้ก้อนหินดูดีขึ้นเท่านั้น
ทว่าพลังที่ก้อนหินได้จากภาพวาดคือของจริง!
พลังของก้อนหินยกระดับขึ้นอย่างบ้าคลั่ง รุนแรงกว่าก่อนตั้งไม่รู้กี่เท่า ตาเฒ่าขี้เมาเห็นแล้วต้องตาค้าง มองน้ำเต้าน้อยในมืออย่างอดมิได้ นึกในใจว่าหรือเขาต้องดื่มสุราสองหยดที่เหลือ?
เสียงดังตู้ม ก้อนหินบุกเข้ามา กำปั้นมหึมายิ่งกว่าดวงดารา ตาเฒ่าขี้เมาหวดกำปั้นปะทะ!
พรวด!
ตาเฒ่าขี้เมากระอักเลือดพร้อมกระเด็นออกไป สู้มิได้เลย กายแหลกไปครึ่งร่าง!
ก้อนหินมาดมั่นเด็ดเดี่ยว ไม่ยอมให้โอกาสตาเฒ่าขี้เมาตั้งตัว มันบุกเข้ามาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง คลื่นริ้วไหลเวียนอยู่บนหมัดทั้งสองข้าง เปี่ยมไปด้วยความไร้เทียมทาน!
ตาเฒ่าขี้เมาอเนจอนาถเหลือคณา เป็นฝ่ายถูกอัดอย่างเดียวโดยตอบโต้มิได้เลย!
เขาไม่มีแก่จิตแก่ใจสนเรื่องอื่น ดื่มสุราสองหยดในน้ำเต้าน้อยลงไป พลันนั้นแสงสว่างบนตัวทวีคูณ พลังพุ่งพรวด!
“ข้าจะอัดเจ้าให้แหลกลาญ!”
ตาเฒ่าขี้เมาเคืองแค้นเป็นที่สุด เคยอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้ที่ไหน เขาต้องเล่นงานก้อนหินให้ได้!
ทว่าดื่มสุราสองหยดที่เหลือลงไปแล้วก็มิอาจเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเขา
ชายชราแผดเสียงกึกก้องปานนั้น องอาจปานนั้น สุดท้ายถึงคราวปรี่ไปหาก้อนหินกลับถูกก้อนหินถล่มอย่างหนักหน่วง!
เฉกเช่นที่ประโยคนั้นว่าไว้ เอ่ยวาจาผยองที่สุด โดนเล่นงานจนย่อยยับที่สุด!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
ตาเฒ่าขี้เมาแทบเชื่อไม่ลงเลย นั่นคือลวดลายคลื่นริ้วอันใด น่ากลัวเหลือเกิน ถึงกับมองพลังแกร่งกล้าถึงเพียงนั้นให้ก้อนหินได้!
รากฐานของโลกหน้าฉากนี่น่าประหวั่นพรั่นพรึงเกินหยั่งจริง ๆ!
“กระบี่จงมา!”
เขาตะโกน ห้วงมิติระเบิด หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏ คลื่นพลังปราณแสนสยดสยองแผ่ซ่านออกจากภายใน ก้อนหินยังอดใจกระตุกมิได้ ต้องรีบเอี๊ยวตัวหลบ
เสียงดังตู้ม กระบี่คมสีเขียวเล่มหนึ่งพุ่งออกจากหลุมดำ แสงกระบี่ส่องสะท้อนไปทั่วทั้งนภา ราวกับทะลุผ่านปริภูมิเวลานานัปการเข้ามา พร้อมด้วยพลังล้นฟ้า!
ร่างต้นของเขาที่พิทักษ์อยู่ในสมรภูมิมืดมิดส่งกระบี่คมสีเขียวเล่มนี้มาให้
เมื่อมีกระบี่คมสีเขียวเล่มนี้ในมือ รัศมีของเขาเปลี่ยนไปมหันต์ เพียงตวัดกระบี่คมสีเขียวเบา ๆ ก็มีแสงกระบี่นับล้านพวยพุ่ง บดขยี้ดวงดาราที่ดารดาษอยู่บนท้องฟ้า!
หากมียอดฝีมือหลังฉากอยู่ที่นี่ หลังได้เห็นกระบี่คมสีเขียวเล่มนี้ย่อมต้องตกตะลึง
นี่คือกระบี่มรกต อาวุธของจ้าวชิง หนึ่งในสิบสุดยอดศาสตราแห่งโลกหลังฉาก สยดสยองเป็นที่สุด!
จ้าวชิงคือยอดฝีมือผู้ทรงพลังที่สุดเฉกเช่นเดียวกับพระอมิตาภะพุทธเจ้า ประมุขแห่งสรวงสวรรค์ และยอดฝีมือไร้เทียมทานตนอื่น ๆ ในโลกหลังฉาก ตัวตนที่แท้จริงของตาเฒ่าขี้เมาคือจ้าวชิงอย่างนั้นหรือ
มิน่า ตาเฒ่าขี้เมาถึงทำตามอำเภอใจในโลกหลังฉากได้โดยมิมีความกังวล ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งมีชีวิตตนใดทั้งสิ้น
เพียงแต่ความแตกต่างมิมากไปหน่อยหรือ!
จ้าวชิงเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน มิเคยเปรอะเปื้อนฝุ่นผงแม้แต่น้อย ไม่ว่าปรากฏตัวเมื่อใด ล้วนแต่งกายเรียบร้อยอยู่เสมอ
ทว่าตาเฒ่าขี้เมากลับซกมกดูมิได้ เนื้อตัวโสมม ไม่รู้จักรักษาภาพพจน์ของตนเลยสักนิด เหมือนเป็นคนละขั้วกับจ้าวชิง
ต่อให้สิ่งมีชีวิตหลังฉากคิดจนสมองระเบิดก็คิดไม่ออกว่าตาเฒ่าขี้เมาก็คือจ้าวชิง!
“เมื่อครู่อัดข้าได้สะใจมากเลยใช่หรือไม่ ตอนนี้ข้าจะสับเจ้าให้เละเป็นผุยผง!”
ตาเฒ่าขี้เมาตวัดกระบี่มรกตบุกไปหาก้อนหิน เขาเดือดดาลมากที่เมื่อครู่ถูกก้อนหินทำร้ายถึงขั้นนั้น!
“เหตุใดข้าถึงคุ้นหูกับประโยคนี้ยิ่งนัก”
ก้อนหินไม่นึกเกรงกลัว ซ้ำยังยอกย้อนกลับ “ข้าจะเล่นงานเจ้าต่อ!”
ลวดลายบนตัวมันระเบิดพลังเต็มที่ ไม่มีกักเก็บอีกต่อไป มันสัมผัสได้ว่ากระบี่มรกตในมือตาเฒ่าขี้เมาทรงพลังเพียงใด
เสียงดังฟึ่บ กระบี่มรกตฟาดฟันลงมา พลังมหาศาลซัดสาด ตัดแยกทุกสิ่งออกจากกัน!
หากเป็นพวกข่งอวิ๋น ยามกระบี่นี้ฟันลงมาคงถูกฆ่าได้ง่าย ๆ
กระทั่งก้อนหินยังมิกล้าต้านรับ หลบหลีกกระบี่นี้อย่างรวดเร็ว กระบี่มรกตนี้ไม่ธรรมดา สมเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดศาสตราแห่งโลกหลังฉาก!
สิ่งที่ร่างต้นตาเฒ่าขี้เมาส่งมานั้นมิใช่ภาพสะท้อนของกระบี่มรกต หากแต่เป็นกระบี่มรกตจริง ๆ พลังลึกล้ำเกินหยั่ง น่าพรั่นพรึงถึงขีดสุด!
แน่นอนว่า หากเทียบกับกระบี่ฉุนจวิน กระบี่มรกตยังด้อยกว่ามาก
กระบี่ฉุนจวินถือเป็นกระบี่ในตำนาน อย่าว่าแต่กระบี่มรกตเลย ต่อให้เป็นอันดับหนึ่งของสิบสุดยอดศาสตราแห่งโลกหลังฉากก็มิอาจทัดเทียม!
ครานั้นยามตาเฒ่าขี้เมาพบกระบี่ฉุนจวิน ร่างต้นของเขาก็คิดอยากรุดหน้ามาจากสมรภูมิมืดมิดเพื่อช่วงชิงกระบี่ฉุนจวิน ทว่าน่าเสียดาย สมรภูมิมืดมิดนั้นใช่ว่าออกมาได้ง่าย ๆ ศัตรูมีอยู่เต็มไปหมด!
ต่อให้ส่งเพียงกระบี่มรกตมา ก็นับว่าลำบากยิ่งนัก ร่างต้นของเขาเปลืองแรงไปมากกว่าจะสำเร็จ
และที่ร่างต้นของเขาส่งกระบี่มรกตมาย่อมมิใช่เพียงเพื่อต่อกรกับต้นหลิวและก้อนหินเท่านั้น
หากเพียงเพื่อต่อกรกับต้นหลิวและก้อนหิน มิควรค่าให้ร่างต้นของเขาเสียแรงตั้งมากมายเพื่อส่งกระบี่มรกตมา เหตุผลที่สำคัญคือหลี่จิ่วเต้า
เขาต้องการสนทนากับหลี่จิ่วเต้า ขอให้หลี่จิ่วเต้าเข้าร่วมสมรภูมิรบมืดมิด
บัดนี้ สมรภูมิมืดมิดน่าพรั่นพรึงและอันตรายขึ้นเรื่อย ๆ บรรดาผู้พิทักษ์อย่างพวกเขาใกล้ต้านมิไหวแล้ว
หากว่าหลี่จิ่วเต้ายอมเข้าร่วมสมรภูมิรบพร้อมด้วยรากฐานของโลกหน้าฉากและกระบี่ฉุนจวิน ย่อมต้องเป็นกำลังเสริมได้ยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ ต่อให้หลี่จิ่วเต้าไม่อยากไปยังสมรภูมิมืดมิด เขาก็ยังอยากสนทนากับหลี่จิ่วเต้าดูว่าพอจะให้เขายืมกระบี่ฉุนจวินได้หรือไม่
หากหลี่จิ่วเต้าไม่ยอมไปสมรภูมิมืดมิดแล้วยังไม่ยอมให้เขายืมกระบี่ฉุนจวินอีก เช่นนั้นเขาจะใช้ไม้แข็ง บังคับนำกระบี่ฉุนจวินไปด้วย!
ที่ส่งกระบี่มรกตมาก็เพื่อใช้จัดการหลี่จิ่วเต้า!
ตาเฒ่าขี้เมาตวัดกระบี่บุกเข้ามาด้วยท่าทีดุดัน หมายใจจะกำราบก้อนหินในคราเดียว
ทว่าเขาประเมินก้อนหินต่ำไป
ไม่สิ พูดให้ถูกคือเขาประเมินลวดลายที่หลี่จิ่วเต้าทิ้งไว้บนตัวก้อนหินต่ำไป!
ก้อนหินส่องแสงทั่วร่าง พลังลวดลายไหลเวียนไปทั่วกาย นี่คือพลังมิอาจหยั่ง ก้อนหินสำแดงมวยไทเก๊ก แผลงฤทธิ์เดชสูงสุดของลวดลายออกมา!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว สองหมัดของก้อนหินปะทะกับกระบี่มรกตไม่หยุด จนกระบี่มรกตสั่นสะท้านรุนแรง
หากมิใช่ว่ากระบี่มรกตสูงส่งพอ คงถูกกำปั้นทั้งสองของก้อนหินอัดจนแหลกลาญไปแล้ว!
ตาเฒ่าขี้เมาเบิกตากว้าง ลำพังลวดลายแค่นี้สยดสยองได้ถึงเพียงนี้จริงหรือ
เขารู้สึกว่า ก้อนหินผู้มีพลังลวดลายเสริมความแข็งแกร่งสามารถต่อสู้กับร่างต้นของเขาได้ด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่าหากร่างต้นของเขาได้ต่อสู้ด้วยกระบี่มรกต เขามั่นใจว่าก้อนหินสู้มิได้แน่นอน!
“หยุด ข้าไม่สู้ด้วยแล้ว!”
เขาควงกระบี่มรกตล่าถอยกับไป ไม่ต้องการต่อสู้แล้ว
ต่อสู้มิไหวแล้วจริง ๆ ขืนสู้กันต่อ เขาต้องถูกก้อนหินเล่นงานอย่างหนักหน่วงอีกครั้งเป็นแน่
“ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกเจ้า และไม่ต้องการเป็นปรปักษ์กับหลี่จิ่วเต้า ที่มานี่เพียงต้องการสนทนากับเขาเท่านั้น”
ชายชราปริปากเอ่ย “พลังมืดมิดจุติ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงรู้มาบ้าง การต่อสู้ที่นั่นได้เริ่มต้นขึ้นนานแล้ว ยามนี้ยังพอทานไหว ทว่าก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น พลังมืดมิดแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ข้าเพียงอยากหารือกับหลี่จิ่วเต้าดูว่าเขาพอจะไปเข้าร่วมการต่อสู้ที่สมรภูมิมืดมิดเป็นกำลังเสริมให้พวกเราได้หรือไม่”
“รอให้ข้าอัดเจ้าให้เละก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
ก้อนหินเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่อยากฟังวาจาของตาเฒ่าขี้เมา
“รอก่อนก้อนหิน”
ต้นหลิวหยุดก้อนหินไว้
ก้อนหินหันมองต้นหลิว แล้วสลายพลังทั้งหมดทันทีอย่างเชื่อฟัง
เห็นมันมีพลังลวดลายเช่นนี้ ก็ยังมิกล้าไม่เชื่อฟังต้นหลิว มันแข็งแกร่งขึ้น ต้นหลิวก็แข็งแกร่งขึ้น คุณชายเคยทิ้งบางอย่างไว้ให้ต้นหลิวเหมือนกัน ต้นหลิวยังมิได้ใช้พลังฝีมือที่แท้จริงเลย
หากต้นหลิวสำแดงทุกอย่าง มันก็มิใช่คู่มือของต้นหลิว
“เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ”
ต้นหลิวทอดสายตามองตาเฒ่าขี้เมาพลางเอ่ย “เจ้าคิดว่าคุณชายมีหรือจะไม่รับรู้สถานการณ์ของเราที่นี่”
ตาเฒ่าขี้เมามิได้เอ่ยวาจา
จริงสิ
หลี่จิ่วเต้ามีความแข็งแกร่งเบ็ดเสร็จอันน่าพรั่นพรึง ไฉนเลยจะไม่รู้เรื่องราวที่นี่
น่ากลัวว่าพริบตาที่มันปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ หลี่จิ่วเต้าก็สัมผัสได้แล้ว
“คุณชายมิเคยปรากฏตัว เท่านี้ก็สะท้อนถึงท่าทีของคุณชายแล้ว เจ้าไปเถิด หากคุณชายอยากพบเจ้า เจ้าต้องได้พบแน่”
ต้นหลิวเอ่ย
ตาเฒ่าขี้เมาถอนหายใจ เป็นเช่นนั้นจริง
หากหลี่จิ่วเต้าต้องการพบเขา คงปรากฏออกมานานแล้วเป็นแน่แท้ ทว่าอีกฝ่ายกลับมิเคยโผล่มา บ่งบอกว่าชายหนุ่มไม่ต้องการพบเขา
“พลังมืดมิดอันตรายมาก ข้ายังอยากพบหน้าเขาสักครา ได้สนทนากับเขาให้รู้เรื่อง”
ตาเฒ่าขี้เมาไม่อยากยอมแพ้ง่าย ๆ
อุตส่าห์ส่งกระบี่มรกตมาที่นี่ได้แล้ว เขาต้องกลับไปทั้งที่ล้มเหลวอย่างนั้นหรือ
เขาเจ็บใจนัก
“เจ้าวางใจได้ คุณชายไม่มีทางเพิกเฉยต่อพลังมืดมิด คุณชายย่อมมีแผนของตัวเอง”
ต้นหลิวกล่าว
คุณชายจิตใจเปี่ยมเมตตา แม้แต่ปุถุชนถูกเข่นฆ่ายังมิอาจมองข้าม ไฉนเลยจะไม่สนใจพลังมืดมิด
คิดแล้วเป็นไปมิได้!
นอกจากนี้ กระโปรงสีขาวแห่งความตายเคยมาเพื่อปลิดชีพคุณชาย คุณชายยิ่งไม่มีทางเพิกเฉยต่อพลังมืดมิด
ที่เขาไม่ได้ไปยังสมรภูมิมืดมิด ไม่ได้ปะทะซึ่งหน้ากับพลังมืดมิดเห็นได้ชัดว่ายังไม่ถึงเวลา คุณชายกำลังวางหมากบางอย่างอยู่
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือความเปลี่ยนแปลงของจักรวาลโกลาหลผืนนี้!
สสารระดับสูงพวยพุ่งออกมาไม่หยุดหย่อน กระทั่งเทวโลกยังแทบสู้ไม่ได้แล้ว คุณชายกำลังวางอุบายอย่างชัดเจน!
ตาเฒ่าขี้เมามิได้เอ่ยวาจา เขาเงียบไปครู่หนึ่ง
สุดท้ายเขาก็ไปจากที่นี่
…
ณ เมืองชิงซาน
ภายในลานเล็กของหลี่จิ่วเต้า
เขานอนพักไปหลายชั่วยามและตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่า
“เซียนกระบี่เอ๋ย ข้ามาแล้ว!”
เขาตื่นเต้นเหลือแสน เตรียมออกไปทดลองกระบี่เล่มนี้ ดูว่าปัญหาของกระบี่ฉุนจวินใหญ่หลวงหรือไม่
‘กระบี่วิเศษที่ได้มาอย่างยากลำบาก เอ่อ จะว่าไปก็มิได้ลำบากเท่าใด ง่ายดายสุด ๆ…’
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ
ขั้นตอนการได้มาซึ่งกระบี่ฉุนจวินของเขาเรียกได้ว่าสบายอย่างยิ่ง มิได้ลำบากอันใด
‘ช่างเถิด ไม่ว่ายากหรือง่าย ขอเพียงกระบี่วิเศษเล่มนี้ไม่ทำให้ข้าผิดหวังก็พอ!’
เขาคิดในใจอีกครั้ง
‘ขี่กิเลนไฟไปหาพื้นที่ปลอดคนเพื่อลองกระบี่หน่อยดีกว่า ประเดี๋ยวจะทำลายเมืองชิงซานและทำร้ายคนในเมืองเอา’
ชายหนุ่มเปิดประตูห้อง ตั้งใจจะศึกษากระบี่ฉุนจวินให้ดี