Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 632 การเลือกเพลงครั้งที่สาม

ตอนที่ 632 การเลือกเพลงครั้งที่สาม

วันรุ่งขึ้น

เมื่อหลินเยวียนเปิดคอมพิวเตอร์ดู ก็พบว่าตำนานหงอคงโด่งดังแล้ว!

หลังจากอ่านความคิดเห็นโดยละเอียด เขาถึงได้เข้าใจเหตุผล

นึกไม่ถึงว่าจะมีการโปรโมตที่มาด้วยตัวเอง

เห็นทีคงไม่จำเป็นต้องคิดหาวิธีมาโปรโมตตำนานหงอคงแล้ว

เมื่ออ่านความคิดเห็นอีกครั้ง

หลินเยวียนจึงผุดยิ้มออกมา

มีคอมเมนต์หนึ่งกล่าวว่า

‘อ่านตำนานหงอคงจบ จู่ๆ ก็รู้สึกคาดหวังกับซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศขึ้นมาเลย ถ้าออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน ก่อนหน้านี้ลังเลว่าจะดูซีรีส์บรรพกาลก่อนดีไหม แต่ฉันชอบซุนหงอคงมากกว่า’

นี่คือจุดประสงค์ของหลินเยวียนในการเขียนตำนานหงอคง

เขาต้องการแย่งชิงผู้ชมจากบรรพกาล!

และการถือกำเนิดขึ้นของตำนานหงอคง จะทำให้ความนิยมในตัวซุนหงอคงสูงขึ้นอย่างแน่นอน!

หลังจากอ่านตำนานหงอคงจบ

ใครบ้างไม่สงสารเจ้าวานรผู้โดดเดี่ยว

ทว่าขณะที่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศกำลังเป็นกระแสร้อนแรง แฟนคลับบรรพกาลกลับรู้สึกปวดใจ

คลังโดจินมีโดจินบรรพกาลนับไม่ถ้วน

ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีโดจินบรรพกาลเรื่องใดแตะถึงระดับเดียวกับตำนานหงอคง

เมื่อเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่อย่างบรรพกาล ดูเหมือนว่าเจ้าวานรจะยิ่งกล้าหาญและแข็งแกร่งขึ้น

และเนื่องจากการปรากฏขึ้นของนิยายเรื่องนี้

จึงเกิดกระแสการตีความบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศระหว่างกลุ่มแฟนคลับอีกครั้ง

ในครั้งนี้ การถกเถียงนั้นมุ่งเน้นไปยังมุมมองซึ่งบรรยายไว้ในตำนานหงอคงทั้งหมด

มีคนยอมรับมุมมองของนิยายเรื่องนี้

มีคนรู้สึกว่าการตีความในลักษณะนี้มืดมนเกินไป

แต่ไม่ว่าทุกคนจะยอมรับการตีความตำนานหงอคงหรือไม่ ก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนยอมรับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศน้อยลง

สิ่งอัศจรรย์มักมีอยู่เสมอ

ดังนั้นอี้อันซึ่งเป็นนักเขียนตัวเล็กๆ ซึ่งเมื่อวานยังไม่มีชื่อเสียง จึงมีชื่อเสียงขึ้นมาในวันนี้

จุดนี้เห็นได้จากความจริงที่ว่าบัญชีปู้ลั่วของอี้อันซึ่งหลินเยวียนลงทะเบียนไว้ มีผู้ติดตามหลายล้านคนขึ้นมาในเวลาไม่นาน

‘ติดตามแล้ว อาจารย์อี้อันคือคนที่เข้าใจบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!’

‘ผมชอบการตีความบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศของอาจารย์อี้อันมาก!’

‘โดจินบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไหนที่เหนือไปกว่าตำนานหงอคงอีกแล้ว’

‘ลองค้นดูแล้ว มีบัญชีผู้ลั่วจริงด้วย แอบติดตามผู้ยิ่งใหญ่สักหน่อย’

‘…’

บนพื้นที่แสดงความคิดเห็นล้วนเต็มไปด้วยข้อความจากแฟนๆ ซึ่งเพิ่งติดตามอี้อัน

ในแง่ของสเกล แน่นอนว่าไม่สามารถเปรียบเทียบกับฉู่ขวงหรือเซี่ยนอวี๋ได้ แม้แต่ความโด่งดันของอี้อันก็มากพอที่จะบดขยี้อี้อันได้

อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนรู้สึกพอใจมาก

สามตัวตนก่อนหน้านี้มีผลงานที่โดดเด่นมากมาย อี้อันมีตำนานหงอคงเพียงเรื่องเดียว แน่นอนว่าไม่เพียงพอ

เส้นทางหลังจากนี้ยังอีกยาวไกล

คิดดูแล้ว หลินเยวียนใช้บัญชีของอี้อันติดตามฉู่ขวง เซี่ยนอวี๋ และอิ่งจือ

ถึงอย่างไรหลังจากนี้อาจมีการตีความผลงานของทั้งสามตัวตนอีก ต้องทำตัวเป็นแฟนคลับสักหน่อยใช่ไหมล่ะ

ทว่าเขาไม่ได้ใช้บัญชีของอีกสามตัวตนแรกกดติดตามกลับ

เมื่อสังเกตเห็นว่าอี้อันติดตามทั้งสามคน ในพื้นที่แสดงความคิดเห็นจึงมีการหยอกล้อมากมาย

‘อาจารย์อี้อันเป็นแฟนคลับสามสหายจริงด้วย!’

‘น่าเสียดายที่เจ้าแก่ฉู่ขวงไม่ติดตามกลับ’

‘ไม่รู้ว่าเจ้าแก่ฉู่ขวงคิดยังไงกับตำนานหงอคง’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวง: อี้อันคนนี้คิดมากไปหน่อยหรือเปล่า?’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวง: ที่แท้เรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศที่ผมเขียนก็มีความหมายลึกซึ้งขนาดนี้?’

‘สามสหายเป็นวงปิดจริงๆ ตำนานหงอคงที่อี้อันเขียนดังขนาดนี้ ฉู่ขวงยังไม่คิดจะติดตามกลับ’

‘…’

จากคอมเมนต์จะเห็นว่า

ชาวเน็ตเดาไม่ออกถึงความสัมพันธ์รูปแบบพิเศษซึ่งเป็นไปได้ระหว่างอี้อันและสามสหาย

นั่นทำให้หลินเยวียนผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก

อี้อันเสร็จสิ้นภารกิจเป็นการชั่วคราว

ตัวตนนี้วางไว้ก่อนแล้วกัน

หลังจากนี้หลินเยวียนยังมีเรื่องอื่นอีก

ถงซูเหวินผู้กำกับรายการเพลงของเราก็ติดต่อหลินเยวียนมากะทันหัน

“อาจารย์เซี่ยนอวี๋ ได้ดูการแข่งขันสี่คนสุดท้ายเมื่อคืนไหมครับ”

“ดูครับ”

หลินเยวียนตอบ

ถึงแม้จะไม่ได้เข้าร่วมรายการเพลงของเรา แต่หลินเยวียนยังคงสนใจการแข่งขันต่อจากนั้นมาก

โดยปกติแล้วหลินเยวียนมักจะหาเวลาว่างเพื่อดูการแข่งขันทุกรอบ

รวมไปถึงรอบสี่คนสุดท้ายที่ถงซูเหวินเอ่ยถึง

การแข่งขันรอบนี้ออกอากาศไปเมื่อคืน ในตอนนั้นหลินเยวียนโพสต์ตำนานหงอคงไปได้ไม่นาน จึงเปิดดูการแข่งขันในรอบนี้ไปพลางๆ

นักร้องสี่คนสุดท้ายในรอบนี้ ได้แก่เฟ่ยหยาง ซูอวี๋ เหลียงจื่อหยวน และ…

เจียงขุย!

เฟ่ยหยางและซูอวี๋ ก็คือมหาราชาและหงส์ขาวจากรายการราชาหน้ากากนักร้อง

ด้วยฝีมือของทั้งสอง การเข้ารอบสี่คนสุดท้ายจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ทว่าการเข้ารอบของเหลียงจื่อหยวนและเจียงขุยกลับทำให้หลายคนประหลาดใจ

เหลียงจื่อหยวนคือหุ่นยนต์จากรายการราชาหน้ากากนักร้อง ในการแข่งขัน เหลียงจื่อหยวนไม่ผ่านเข้าถึงรอบสี่คนสุดท้าย

เจียงขุยยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ในบรรดาสี่คนสุดท้ายนี้ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่ราชาราชินีเพลง

หลังจากเข้ารอบสี่คนสุดท้ายในครั้งนี้ ผู้คนมากมายจึงยิ่งคิดว่าเจียงขุยมีหวังที่จะได้เป็นราชินีเพลง และเป็นราชินีเพลงที่อายุน้อยมาก!

“คุณดูแล้วก็ดีครับ”

ถงซูเหวินเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “รอบต่อไปของเราจะเป็นรอบรองชนะเลิศและรอบชิงแล้วครับ ในรอบชิงนักร้องเลือกเพลงเองได้ แต่ในรอบรองเราให้นักร้องมีสิทธิ์เลือกนักประพันธ์เพลงได้อย่างอิสระ ผลปรากฏว่าคุณได้รับเลือกจากหนึ่งในนักร้องทั้งสี่คน”

“ใครครับ”

“เจียงขุย”

หลินเยวียนไม่แปลกใจ “งั้นผมต้องเขียนเพลงในรอบรองให้เจียงขุยใช่ไหมครับ?”

ถงซูเหวินยิ้มตอบ “ใช่ครับ อีกเรื่องหนึ่งคือเฟ่ยหยางเลือกร่วมงานกับอาจารย์อิ่นตง อาจารย์ซูอวี๋เลือกอาจารย์เยี่ยจือชิว เหลียงจื่อหยวนเลือกอาจารย์อู่หลง…”

หลินเยวียนแปลกใจ “ไม่มีใครเลือกอาจารย์หยางเหรอครับ?”

ถงซูเหวินเอ่ยอย่างจนใจ “เดิมทีอาจารย์ซูอวี๋เลือกอาจารย์หยางจงหมิงครับ แต่อาจารย์หยางจงหมิงไม่ว่าง”

ไม่ว่าง?

หลินเยวียนพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ”

ถงซูเหวินกล่าวกลั้วหัวเราะ “งั้นพรุ่งนี้รบกวนคุณมาที่ห้องส่งสักรอบ เพื่อฝึกซ้อมกับนักร้องนะครับ รายการจะออกอากาศอย่างเป็นทางการวันที่ 1 มีนาคม”

“1 มีนาคม?”

หลินเยวียนใจกระตุกวาบ

แรกเริ่มเดิมทีเขาเตรียมปล่อยเพลง ‘แด่อลิซ’ ในวันที่ 1 มีนาคม

ทว่าเห็นทีตอนนี้ ไม่สู้หาเพลงที่สามารถไต่ชาร์ตเดือนมีนาคมให้เจียงขุยไปซะเลย?

จะได้ตามกระแสการแข่งขันรายการไปด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ เพลงแด่อลิซจึงไม่ได้ใช้เป็นการชั่วคราว

งั้นจะหยิบเพลงอะไรออกมาให้เจียงขุยดีละ?

หลังจากวางสาย หลินเยวียนจมอยู่ในห้วงความคิด

สองนาทีผ่านไป โทรศัพท์ของหลินเยวียนดังขึ้น

เขากดรับ

ปลายสายเป็นเสียงของเจียงขุย “อาจารย์เซี่ยนอวี๋คะ รอบต่อไปฉันอยากเลือกร่วมงานกับคุณ…”

“เข้าใจแล้วครับ”

“คุณตกลงแล้ว?”

“ครับ”

“ขอบคุณค่ะอาจารย์เซี่ยนอวี๋!”

เสียงของเจียงขุยระคนความตื่นเต้นเล็กน้อย

หลินเยวียนจึงถือโอกาสเอ่ยถาม “คุณอยากได้เพลงประเภทไหน”

“อ๋า?”

ดูเหมือนว่าเจียงขุยจะไม่เคยขบคิดเรื่องนี้มาก่อน จึงตอบเสียงอ่อน “ฉันร้องเพลงอะไรก็ได้ที่คุณให้…”

“คุณเลือกเลย”

“ฉันไม่รู้นี่คะ”

เจียงขุยสับสนอยู่บ้าง เขียนเพลงแบบนี้ก็ได้หรือ?

เมื่อเห็นว่าหลินเยวียนไม่พูดอะไร เธอจึงตกประหม่าขึ้นมา ก่อนจะลองพูดหยั่งเชิง

“เพลงหวานๆ ?”

หลินเยวียนประหลาดใจไปชั่วขณะ จากนั้นจึงเอ่ยตอบ “เจอกันพรุ่งนี้ครับ”

เขารู้แล้วว่าจะเลือกอย่างไร

งั้นก็ต้องเป็นเพลงหวานๆ สักเพลง

บางทีเสียงของเจียงขุยเมื่อร้องเพลงนี้ อาจให้ผลลัพธ์ที่หลินเยวียนต้องการได้

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท