บทที่ 257 โหดร้ายทารุณ
ประตูไม้โบราณที่มีลวดลายแห่งกาลเวลาทิ้งรอยไว้ เผยกลิ่นอายประสอบการณ์ชีวิตที่โชกโชน ราวกับเป็นชายชราผู้มองเห็นจิตใจคนซึ่งไม่รู้ว่าผ่านกาลเวลามานานเท่าไรแล้วคนหนึ่ง
ความผุพังที่ฝังอยู่ในสีดำของประตูไม้ทั้ง ราวกับเป็นความจำนนต่อโลกที่น่าเวทนานี้ของชายชรา
ความหดหู่ แปลกอึมครึม
คือความรู้สึกที่สวี่ชิงสัมผัสได้จากประตูบานนี้
และจังหวะที่ประตูสีดำเปิด สวี่ชิงก็เข้าใจอย่างหนึ่งชัดเจน เขาสัมผัสได้ว่าสรรพสิ่งรอบด้านเงียบงัน เสียงหายไปหมดแล้ว
สายลมหยุดพัด เมฆหมอกก็เช่นกัน กระทั่งหัวใจที่กำลังเต้นก็ราวกับหยุดนิ่งไปแล้วในพริบตานี้ สรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นนี้ รวมไปถึงตัวเขาที่กำลังถอยอย่างเร่งด่วนจนถึงเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องที่ยืนอยู่ด้านบนประตู
ราวกับว่าพลังของประตูบานนี้ยิ่งใหญ่ไพศาลเกินไป แปลกประหลาดเกินไป ไม่ว่าจะคนที่ใช้หรือโดนโจมตีก็ถูกริดรอนสิทธิ์การเคลื่อนไหวทั้งหมดไปภายใต้พลังที่ยิ่งใหญ่นี้โดยไม่มีข้อยกเว้น
ความรู้สึกนี้สวี่ชิงเคยเจอมาแล้ว นั่นคือเมื่อสี่ปีก่อนนี้ พริบตาที่เสียงเพลงในพื้นที่ต้องห้ามของฐานที่มั่นคนเก็บกวาดดังขึ้น เขามองเห็นรองเท้าหญิงสาวเดินมารวมถึงปราณหมอกนั้นในป่า
เวลานั้นเขาก็สัมผัสได้เหมือนตอนนี้ ขณะที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ความเย็นเยียบวูบหนึ่งที่ทะลวงจิตวิญญาณและราวกับแช่แข็งความรู้สึกนึกคิดของคน ได้ผนึกไปทั่วสารทิศจากการที่ประตูบานนี้ปรากฏขึ้น
สวี่ชิงหยุดหายใจ ขนคิ้วเริ่มมีน้ำค้างแข็ง เส้นผมก็เช่นเดียวกัน ถูกความเย็นขีดสุดรุกล้ำทั้งด้านในและด้านนอกร่างกาย ดวงตาสูญเสียการมองเห็นรอบด้านในพริบตานี้ เหลือเพียงประตูที่กำลังค่อยๆ เปิดบานนั้น
เสียงเอี๊ยดเสียดแทงหูดังออกมา ประตูสีดำค่อยๆ เปิดออก
ด้านในดำสนิทราวกับไม่มีอะไรอยู่เลย มีเพียงความเย็นเยียบเท่านั้นที่แผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง กระทั่งมองเห็นปราณสีขาวเบาบางกำลังแผ่ออกมาตามขอบเป็นระลอกจากด้านในของประตู
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องที่อยู่ด้านบนประตูเวลานี้สีหน้าเหี้ยมเกรียม จิตสังหารในดวงตารุนแรง ประตูบานนี้มีชื่อว่าประตูวิญญาณจำนงนิรันดร์ สำหรับเขาแล้ว ถือเป็นสิ่งที่อยู่ระดับเดียวกับของวิเศษเลย แต่หลังจากเขาได้รับมันมา ก็ใช้งานไปเพียงครั้งเดียว
เพราะตอนที่ใช้งานทั้งฝ่ายตนหรือฝ่ายศัตรูก็จะถูกสะกดทั้งหมด ดังนั้นหลังจากใช้งานครั้งที่แล้ว เขาจึงไม่กล้าใช้มันง่ายๆ อีก ที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อใช้งานประตูนี้ต้องกร่อนดวงวิญญาณของตนเอง
ยิ่งไปกว่านั้นประตูบานนี้ยังประหลาดอย่างมาก ที่มาก็ลึกลับ หลังจากเปิดจะมีอะไรออกมาไม่แน่นอน ดังนั้นพลังสังหารจึงแตกต่างไปตามบุคคล ท่านปู่ของเขาเคยบอกจุดนี้เอาไว้
การใช้งานครั้งที่แล้ว สิ่งที่ปรากฏออกมาด้านในคือลิ้นยาวเน่าเปื่อย ทำเอาเขารู้สึกขยะแขยงอย่างมาก เพราะปู่ของเขาเคยพูดไว้ว่าสิ่งที่ออกมาจากประตูบานนี้คือตัวแทนของจิตวิญญาณ
ตอนนี้เขาอยากรู้มากว่าตอนที่สวี่ชิงเผชิญหน้ากับประตูที่เปิดนี้ ในประตูจะปรากฏสิ่งใด
“ถ้ามีผีร้ายสักตัวออกมาจะดีที่สุด ผีร้ายที่จะฉีกทึ้งเขาทั้งเป็น!!”
และพริบตาที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องคำรามต่ำในใจ ในประตูไม้สีดำ ในสีดำทะมึนไร้ที่สิ้นสุด จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปในพริบตานี้ กลับ…ปรากฏแสงสายหนึ่งออกมา!
แสงนี้ตอนแรกยังอ่อนแรงมาก เป็นแค่จุดๆ หนึ่ง แต่ในพริบตาก็แผ่ขยายต่อเนื่อง ท้ายสุดก็กลายเป็นทะเลแสงผืนหนึ่ง ประกายเจิดจ้า ส่องสว่างไร้เทียมทาน
ระเบิดฉับพลันจากด้านในประตู กลายเป็นเส้นแสงนับไม่ถ้วนสาดออกมาเต็มที่
ทุกจุดที่ส่องผ่าน ท้องฟ้าด้านนอกประตูเปลี่ยนจากสีดำเป็นสว่างไสว พื้นดินรอบๆ และต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วนก็เช่นกัน แสงสว่างนี้ปกคลุมร่างของสวี่ชิงหายไปในทะเลแสงในพริบตา
สวี่ชิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พรรณนาไม่ได้แผ่ออกมาในทะเลแสงผืนนี้ ราวกับร่างทั้งร่างถูกแผดเผา ผิวหนังและเลือดเนื้อรวมถึงอวัยวะภายในทั้งห้าก็เช่นกัน
แสงนี้ทะลวงผ่านร่างกายเขา ทะลวงผ่านจิตวิญญาณเขา ทะลวงผ่านตัวเขาทั้งหมด ทุกที่ที่พาดผ่านความเจ็บปวดที่แสนตกตะลึงนั่นก็ทำให้ทั่วร่างสวี่ชิงมีควันดำปรากฏขึ้นมา ราวกับว่าจะถูกลบออกไป ขณะที่ร่างกายไม่อาจทานรับไหว พลังการเคลื่อนไหวก็กลับมาจากการที่แสงนี้ปรากฏขึ้น ถอยออกไปฉับพลัน
ระเบิดความเร็วทั้งหมดก็ยังไม่สามารถสกัดกั้นการแผดเผาของแสงนี้ได้ เหมือนกับว่าเขากลายเป็นราตรีดำมืด และแสงนั้นก็กลายเป็นแสงสว่าง ด้วยแสงสว่างนี้ ราตรีที่มืดมิดจึงถูกตัดผ่าน
ผิวหนังเขาถูกเผาจนเกรียม เลือดเนื้อของเขาสูญเสียน้ำไปจนหมด เส้นผมของเขากับขนคิ้วก็กลายเป็นฝุ่นฟุ้ง ไม่ว่าจะตะเกียงแห่งชีวิตหรือวิชาระดับจักรพรรดิ ล้วนกำลังต้านทานอย่างสุดกำลัง
ขณะเดียวกันเขาก็ล้วงเอาแผ่นหยกชิ้นหนึ่งออกมากำไว้ในมือ สีหน้าเผยแววลังเลอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายก็ไม่บีบมัน เร่งความเร็วถอยหนี
และระหว่างที่เขาถอยหนีหัวซุกหัวซุนรวมถึงลังเล เซิ่งอวิ๋นจือที่อยู่ด้านบนของประตู เมื่อสังเกตเห็นภาพนี้ ใบหน้ากลับไม่ยินดีแม้แต่น้อย แต่กลับเผยความไม่อยากเชื่อออกมา กระทั่งสีหน้ายังเผยความประหลาดใจ รู้สึกไร้สาระอย่างแรง
“แสง?
“หลังจากเปิดประตูวิญญาณจำนงนิรันดร์ใส่เจ้า แต่กลับปล่อยแสงออกมาหรือ!!
“เป็นไปได้อย่างไร เจ้าก็สังหารนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกับข้า เหยียบย่ำกองกระดูก ถนัดพิษร้าย ฝึกบำเพ็ญไฟกลืนกินวิญญาณ ทั่วร่างแผ่เพลิงสีดำออกมา กระทั่งตะเกียงแห่งชีวิตก็ยังสีดำ จะเรียกเจ้าว่าจอมมารก็ไม่ได้เกินไป แล้วตัวแทนจิตวิญญาณของเจ้ากลับเป็นแสงสว่างหรือ!!
“น่าขัน ช่างน่าขัน มันน่าขันนัก!
“นอกร่างกายคือความมืดมิด แต่ใจกลับกลับสว่างไสวงั้นรึ” เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องตาแดงก่ำ สีหน้าเหี้ยมเกรียม แผดเสียงคำราม เขาเสียสติไปแล้ว ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลังประตูบานนี้เปิดออก สิ่งที่แผ่ออกมาคือลำแสง
เพราะ นี่เป็นสิ่งที่เขาปรารถนา!!
ชื่อของเขาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง อวิ๋นจื่อสองคำนี้ก็คือแสงสว่าง แต่สิ่งที่ปรากฏออกมาตอนเขาเปิดประตูกลับเป็นลิ้นชั่วร้ายที่เน่าเปื่อย เมื่อเทียบกันแล้ว จิตสังหารในใจเขาก็โถมขึ้นฟ้าอีกครั้ง
ดังนั้นพริบตาที่สวี่ชิงถอยหลัง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถอยออกจากขอบเขตแสงของประตู เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ทำปางมือทันควัน ประตูบานนี้ก็ปิดลง จากนั้นก็เลือนรางในพริบตา ตอนที่แจ่มชัดอีกครั้งทิศทางของประตูก็ไม่ได้หันหาสวี่ชิงอีกแล้ว แต่เป็นเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแทน
เขาติดพิษ ทำได้เพียงสะกดไว้ในช่วงเวลาสำคัญ ที่นำประตูบานนี้ออกมาไม่ได้มีเป้าหมายแค่สังหารสวี่ชิง แท้จริงแล้วเขาจใช้ประตูบานนี้สะกดพิษในร่างตนเอง
ครั้งนั้นที่เขาเคยใช้ประตูบานนี้ สถานการณ์คล้ายกับวันนี้ ตอนนั้นเขาก็ใช้ประตูลบคำสาปที่ถูกคนสาปแช่งไว้บนตัวตนเอง
ขณะที่กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ประตูไม้สีดำบานนี้ก็เปิดมาทางเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องตามการโคจรของประตูวิญญาณจำนงนิรันดร์ ด้านในยังคงเป็นสีดำ แต่เพียงพริบตาก็มีลิ้นชั่วร้ายเน่าเปื่อยยื่นออกมาอย่างรวดเร็วจากด้านใน พุ่งมาหาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง พันตัวเขาทันที
ทันใดนั้นร่างเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็สั่นสะท้าน สีหน้าทรมาน ร่างกายตอนที่สัมผัสกับลิ้นนี้ก็เน่าเปื่อย ใบหน้าหล่อเหลาดูเหมือนกับศพ ผมเผ้าหลุดร่วง กลิ่นอายเน่าเหม็นแผ่กำจายออกมา
แต่การได้จ่ายสิ่งเหล่านี้ ผลลัพธ์ที่แลกมาก็ทำให้เขาพึงพอใจ
พิษในร่างกายเขาถูกขับออกไปกว่าครึ่งในพริบตา ที่เหลืออยู่ก็เจือจางลงราวกับสูญสิ้นพลังชีวิต สะกดลงมา แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขาจิตวิญญาณพรั่นพรึง ก็คือเงามืดบนช่องเวทที่ร้อยยี่สิบ กลับยังอยู่รอดปลอดภัยภายใต้พลังประตูประหลาดบานนี้
ไม่เพียงแค่นี้ กระทั่งยังมีดวงตาเล็กดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมา ส่งสายตาหยามหมิ่นให้เขา
“นี่มันอะไรกัน!!!” เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง แต่ก็ไม่มีเวลาคิด ตอนที่พิษบนตัวถูกสะกด เขาก็เก็บประตูบานนี้ ไม่กล้าใช้งานต่ออีก หลังจากล้วงเอายาลูกกลอนออกมากินไปคำใหญ่ ก็พุ่งทะยานไปหาสวี่ชิง
สวี่ชิงที่อยู่ไกลๆ เวลานี้เงยหน้าขึ้นฉับพลัน ทั้งเนื้อตัวเขาดูสะบักสะบอมไปหมด แต่จิตสังหารยังคงคุกรุ่น แม้ก่อนหน้านี้จะบาดเจ็บหนัก แต่ผลึกวารีสีม่วงก็กำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่ถอยหนีเมื่อครู่เขาก็กลืนยาลูกกลอนรักษาอาการบาดเจ็บไปไม่น้อย
ตอนนี้ขณะที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องพุ่งมา สวี่ชิงก็กระทืบเท้าขวาที่พื้นแรงๆ ร่างของสวี่ชิงก็ทะยานขึ้นจากการที่โคลนใต้เท้าระเบิด พุ่งตรงไปปะทะกับเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องกลางอากาศอีกครั้ง
เสียงครืนครันดังก้องไปทั้งแดแนต้องห้าม ต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วนล้มตาย ผืนป่าขนาดใหญ่ล้มระเนระนาด อสูรร้ายเหล่านั้นในแดนก็หนีป่าราบ ศึกของสวี่ชิงกับเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องนี้สั่นฟ้าสะเทือนดินจริงๆ
ต่อให้แก่นลมปราณมาเห็นก็ยังพรั่นพรึงขีดสุด
พวกเขาทั้งสองความเร็วน่าตกตะลึงท่ามกลางเสียงครืนครัน ลงมือพลางทะยานไปด้วย ทุกหนแห่งที่แล่นผ่านล้วนราบเป็นหน้ากลอง
และในระหว่างที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับไม่หยุดนี้ สวี่ชิงยกมือขวาขึ้นโบกอย่างแรง ฉับพลันผลึกวารีเม็ดหนึ่งร่วงลงมา หลังจากระเบิดด้านในก็มีหมอกดำมหาศาลแผ่ซ่าน ในปราณหมอกมีสิ่งประหลาดร่างวัวไม่มีหัวตัวหนึ่งพุ่งออกมากระแทกเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง
ยังไม่จบ ครู่ต่อมา สวี่ชิงก็โยนผลึกวารีอีกสามเม็ดออกมา พากันระเบิดออก เส้นผมสีดำบิดเบี้ยว แขนแห้งเหี่ยวรวมถึงลูกตาสีขาวอีกหนึ่งข้างลอยออกมา
สิ่งของเหล่านี้ ก็คือสิ่งที่สวี่ชิงได้มาจากถุงเก็บของของซือหม่าหลิงเทพเจ้าผู้มั่งมีจากแผ่นดินต้องประสงค์ เขาใช้งานทั้งหมดในรวดเดียว ทันใดนั้นไอพลังประหลาดรอบด้านก็เข้มข้นขึ้นมหาศาล ขณะที่สวีชิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก็ยังโยนลูกกลอนดำจำนวนมากออกมาอีกด้วย
เสียงปึงปังดังก้องสะท้อน ไอพลังประหลาดระเบิดขึ้นฉับพลันในสถานที่นี้ ขณะที่เข้มข้นขีดสุด ก็ดึงจิตชั่วร้ายจากส่วนลึกของแดนต้องห้ามเข้ามา
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องหน้าเปลี่ยนสี โบกมือถอยกลับ แต่สิ่งประหลาดสี่ตนนั้นก็ราวกับปลากระดี่ได้น้ำขณะอยู่ในไอพลังประหลาดที่เข้มข้นนี้ หลังจากปรากฏตัวก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน
มือแห้งเหี่ยวงอกอยู่บนคอของร่างวัว ดวงตาลอยไปฝั่งอยู่กลางฝ่ามือ ส่วนเส้นผมก็พันรัดอยู่บนตัววัว เพียงพริบตา สิ่งประหลาดนี้ก็มีพลังท่วมท้น พุ่งครืนครันไปหาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องกำลังจะฉากหลบ
ตาสวี่ชิงก็เผยความเด็ดขาด โบกมือล้วงเอาอาวุธเวทที่ใช้ควบคุมสิ่งประหลาดของซือหม่าหลิงออกจากถุงเก็บของเป็นจำนวนมาก เมื่อโยนทั้งหมดออกไปก็โบกมือ
เพียงพริบตาอาวุธเวทเหล่านี้ก็ระเบิดครืนครัน เข้าสกัดการถอยหนีของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง ทำให้เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องหนีไม่พ้น ถูกสิ่งประหลาดเหล่านั้นโถมเข้าใส่
เมี่ยเหมิงแผดเสียง แต่จากสภาพของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง มันก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน โดยเฉพาะตอนที่ถูกวิหคทองจ้องเขม็ง ตอนนี้จะลงมือ วิหคทองก็พุ่งเข้ามา และทั้งคู่ก็เปิดฉากสังหารกันอีกครั้ง
สวี่ชิงก็เข้าประชิดด้วย เมื่อมือขวาโบกก็มีกริชปรากฏขึ้นในมือ ถือโอกาสชที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องเหนื่อยล้า ปาดไปที่คอของเขา
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องเงยหน้า กริชพาดผ่านคอเขาไปอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะเบี่ยงหลบ ทว่าเพลิงพิฆาตก็แผ่เข้ามาปกคลุม แต่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ไฟชีวิตทั้งร่างซ่านออกมา ตรงเข้าสกัดทันควัน แต่กลับขวางความบ้าคลั่งของสวี่ชิงไม่ได้
เขาเงยหน้าขึ้น กระแทกเข้าไปอย่างจัง
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องตาแดงก่ำ ใช้หัวกระแทกกลับมาเช่นกัน
เสียงโครมดังขึ้น ทั้งสองคนเวียนหัวตาลาย ต่างฝ่ายต่างถอยหลัง
แต่ความโหดเหี้ยมของสวี่ชิงทำให้เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องสัมผัสได้อย่างแรงกล้า แต่เขาก็ยังไม่ละความคิดจะสังหาร วันนี้เขาต้องสังหารสวี่ชิงให้ได้ ช่วงชิงตะเกียงมา
ดังนั้นระหว่างที่ถอย เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องตบมือขวาลงไปบนหน้าผาก ร่างกายสั่นเทิ้ม ไม่รู้ว่าเขาใช้วิชาลับอะไร มือขวาทะลุเข้าไปในหน้าผาก กระชากพู่กันที่ชุ่มไปด้วยเลือดสดด้ามหนึ่งออกมาจากในร่างกายอย่างแรง!
ตอนเพิ่งออกมาพู่กันด้ามนี้เล็กมาก แต่เพียงพริบตาก็ขยายใหญ่ หัวพู่กันเป็นศีรษะหน้าตาเหมือนเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องไม่ผิดเพี้ยน!
“พี่ชาย ข้ากำลังหลับสนิทเลย เจ้าปลุกข้าขึ้นมาเช่นนี้เพราะจะเล่นกับข้าหรือ”