ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) – ตอนที่ 27 การต่อสู้ของผู้หญิงที่ไร้ซึ่งคุณธรรม

ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)

 

การต่อสู้ของผู้หญิงที่ไร้ซึ่งคุณธรรม

 

ณ สนามต่อสู้ของโรงเรียนหญิงโอโตริ

 

ขนาดของสนามใหญ่กว่าโรงยิมในโรงเรียนมัธยมทั่วไปหลายเท่าตัวเลยทีเดียว มีที่นั่งสำหรับผู้ชมอยู่ถึง 3 ชั้น แถมยังปรับจำนวน แถมยังสามารถปรับพลังเวทย์ภายในอาคารได้ด้วย…และด้วยเงินสนับสนุนมากมายก็ทำให่ได้มีการขยายจนทำให้มีหุ่นฝึกซ้อมเลยด้วย (ออโต้บอท)

 

ในโลกนี้นั้น เทอร์มินัลจะถูกเชื่อมเข้ากับอุปกรณ์เวทย์

 

ถ้าติดตั้งมินิคอนโซลไว้สำหรับสื่อสาร (ในเฟรมที่แยกจากสล็อต) ก็จะสามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาต่อหน้า ซึ่งเอาไว้ใช้โทร ส่งอีเมล แชท หรือแม้กระทั่งท่องโลกอินเตอร์เน็ตเลยล่ะ

 

มินิคอลโซลนั้น สามารถซิงโครไนซ์เข้ากับสนามต่อสู้ได้ด้วย โดยสามารถปรับบนจอที่ปรากฎขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมาย การปรากฎตัวของหุ่นซ้อม รวมถึงภูมิประเทศด้วย และสิ่งที่ทำงานได้มากยิ่งกว่าอุปกรณ์เวทย์แบบนี้ ก็จะเรียกกันว่า อุปกรณ์เวทย์คอนสตรัคเตอร์นั่นเอง

 

ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ มันก็เหมือนกับเครื่องคิดเลขที่เอาไว้ใช้คำนวณเวทย์โดยเฉพาะนั่นแหละ

 

แล้วเจ้าเครื่องคำนวณนี่ก็มีติดตั้งไว้ที่บ้านพักตระกูลซันโจไว้ที่ใช้สร้างบาเรียป้องกันเวทย์เหมือนกัน

 

เนื่องจากมันต้องใช้คอนโซลชนิดพิเศษและต้องเชื่อมต่อแบบสายไฟที่ค่อนข้างซับซ้อน มันจึงต่างจากแนวคิดของอุปกรณ์เวทย์แบบทั่วไป

 

โดยพื้นฐานแล้ว อุปกรณ์เวทย์คอนสตรัคเตอร์ส่วนใหญ่ก็จะเอาไว้ใช้ในการสร้างบาเรียป้องกันเวทย์ แต่ถ้าต้องการการคำนวณที่มากกว่านั้น ก็อาจจะต้องกำหนดขนาดกับราคาที่ต้องการไว้ให้แน่นอนด้วย

 

ถึงแม้จะอยู่ในอาคารก็ตามแต่ แต่มันก็สามารถสร้างทราย น้ำทะเล หรือแม้แต่จะเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงก็ยังได้…ซึ่งนั่นก็จะแสดงความสุดยอดของอุปกรณ์เวทย์คอนสตรัคเตอร์ก็จะถูกติดตั้งและถ่ายทอดออกมาให้เห็น

 

สนามต่อสู้นี้มีอยู่ 6 ที่ ในโรงเรียนโอโตริ โดยมีอยู่ที่ 3 หอพักที่ละแห่ง แล้วก็มีอีกสามแห่งในบริเวณโรงเรียนอีก 3 แห่ง ถ้าได้รับอนุญาตจากครูผู้สอนและมีคะแนนที่พอเหมาะ ก็จะสามารถขอใช้สนามต่อสู้ได้อย่างอิสระเลยล่ะ

 

ถ้าเป็นนักเรียน ก็จะไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า เพราะงั้น ถึงแม้จะมี 0 คะแนน แต่ก็ยังได้รับอนุญาตให้เข้าซ้อมได้เป็นบางครั้งอยู่

 

ก็อย่างที่พูดไปนั่นแหละ ผมกับลาพิสเลยกำลังนั่งดูสึกิโอริกับเรย์ที่กำลังยืนแนวเดียวกันอยู่ตรงกลางสนามต่อสู้ 

 

ที่ด้านล่างของสายตาผม ผมเห็นเรย์สวมชุดเครื่องแบบ แล้วก็หมุนหอกสีเงินและหยุดไว้ข้างตัว

 

“เอาแบบพื้นฐานดีมั้ยคะ”

 

พอได้เห็นรูปร่างที่งดงามของเธอ เด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็เลยหน้าแดงและส่งเสียงเชียร์ไปให้ 

 

เด็กสาวจากตระกูลซันโจคนนั้นได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนหญิงโอโตริ…ผมได้ยินข่าวลือแบบนั้นเข้าหูมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตอนเข้าโรงเรียนมาได้ไม่กี่วัน เรย์เลยมีแฟนคลับเยอะ เพราะรูปร่างหน้าตาของเธอ ว่ากันว่าถึงกับมีคนทำรูปเรย์มาแลกกันเลยทีเดียว

 

ซึ่งในทางกลับกัน ฮิอิโระคุงจากตระกูลซันโจนี่ก็ถูกสาว ๆ ในโรงเรียนดูถูกเหยียดหยามเลยทีเดียว มีกระทั่งคำวิจารณ์ดี ๆ อย่างการเป็นไอ้เวรที่ไปพัวพันกับคนอื่นด้วยนะ (เยี่ยมเลย ^^)

 

เอาล่ะ เรามาพูดถึงการที่สึกิโอริถูกท้าดวลกันดีกว่า

 

“ได้หมดเลยนั่นแหละ หรือจะเอาแบบที่เธอชนะได้ง่าย ๆ มั้ยล่ะ?”

 

เธอพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ พร้อมกับเหวี่ยงไลท์ไนท์ฮันท์…อุปกรณ์เวทย์ที่มีรูปร่างเป็นดาบยาวไปรอบ ๆ

 

เหล่าสาว ๆ จ้องไปที่สึกิโอริกันอย่างเร่าร้อน

ดวงตาของพวกเธอกระพริบซ้ำ ๆ แล้วก็มีความชื้นเล็กน้อย

 

ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ก็เห็นได้เลยว่ามีความรู้สึกในเชิงโรแมนติกกับสึกิโอริ บางทีแล้ว ความเป็นเพลย์บอยโดยธรรมชาติของตัวเอกอาจจะทำให้สาว ๆ หลงไปอย่างไม่รู้ตัวเลยแน่ ๆ

 

“ฮิอิโระ แบบพื้นฐานนี่คืออะไรงั้นเหรอ?”

 

ที่นั่งที่อยู่รอบตัวของผมนั้นว่างเปล่า

 

ถึงแม้เธอจะสังเกตเห็นสถานการณ์แปลก ๆ นี่แล้ว เธอก็ยังมานั่งข้าง ๆ และคอยถามผมอยู่

 

“การท้าดวล…ถึงจะเรียกว่าเป็นการฝึกซ้อม แต่ถ้าปกติคนเราจะฆ่าแกงกันมันก็ต้องใช้เวทย์ฆ่ากันให้ตายไปข้างใช่มั้ยล่ะ? เพราะแบบนั้นมันจึงต้องมีการกำหนดเกณฑ์ในการแพ้ชนะไว้อย่างชัดเจนยังไงล่ะ”

 

“ก็แปลว่าเงื่อนไขที่ว่านั่นก็คือรูปแบบมาตรฐานอย่างหนึ่งสินะ?”

 

“ตามนั้นแหละ รูปแบบพื้นฐานที่ว่านั่นก็คือกฎที่ใช้กันทั่วไปในการฝึกซ้อม ถ้าใครสามารถทำลายบาเรียเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามที่สร้างขึ้นมาจากอุปกรณ์เวทย์คอนสตรัคเตอร์ได้ก่อน 3 ครั้ง ก็จะเป็นฝ่ายชนะ”

 

“สรุปก็คือ ต้องโจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยเวทย์ทั้งหมด 3 ครั้งสินะ?”

 

“เยส ในการดวลนั้น นอกจากกฎที่ห้ามไว้ จะทำยังไงก็ได้เพื่อให้ชนะ และถ้าคู่ต่อสู้แพ้หรือยอมแพ้ การแข่งนั้นก็จะจบลง”

 

ลาพิสพยักหน้าและมองมาทางผมด้วยความสนใจ

 

“ก็พอเข้าใจเงื่อนไขแล้วล่ะ แต่ว่า…เราจะไม่หยุดสองคนนั้นไว้มันจะดีเหรอ?”

 

“……”

 

บอกตามตรง ผมเองก็ไม่รู้เลยว่าควรจะหยุดดีรึเปล่า

 

ถ้านี่เป็นเกมล่ะก็ ในค่ายฝึกปฐมนิเทศ พวกตัวเอกจะถูกจับคู่ให้ต่อสู้กัน  

ซึ่่งนั่นก็เป็นจุดที่ทำพวกเขาให้ได้รับความสนใจสุด ๆ เลยทีเดียว

 

แต่คนที่ควรได้รับความสนใจมากที่สุดอย่างสึกิโอริ กลับมาอยู่กับผมและคุณหนูปากร้ายไปซะได้ ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งที่เกินคาดมากสำหรับผม และที่แย่กว่านั้นคือมันแย่มากซะจนแทบอยากจะอ้วกเลย

 

ถ้าผม OUT แล้ว เรย์หรือลาพิส IN หรือให้ผมกับคุณหนู OUT แล้วเอาลาพิสกับเรย์ IN แทน น่าจะดีกว่าการที่ไม่ได้มีนางเอกหลักอยู่เลย แต่การได้อยู่กับไอ้ผู้ชายที่อยู่ท่ามกลางยูริแบบนี้เนี่ย ไม่สิ้นหวังก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว

 

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปละก็  ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่างสึกิโอริกับเหล่านางเอกจะยิ่งเป็นไปได้ช้าลงแน่ ๆ

 

ที่จริงแล้ว การดวลครั้งนี้มันควรจะเป็น [อีเวนต์ท้าดวล] ระหว่างสึกิโอริกับลาพิสด้วยซ้ำ

 

ในจุดนั้น ลาพิสที่แพ้ให้กับสึกิโอริจะค่อย ๆ เริ่มจับตามองไปที่เธอ แม้ว่าช่วงแรกบรรยากาศจะไม่ได้ดีนัก แต่พอพัฒนาไปเรื่อย ๆ พวกเธอก็จะค่อย ๆ เริ่มชอบกันมากขึ้น แต่การที่เรย์เป็นคนมาขอท้าดวลแบบนี้นี้มันก็เป็นอะไรที่เกินคาดสำหรับผมเหมือนกัน

 

แต่ว่านี่ก็ถือเป็นโอกาสเหมือนกัน…อีเวนต์ระหว่างสึกิโอริกับนางเอกนี่แหละที่จะกลายไปเป็นเส้นทางยูริของทั้งสองในอนาคตยังไงล่ะ

 

เพราะแบบนั้นแหละ ผมถึงไม่คิดจะหยุดทั้งสองคนไว้ เพราะผมเชื่อว่านี่จะเป็นอนาคตอันสดใสยังไงล่ะ!!

 

“ถ้าฉันชนะล่ะก็”

 

เรย์ยิ้มและพูดพร้อมกับเหวี่ยงหอกไปรอบ ๆ

 

“ช่วยอย่าเข้ามาใกล้ท่านพี่อีกเป็นครั้งที่สองนะคะ แล้วก็จะขอเปลี่ยนกลุ่มที่ไปค่ายปฐมนิเทศด้วยค่ะ”

 

“อา…เธอคือน้องสาวของฮิอิโระคุงสินะ”

 

สึกิโอริยิ้มออกมาในระหว่างที่เล่นกับคอนโซล

 

“แต่ว่าเธอน่ะอ่อนแอนะ ถึงแม้เธอความสามารถพื้นฐานจะดูสูงก็เถอะ…แต่ก็คงได้ฝึกอยู่แค่ในที่ที่ดูเหมือนกับสนามเด็กเล่นล่ะสินะ? เคยมีประสบการณ์ในการสู้จริงรึเปล่าล่ะ? พอเห็นพี่ชายสุดที่รักกำลังจะถูกแย่งไป ก็เลยใจร้อนอยากได้คืนรึไง?”

 

เรย์ชี้ปลายหอกไปที่สึกิโอริ

 

“ไม่สบอารมณ์เลยค่ะ…ท่านพี่น่ะ ไม่ใช่คนที่คนอย่างคุณควรจะเข้าใกล้เลยค่ะ”

 

“ฮิอิโระคุง”

 

สึกิโอริโบกมือมาให้กับผมที่นั่งอยู่ที่นั่งผู้ชม

 

“คุณน้องสาวอาจจจะร้องไห้เอาได้นะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

 

“ไม่ได้ ถ้าทำให้เธอร้องไห้ล่ะก็ ฉันเองก็คงร้องไห้ด้วยแน่ ฉันจะร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้แน่ ๆ เห็นปะ จะร้องไห้แล้วเนี่ย”

 

“ถ้าแบบนั้นก็แย่น่ะสิ”

 

สึกิโอริเสยผมสวย ๆ ของเธอ

 

“ก็ฉันอยากจะให้ฮิอิโระคุงยิ้มได้ตลอดเลยนี่นา”

 

ทำไมยัยนี่ถึงได้ขยันพูดคำพูดที่จะทำให้คนอื่นหลงด้วยฟะเนี่ย…?

พอผมหลงเข้าไปในภวังค์ ลาพิสที่อยู่ข้าง ๆ ก็จ้องมาด้วยสีหน้าแปลก ๆ

 

“ทำไมสึกิโอริ ซากุระถึงได้หลงนายขนาดนั้นเลยล่ะ…? มีคู่หมั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ…?”

 

“ยัยนั่นก็คงยังไม่ได้คาดไว้ล่ะนะ ก็มีแผนที่จะบอกเกี่ยวกับเรื่องคู่หมั้นไว้อยู่หรอกนะ…แต่ทำแบบนั้นตอนหลังค่ายฝึกจบน่าจะดีกว่า…”

 

“เอ๊ะ…นะ…นี่นายยังไม่ได้บอกเรย์เหรอ…?”

 

“ยังเลยล่ะ ฉันกำลังพยายามหาจังหวะที่จะบอกพร้อมกับสโนว์อยู่น่ะนะ”

 

“……”

 

“……”

 

“……”

 

“…อะไร ไอ้ [เอ๊ะ] ตะกี้นี้มันหายความว่ายังไงน่ะ?”

 

ผมหันไปหาลาพิสที่กำลังเบือนหน้าหนีช้า ๆ

 

“เฮ้ย ทำไมเธอถึงทำหน้าตกใจแบบนั้นกันเล่า…แล้วจะหันไปทางอื่นทำไม…มองมาทางนี้นะ…ฉันจะไม่โกรธ…ฉันจะไม่โกรธ…บอกมาตรง ๆ เลยนะว่าเธอทำอะไรลงไป…”

 

“..สิ”

 

“อะไร?”

 

ลาพิสหันหน้าไปทางอื่นด้วยสีหน้าที่เหมือนจะขอโทษพร้อมพึมพำ

 

“ฉะ…ฉันบอกเรย์ไปแล้วน่ะสิ…เรื่องที่ฮิอิโระมีคู่หมั้นแล้วน่ะ…”

 

เข่าผมทรุดลงกับพื้น

เสียงครวญครางเริ่มออกมาจากลำคอของผม

 

“ละ…แล้วน้องสาวฉัน…ว่ายังไงบ้าง…?”

 

“ก็บอกว่า [งั้นเหรอคะ] แล้วก็ยิ้มออกมา…แต่ตากลับไม่ได้ดูยิ้มด้วยเลยซักนิด…”

 

อะเฮะ เฮ้ อะโฮะ โฮะโฮะ เอะเฮะเฮะเฮะ (ร่ำไห้)

 

“ขะ…ขอโทษนะฮิอิโระ…ก็เห็นเป็นครอบครัวเดียวกันกับฮิอิโระด้วย…ถ้าเป็นเรื่องหมั้นกัน ฉันก็คิดว่านายน่าจะบอกเป็นคนแรก ๆ อยู่แล้ว…ฉันเองที่คิดว่าเรย์น่าจะรู้อยู่แล้วก็เลยได้คุยอะไรกับเธอหลายอย่างเลยด้วย…ขอโทษด้วยจริง ๆ นะ…อย่าร้องไห้เลย…”

 

“ไม่ได้ร้องซะหน่อย(ร้องไห้)”

 

“กะ…ก็ร้องอยู่นี่…”

 

ถัดไปจากผมที่กำลังถูกลาพิสปลอบอยู่ ตรงกลางระหว่างการต่อสู้ สึกิโอริและเรย์ต่างจ้องมองซึ่งกันและกัน

 

“ท่านพี่น่ะ มีคู่หมั้นอยู่แล้วนะคะ”

 

อ้าก รู้แล้วจริง ๆ ด้วย!!

 

“รู้อยู่แล้วล่ะ”

 

แล้วทำไมสึกิโอริถึงได้รู้ล่ะ!?

 

ผมหันหลังกลับไปกระซิบกับลาพิสที่กำลังหลังงอแลหดตัวลง

 

“ลาพิส…นี่อย่าบอกนะว่าเธอ…?”

 

“กะ…ก็สึกิโอริซากุระพยายามจะเข้าหาฮิอิโระนี่นา…การที่จะมาเข้าหาคนที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องดี…เอ่อ…ฉันก็เลยจะสอนเธอให้รู้เรื่องนั้น…ตะ…แต่ยัยนั่นไม่ฟังฉันเลย…”

 

“…(ย้อนภาพในหัว)”

 

ผมยิ้มให้กับลาพิสที่กำลังขอโทษด้วยหน้าตาที่ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้

 

“ไม่เป็นไร ฉันจัดการกับวิกฤติของตัวเองได้ไม่ดีพอเองล่ะนะ ฉันเองก็ไม่เคยบอกเธอว่า [อย่าเอาไปบอกใครนะ] ด้วยนี่นา ไม่เป็นไรหรอกน่า…ยังพอจะทำอะไรได้อ–“

 

“ท่านพี่ไม่มีทางจะหมั้นโดยไม่ปรึกษากับฉันก่อนหรอกค่ะ คุณเป็นคนหลอกท่านพี่ให้พูดโกหกแบบนั้นใช่มั้ยล่ะคะ?”

 

“อา นั่นน่ะเป็นคำพูดของฉันต่างหากล่ะ เพราะฮิอิโระคุงจะถูกแย่งไป ก็เลยใช้ไหวพริบตื้น ๆ ทำแบบนี้ ไม่ใช่รึไง?”

 

อ่าาา~ ^ ^ ชิบหายแล้วครับพี่น้อง~~ ^^

 

จิตสังหารของทั้งสองเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  

พวกเธอทั้งสองคนเล็งอุปกรณ์เวทย์เข้าหากัน

 

“เตรียมตัวเอาไว้เถอะค่ะ ฉันจะเอาชนะคุณแทนส่วนของท่านพี่เอง”

 

“ก็เอาสิ เดี๋ยวฉันจะช่วยแก้อาการบราค่อนนั่นให้เองแล้วกัน”

 

หุ่นฝึกซ้อมอัตโนมัติ เป็นผู้ตัดสิน ได้เริ่มสัญญาณการแข่งขัน–

 

“โทษที คงต้องไปหยุดไว้จริง ๆ แล้ว่ละ”

 

“เอ๊ะ!? เดี๋ยวสิ ฮิอิโระ!?”

 

ผมได้กระโดดเข้าไประหว่างการต่อสู้ของทั้งสองคน

 

[ติดตามเรื่องนี้ได้ที่เพจ Okuse-Translator]

 

ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)

ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)

Status: Ongoing
–ผู้ชายที่อยู่ระหว่างยูริน่ะสมควรตาย ฮิอิโระก็ได้มาเกิดใหม่ในโลกของเกมยูริ [Everything for the Score] ที่คำพูดนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ โลกนี้เป็นเหมือนโลกในอุดมคติสำหรับฮิอิโระผู้ชื่นชอบแนวยูริ แต่แล้ว…เขาก็ค่อยๆได้รับรู้ความจริง ที่นั่นคือโลกญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันที่มีเวทมนตร์ และเป็นโลกแฟนตาซีทีคะแนนจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ในโลกนี้ ทุกย่างจะมีการประเมินทั้งหมด ตั้งแต่พฤติกรรม การกระทำ การช่วยเหลือสังคมไปจนถึงการพับฟูกเลยทีเดียว และการจัดอันดับนั้นก็จะถูกกำหนดโดย [คะแนน] ที่รัฐบาลเป็นผู้มอบให้ ฮิอิโระนั้นมีคะแนนเป็น 0 และยังถูกกดขี่ข่มเหงอย่างไม่มีเหตุผลเพียงเพราะแค่เป็นผู้ชาย แถมเจ้าตัวยังถูกกำหนดไว้ให้ตายอย่างน่าอนาถเพราะเป็นผู้ชายที่สร้างความน่ารำคาญด้วย เขาจึงพยายามที่จะทำอะไรหลายอย่างเพื่อเดธแฟล็กที่กำลังใกล้เข้ามา ทั้งหาพลัง ฝึกเวทมตร์ และนำเอาความรู้จากตอนเป็นเกมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และวางแผนอยู่หลายต่อหลายครั้ง…ถึงแม้นี่จะเป็นเกมยูริ แต่เขาก็ดันเป็นผู้ชายที่ถูกรายล้อมไปด้วยสาว ๆ ล่ะ “…อ้าว? แล้วยูริล่ะ?” นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ควรจะต้องเป็นตัวละครน่ารำคาญ แต่กลับได้กลายเป็นคนที่ทำลายเกมยูริในอีกแง่ไปซะอย่างงั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท