ไม่เพียงชาวหาน
ห้องส่งของรายการวาไรตี้เพลงของเราตื่นเต้นกันอย่างเต็มที่!
“เพลงนี้เพราะมาก!”
“เพลงภาษาอังกฤษที่เซี่ยนอวี๋เขียนสุดยอดจริงๆ !”
“เวอร์ชันภาษาอังกฤษของเพลงจูบลาก็โหดพอแล้วนะ นึกไม่ถึงว่าเซี่ยนอวี๋ยังมีเพลงที่โหดกว่าอีก!”
“ทำไมถึงรู้สึกว่าเซี่ยนอวี๋เข้าใจเพลงภาษาอังกฤษมากกว่าคนหานอีก”
“เดือนที่แล้วยังออมมือให้ชาวหานใช่ไหม”
“ถ้าเขาหยิบเพลงนี้ออกมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว คนหานโดนจัดการเรียบแน่นอน”
“ไม่มีใครเข้าใจเพลงภาษาถิ่นหานโจวไปกว่าเซี่ยนอวี๋อีกแล้ว แม้แต่ชาวหาน!”
“ฉันเฉยๆ กับเพลงภาษาอังกฤษ เพลงนี้ของเซี่ยนอวี๋เป็นข้อยกเว้น เพราะมากเลย!”
……
ฝั่งตรงข้ามของหลินเยวียน
อู่หลงแบมือยักไหล่อย่างจนใจ
ยังจะให้แข่งอะไรอีกล่ะ!
เหลียงจือหยวนซึ่งอยู่ด้านข้างมีท่าทางหมดอาลัยตายอยาก
จับสลากได้เซี่ยนอวี๋ ฉากที่จะเกิดขึ้นก็ถูกลิขิตชะตามาแล้ว
อย่าว่าแต่ทีมของเขาเลย
ต่อให้เป็นอีกสองทีมด้านข้างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเพลงนี้!
ก่อนหน้านี้เข้าร่วมรายการราชาหน้ากากนักร้อง อู่หลงได้เห็นเวทีอันน่าทึ่งของเซี่ยนอวี๋เป็นประจักษ์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
การแข่งขันนี้ เป็นเพียงภาคต่อจากราชาหน้ากากนักร้องก็เท่านั้นเอง
……
บนโลกออนไลน์
ผู้ชมจากแต่ละทวีปต่างพูดคุยกันอย่างคึกคักบนคอมเมนต์
‘เพลงนี่สุดยอดมาก!’
‘ตลกมาก ชาวหานถึงกับขอบคุณเซี่ยนอวี๋!’
‘ที่ผ่านมาชาวหานไม่ได้ทะนงตนมากหรอกหรือ?’
‘เรื่องนี้พวกคุณไม่รู้ซะแล้ว ชาวหานทะนงตนมากก็จริง แต่ชาวหานก็ชื่นชมคนเก่ง’
‘เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาหลายเท่า ชาวหานจึงถ่อมตัวมากกว่าคนจากทวีปไหนๆ ’
‘พ่อเพลงอวี๋ใจดีมาก เดือนก่อนตกเป็นเป้าหมายของชาวหาน แต่ยังเลือกที่จะไม่ล้างบาง’
‘เรียกว่าใช้คุณธรรมเอาชนะผู้คน’
‘ถึงอย่างพ่อเพลงอวี๋ก็ไม่ใช่เจ้าแก่ฉู่ขวงที่เย็นชาไร้ปรานี พ่อเพลงอวี๋คือสุภาพบุรุษที่อบอุ่นและอ่อนโยน’
‘อบอุ่นมาก!’
‘นี่คือเสน่ห์เฉพาะตัวละ’
‘ก่อนหน้านี้แพ้ให้เพลงจูบลาเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ยังมีชาวหานบางคนไม่ยอมรับ แต่ตอนนี้ดูสิ ยอมรับกันหมดแล้ว ’
……
ทันทีที่เพลงนี้ออกมา ไม่เพียงชาวหาน
ชาวเน็ตจากฉินฉีฉู่เยี่ยนต่างเข้าใจตรงกัน
เมื่อเดือนก่อนเซี่ยนอวี๋ออมมือแล้ว
ต้องเข้าใจ
ว่าเมื่อเดือนก่อนชาวหานโจมจีเซี่ยนอวี๋ไม่น้อย
แต่เซี่ยนอวี๋กลับไม่ได้คิดหยุมหยิม เพียงแต่ใช้เพลงจูบลาเวอร์ชันภาษาอังกฤษลงโทษเล็กน้อย
นี่คือภาพใหญ่!
นี่คือความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล!
……
การแสดงของเจียงขุยสิ้นสุดลงในที่สุด
เสียงปรบมือในห้องส่งดังกึงก้อง
เวทีต่อไปคือเกมของอู่หลงและเหลียงจื่อหยวน
ถึงอย่างไรก็เป็นนักร้อง
ถึงแม้เหลียงจื่อหยวนจะแบกรับแรงกดดันมากมาย แต่เขา ยังคงแสดงฝีมือได้อย่างสมบูรณ์เมื่อขึ้นไปยืนบนเวที
แต่น่าเสียดาย…
ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งเหลียงจื่อหยวนและเจียงขุยล้วนแสดงฝีมือได้โดดเด่น สิ่งที่ใช้ในการเปรียบเทียบคือตัวบทเพลง
และถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าเซี่ยนอวี๋ชนะ
คะแนนโหวตของผู้ชมได้พิสูจน์จุดนี้เช่นกัน
สุดท้าย
ในรอบแรกแรกของรอบรองชนะเลิศ เจียงขุยคว้าชัยชนะและเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
หลังจากนี้หลินเยวียนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหลินเยวียนแล้ว
ช่วยเจียงขุยแข่งขันรอบรองชนะเลิศแล้ว หลังจากนี้ต้องพึ่งพาเจียงขุยแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนยังคงเฝ้าดูการแข่งขันที่เหลือด้วยความสนใจอย่างมาก
ในรอบที่สอง ซูอวี๋แข่งขันกับเฟ่ยหยาง
ผลปรากฏว่า เฟ่ยหยางซึ่งเอาชนะซูอวี๋ในราชาหน้ากากนักร้องกลับพ่ายแพ้
นี่คือการแข่งขัน
ไม่มีอะไรแน่นอน
เพราะฉะนั้น…
ซูอวี๋และเจียงขุยจึงเผชิญหน้ากันในรอบชิงชนะเลิศ
หลินเยวียนรับชมรอบชิงชนะเลิศอย่างเพลิดเพลินใจ
เจียงขุยแพ้ในท้ายที่สุด
ทว่าคะแนนสุดท้ายของเธอไม่ต่างจากซูอวี๋มากนัก
ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ชม ซูอวี๋ก้าวขึ้นบัลลังก์แชมป์รายการเพลงของเราอย่างเป็นทางการ!
……
และในช่วงครึ่งหลังของรายการ
การจัดอันดับฤดูกาลเพลงกลับเผยสัญญาณแห่งความโกลาหล
เนื่องจากขณะที่เจียงขุยขึ้นเวทีขับร้องเพลงพระเจ้าคือผู้หญิงเพลงนี้ก็เปิดตัวบนแอปพลิเคชันเล่นเพลงรายใหญ่แต่ละแห่งด้วย!
พรึบๆๆ !
รวดเร็วประหนึ่งจรวด
แม้ว่าเพลงนี้จะปล่อยออกมาช้ากว่าเพลงอื่นๆ บนชาร์ตเพลงเดือนมีนาคม แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความสำเร็จอันราบรื่นของเพลงพระเจ้าคือผู้หญิง!
นักร้องซึ่งเข้าร่วมฤดูกาลเพลงในเดือนมีนาคมแทบล้มทั้งยืน!
“ทำไมเป็นเซี่ยนอวี๋อีกแล้ว!”
“ไม่คิดจะไว้ชีวิตกันเลยหรือไง!”
“มีเซี่ยนอวี๋ติดต่อกันมาสามฤดูกาลแล้วนะ!”
“ช่วงสองเดือนแรกมีเซี่ยนอวี๋ ฉันไม่กล้าปล่อยเพลง ตอนแรกคิดว่าฤดูกาลเดือนมีนาเขาจะหยุดพัก นึกไม่ถึงว่าเขาจะปล่อยเพลงใหม่ในรายการ!”
“เซี่ยนอวี๋มีแววว่าจะเป็นแชมป์สามสมัยรวด”
“เขาคงไม่ได้คิดไม่ตกที่ตัวเองไม่ได้แชมป์สามสมัยในมหาสงครามเทพเซียน เลยปลอบใจตัวเองด้วยแชมป์สามสมัยในฤดูกาลเพลงหรอกใช่ไหม?”
“ฉันน่าจะปล่อยเพลงเดือนหน้า!”
“เดือนหน้าเซี่ยนอวี๋คงไม่ปล่อยเพลงแล้วใช่ไหม?”
“…”
หนึ่งปีมีเพียงสิบสองฤดูกาลเพลง
เซี่ยนอวี๋เพียงคนเดียวก็ครองไปสามฤดูกาลแล้ว
อย่าว่าแต่นักร้องคนอื่นเลย
แม้แต่พ่อเพลงบางส่วนยังต้านทานไม่ไหว
ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันนี้ฉินฉีฉู่เยี่ยนหานผนวกรวมกันแล้ว พ่อเพลงสามารถลงมือได้แทบทุกเดือน เว้นเสียแต่เกิดเหตุการณ์เฉพาะกิจ
ทว่าเมื่อมีปลาตัวนี้ แม้แต่พ่อเพลงก็ไม่มีโอกาสได้คว้าแชมป์
ทุกคนเพียงแค่โยกย้ายความหวังไปใส่ไว้ในเดือนหน้า
จัดเต็มมาสามฤดูกาลติดต่อกัน ปลาตัวนี้ควรหยุดได้แล้วสินะ?
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คว้า ‘แชมป์สามสมัยซ้อน’ ได้สำเร็จ
แม้ว่าน้ำหนักของแชมป์สามสมัยนี้จะห่างไกลจนไม่อาจเทียบได้กับแชมป์สามสมัยในมหาสงครามเทพเซียนก็ตาม
หลินเยวียนไม่ได้ล่วงรู้ถึงปฏิกิริยาของผู้คนในวงการ
หลังจากการแข่งขันจบลง เขาเห็นเจียงขุยนั่งยองอยู่ในมุมห้อง ก้มมองดูพื้นด้วยความงุนงง
“ไหวไหมครับ”
หลินเยวียนเอ่ยถามเสียงเบา
เขาพอใจเข้าใจความรู้สึกของเจียงขุย
ความรู้สึกของการพลาดชัยชนะไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปดนั้นไม่ได้สวยงามเท่าไหร่นัก
แม้ว่าสำหรับหลายคน เจียงขุยทำได้ดีมากพอแล้ว
เจียงขุยมองไปยังหลินเยวียน มุมปากเบ้ลง ทันใดนั้นก็ร้องไห้ ‘โฮ’ ออกมาในทันที
“ฉันทำให้คุณเสียหน้า…”
ทั้งที่พยายามกลั้นน้ำตาในยามที่ขมขื่นที่สุด แต่คำพูดแสดงความเป็นห่วงของหลินเยวียน กลับทำให้กำแพงของเจียงขุยทลายลง น้ำตาพรั่งพรูออกมาในทันใด
“คุณร้องได้ดีมาก”
หลินเยวียนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม มือพลางยื่นไปลูบศีรษะของเจียงขุย
เหตุผลหลักคือเจียงขุยตัวเล็กมาก ยื่นมือออกไปก็ลูบศีรษะได้แล้ว
“ฮือๆๆๆ !”
เจียงขุยร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม และโผเข้ากอดหลินเยวียนร้องไห้
หลินเยวียนลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่ไม่ได้ผลักอีกฝ่ายออก
เมื่อก่อนน้องสาวทำคะแนนสอบได้ไม่ดี ก็ชอบกลับบ้านมากอดหลินเยวียนร้องไห้เช่นนี้
“ขอโทษนะคะ!”
ร้องไปร้องมา จู่ๆ เจียงขุยก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ฉันบ้าไปแล้วหรือไง?
ไปกอดอาจารย์เซี่ยนอวี๋ร้องไห้ซะแล้ว?
แถมเสื้อของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ยังเปียกน้ำตาฉันอีก!
“ฉัน…ฉัน…”
เจียงขุยรีบถอยไปครึ่งก้าว พยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก ทว่าสุดท้ายผ่านไปนานกลับพูดไม่ออกเลยสักประโยค
ไม่ทันไร น้ำตาก็ยิ่งเอ่อท้นมากขึ้น
สำหรับนักร้องในราชวงศ์ปลา ภาพลักษณ์ของเซี่ยนอวี๋ประหนึ่งอาจารย์ อยากเข้าหาแต่กลับไม่กล้าเข้าหา
พวกเขามักรู้สึกว่าถ้าหากขยับเข้าใกล้อีกสักนิด จะเป็นการล่วงเกินอีกฝ่าย
เพราะฉะนั้นในราชวงศ์ปลา ต่อให้เป็นซุนเย่าหั่วที่สนิทสนมกับเซี่ยนอวี๋ก็ยังหลีกเลี่ยงการถูกเนื้อต้องตัวเซี่ยนอวี๋ตามสัญชาตญาณ
ในครั้งนี้เจียงขุยจิตใจแหลกสลาย ถึงได้ทำสิ่งที่ไม่กล้าทำในสถานการณ์ปกติลงไป
“ไม่เป็นไรครับ”
ในความคิดของหลินเยวียน การสวมกอดเช่นนี้ไม่ได้ถึงขั้นเป็นการล่วงเกิน
เพราะเมื่อก่อนน้องสาวมักจะมาร้องไห้กับเขาเสมอ เขาจึงมีประสบการณ์ในการปลอบใจผู้หญิงมาอย่างโชกโชน
“อาจารย์ซูอวี๋ร้องเพลงได้ดีกว่าคุณจริงๆ ”
เสียงร้องไห้ของเจียงขุยหยุดชะงักลงชั่วขณะ
หลินเยวียนผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก หันไปยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เจียงขุย
เขาเชี่ยวชาญการปลอบใจผู้หญิงจริงด้วย
นี้คือตัวอย่างของผู้เชี่ยวชาญในการปลอบใจผู้หญิงหรอคะ🤣🤣