ราชาซากศพ – บทที่ 283 สละสิ้นทุกอย่าง

ราชาซากศพ

บท​ที่​ 283

สละ​สิ้น​ทุกอย่าง​

น้อย​มาก​ที่จะ​สามารถ​พบ​มนุษย์​ใน​ดินแดน​ลับ​แห่ง​นี้​ได้​ เนื่องจาก​ทุกครั้งที่​ดินแดน​ลับ​ถูก​เปิด​ขึ้น​ จะคงอยู่​อยู่​ได้​เพียง​หนึ่ง​ปี​ นอกจากนี้​ มนุษย์​ที่จะ​ก้าว​เข้ามา​ ต้อง​มีอายุ​ต่ำกว่า​ 30 ปี​

อย่างไรก็ตาม​สำหรับ​สัตว์​อสูร​ ไม่มีข้อจำกัด​ใน​เรื่อง​นี้​ พวก​มัน​สามารถ​เข้ามา​ได้​ง่ายดาย​ แต่​ยาก​ที่จะ​กลับ​ออก​ไป​ สัตว์​อสูร​ที่​ไร้​เจ้านาย​..ไม่ว่า​จะมาจาก​ดินแดน​ภายนอก​ หรือ​เกิด​ใน​ที่​ดินแดน​ลับ​ ล้วน​ไม่สามารถ​ออกจาก​ที่นี่​ไป​ได้​ มัน​จะต้อง​ทำสัญญา​

กับ​มนุษย์​ และ​กลายเป็น​สัตว์เลี้ยง​ของ​อีก​ฝ่าย​ จึงจะสามารถ​ติดตาม​อีก​ฝ่าย​ เพื่อ​ออก​ไป​ภายนอก​ได้​ เมื่อ​ถึงเวลา​

เห็นได้ชัด​ว่า​ มังกร​ดำ​ไม่ต้องการ​อยู่​ที่นี่​ต่อ​ เพราะ​พื้นที่​ของ​ดินแดน​ลับ​นั้น​ ไม่สามารถ​เปรียบเทียบ​กับ​โลก​ภายนอก​ได้​ สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ ข้อจำกัด​ของ​ความ​แข็งแกร่ง​ เพราะ​ใน​ดินแดน​ลับ​นี้​ สัตว์​อสูร​ไม่สามารถ​ฝึกฝน​จน​ทะลวง​ผ่าน​ระดับ​ศักดิ์สิทธิ์​

ไม่ว่า​จะฝึกฝน​อย่างไร​ก็​ถึงขีดจำกัด​

แต่​มัน​ก็​รู้​ว่า​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​นั้น​แข็งแกร่ง​กว่า​มัน​ และ​ความ​แข็งแกร่ง​นี้​ สามารถ​สังหาร​มัน​ได้​ ดังนั้น​ภายในใจ​ของ​มังกร​ดำ​ หลังจาก​ดิ้นรน​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ก็​ยอมจำนน​

หลังจาก​รอ​สักพัก​ ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ก็​ขมวดคิ้ว​ และ​แสดง​ความ​ไม่อดทน​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​

ก่อนที่จะ​รอ​ให้​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขา​วจะ​อ้า​ปาก​ สัตว์​อสูร​หมาป่า​ลมกรด​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ เขา​เห็น​การแสดงออก​บน​ใบหน้า​ของ​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ และ​บังเกิด​ดวงตา​เป็นประกาย​ เขา​รีบ​ตรง​ไป​ที่​ กัว​ห​ลี่​อ้า​ปาก​และ​กัด​เขา​

“หยุด​! หยุด​มัน​

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ปาก​ที่​เปื้อน​เลือด​ รูม่านตา​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ขยายตัว​ขึ้น​ พร้อมกับ​กลิ่น​โลหิต​ของ​ร่าง​ตนเอง​โชย​มา กัว​ห​ลี่​จึงตกใจ​ตะลึง​ เขา​สูด​ลมหายใจ​เย็น​ ๆ พุ่ง​เข้าสู่​สมอง​ ความหวาดกลัว​ใน​ใจของ​เขา​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​นับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​

ใน​ชั่วพริบตา​ เขา​ไม่สามารถ​ทน​ได้​อีกต่อไป​ เขา​รีบ​อ้า​ปาก​และ​ร้องเรียก​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ปาก​ใหญ่​นั้น​ไม่ได้​หยุด​ลง​ กัว​ห​ลี่​พบ​ว่า​น้ำลาย​จาก​ปาก​ใหญ่​ๆ ไหล​ยืด​เปรอะเปื้อน​ร่าง​ของ​เขา​ เขา​หวาดกลัว​และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กลืนน้ำลาย​ จากนั้น​ริมฝีปาก​สั่น​ๆ ก็​อ้า​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​สัญญา!”

ทันทีที่​พูด​คำ​นั้น​เปล่ง​ออกมา​ กัว​ห​ลี่​ก็​กัดฟัน​ ปรากฏ​ชิ้นส่วน​ของ​อาวุธ​ ขึ้น​บน​ร่างกาย​ของ​เขา​ จากนั้น​เขา​ก็​ถอด​อาวุธ​ออก​ทีละ​ชิ้น​ จากนั้น​เขา​ก็​หยิบ​แหวน​มิติ​มาไว้​ใน​มือ​

และ​ในที่สุด​ เขา​ก็​ปล่อย​แหวน​มิติ​ และ​โยน​มัน​ไป​ที่​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ ซึ่งเปลี่ยนเป็น​ร่าง​มนุษย์​แล้ว​

ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​เข้า​ยึด​แหวน​มิติ​ และ​ยังคง​มอง​ไป​ที่​กัว​ห​ลี่​ และ​สัตว์​อสูร​หมาป่า​ลมกรด​ ที่​ไม่ยอม​ขยับ​ปาก​ใหญ่​ของ​มัน​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​เขา​

กัว​ห​ลี่​รู้​โดยธรรมชาติ​ว่า​ พวก​มัน​กำลัง​รอเวลา​ และ​ถอนหายใจ​ ครู่​ต่อมา​พลัง​จิตวิญญาณ​หลุด​ออกจาก​คิ้ว​ของ​เขา​ และ​พุ่ง​ไป​ที่​ศีรษะ​ของ​มังกร​ดำ​

ใน​ตอนนั้น​ใบหน้า​ของ​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ หลงเหลือ​เพียง​รอยยิ้ม​พอใจ​ นาง​พยักหน้า​และ​พูดว่า​: “ไสหัวไป​”

“กัว​ห​ลี่​พยักหน้า​และ​หันไป​ อย่าง​รีบร้อน​ นับ​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ เขา​ไม่ได้​เหลือบมอง​ไป​ที่​มังกร​ดำ​ ส่วน​สหาย​อื่น​ ๆ เขา​ไม่ได้​ตั้งใจ​ที่จะ​พา​พวก​มัน​กลับ​ไป​ด้วย​

เมื่อ​เห็น​ร่าง​ของ​กัว​ห​ลี่​จากไป​ ด้วย​ความ​สับสน​ หลิน​เว่ย​รู้สึก​กังวล​เล็กน้อย​ เขา​รู้​ว่า​…ต่อไป​ มัน​คือ​การ​ตัดสิน​ชะตา​ของ​เขา​ เขา​อด​สงสัย​ไม่ได้​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะทำ​อะไร​กับ​เขา​? ทิ้ง​สมบัติ​ทั้งหมด​? แต่​เขา​ไม่มีสมบัติ​อะไร​

อย่างไรก็ตาม​สิ่งของ​ของ​เขา​ทั้งหมด​ อยู่​ใน​พื้นที่​มิติ​ แหวน​มิติ​บน​มือ​ของ​เขา​ ไม่ได้​มีอะไร​ล้ำค่า​

น่าเสียดาย​ที่​เขา​ได้​อาวุธ​ลึกลับ​ชิ้น​นี้​มาได้​ แต่​ไม่ใช่ว่า​ เรา​จะยอมแพ้​ ด้วย​พละกำลัง​และ​เวลา​ของ​เขา​ ย่อม​ทำให้​สามารถ​นำ​มัน​กลับคืน​มาอีกครั้ง​

ตรงกันข้าม​ สำหรับ​เสี่ยว​ชิง เขา​ลังเล​ที่จะ​ละทิ้ง​ ท้ายที่สุด​แล้ว​อีก​ฝ่าย​ก็​ติดตาม​เขา​มานาน​กว่า​สามปี​ ซึ่งเขา​ก็​รู้สึก​ผูกพัน​ ยิ่งไปกว่านั้น​ ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​ระดับ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​อีก​ฝ่าย​ มัน​มีค่า​มากกว่า​อาวุธ​ลึกลับ​เหล่านั้น​

“ หวือ​!”ขณะที่​หลิน​เว่ย​ก้ม​ศีรษะ​ลง​เพื่อ​ไตร่ตรอง​ เสียง​ครวญคราง​เหนือ​อากาศ​ก็​ดัง​ขึ้น​ หลิน​เว่ย​เอื้อมมือ​ออก​ไป​ทันที​โดยไม่รู้ตัว​ และ​คว้า​แหวน​มิติ​ไว้​ใน​มือ​โดยไม่รู้ตัว​ เมื่อ​เขา​พบ​ว่า​แหวน​มิติ​นี้​ เป็น​แหวน​ที่​กัว​ห​ลี่​โยน​ให้​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​

หลิน​เว่ย​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ใน​ชั่ว​อึดใจ​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ตกตะลึง​

หลิน​เว่ย​ไม่เข้าใจ​ว่า​ เหตุใด​อีก​ฝ่าย​จึงโยน​สิ่งของ​ที่​ตนเอง​ได้มา​ให้​เขา​? เรื่อง​นี้​ทำให้​หลิน​เว่ย​งงงวย​ ใน​ขณะนี้​สมอง​ของ​เขา​มึนตึง​ แม้แต่​สัตว์​อสูร​หมาป่า​ลมกรด​ เมื่อ​เห็น​การกระทำ​ของ​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​

ตัว​มัน​เอง​ก็​ยัง​งงงวย​และ​คาดเดา​ไม่ถูกว่า​ ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​มอบ​สิ่งของ​ให้​แก่​มนุษย์​เพราะเหตุใด​? แน่นอน​พวกเขา​แค่​อยากรู้​ แต่​พวกเขา​ไม่กล้า​ถาม ท้ายที่สุด​ สิ่งที่​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ต้องการ​ทำ​ ไม่ใช่สิ่งที่​พวกเขา​สามารถ​ท้วงติง​ได้​

“เอ่อ​…อาวุโส​! ข้า​?” หลิน​เว่ย​มอง​ไป​ที่​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ ด้วย​ความ​ไม่อยาก​จะเชื่อ​ บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ เขา​ขมวดคิ้ว​และ​ถามขึ้น​

“น้องชาย​! นี่​เป็น​ของขวัญ​จาก​พี่สาว​อย่าง​ข้า​ หญิงสาว​ หรือ​ราชา​สัตว์​อสูร​เสือ​ขาว​ มอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ เอ่ย​เสียง​ที่​ชัดเจน​ดัง​ออกมา​ช้า ๆ

“ น้องชาย​?” เมื่อ​ได้ยิน​ที่​อีก​ฝ่าย​พูด​กับ​เขา​ หลิน​เว่ย​ก็​เงอะงะ​ และ​ปาก​ของ​เขา​กระตุก​เล็กน้อย​ ถือได้ว่า​ นาง​อาจจะ​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​เขา​ เมื่อ​เทียบ​จาก​อายุ​แล้ว​ แต่​เขา​ไม่รู้​จริง​ว่า​ เคย​นับ​ญาติ​กัน​ตั้งแต่​เมื่อใด​

“ อืม​ พี่สาว​ถูก​หรือไม่​… เพราะ​ข้า​อายุ​มากกว่า​เจ้า?” หญิงสาว​ขมวดคิ้ว​และ​มอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​กันและกัน​ หลิน​เว่ย​รู้สึก​หนาวสั่น​ที่​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ และ​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​ตื่นเต้น​ทันที​ เขา​พูด​อย่าง​รีบร้อน​“ ไม่แน่นอน​ พี่สาว​เสือ​ขาว​ ท่าน​ยัง​เด็ก​และ​งดงาม​ไร้​ผู้​เปรียบเทียบ​” หลังจากที่​เขา​อ้า​ปาก​ออกมา​

หยด​เหงื่อ​สอง​สามหยด​ก็​ไหลริน​ ตกลง​มาจาก​หน้าผาก​ของ​เขา​

“พี่สาว​เสือ​ขาว​! ไม่…เรียก​ข้า​ว่า​ จื่อห​ยู​ หรือ​เรียก​ข้า​ว่า​พี่สาว​ห​ยู​เอ๋อ​ ใน​ภายหลัง​” หญิงสาว​หัน​ริมฝีปาก​ของ​เธอ​ และ​กล่าว​ด้วย​ความรังเกียจ​

“ เสือ​…จะมีชื่อ​ที่​ไพเราะ​ได้​อย่างไร​?” หลิน​เว่ย​รู้สึก​ประหลาดใจ​ เมื่อ​คิดได้​ จากนั้น​เขา​ก็​พยักหน้า​และ​กล่าวว่า​ “ทักทาย​ พี่สาว​ห​ยู​เอ๋อ​! น้องชาย​หลิน​เว่ย!​ ยินดี​ที่​ได้​พบ​ท่าน​”

“ดี​! เยี่ยม​มาก​! ข้า​จะเรียก​เจ้าว่า​ เสี่ยว​เว่ย​ หลังจากนั้น​ จื่อห​ยู​ พยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ เสี่ยว​เว่ย​ หลิน​เว่ย​กระพริบตา​ เขา​กำลังจะ​เปิดปาก​ แต่​เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​ นาง​ก็​ขมวดคิ้ว​และ​ถามว่า​ “เจ้ามีปัญหา​?” หลิน​เว่ย​ส่าย​หัว​อย่าง​รวดเร็ว​และ​กล่าวว่า​ “ไม่! ไม่มีปัญหา​ แต่​ข้า​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดว่า​” ท่าน​มีเรื่อง​ที่จะ​ต้อง​สะสางกับ​ข้า​หรือ​? ”

“อืม​! จากนี้ไป​ พวกเรา​ก็​เป็น​คนกันเอง​ ไม่ต้อง​มีพิธี​” จื่อห​ยู​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ จากนั้น​ก็​พูด​กับ​เหล่า​ลูกน้อง​ของ​นาง​ว่า​ ” พวก​เจ้าไม่สามารถ​กลั่นแกล้ง​เขา​ได้​ ไม่เช่นนั้น​ ข้า​จะ … ”

“ขอรับ​ ….เรา​เข้าใจ​ เมื่อ​เห็น​การแสดงออก​บน​ใบหน้า​ของ​จื่อห​ยู​ พวกเขา​พยักหน้า​อย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​ทุกคน​ก็​มอง​ไป​ที่​ หลิน​เว่ย​

” พี่สาว​ห​ยู​เอ๋อ​! ข้า​จะช่วย​อะไร​ท่าน​ได้​บ้าง​? หลิน​เว่ย​มอง​ไป​ที่​ จื่อห​ยู​ อย่าง​ลังเล​ และ​ถามด้วย​ใบหน้า​ขมวดคิ้ว​

หลิน​เว่ย​ไม่เชื่อ​ว่า​ อีก​ฝ่าย​จะมีจิต​ใจดี​ต่อ​เขา​ และ​ไม่หวัง​ผลตอบแทน​ เขา​จึงไม่ลังเล​ที่จะ​ก้มหัว​ให้​และ​พูด​ออกมา​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

“เสี่ยว​เว่ย..​เจ้าฉลาด​มาก​! เนื่องจาก​เจ้ากระตือรือร้น​มาก​ ข้า​จึงไม่เกรงใจ​” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หลิน​เว่ย​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ จื่อห​ยู​ ก็​สดใส​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ ผา​ยล​ม…ฉลาด​! แม้แต่​คนโง่​ก็​ยัง​เห็น​แบบ​นั้น​ เจ้าหรือ​จะสุภาพ​กับ​ข้า​ถึงเพียงนี้​?” หลิน​เว่ย​แอบ​พึมพำ​ใน​ใจ แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​อมยิ้ม​ เขา​พยักหน้า​และ​พูดว่า​“ พี่สาว​โปรด​พูด​มาตา​มต​รง.​.. ตราบใดที่​ข้า​ทำได้​ ข้า​จะรับรอง​ว่า​จะไม่บิดพลิ้ว​ ”

“อืม​! ดี​ จื่อห​ยู​ พยักหน้า​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ จากนั้น​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​”เจ้าทำได้​แน่นอน​ เป็น​แค่​ขนมหวาน​สำหรับ​เจ้า”

“หืม?”​ เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งที่​อีก​ฝ่าย​พูด​อย่าง​มั่นใจ​มาก​ หลิน​เว่ย​ก็​ตะลึง​ไป​ชั่วขณะ​ จากนั้น​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เบิก​กว้าง​ ทันใดนั้น​ความคิด​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ใจของ​เขา​ เขา​คิด​เข้าข้าง​ตัวเอง​ว่า​ อีก​ฝ่าย​น่าจะ​เตรียมพร้อม​ที่จะ​ให้​พา​นาง​หนี​ออก​ไป​จาก​ดินแดน​ลับ​?

ความคิด​นี้​ กลับ​เพิ่ง​เกิดขึ้น​ แต่​ หลิน​เว่ย​ก็​ปฏิเสธ​มัน​ทันที​ เขา​เพิ่งจะ​มาที่นี่​ และ​จะกลาย​เป็นที่​โปรดปราน​ของ​นาง​ได้​อย่างไร​ แม้ว่า​เขา​จะทำสัญญา​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​บังคับ​นาง​ได้​

แน่นอน​ว่า​เพราะ​ข้อตกลง​การทำสัญญา​แบบ​ไม่ผูกมัด​ หลิน​เว่ย​ไม่สามารถ​บังคับ​อีก​ฝ่าย​ให้​ทำ​ใน​สิ่งที่​เขา​ไม่อยาก​ทำ​ ยิ่งไปกว่านั้น​แม้ว่า​ร่างกาย​ของ​หลิน​เว่ย​จะตาย​ลง​ไป​ มัน​ก็​จะไม่ส่งผลกระทบ​อย่าง​มากมาย​นัก​ต่อ​อีก​ฝ่าย​

หลังจาก​การตาย​ของ​หลิน​เว่ย​สัญญาจะสิ้นสุดลง​ และ​พลัง​จิตวิญญาณ​ของ​อีก​ฝ่าย​จะกลับคืน​สู่ร่าง​โดยอัตโนมัติ​

เช่นเดียวกับ​ กัว​ห​ลี่​และ​มังกร​ดำ​ ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ได้​ลงนาม​ใน​สัญญาแห่ง​ความเท่าเทียมกัน​ ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​มังกร​ดำ​และ​ความเย่อหยิ่ง​ของ​มัน​ พวก​มัน​จะยอม​เป็น​สัตว์เลี้ยง​ของ​วิหาร​เร้นลับ​ได้​อย่างไร​

แม้ว่า​จะเป็น​สัญญาแห่ง​ความเท่าเทียมกัน​ แต่​มนุษย์​ก็​เป็น​ผู้สร้าง​พันธสัญญา​ขึ้น​ ดังนั้น​จึงไม่เท่าเทียมกัน​อย่าง​สมบูรณ์​ เนื่องจาก​สัญญานั้น​ถูก​สร้าง​ขึ้น​โดย​มนุษย์​

ดังนั้น​หาก​หลิน​เว่ย​ยินยอม​ เขา​สามารถ​ลบ​พลัง​จิตวิญญาณ​ได้​ เมื่อ​ยาม​ที่​เขา​เซ็นสัญญา​ ด้วย​วิธี​นี้​แม้ว่า​อีก​ฝ่าย​จะไม่ตาย​ แต่​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​ได้รับ​ความเสียหาย​ ก็​เป็น​สิ่งที่​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ หาก​เขา​ต้องการ​ที่จะ​ฟื้นฟู​ มัน​จะต้อง​สูญเสีย​อย่าง​หนัก​

ซึ่งจะส่งผล​อย่าง​มาก​ต่อ​ความ​แข็งแกร่ง​และ​การฝึกฝน​ตามปกติ​ของ​เขา​

ดังนั้น​หลิน​เว่ย​จึงรู้สึก​ว่า​ ความคิด​ของ​เขา​ไม่มีท่า​เป็นไปได้​ แม้อีก​ฝ่าย​จะเสี่ยง​ต่อ​การ​เกิด​ความเสียหาย​ทาง​วิญญาณ​ของ​เขา​ แล้​วจะ​ทำสัญญา​กับ​ตัวเอง​ได้​อย่างไร​

“อันที่จริง​! พี่สาว​ต้องการ​ให้​เจ้า พา​เรา​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​” จื่อห​ยู​ไม่รู้​ว่า​ หลิน​เว่ย​คิด​อะไร​ นาง​ไม่ลังเลใจ​ และ​พูดตรงไปตรงมา​

“เรื่อง​นี้​…!” หลิน​เว่ย​เวียนหัว​เล็กน้อย​ ความคิด​ของ​เขา​ขัดแย้ง​กัน​ โดยที่​เขา​ไม่อาจจะ​เชื่อ​ว่า​ มัน​จะเป็น​เรื่องจริง​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​?” จื่อห​ยู​ แสดง​สีหน้า​งงงวย​ และ​ถามด้วย​การ​ขมวดคิ้ว​

มัน​เป็นเรื่อง​ง่าย​สำหรับ​ข้า​ แต่​ข้า​สงสัย​ว่า​…ทำไม​ท่าน​ถึงเลือก​ข้า​? “หลิน​เว่ย​ส่าย​หัว​ลังเล​ครู่หนึ่ง​ มอง​ไป​ที่​ จื่อห​ยู​อย่าง​จริงจัง​และ​ถามด้วย​การ​ขมวดคิ้ว​

“โอ้​! พี่สาว​จะบอก​ให้​! อายุขัย​ของ​ข้า​สั้น​มาก​ มัน​เหลือ​เวลา​อีก​หลาย​ร้อย​ปี​ ข้า​ไม่เคย​คิด​ที่จะ​ออกจาก​ที่นี่​มาก่อน​ แต่​ตอนนี้​มัน​ต่าง​ออก​ไป​ หาก​ข้า​ไม่สามารถ​ทะลวง​ด่าน​ก้าว​ข้าม​ความ​แข็งแกร่ง​ต่อไป​ได้​ ไม่ว่า​ใน​กรณี​ใด​ ๆ ข้า​ไม่ยินยอม​ที่จะ​ตาย​เช่นนี้​

ดังนั้น​ … ” นาง​ถอนหายใจ​ ด้วย​ใบ​หน้าที่​ไม่เต็มใจ​ที่จะ​พูด​

“เหตุใด​ถึงเลือก​เจ้า… เพราะ​ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ใน​หมู่​มนุษย์​ที่​ข้า​ได้​พบ​ มีเพียง​จิตวิญญาณ​ของ​เจ้าเท่านั้น​ ที่​มาถึงระดับ​ศักดิ์สิทธิ์​” จื่อห​ยู​กล่าว​ พร้อมกับ​อุทาน​

ราชาซากศพ

ราชาซากศพ

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง ราชาซากศพ รายละเอียด หลินเว่ย ขอทานตัวน้อยที่โดนทำลายฐานพลัง วันหนึ่งได้เจอคริสตัลสีดำปริศนา ซึ่งมีความสามารถให้การคืนชีพซากศพสัตว์อสูรให้เป็นนักรบโครงกระดูก ที่มีทักษะความสามารถเหมือนยามมีชีวิต เรื่องราวการผจญภัยของราชาคนใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท