ราชาซากศพ – บทที่ 291 ตามหาสหายที่พลัดหลง

ราชาซากศพ

บท​ที่​ 291

ตามหา​สหาย​ที่​พลัด​หลง​

เสียง​ประหลาดใจ​ของ​จื่อห​ยู​ ไม่ได้​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​หู​หนิ​ว​ และ​เสี่ยว​หมี​ ใน​ขณะนี้​พวกเขา​ยังคง​จ้องมอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​ด้วย​ความ​ขนลุก​ กับ​กลิ่น​เหม็น​ของ​หลิน​เว่ย​

จื่อห​ยู​มอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​ใน​ทะเลสาบ​ แต่​มุมปาก​ของ​นาง​กลับ​ยกขึ้น​ และ​มีรอยยิ้ม​ออกมา​ นาง​พบ​ว่า​ความสำเร็จ​ของ​ หลิน​เว่ย​นั้น​เทียบ​เท่ากับ​ขั้น​เก้า​เท่านั้น​ และ​ไม่ได้​ทะลวง​ไป​ถึงระดับ​ศักดิ์สิทธิ์​ อย่างไรก็ตาม​

นาง​เพิ่ง​ค้นพบ​ว่า​ หลิน​เว่ย​มีร่องรอย​ความเข้าใจ​ของ​ความ​ถ่องแท้​อย่าง​สมบูรณ์​

แน่นอน​ว่าความ​เชี่ยวชาญ​ใน​พลัง​ลึกลับ​นี้​ของ​ หลิน​เว่ย​นั้น​อยู่​ที่​ประมาณ​ครึ่ง​ส่วน​ และ​ไม่มีภัย​คุกคาม​ใด​ ๆ ต่อ​นาง​ แต่​เป็น​พลัง​ความ​เข้าใจถ่องแท้​ ที่​ทำให้​นาง​รู้สึก​โล่งใจ​และ​วาง​หิน​ก้อน​ใหญ่​ลง​ได้​ อย่าง​สมบูรณ์​

เนื่องจาก​ผ่าน​การ​ชำระล้าง​ของ​พลังงาน​แห่ง​สวรรค์​และ​โลก​เท่านั้น​ จิตวิญญาณ​จึงเปลี่ยนแปลง​และ​ปรับตัว​ให้​เข้ากับ​พลังงาน​ของ​สวรรค์​และ​โลก​ จึงจะสามารถ​เริ่ม​เข้า​ใจความ​ถ่องแท้​ได้​

แต่​หลิน​เว่ย​กลับ​เข้า​ใจถึงพลัง​นี้​จาก​การ​ชำระล้าง​ ด้วย​พลัง​แห่ง​สวรรค์​และ​โลก​ หาก​ถึงเวลา​ที่จะ​ต้อง​ออก​ไป​จาก​ดินแดน​ลับ​ มัน​จะไม่สามารถ​ก่อให้เกิด​ภัย​คุกคาม​ที่​ใหญ่หลวง​ต่อ​เขา​ได้​ ตราบใดที่​เขา​รับ​การ​ชำระล้าง​อีกครั้ง​

และ​จะได้รับ​การ​เลื่อน​ระดับ​ของ​พลัง​ความเข้าใจ​อย่าง​ถ่องแท้​

ใน​ความเห็น​ของ​จื่อห​ยู​ ความน่าจะเป็น​ที่​หลิน​เว่ย​จะสามารถ​ผ่าน​การ​ชำระ​นั้น​ไม่ได้​สมบูรณ์​ แต่​อย่าง​น้อย​ก็​ผ่าน​ไป​ได้​อย่าง​สบาย​ หาก​ล้มเหลว​ นาง​คงจะ​ไม่มีอะไร​จะโต้แย้ง​ และ​จะต้อง​ยอมรับ​ชะตากรรม​ของ​นาง​

ครึ่ง​ชั่วโมง​ต่อมา​ หลังจาก​อาบน้ำ​หลายครั้ง​ หลิน​เว่ย​ก็​พยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ​ เขา​กำลังจะ​ขึ้น​มาจาก​น้ำ​ แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​แข็งทื่อ​ เขา​ลืม​ไป​ว่า​มีคน​สามคน​เฝ้าดู​เขา​อาบน้ำ​อยู่​! แม้ว่า​พลัง​ผันผวน​ใน​ร่าง​จะยังคง​เป็น​สัตว์​อสูร​

แต่​ก็​ถูก​เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​หญิงสาว​ โดยธรรมชาติ​แล้ว​ หลิน​เว่ย​ไม่สามารถ​ปฏิบัติ​ต่อ​พวกเขา​เหมือน​สัตว์​อสูร​ได้​

หลิน​เว่ย​ชะงัก​ร่าง​ เขา​แสดง​ความ​ลำบากใจ​ จากนั้น​ก็​เปิดปาก​ของ​เขา​ พูด​กับ​หญิง​สามคน​ที่อยู่​ฝั่งตรงข้าม​และ​ร้องเรียก​: “พี่สาว​จื่อห​ยู​!ข้า​จะขึ้นไป​แต่งตัว​”

“โอ้​! เจ้าสามารถ​ขึ้น​มาได้​เลย​ หญิงสาว​ทั้ง​สามคน​กะพริบตา​ คำพูด​ของ​หลิน​เว่ย​ ทำให้​พวก​นาง​งุนงง​

“ เอ่อ​ … !” ” ใบหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​ แม้ว่า​จะยังคง​แข็งทื่อ​ แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​ยัง​ราบเรียบ​

“โอ้​…..จื่อห​ยู​ยักไหล่​พยักหน้า​อย่าง​ไม่เป็นทางการ​ และ​หันหลัง​ให้​หลิน​เว่ย​

“ มนุษย์​นี้​ช่างลำบาก​เสีย​จริง​!” หู​หนิ​ว​และ​ เสี่ยว​หมี​ หลังจาก​ส่งเสียง​พึมพำ​ พวก​นาง​หันหลัง​ให้​หลิน​เว่ย​

“พรึ่บ​!” เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​ หลิน​เว่ย​ก็​พุ่ง​ขึ้น​จาก​น้ำ​อย่าง​เร่งรีบ​ เขา​สลัด​หยดน้ำ​ด้วย​พลัง​ปราณ​ ด้วย​ความรีบร้อน​เขา​หยิบ​ชุด​เสื้อผ้า​ออกมา​ และ​แต่งตัว​ให้​เรียบร้อย​ หลังจาก​เพียง​ชั่ว​อึดใจ​

หลิน​เว่ย​ขบคิด​ว่า​ นี่​อาจ​เป็น​การสวม​เสื้อผ้า​ได้​รวดเร็ว​ที่สุด​เท่าที่​เขา​เคย​ทำ​

“ ข้า​พร้อม​แล้ว​!” หลิน​เว่ย​กล่าว​พร้อมกับ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งใจ​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หลิน​เว่ย​ หญิงสาว​ทั้ง​สามก็​หัน​กลับมา​และ​มอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​

“พี่​หลิน​! พวกเรา​จะออก​ไป​แล้ว​หรือ​?” เสี่ยว​หมี​เดิน​ไปหา​หลิน​เว่ย​ และ​พลาง​สูด​จมูก​เพื่อ​ยืนยัน​ว่า​ไม่มีกลิ่น​เหม็น​ เสี่ยว​หมี​ก็​โน้มตัว​กอด​แขน​หลิน​เว่ย​อย่าง​สนิทสนม​ และ​ถามอย่าง​คาดหวัง​

“ทุกคน​พร้อม​แล้ว​หรือไม่​?” หลิน​เว่ย​ไม่ตอบ​ในทันที​ แต่​หันมา​ถามจื่อห​ยู​

“อืม​! เจ้าสามารถ​ไป​เมื่อใด​ก็ได้​”จื่อห​ยู​พยักหน้า​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“อ่า​! พวกเรา​เตรียมตัว​มานาน​แล้ว​ แต่​พี่สาว​ของ​ข้า​บอ​กว่า​” พี่ชาย​ยัง​กักตัว​อยู่​ ให้​พวกเรา​รอ​ท่าน​ก่อน​” เสี่ยว​หมี​พยักหน้า​อย่าง​รีบร้อน​

“เอาล่ะ​! เอาล่ะ​ ไป​กัน​เถอะ​ ข้า​จะตามหา​สหาย​ เรา​แยก​จากกัน​มาเกือบ​สามเดือน​แล้ว​ และ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​พวกเขา​บ้าง​ หลิน​เว่ย​พยักหน้า​และ​พูด​ด้วย​ความกังวล​

“ไม่เป็นไร​อัน​ใด​ ข้า​บอ​กว่า​ใน​โลก​นี้​ เรา​จะเชื่อฟัง​และ​ปกป้อง​ความปลอดภัย​ของ​เจ้า ไม่สำคัญ​ว่า​เรา​จะไป​ที่ใด​” จื่อห​ยู​ยักไหล่​และ​ใบหน้า​บ่งบอกถึง​ความ​ไม่แยแส​

“ใช่ เสี่ยว​หมี​จะปกป้อง​พี่ชาย​เอง​…. เสี่ยว​หมี​ตบ​หน้าอก​นาง​และ​พูด​อย่าง​จริงจัง​

“ดี​!” หลิน​เว่ย​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ และ​เอื้อมมือ​ไป​ลูบ​ศีรษะ​ของ​อีก​ฝ่าย​

ครู่​ต่อมา​ร่าง​อัน​ใหญ่โต​ของ​ราชา​อินทรี​พยัคฆ์​ ค่อยๆ​ลอย​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​ และ​ตรง​ออกจาก​หุบเขา​ จากนั้น​ก็​มาบรรจบ​กับ​สัตว์​อสูร​หมี​หิมะ​ที่​รอคอย​มานาน​ และ​เหาะ​ไป​ใน​ทิศ​ทางเดียว​

…………

หลิน​เว่​ยวา​งมือ​ไว้​ทาบ​ไว้​ที่​หน้าอก​และ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ด้านหน้า​ ที่นั่น​มีหุบเขา​ขนาดใหญ่​ที่​มองไม่เห็น​ มัน​เหมือนกับ​เสายักษ์​ที่​ปัก​หลั่น​ ปิดกั้น​ระหว่าง​สวรรค์​และ​โลก​ ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ถึงความ​ทรงพลัง​

โดย​เฉพาะที่​เชิงเขา​ มีเมฆหนา​โดยรอบ​ ทำให้​ผู้คน​มองไม่เห็น​สถานการณ์​ด้านบน​ นี่​คือ​หุบเขา​ที่สูง​ที่สุด​ใน​ดินแดน​ลับ​แห่ง​นี้​ ที่​มีสัตว์​อสูร​ต่างๆ​มากมาย​

แค่​หุบเขา​ก็​เทียบ​เท่ากับ​พื้นที่​กว้างใหญ่​ นั่น​คือ​ หุบเขา​ถงเทียน​ มัน​มีอาณาเขต​ของ​สัตว์ร้าย​แห่ง​ดินแดน​ลับ​ สัตว์​อสูร​ที่​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ สามารถ​พบ​เจอ​ได้​ใน​หุบเขา​ถงเทียน​ ไม่ว่า​จะเป็น​ สัตว์​อสูร​ระดับ​ต่ำ​ สัตว์​อสูร​ระดับสูง​หรือ​ สัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​

มีเหล่า​สัตว์ร้าย​จำนวน​มากเกินไป​ ทำให้​มนุษย์​ไม่สามารถ​ฝ่าเดิน​ต่อไป​ได้​ ทั้ง​สายพันธุ์​และ​ปริมาณ​ของ​สัตว์​อสูร​นั้น​มีมาก​ที่สุด​ แต่​ระดับ​อันตราย​นั้น​ น้อยกว่า​ของ​สัตว์ร้าย​ใน​ทุ่ง​ขจี​

ด้วย​วิธี​นี้​ หุบเขา​ถงเทียน​ จึงกลายเป็น​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​สายตา​ของ​ศิษย์​จาก​สำนัก​ต่างๆ​ เนื่องจาก​มีทรัพยากร​ สัตว์​อสูร​เพียงพอ​ และ​ไม่เหมือนกับ​ทุ่ง​ขจี​ที่​ดู​อันตราย​มากเกินไป​

สัตว์​อสูร​ระดับสูง​นับ​พัน​ และ​ไม่เหมือนกับ​หุบเขา​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​ ตรง​ที่​มีสัตว์​อสูร​ ระดับ​ศักดิ์สิทธิ์​มารวมตัวกัน​ที่นี่​

ที่ตั้ง​ของ​หุบเขา​ถงเทียน​ อยู่​ระหว่าง​กลาง​ของ​ดินแดน​แห่ง​สัตว์ร้าย​ ซึ่งเป็น​เพียง​แก่น​กลาง​ของ​ดินแดน​ลับ​ โดยทั่วไปแล้ว​ ทุกคน​ที่​เข้าสู่​ดินแดน​ลับ​จะต้อง​เดิน​มาที่นี่​ และ​รอ​จนกว่า​ทางเข้า​จะเปิด​ออก​อีกครั้ง​

เมื่อ​พวกเขา​ออกเดินทาง​ ทุกคน​ต่าง​ได้รับ​คำสั่ง​ว่า​ พวกเขา​จะต้อง​เดินทาง​ไป​ที่​หุบเขา​ถงเทียน​ เพื่อ​รวบรวม​กองกำลัง​ และ​ตาม​ล่าสัตว์​อสูร​ นี่​ไม่ใช่แค่​พรรคพวก​ของ​หลิน​เว่ย​ และ​คนอื่นๆ​

แต่​ยัง​รวมถึง​ผู้อาวุโส​ที่​เข้ามา​ทดสอบ​ใน​ดินแดน​ลับ​ด้วย​

หลิน​เว่ย​ใช้เวลา​สามวัน​ ใน​การ​มาถึงที่นี่​ จาก​หุบเขา​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​ นี่​เป็น​เพราะ​ความเร็ว​ของ​ราชา​อินทรี​พยัคฆ์​ เขา​มอง​ไป​ที่​ไหล่​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​ จากนั้น​มอง​ลง​ไป​ที่​หน้าอก​ของ​เขา​ มุมปาก​ของ​หลิน​เว่ย​กระตุก​เล็กน้อย​

และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​เงียบงัน​ ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​ มีเสือ​ขนาด​เท่า​กำปั้น​สอง​ตัว​ ตัว​หนึ่ง​สีขาว​และ​อีก​ตัว​มีขน​สีขาว​และ​แซมด้วย​สีส้ม

ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ มีลูก​แมว​สีน้ำเงิน​อม​เขียว​ที่​มีศีรษะ​ขนาด​เท่า​ไข่ไก่​ กำลัง​เหม่อ​มองออก​ไป​ข้างนอก​ พร้อมกับ​ดวงตา​เล็ก​ ๆ สอง​ดวง​และ​คอย​ตรวจสอบ​สถานการณ์​โดยรอบ​ ก่อนหน้านี้​ หลิน​เว่ย​ค้นพบ​ว่า​ ชีวิต​ของ​เขา​นั้น​พลิกผัน​เหลือเกิน​ เมื่อ​สอง​วัน​ที่ผ่านมา​จื่อห​ยู​และ​หลิน​เว่ย​ได้​ทำสัญญา​ที่​เท่าเทียมกัน​ และ​นาง​กลาย​มาเป็น​สัตว์เลี้ยง​ของ​หลิน​เว่ย​

ราชาซากศพ

ราชาซากศพ

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง ราชาซากศพ รายละเอียด หลินเว่ย ขอทานตัวน้อยที่โดนทำลายฐานพลัง วันหนึ่งได้เจอคริสตัลสีดำปริศนา ซึ่งมีความสามารถให้การคืนชีพซากศพสัตว์อสูรให้เป็นนักรบโครงกระดูก ที่มีทักษะความสามารถเหมือนยามมีชีวิต เรื่องราวการผจญภัยของราชาคนใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท