ราชาซากศพ – บทที่ 292 งูมงกุฎเพลิงนิล

ราชาซากศพ

บท​ที่​ 292

งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​

หลังจาก​สังเกต​กาณณ์​มาสักพัก​ หลิน​เว่ย​ก็​กระโดด​ลงมา​ และ​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เชิงเขา​

มีหมอก​ลง​หนา​จัด​ บริเวณ​รอบ​หุบเขา​เทียน​ซาน​ ซึ่งหมอก​ไม่เพียงแต่​ปิดกั้น​การ​มองเห็น​เท่านั้น​ แต่​ยัง​จำกัด​การรับรู้​อีกด้วย​ ใน​บรรดา​หมอก​เหล่านี้​มี มักจะ​สัตว์​อสูร​ที่​ไม่รู้จัก​ ดังนั้น​จึงเป็นไปไม่ได้​เลย​ ที่จะ​เหาะ​ผ่าน​ไป​ด้านบน​หุบเขา​โดยตรง​

จื่อห​ยู​กล่าวว่า​ นาง​เคย​เห็น​สิ่งนี้​มามาก​ ไม่รู้​ว่า​ที่นี่​มีพลัง​มากมาย​เพียงใด​ แน่นอน​อันตราย​จะคงอยู่​แต่​ใน​บริเวณ​หมอก​นี้​เท่านั้น​ ไม่เป็นอันตราย​ต่อ​ภายนอก​ ดังนั้น​ตราบใดที่​พวกเขา​ไม่เข้าไป​ใน​หมอก​นั้น​

ก็​จะไม่เป็น​ภัย​คุกคาม​ ยิ่งไปกว่านั้น​ หมอก​จะทำให้​ผู้คน​หลงทาง​ ทุกคน​ที่​เข้าไป​ใน​นั้น​หรือ​แม้แต่​สัตว์​อสูร​ จะไม่มีวัน​ได้​กลับ​ออกมา​ ไม่ว่า​พวกเขา​จะแข็งแกร่ง​เพียงใด​

โดยปกติ​ก่อนที่​พวกเขา​จะเข้า​มายัง​ดินแดน​ลับ​ เห​ลย​เป่า​ได้​ติดตาม​ซางกวน​ฮ่าว​หยาง​มาสำรวจ​เส้นทาง​ก่อนหน้านี้​ หลิน​เว่ย​จึงบอก​ปลายทาง​ให้​จื่อห​ยู​รับรู้​ เมื่อ​นาง​รู้​จุดหมายปลายทาง​ของ​หลิน​เว่ย​ นาง​ก็​มีท่าที​เตรียมพร้อม​และ​ระแวดระวัง​ แต่เดิม​หลิน​เว่ย​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​นี้​มาก​นัก​ แต่​เมื่อ​เห็น​จื่อห​ยู​ระมัดระวัง​ตัว​มาก​ เขา​จึงให้ความสนใจ​กับ​มัน​

หุบเขา​ถงเทียน​นี้​ มีขนาดใหญ่​มาก​ สำหรับ​ผู้ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​ สามารถ​ขึ้นไป​บน​หุบเขา​ได้​ทุก​ด้าน​ บริเวณ​ด้านหน้า​ของ​หลิน​เว่ย​ ปรากฏ​ป่าใหญ่​ เขา​สามารถ​เดิน​ขึ้น​ด้านบน​ โดย​ผ่าน​ป่า​ลึก​นี้​ไป​

เมื่อ​หลิน​เว่ย​เดิน​เข้ามา​ใน​ป่า​ ใน​ตอนแรก​ เขา​ระมัดระวัง​เล็กน้อย​ ใน​การ​สังเกต​บริเวณ​โดยรอบ​ แต่​ไม่นาน​เขา​ก็​พบ​ว่า​ใน​ป่า​ไม่มีอันตราย​ บางครั้ง​เขา​พบ​สัตว์​อสูร​หลาย​ตัว​รวมถึง​ สัตว์​อสูร​ระดับ​ต่ำ​ด้วย​ หลังจาก​เห็น​หลิน​เว่ย​แล้ว​

พวก​มัน​ก็​รีบ​วิ่งหนี​

สำหรับ​ผู้ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​เหล่านั้น​ หลิน​เว่ย​กลับ​ไม่พบ​ใคร​ เป็นเวลา​เกือบ​สามเดือน​แล้ว​ที่​ พวกเขา​เข้ามา​ใน​สถาน​ที่ลับ​ ส่วนใหญ่​บางคน​เดิน​ทางผ่าน​หุบเขา​ไป​แล้ว​ แม้ว่า​อาจจะ​มีบางคน​ที่​เดินทาง​ล่าช้า​

แต่​โอกาส​ที่จะ​ได้​พบ​กับ​หุบเขา​นั้น​มีน้อย​มาก​ หลังจาก​คิด​เรื่อง​นี้​ได้​ชัดเจน​ หลิน​เว่ย​ก็​เร่งความเร็ว​ และ​ร่าง​ของ​เขา​ก็​กลายเป็น​เงามืด​วูบวาบ​ผ่าน​ไป​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​ ระหว่าง​ต้นไม้​ใหญ่​

…………

ใน​หุบเขา​ถงเทียน​ ซึ่งเป็น​ป่าทึบ​ขนาดใหญ่​ ร่าง​ทั้ง​สี่กำลัง​ปิดล้อม​งูยักษ์​ตน​หนึ่ง​ งูตน​นี้​มีสีเข้ม​และ​หงอน​สีแดง​เพลิง​อยู่​บน​หัว​ เช่นเดียวกับ​มงกุฎ​เพลิง​ ขนาด​ของ​งูมีความ​ยาว​หลาย​สิบ​เมตร​ และ​ร่าง​ของ​มัน​ต้อง​ใช้คน​สอง​คนโอบ​เล็กน้อย​

อย่างไรก็ตาม​ หลาย​คน​ที่​ต่อสู้​กับ​มัน​ในเวลานี้​ ได้แก่​ เมิ่งหู​ลู่​, ผาง​หลง​, กวน​เย​ว่​ และ​หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​อีก​ทีม​หนึ่ง​ของ​อาณาจักร​เฟิงห​ยู​ ชาย​คน​หนึ่ง​ ชื่อ​กวน​เจิ้น​ เขา​เป็น​พี่ชาย​ของ​ กวน​เย​ว่​

ใน​บรรดา​ทั้ง​สี่คน​ ผู้​ที่​มีความ​แข็งแกร่ง​มาก​ที่สุด​ใน​กลุ่ม​ คือ​ ระดับ​จักรพรรดิ​ขั้น​แปด​ นั่น​คือ​ กวน​เจิ้น​

งูยักษ์​ซึ่งถูก​ปิดล้อม​โดย​คน​สี่คน​ เรียก​ว่า​ งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​มัน​มาถึงขั้น​ที่​แปด​แล้ว​ และ​แข็งแกร่ง​มาก​

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ความเสียหาย​รอบ​ ๆ การต่อสู้​ ระหว่าง​ทั้งสองฝ่าย​ ที่​ดำเนิน​ไป​ระยะ​หนึ่ง​ ยิ่งไปกว่านั้น​บน​พื้นดิน​ ยัง​สามารถ​มองเห็น​เกล็ด​ และ​ชิ้นส่วน​ที่​หล่น​กระจัดกระจาย​ทุกที่​ พร้อมกับ​เลือด​สีแดงสด​จำนวนมาก​

สภาพร่าง​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ดู​แย่มาก​ แต่​ลมปราณ​ที่​ปล่อย​ออก​มาจาก​ร่างกาย​ยังคง​แข็งแกร่ง​มาก​ เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ทั้ง​สี่คน​ เมิ่งหู​ลู่​ กวน​เย​ว่​ ผาง​หลง​ และ​กวน​เจิ้น​ ซึ่งเห็นได้ชัด​ว่า​มีการ​สูญเสีย​พลัง​มากเกินไป​

และ​หอบ​หายใจ​แทบ​ไม่ทัน​ มุมปาก​และ​บางส่วน​ของ​ร่างกาย​มีร่องรอย​เลือด​เปรอะเปื้อน​ โดยเฉพาะ​ กวน​เจิ้น​ที่​มือซ้าย​ปรากฏ​ร่องรอย​ของ​แผลฉกรรจ์​

หลังจากนั้น​ทั้ง​สี่คน​ ถูก​แรง​กระแทก​จาก​การ​โบกสะบัด​หาง​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ที่​กำลัง​คลุ้มคลั่ง​ โบกสะบัด​หาง​ของ​มัน​ไป​รอบ​ ๆ หลังจากนั้น​ ร่าง​ของ​พวกเขา​ ก็​ถูก​งูรัด​พัน​ตัว​ ดวงตา​สีแดงเข้ม​ของ​มัน​จับจ้อง​ไป​ที่​กวน​เจิ้น​

ดวงตา​เย็นชา​และ​ดุร้าย​จ้องมอง​ไป​ที่​เขา​ เนื่องจาก​มัน​พบ​ว่าความ​แข็งแกร่ง​ของ​กวน​เจิ้น​นั้น​สามารถ​คุกคาม​ชีวิต​ของ​มัน​ได้​ หลังจาก​การต่อสู้​ครั้งก่อน​ มัน​รู้​ว่า​จะต้อง​จัดการ​ชาย​ที่​แข็งแกร่ง​ลง​ไป​เสีย​ก่อน​

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​กวน​เจิ้น​ที่​กำลัง​หอบ​หายใจ​ แสงที่​ดุร้าย​ฉาย​ผ่าน​ดวงตา​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ทันใดนั้น​ร่างกาย​ของ​มัน​ ยืด​คอ​และ​พุ่ง​ฉก​ราวกับ​สปริง​ มัน​กระโจน​ออก​ไป​ในทันที​ เป้าหมาย​คือ​กวน​เจิ้น​

เมื่อ​เห็น​สถานการณ์​เช่นนี้​ กวน​เจิ้น​ก็​เบี่ยง​ร่าง​หลบหนี​ไป​ ทั้ง​เมิ่งหู​ลู่​ และ​ ผาง​หลง​เข้า​โจมตี​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ทีละ​คน​ แน่นอน​ว่าด้วย​พละกำลัง​ของ​พวกเขา​ จึงเป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​สร้าง​ความเสียหาย​ร้ายแรง​ให้​กับ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​

หาก​ต้อง​การสังหาร​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ จะต้อง​พึ่งพา​ความสามารถ​ของ​กวน​เจิ้น​

อย่างไรก็ตาม​ จุดประสงค์​ของ​พวกเขา​เพียง​เพื่อ​ดึงดูด​ความเกลียดชัง​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ให้​หันมา​สนใจ​พวกเขา​แทน​

กวน​เจิ้น​ เนื่องจาก​สิ่งนี้​มัน​คือ​แผน​การยั่วยุ​ จากนั้น​ค่อย​หา​โอกาส​สังหาร​ พวกเขา​เคย​ให้​

ความร่วมมือ​ใน​ลักษณะ​นี้​มาแล้ว​หลายครั้ง​

อย่างไรก็ตาม​ สถานการณ์​ต่อไป​ ทำให้​ใบหน้า​ของ​ เมิ่งหู​ลู่​เปลี่ยนไป​อย่าง​มาก​ เนื่องจาก​งูมงกุฎ​เพลิง​สีดำ​ไม่สนใจ​คน​ทั้ง​สามคน​ พวก​มัน​ไม่ได้​หลบ​การ​โจมตี​ของ​พวกเขา​ แต่​มัน​กลับ​ตั้ง​รับ​การ​โจมตี​ทั้งหมด​ จน​ชั่วขณะหนึ่ง​เกล็ด​บน​ร่าง​ก็​แตกสลาย​และ​เลือด​ไหลริน​ แต่​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ราวกับว่า​มัน​ไร้ความรู้สึก​ ยังคง​ไล่ตาม​โจมตี​กวน​เจิ้น​ไม่หยุดหย่อน​

ความเร็ว​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​นั้น​เร็ว​กว่า​กวน​เจิ้น​ เพียง​ชั่ว​อึดใจ​ มัน​สามารถ​ร่น​ระยะทาง​ระหว่าง​มัน​กับ​กวน​เจิ้น​ให้​แคบ​ลง​ ในเวลานี้​ปาก​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​อ้า​ และ​พ่น​ของเหลว​ใส ที่​มีกลิ่นคาว​ก็​พุ่ง​ออก​มาจาก​เขี้ยว​ของ​มัน​

ของเหลว​พุ่ง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​กวน​เจิ้น​

“ระวัง​!” เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ ทั้ง​สามคน​ก็​ใบหน้า​เปลี่ยนสี​ และ​ส่งเสียงร้อง​ด้วย​ความประหลาดใจ​ต่อเนื่อง​กัน​ หัวใจ​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความวิตกกังวล​

“ สวบ​สาบ​!” เมื่อ​ เมิ่งหู​ลู่​ และ​ ผาง​หลง​ เริ่ม​เตือน​เขา​ กวน​เจิ้น​ได้​สังเกตเห็น​อันตราย​ก่อนหน้านี้​ เขา​กระโดด​หลบ​ไป​ที่​พื้น​ข้างๆ​ทันที​ หลังจาก​กลิ้ง​ไป​สอง​รอบ​แล้ว​ เขา​ก็​ลุกขึ้น​ด้วยมือ​ และ​เท้า​ทั้งสอง​ข้าง​ และ​วิ่งหนี​ต่อไป​

“ ชี่ … !” ของเหลว​ใสตก​ลงพื้น​ทันที​ ปล่อย​ควัน​ดำ​ จน​พื้นดิน​สึกกร่อน​ ของเหลว​ใสนี้​เป็นพิษ​ที่​สะสมโดย​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ไม่เพียงแต่​มีพิษ​ร้ายแรง​เท่านั้น​ แต่​ยัง​มีฤทธิ์​กัดกร่อน​สูงอีกด้วย​

“ หวือ​ … !” เช่นเดียวกับ​ที่​กวน​เจิ้น​เพิ่ง​ลุกขึ้น​ และ​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​เพียง​ไม่กี่​ก้าว​ เสาใหญ่​ต้น​หนึ่ง​ ก็​พุ่ง​ออกมา​ในทันที​ ใน​ตอนนี้​ งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​กลับมา​ขวางหน้า​เขา​ โดยที่​เขา​ไม่ทัน​ได้​เตรียมตัว​

“ หวา​ … !” ด้วย​เสียง​ต่อเนื่อง​เสาเพลิง​ห้า​ต้น​ ก็​พุ่ง​ออก​มาจาก​พื้น​ โดยที่​กวน​เจิ้น​กระโดด​หนี​อยู่​กลางอากาศ​ และ​พุ่ง​เป้า​โจมตี​มาที่​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​

กวน​เจิ้น​โดน​เสาใหญ่​ยักษ์​กระแทก​ จน​กระอัก​เลือด​ออกมา​ ในขณะที่​เขา​นั่น​ ลอย​อยู่​กลางอากาศ​

เขา​บิด​ร่างกาย​อย่าง​แรง​ ปรากฏ​พลัง​ร้อนแรง​ที่​หมัด​ของ​เขา​ แสงสีแดง​เพลิง​ควบแน่น​ จากนั้น​ก็​ส่งเสียง​แผ่วเบา​ ตามมา​ด้วย​เสียง​ระเบิด​

“ หมัด​เพลิง​ระเบิด​” มือ​ของ​กวน​เจิ้น​เพิ่ม​พลัง​ขึ้น​ทันที​ กลายเป็น​สีแดง​และ​ตรง​เข้าไป​ทุบตี​เสาเบื้องหน้า​

“ ตูม​ … !” แรง​ระเบิด​สี่ครั้ง​ติดต่อกัน​ ส่งเสียง​อู้อี้​กระจาย​ออก​ไป​ การ​กระเพื่อม​ของ​พลัง​ที่​รุนแรง​กวาด​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ ร่างกาย​ของ​กวน​เจิ้น​ซึ่งไร้​ซึ่งการ​ต่อต้าน​ ถูก​พัด​ไป​ไกล​หลาย​สิบ​เมตร​ด้วย​ความตกใจ​ เลือด​หนึ่ง​คำ​พุ่ง​ออกมา​และ​กระเซ็น​ไป​ใน​อากาศ​ แต่​ก็​ยัง​โชค​ดีมาก​ที่​เขา​สามารถ​หลบหนี​เสาต้น​สุดท้าย​ออกมา​ได้​ และ​สามารถ​เพิ่ม​ระยะ​การ​โจมตี​ หลบหนี​จาก​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​

“ พี่​ … ” กวน​เย​ว่​เห็น​กวน​เจิ้น​ได้รับบาดเจ็บ​ และ​กระอัก​เลือด​ออกมา​ นาง​จึงอุทาน​ออกมา​

เมิ่งหู​ลู่​ และ​ ผาง​หลง​ มองหน้า​กัน​แล้ว​ ใบหน้า​ของ​พวกเขา​ก็​กังวล​มาก​ หาก​กวน​เจิ้น​ตาย​ลง​ไป​ ทั้ง​สามคน​จะต้อง​ตาย​ลง​ที่นี่​ ด้วย​ความเร็ว​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ย่อม​ไม่มีใคร​สามารถ​หลบหนี​ได้​

“ ซู๊ด!”​ เขา​หายใจเข้า​ลึก​ ๆ จากนั้น​ไป​ เมิ่งหู​ลู่​ ค่อยๆ​ พ่น​หายใจออก​ จากนั้น​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​แน่วแน่​ ใน​ขณะนี้​ร่างกาย​ของ​เขา​ระเบิด​พลัง​ปราณ​ออกมา​

มือ​ของ​เขา​ปรากฏ​ดาบ​สีดำ​เข้ม​ ร่องรอย​พลัง​ปราณ​ที่​เย็น​จัด​ ส่งออก​ไป​ ทำให้​อากาศ​รอบ​ ๆ ตัว​กลายเป็น​น้ำแข็ง​เล็กน้อย​

“ ดาบ​วารี​ตะวัน​” เขา​ถือ​ดาบ​ด้วยมือ​ทั้งสอง​ข้าง​ ทันใดนั้น​เขา​ก็​โบก​ดาบ​ไป​ที่​ งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ ดาบ​แสงมืด​ พุ่ง​ออก​ไป​ในทันที​ หลังจาก​ดาบ​หลุด​ออก​ไป​จาก​มือ​ ใบหน้า​ของ​ เมิ่งหู​ลู่​ ก็​ซีดเผือด​ ขา​ของ​เขา​อ่อน​ลง​ และ​ทั้ง​ตัวสั่น​

เขา​รู้สึก​ได้​ว่า​สติ​ของ​เขา​เลือนราง​เล็กน้อย​ เมิ่งหู​ลู่​ตวัด​ปลายลิ้น​และ​กัด​ลง​ไป​ทันที​ จากนั้น​เขา​ก็​รู้สึก​เจ็บปวด​ซึ่งทำให้​เขา​ตื่นขึ้น​มาเล็กน้อย​ จากนั้น​เขา​ก็​หยิบ​ขวด​ยา​ออกมา​ แล้ว​เท​ยา​กรอก​เข้า​ปาก​ จากนั้น​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ ปรากฏ​ชิ้นส่วน​ของ​หิน​หยวน​ชั้นยอด​ ที่​ถูก​ดูดซับ​โดย​เมิ่งหู​ลู่​

“ พรึ่บ​!” งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ที่​กำลัง​ไล่ตาม​กวน​เจิ้น​ อยู่ ๆ​ ก็​รู้สึก​ใจสั่น​ และ​หันหน้า​ไป​มอง​ยัง​ทิศทาง​ที่​รู้สึก​ถึงลางสังหรณ์​ จากนั้น​ดวงตา​ของ​มัน​ก็​เบิก​กว้าง​ขึ้น​ ใบหน้า​ของ​มัน​ตื่นตระหนก​

มัน​ทำได้​เพียง​ขยับ​ร่างกาย​เบี่ยง​ จากนั้น​ร่าง​ก็​ปะทะ​เข้ากับ​แสงมืด​ และ​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ลอย​ขึ้น​จาก​พื้น​ และ​ถลา​บิน​ออก​ไป​สิบ​เมตร​

“ ฟ่อ​… !” งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​นอนขด​อยู่​บน​พื้น​ส่งเสียง​เจ็บปวด​ ร่างกาย​ของ​มัน​บิด​แล้ว​ถูไป​กับ​พื้น​ บริเวณ​กว้าง​ถูก​ย้อม​เป็น​สีแดง​อย่าง​รวดเร็ว​

ในเวลานี้​ใต้​ศีรษะ​ของ​มัน​มีเกล็ด​บางส่วน​แตกร้าว​ออก​เป็น​หลาย​ชิ้น​ ปรากฏ​แผล​ลึก​ฉกรรจ์​ ซึ่งทำให้เกิด​ควัน​สีดำ​ออกมา​ แรง​กัดกร่อน​ที่​รุนแรง​ทำให้​เนื้อ​สีแดงสด​ และ​เลือด​ค่อยๆ​ดำคล้ำ​ และ​กลายเป็น​หยดน้ำ​สีดำ​ไหล​ออกมา​

เมื่อ​เห็น​ว่า​งูมงกุฎ​เพลิง​สีดำ​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ทั้ง​สามคน​รวมทั้ง​กวน​เย​ว่​ก็​ตกตะลึง​ และ​พวกเขา​ทั้งหมด​พยายาม​อย่าง​เต็มที่​เพื่อ​เปิด​การ​โจมตี​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​

“ หมัด​เพลิง​ระเบิด​”

“ หมัด​ทลาย​ปฐพี​”

“ กระบี่​ทลาย​ฟ้า” งูมงกุฎ​เพลิง​สีดำ​ถูก​หมัด​เพลิง​ระเบิด​เข้า​โจมตี​อย่าง​แม่นยำ​ หลังจากนั้น​ศีรษะ​ของ​มัน​ ก็​ถูก​ฟาด​ลง​กับ​พื้น​ด้วย​ฝ่ามือ​เดียว​ ร่างกาย​ของ​มัน​ยืดตัว​ขึ้น​ในทันที​ จากนั้น​แสงวูบวาบ​ก็​กะพริบ​ไป​ทั่ว​

ปรากฏ​รอยแผล​ และ​เลือด​จำนวนมาก​ก็​พุ่ง​ออกมา​ พร้อมกับ​ชิ้นส่วน​ของ​หัวใจ​

“ ตูม​ ตูม​ ตูม​ … !” หาง​ของ​งูเพลิง​นิล​ฟาด​ลง​กับ​พื้น​อย่าง​แรง​ ผ่าน​ไป​สักครู่​มัน​ก็​ค่อย​อ่อนแรง​ลง​ อย่างไรก็ตาม​ คน​ทั้ง​สี่คน​ รวมทั้ง​เมิ่งหู​ลู่​ ได้​ถอยห่าง​จาก​ด้าน​ข้าง​ และ​หยิบ​ยา​ออกมา​ รวมทั้ง​หิน​หยวน​

เพื่อ​ดูดซับ​พลัง​ปราณ​ หลังจากนั้น​ไม่กี่​นาที​ งูมงกุฎ​ เพลิง​นิล​ก็​หยุด​ดิ้น​ และ​ล้ม​ลง​กับ​บน​พื้น​อย่าง​นุ่มนวล​ และ​กระตุก​เป็นครั้งคราว​

ราชาซากศพ

ราชาซากศพ

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง ราชาซากศพ รายละเอียด หลินเว่ย ขอทานตัวน้อยที่โดนทำลายฐานพลัง วันหนึ่งได้เจอคริสตัลสีดำปริศนา ซึ่งมีความสามารถให้การคืนชีพซากศพสัตว์อสูรให้เป็นนักรบโครงกระดูก ที่มีทักษะความสามารถเหมือนยามมีชีวิต เรื่องราวการผจญภัยของราชาคนใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท