ราชาซากศพ – บทที่ 302 เสี่ยวชิง

ราชาซากศพ

บท​ที่​ 302

เสี่ยว​ชิง

“พี่​เมิ่ง! พา​น้องสาว​ของ​ข้า​ออก​ไป​ และ​ข้า​จะหยุด​พวกเขา​” กวน​เจิ้น​หันไป​มอง​กวน​เย​ว่​ จากนั้น​กัดฟัน​หัน​ศีรษะ​ไปดู​ เมิ่งหู​ลู่​ ที่อยู่​ข้างๆ​กวน​เย​ว่​ และ​พูด​ด้วย​ใบ​หน้าที่​แน่วแน่​

“ไม่! ข้า​ไม่ไป​! แม้ว่า​ข้า​จะตาย​ ข้า​ก็​จะตาย​พร้อมกับ​พี่​” ทันทีที่​เสียง​ของ​กวน​เจิ้น​ลดลง​ กวน​เย​ว่​ก็​ส่าย​หัว​อย่าง​รีบร้อน​ ซึ่งน้ำเสียง​ของ​นาง​มั่นคง​แน่วแน่​

“นี่​เจ้า…!” กวน​เจิ้น​ตกตะลึง​อยู่​ครู่หนึ่ง​จากนั้น​ก็​มีเสียง​ “ฮ่าฮ่า” ก็​หัวเราะ​สอง​ครั้ง​ และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​: “สมกับ​เป็น​น้องสาว​ของ​ข้า​จริงๆ​ในกรณีนี้​ เจ้ามาร่วมกัน​สู้กับ​ข้า​ และ​ถ่วงเวลา​ให้​พี่​เมิ่งกับ​พี่​ผาง​ … ”

“เจ้ากำลัง​พูดถึง​อะไร​….ข้า​จะไม่ไป​ ข้า​จะไม่ทิ้ง​กวน​เย​ว่​ไว้​ข้างหลัง​” โดย​ไม่รอ​ให้​กวน​เจิ้น​พูด​จบ​ ผาง​หลง​ก็​เอื้อมมือ​ไป​จับมือ​กวน​เย​ว่​ กวน​เย​ว่​ถูก​จับมือ​โดย​ผาง​หลง​ และ​ใบหน้า​ของ​นาง​เปลี่ยนเป็น​สีแดง​ หลังจาก​การดิ้นรน​สักพัก​ นาง​ก็​ยอมรับ​อย่าง​ขัดเขิน​ แต่​ใบหน้า​ของ​ผาง​หลง​กับ​แสดง​รอยยิ้ม​หวาน​หยดย้อย​

“ฮ่าฮ่า…ดี​! คู่ควร​กับ​การ​เป็น​ผู้ชาย​ที่​เย​ว่​เอ๋อ​ชื่นชม​ หาก​ท่าน​สามารถ​รอดชีวิต​ได้​ใน​ครั้งนี้​ สามารถ​มาสู้ขอ​เย​ว่​เอ๋อ​ที่​ตระกูล​ของ​ข้า​ได้​!” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ผาง​หลง​ กวน​เจิ้น​ก็​พยักหน้า​ทันที​ด้วย​ความพึงพอใจ​และ​ กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“อืม​! หาก​เรา​ออก​ไป​ได้​ ข้า​จะทำ​เช่นนั้น​ ผาง​หลง​พยักหน้า​และ​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​

พวก​เจ้าต้องการ​ที่จะ​ออก​ไป​อย่าง​มีชีวิต​นั้น​ เป็น​ความคิด​ที่​ดี​ แต่​พวก​เจ้าคิด​ว่า​ มัน​เป็นไปได้​หรือไม่​? ที่จะ​หนี​จาก​เงื้อมมือ​ของ​ข้า​ ” ทันทีที่​เสียง​ของ​ผาง​หลง​ลดลง​ เขา​ได้ยิน​เสียง​อุ้งเท้า​ของ​หมี​หนัก​ๆ

จากนั้น​กวน​เจิ้น​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​มีพลัง​ที่​รุนแรง​กำลัง​พุ่ง​มาบน​ศีรษะ​ของ​เขา​ ราวกับ​น้ำหนัก​มหาศาล​ดุจ​เขา​ไท่​ซาน​

“ไม่! พี่​กวน​ ระวัง​” ในเวลานี้​หมิง​จิ้งเปล่ง​เสียงอุทาน​ และ​ต้องการ​ที่จะ​เข้าไป​ช่วยเหลือ​ แต่​มัน​ก็​สาย​เกินไป​ ร่าง​ใหญ่​ของ​หมี​พร้อมกับ​อุ้งเท้า​หนัก​ของ​มัน​ ตะปบ​ลง​ไป​ยัง​ศีรษะ​ของ​กวน​เจิ้น​

“ ตูม​ … !”

“ พี่​ … ”

“ พี่​กวน​ … ” เมื่อ​เห็น​กวน​เจิ้น​ยก​มือขึ้น​เพื่อ​ป้องกัน​เหนือศีรษะ​ มือ​ของ​เขา​ปะทะ​กับ​อุ้งเท้า​ของ​หมี​ทั้งคู่​ หลังจากนั้น​ ปรากฏ​ร่าง​ของ​เขา​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ พร้อมกับ​เลือด​ที่​ไหล​ออก​มาจาก​ปาก​ และ​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​สั่นเทา​

กวน​เย​ว่​และ​ ผาง​หลง​ต่าง​ส่งเสียงร้อง​เตือน​ จากนั้น​ก็​รีบ​วิ่ง​ขึ้น​อย่าง​กระวนกระวาย​และ​เริ่ม​โจมตี​หมี​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​?”

หมี​ร้อง​อุทาน​ด้วย​ความตกใจ​ มัน​ยก​เอา​ฝ่ามือ​ของ​ตน​กลับมา​ และ​มอง​ไป​ที่​กวน​เจิ้น​ที่​คุกเข่า​อยู่​ที่​พื้น​ และ​พูด​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ “ข้า​ไม่คาดคิด​ว่า​ เจ้าจะสกัดกั้น​พลัง​การระเบิด​ของ​ข้า​ได้​ แต่​ก็​เท่านั้น​ เจ้าทำได้​เพียงเท่านี้​

หลังจากนั้น​ มัน​ก็​เหวี่ยง​มือ​ของ​เขา​ไป​ด้าน​ข้าง​ และ​ฟาด​ลง​บน​ดาบ​ใน​มือ​ของ​หมิง​จิ้ง หลังจากนั้น​หมิง​จิ้งก็​รู้สึก​ได้​ว่า​มีพลัง​มหาศาล​แผ่ออก​มาจาก​ดาบ​ของ​เขา​ สะท้อน​ไป​ที่​ร่างกาย​ของ​เขา​ ใน​ทันใดนั้น​เขา​ถูก​ทุบตี​ จน​ปลิว​ออก​ไป​ด้วย​แรง​สะท้อน​จาก​ดาบ​ของ​ตนเอง​

“พ​รู่​ด!”​ เมื่อ​ชาย​คน​หนึ่ง​ลอย​อยู่​ใน​อากาศ​ พ่น​เลือด​สดๆ​กระจาย​เป็น​วงกว้าง​ กลายเป็น​หมอก​เลือด​จางๆ และ​ตกลง​ไป​อย่าง​ช้าๆ

“ อย่า​เข้ามา​!” เมื่อ​เห็น​สถานการณ์​ที่​น่าเศร้า​ของ​หมิง​จิ้ง และ​กวน​เจิ้น​ กวน​เย​ว่​ร้อนใจ​รีบ​วิ่ง​ตาม​ไป​ ผู้คน​ทั้งหลาย​ใน​ตอนนั้น​ ต่าง​ตกใจ​และ​ร้อง​ห้าม​

ใน​ขณะนี้​ทั้ง​ขา​และ​มือ​ของ​กวน​เจิ้น​หัก​ และ​ไม่สามารถ​หยุดยั้ง​หรือ​ขัดขวาง​สัตว์เลี้ยง​สงคราม​ได้​ อย่างไรก็ตาม​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​กวน​เย​ว่​ นาง​จะต้อง​ตาย​ทันที​เมื่อ​นาง​เข้า​มาหา​เขา​ อย่างไรก็ตาม​เขา​ทำได้​เพียง​อ้า​ปาก​และ​ตะโกน​ออก​ไป​

อย่างไรก็ตาม​เขา​รู้ดี​ว่า​ ตนเอง​จะไม่ได้​พบ​หน้า​ กวน​เย​ว่​ บิดา​และ​มารดา​อีกต่อไป​ เขา​หลับตา​ลง​ด้วย​ความเจ็บปวด​ และ​เขา​ไม่อยาก​มองเห็น​ฉาก​ที่​หมี​สังหาร​น้องสาว​ของ​เขา​

“เจ้าเป็น​ใคร​?” หลังจาก​รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ กวน​เจิ้น​ก็​ลืมตา​ขึ้น​และ​มอง​ไป​เบื้องหน้า​ เนื่องจาก​เขา​ได้ยิน​เสียง​พูดคุย​อย่าง​ประหลาดใจ​ หลังจาก​ลืมตา​แล้ว​ เขา​ก็​มองเห็น​ฉาก​ที่​น่า​ตกใจ​ ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​เมิ่งหู​ลู่​และ​คนอื่น​ ๆ เขา​เพียงแค่​ใช้นิ้ว​สกัดกั้น​

อุ้งเท้า​ของ​หมี​ ใบหน้า​ของ​เขา​ราบเรียบ​ และ​ปาก​ของ​เขา​ยังคง​มีรอยยิ้ม​

ส่วน​หมี​ตน​นั้น​ นั้น​ชัก​อุ้งเท้า​ของ​ตนเอง​กลับ​ไป​ ร่าง​ของ​เขา​ก็​ถอย​ออก​ไป​ทันที​ จากนั้น​เขา​ก็​มอง​ไป​ที่​ชายหนุ่ม​ ด้วย​ใบ​หน้าที่​ดู​ระแวดระวัง​และ​ถามอีกครั้ง​ว่า​ “เจ้าเป็น​ใคร​”

ในเวลานี้​ ห​น่า​ตี้​อา​สี่ และ​คนอื่น​ ๆ ทั้งหมด​รวมตัวกัน​ พวกเขา​เห็น​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​ แมว​ดำ​ยืน​อยู่​ข้าง​หมี​ และ​เอ่ย​ถามหมี​ อย่าง​รีบร้อน​ว่า​: “มีอะไร​หรือ​?”

“ นี่​คือ​ปรมาจารย์​” อุ้ม​หมี​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ และ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ สายตา​ของ​เขา​ไม่เคย​ละสายตา​จาก​ชายหนุ่ม​เบื้องหน้า​

“ปรมาจารย์​?” แมว​ดำ​กะพริบตา​ และ​พูด​ด้วย​ใบหน้า​งงงวย​

“ใช่! มัน​แข็งแกร่ง​กว่า​ที่​พวกเรา​ทุกคน​” หมี​พยักหน้า​และ​กล่าว​อย่าง​แน่ใจ​

เมื่อ​ได้ยิน​บทสนทนา​ระหว่าง​แมว​ดำ​กับ​หมี​ เขา​ก็​ขมวดคิ้ว​ พลาง​คิดในใจ​ชาย​คน​นี้​ ไม่รู้​ว่า​มาจาก​อาณาจักร​ใด​ กลับ​ปิด​บังความ​แข็งแกร่ง​ ที่​ยิ่งกว่า​แมว​ดำ​และ​หมี​ สิ่งนี้​หา​ยาก​มาก​ใน​สุด​ใน​สี่อาณาจักร​ ผู้คน​ต่าง​รับ​รู้กัน​ว่า​

หาก​หมี​และ​แมว​ดำ​ร่วมมือ​กัน​ มัน​จะสามารถ​เอาชนะ​ สัตว์​อสูร​ขั้น​เก้า​ระดับ​สี่ได้​ ด้วย​วิธี​นี้​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ชาย​ผู้​นี้​ เกรง​ว่า​น่าจะ​น้อยกว่า​ขั้น​จักรพรรดิ​ระดับ​ห้า​

และ​ความ​แข็งแกร่ง​ดังกล่าว​ ไม่ได้​แข็งแกร่ง​ไป​กว่า​ผู้นำ​จาก​อาณาจักร​แห่ง​แสง แน่นอน​ว่า​อีก​ฝ่าย​ยัง​เทียบ​ไม่ได้​กับ​ผู้นำ​ของ​ตน​ด้วยซ้ำ​

แม้ว่า​เขา​จะขบคิด​มากมาย​ภายในใจ​ แต่​มัน​ก็​เป็น​เพียง​ชั่วครู่​ จากนั้น​เขา​ก้าว​สอง​สามก้าว​ พลาง​กำหมัด​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “สหาย​ นี่​เป็นการ​จัดการ​ศัตรู​ จาก​อาณาจักร​เฟิงห​ยู​ของ​เรา​ ข้า​หวัง​ว่า​ท่าน​จะไม่เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​ หลังจากนั้น​ เรา​อาจจะ​กลายเป็น​สหาย​กัน​ย่อม​ดีกว่า​”

“ลืม​ไป​ซะ หาก​อาณาจักร​แห่ง​แสงเป็น​ศัตรู​กับ​อาณาจักร​เฟิงห​ยู​ แล้ว​เรา​จะเป็น​สหาย​กัน​ได้​อย่างไร​?” ชายหนุ่ม​ส่าย​หัว​และ​กล่าว​อย่าง​ใจเย็น​

“เอ๋​….เสี่ยว​ชิง …. เสี่ยว​ชิง ในเวลานี้​ กวน​เย​ว่​อุทาน​ออกมา​ และ​จากนั้น​ก็​รีบ​เดิน​ไป​ที่​ด้านหน้า​และ​กล่าว​ด้วย​ความตกใจ​

“ฮ่าๆ!” เสี่ยว​ชิงเอื้อมมือ​ไป​เกา​หัว​ และ​แสยะ​ยิ้ม​

“เสี่ยว​ชิง นั่น​ไม่ใช่ของ​สัตว์เลี้ยง​ของ​ศิษย์​น้อง​หรือ​! ศิษย์​น้อง​อยู่​ที่นี่​แล้ว​!” ผาง​หลง​ยัง​กล่าว​ด้วย​ความประหลาดใจ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ ทันใดนั้น​เขา​ก็​คิด​อะไร​บางอย่าง​ เขา​หัน​กลับมา​และ​มอง​ไป​ที่​กวน​เย​ว่​ น้ำเสียง​ของ​เขา​ตื่นเต้น​มาก​

และ​กล่าวว่า​ “เย​ว่​เอ๋อ​ ศิษย์​น้อง​อยู่​ที่นี่​ พวกเรา​รอด​แล้ว​ เรา​จะไม่ตาย​อยู่​ที่นี่​ นี่​คือ​ เสี่ยว​ชิง สัตว์เลี้ยง​สงคราม​ของ​ศิษย์​น้อง​ ใน​ขั้น​สัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​”

“ อะไร​นะ​…..สัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​ … ”

กวน​เย​ว่​ปิดปาก​ และ​อุทาน​ออกมา​ ดวงตา​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความตกใจ​และ​ใบ​หน้าที่​แสดงออก​ถึงความ​ไม่อยาก​จะเชื่อ​ เมื่อ​ยาม​ที่​นาง​มอง​ไป​ที่​ ชาย​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​พวกเขา​

“ศิษย์​น้อง​? สัตว์เลี้ยง​สงคราม​ สัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​?” เสียง​ของ​ผาง​หลง​นั้น​ ไม่ได้​หลบซ่อน​อัน​ใด​ โดยธรรมชาติ​แล้ว​ ผู้คน​จาก​อาณาจักร​แห่ง​แสงย่อม​ได้ยิน​เช่นกัน​ การแสดงออก​บน​ใบหน้า​ของ​พวกเขา​กลาย​เป็นความ​สับสน​เล็กน้อย​ ศิษย์​น้อง​ของ​ผาง​หลง​

ผู้​ซึ่งมีสัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​เป็น​สัตว์เลี้ยง​สงคราม​ได้​ ฐานะ​เช่นนั้น​ อาณาจักร​เฟิงห​ยู​คงจะ​ไม่เกรงกลัว​คำ​ขู่เข็ญ​ของ​เขา​เป็นแน่​

ในเวลานี้​ มีร่าง​หนึ่ง​ลอย​อยู่​เหนือศีรษะ​ของ​ฝูงชน​ หลิน​เว่ย​เป็น​คน​ที่มา​ตาม​ทีหลัง​เสี่ยว​ชิง ในเวลานั้น​หลิน​เว่ย​ขอให้​เสี่ยว​ชิง รีบ​นำมา​ก่อน​ เนื่องจาก​ ความเร็ว​ของ​เขา​ เห็นได้ชัด​ว่า​สาย​เกินไป​ที่จะ​ขัดขวาง​

“ศิษย์​น้อง​! มัน​เป็น​ศิษย์​น้อง​ตัว​น้อย​จริงๆ​” ผาง​หลง​อุทาน​อย่าง​ตื่นเต้น​

เมื่อ​เห็น​โหวกเหวก​อย่าง​ดีอกดีใจ​ของ​ผาง​หลง​ หลิน​เว่ย​ก็​ค่อยๆ​ก้มลง​และ​พยักหน้า​ให้​เขา​ และ​ เมิ่งหู​ลู่​ ด้วย​รอยยิ้ม​ จากนั้น​เขา​ก็​หัน​ศีรษะ​และ​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​คน​เหล่านั้น​ ใน​อาณาจักร​แห่ง​แสง ทันใดนั้น​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​มืดมน​

แววตา​ของ​เขา​เย็นชา​ และ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา​ว่า​ “สังหาร​พวก​มัน​ให้​หมด​!”

เห็นได้ชัด​ว่า​คำพูด​ของ​ หลิน​เว่ย​ นั้น​ถือเป็น​คำสั่ง​ต่อ​ เสี่ยว​ชิง ดังนั้น​หลังจาก​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หลิน​เว่ย​ เสี่ยว​ชิงก็​พยักหน้า​อย่าง​เคารพ​และ​ตอบรับ​ จากนั้น​เสี่ยว​ชิงก็​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​หมี​และ​ตบ​มัน​เบา​ ๆ เพียง​ครั้ง​เดียว​

ที่​ฝ่ามือ​นี้​ ทำให้​ใบหน้า​ของ​หมี​ก็​เปลี่ยนไป​อย่าง​กะทันหัน​ ดวงตา​ของ​เขา​มีสีที่​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ และ​เขา​ต้อง​การยื่นมือ​ออก​ไป​เพื่อ​สกัดกั้น​มัน​

“ อย่า​ทำให้​อุ้ง​ตีน​หมี​เสียหาย​…เช่นนั้น​มัน​จะกิน​ไม่อร่อย​” ใน​ช่วงเวลา​หัวเลี้ยวหัวต่อ​ น้ำเสียง​ของ​ หลิน​เว่ย​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ แต่​มัน​ทำให้​หน้าอก​ของ​หมี​นั้น​อึดอัด​คับข้องใจ​ มัน​โมโห​แทบจะ​กระอัก​เลือด​

ใบหน้า​ของ​เขา​แสดง​สีของ​ความ​อับอาย​และ​ความไม่พอใจ​ แต่​แล้ว​การแสดงออก​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​แข็งกระด้าง​ จากนั้น​เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​ดวงตา​ของ​มัน​มืด​ลง​ และ​ไร้​ซึ่งความรู้สึก​

“ตูม​ ร่าง​ของ​หมี​ล้ม​ลง​ แต่​ใน​มือ​ของ​เสี่ยว​ชิงมัน​ยังคง​ถือ​หัวใจ​สีแดง​ที่​เต้น​เร่า​อยู่​ เลือด​ยังคง​ไหล​หยด​ลงมา​ จากนั้น​มอง​ไป​ที่​หมี​ที่​ล้ม​ลง​ ปรากฏ​ว่า​ตำแหน่ง​หน้าอก​ของ​มัน​มีรู​เลือด​ไหล​ท่วม​ ราวกับ​น้ำหลาก​ เจิ่งนอง​

“นี่​…”ไม่เพียง​ แต่​ เมิ่งหู​ลู่​และ​คนอื่น​ ๆ เท่านั้น​ที่​มีใบหน้า​ทึ่ม​ทื่อ​ แมว​ดำ​นั้น​ปรากฏ​สภาพ​ขน​ตั้งชัน​ มัน​ก้าว​ถอยหลัง​ช้าๆมอง​ไป​ที่​ เสี่ยว​ชิงด้วย​ความหวาดกลัว​ โดยเฉพาะ​หัวใจ​ที่​มีเลือด​ไหลริน​อยู่​ใน​มือ​ของ​เสี่ยว​ชิง และ​สมอง​มึนตึง​ ไร้​พลัง​ไป​ชั่วขณะ​

“นี่​…นี่​มัน​…เหลือเชื่อ​!” ผู้​ที่​โพล่ง​ขึ้น​มา คือ​ หมิง​จิ้ง ซึ่งเคย​ถูก​หมี​ตบ​ ปลิว​ออกมา​ก่อนหน้านี้​ และ​ถูก​เมิ่งหู​ลู่​แบก​กลับมา​ ขณะนี้​ เขา​นั่ง​อยู่​บน​พื้น​ โดย​ใช้มือซ้าย​กด​หน้าอก​ มือขวา​ของ​เขา​งอ​อย่าง​ผิดธรรมชาติ​ และ​ปาก​ของ​เขา​ยังคง​เปรอะเปื้อน​ไป​ด้วย​เลือด​

อย่างไรก็ตาม​ บน​ใบ​หน้าที่​ซีด​ของ​เขา​นั้น​ มีใบหน้า​ราวกับ​คน​โง่เขลา​

ณ ที่​แห่ง​นี้​ทุกคน​ ต่าง​รู้กัน​ดี​ว่า​ นี่​คือ​ สัตว์​อสูร​ขั้น​เก้า​ ทั้ง​เขา​และ​กวน​เจิ้น​ไม่สามารถ​แม้แต่​สร้าง​รอยขีดข่วน​ใดๆ​ ให้​กับ​มัน​ได้​ และ​พวกเขา​ก็​ถูก​ทำร้าย​จน​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​อยู่​เบื้องหน้า​เสี่ยว​ชิง พวก​มัน​ไม่สามารถ​ต้านทาน​เขา​ได้​

มัน​ถูก​สังหาร​เพียง​การ​ออกแรง​ครั้ง​เดียว​ และ​ทุกอย่าง​ราบเรียบ​ ดู​น่าหวาดกลัว​

“ นี่​คือ​พลัง​ของ​สัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​งั้น​หรือ​?” เสียง​จอแจ​ของ​ผู้คน​ นี่​เป็นครั้งแรก​ ที่​พวกเขา​ได้​เห็น​การ​ปรากฏตัว​ของ​สัตว์​อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​

แม้ว่า​ ผาง​หลง​ และ​ เมิ่งหู​ลู่​ จะเป็น​ศิษย์​ของ​ ซางกวน​ฮ่าว​หยาง​ แต่​พวกเขา​ก็​ไม่เคย​เห็น​การ​โจมตี​ของ​หลิน​เว่ย​ ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​

“พี่​หมิง​! เป็น​อย่างไรบ้าง​” กวน​เจิ้น​หันหน้า​ไป​มอง​หมิง​จิ้ง และ​ถามด้วย​ความเป็นห่วง​

“ไม่เลว​! ข้า​ยัง​ไม่ตาย​” หมิง​จิ้งส่าย​หัว​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ขมขื่น​

“ดีแล้ว​!” กวน​เจิ้น​พยักหน้า​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ จากนั้น​เขา​ก็​มอง​ไป​ที่​ หลิน​เว่ย​ด้วย​ความชื่นชม​

ไม่เพียง​ แต่​กวน​เจิ้น​เท่านั้น​ แต่​ยัง​รวมถึง​หมิง​จิ้งด้วย​ สำหรับ​ เมิ่งหู​ลู่​และ​ ผาง​หลง​ ใบหน้า​ของ​พวกเขา​ผ่อนคลาย​ แต่​ก็​อาบ​ไป​ด้วย​แสงแพรวพราว​ เมื่อ​พวกเขา​มอง​ไป​ที่​ด้านหลัง​ของ​หลิน​เว่ย​ ดวงตา​ของ​พวกเขา​ก็​พร่ามัว​เล็กน้อย​

ราชาซากศพ

ราชาซากศพ

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง ราชาซากศพ รายละเอียด หลินเว่ย ขอทานตัวน้อยที่โดนทำลายฐานพลัง วันหนึ่งได้เจอคริสตัลสีดำปริศนา ซึ่งมีความสามารถให้การคืนชีพซากศพสัตว์อสูรให้เป็นนักรบโครงกระดูก ที่มีทักษะความสามารถเหมือนยามมีชีวิต เรื่องราวการผจญภัยของราชาคนใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท