ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 403 ความสัมพันธ์ของเราคือของปลอม

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 403 ความสัมพันธ์ของเราคือของปลอม

ตอนที่ 403 ความสัมพันธ์ของเราคือของปลอม

หลินเซี่ยพาหู่จือไปที่บ้านตระกูลเซี่ย

หู่จือเองก็รู้สึกตื่นเต้นมาก

เขาจับเอวหลินเซี่ยแน่นด้วยมือเล็ก ๆ พลางพูดอย่างตื่นเต้นตลอดทาง และชื่นชมความสามารถของหลินเซี่ย

เมื่อพวกเขามาถึง คุณแม่เซี่ยกำลังเคี่ยวน้ำซุปอยู่ในครัว

เมื่อเห็นหลานสาวและเหลนชาย คุณแม่เซี่ยก็พูดอย่างมีความสุขว่า “เซี่ยเซี่ย หู่จือ มาถึงกันแล้วเหรอ รีบเข้ามาก่อนสิ อาหารใกล้พร้อมแล้วล่ะ”

“คุณย่า กำลังทำอาหารอยู่เหรอคะ ให้ฉันช่วยดีกว่า” หลินเซี่ยพับแขนเสื้อขึ้นและเตรียมเข้าครัว

“ไม่ต้องก็ได้จ้ะ อีกนิดก็จวนจะเสร็จแล้ว”

หลินเซี่ยถามว่า “อาหญิงอยู่ไหมคะ?”

คุณแม่เซี่ยตอบกลับ “อาหญิงเธออยู่ในห้องนู้น เหมือนกำลังคุยเรื่องงานกับลินดาน่ะ”

“อารองก็อยู่ด้วยนะ แต่อีกเดี๋ยวต้องไปทำงานแล้ว ย่าเห็นลินดาอยู่ด้วยพอดี เลยให้เขาอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน ยังไงก็ช่วยไปคุยกับอารองหน่อย ขอให้เขากระตือรือร้นขึ้นบ้างก็ดี อายุปาเข้าไปสามสิบแล้ว จะมามัวเขินกันท่าตัวเองทำไมอยู่ ถ้าชอบก็พูดตรง ๆ ไปเลย”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับเขาให้”

ส่วนหู่จืออยู่ในห้องครัวต่อ คุณแม่เซี่ยตักอาหารที่กำลังทำ และป้อนเข้าปากให้หู่จือชิม

หลินเซี่ยเคาะประตูและเข้าไปในห้องเซี่ยไห่

เซี่ยไห่กำลังแต่งตัวเพื่อเตรียมไปห้องเต้นรำ

หลินเซี่ยเห็นชายวัยกลางคนหุ่นบาง สวมเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้คู่กับกางเกงยีนส์กำลังปาดเจลบนผม แล้วก็หัวเราะเบา ๆ “เฮ้ ใส่เจลแล้วค่อยดีขึ้นมาหน่อยค่ะ มีผู้ชายคนไหนบ้างไม่อยากดูดี?”

นี่คืออาการหลงตัวเองชัด ๆ เขาคงทำแบบนี้เป็นกิจวัตรสินะ? เขาพิถีพิถันในการแต่งตัวหล่อเพื่อไปห้องเต้นรำอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ?

หลินเซี่ยยืนพิงกรอบประตู มองชายที่กำลังจัดการตัวเองอยู่ แล้วถ่ายทอดคำพูดของผู้เป็นย่าว่า “คุณย่าบอกว่าลินดาจะอยู่กินข้าวด้วย เลยขอร้องว่าอารองอย่าเพิ่งออกไปไหน อยู่เป็นเพื่อนคุยกับหล่อนสักพักก่อนน่ะค่ะ”

เซี่ยไห่ก้มหน้าลงมองกระจก สูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชา “คิดว่าฉันมีเรื่องอะไรต้องคุยกับแม่ทอมบอยคนนั้นกันล่ะ?”

“ทอมบอยอะไรล่ะ? อาจะมาตัดสินใครด้วยเรื่องส่วนตัวแบบนี้ได้ยังไง? อาไม่ได้ชอบหล่อนหรอกเหรอ?” หลินเซี่ยมองตรงไปยังเซี่ยไห่อย่างพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าสำหรับเขาแล้ว ชื่อลินดาทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากเมื่อได้ยิน

เซี่ยไห่พยายามทำตัวห่างเหินจากลินดาเต็มที่ “ใครจะไปชอบหล่อน? ดูไม่ออกเหรอว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่? ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพ่อของเธอทั้งนั้น ไม่นานมานี้เขามากดดันฉันกับอาให้ไปหาแฟนเป็นตัวเป็นตนซะ แถมตอนนั้นเธอก็เป็นคนบอกเองว่าเขาทำแบบนั้นก็เพราะรู้สึกผิดต่อพวกเรา

เพราะกลัวว่าเขาจะอยู่ภายใต้สภาพจิตใจที่ย่ำแย่มากเกินไป และจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเขาได้ เราสองคนเลยปรึกษากันว่าจะโกหกเขา ว่าอาของเธอมีแฟนแล้ว และฉันก็มีคนที่ตัวเองชอบ ตอนนี้พ่อฟื้นความจำและเข้ากับแม่ของเธอได้ดีแล้วนี่ จะให้ฉันแสดงละครเป็นแฟนลินดาต่อทำไมอีก?”

หลินเซี่ยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ถามว่า “แสดงละคร? หมายความว่าไง? อารองกับคุณอาแสดงละครหลอกพ่อเหรอ? งั้นคุณอาหญิงกับหมอเย่ก็แกล้งคบกันหมดเลยน่ะสิ?”

“ช่วยเงียบเสียงตัวเองลงหน่อย” เซี่ยไห่กระซิบต่อ “ใช่แล้ว เราทั้งคู่ไม่ใช่แฟนกันจริง ๆ คิดว่าจู่ ๆ เราทั้งคู่จะตกหลุมรักกะทันหันได้หรือไง? นึกว่าเธอกับเจียเหอมองออกตั้งนานแล้วซะอีก”

หลินเซี่ยส่ายหน้า “ฉันไม่เห็นมองออกเลย ได้ยินมาว่าอาเคยแอบดูลินดาอาบน้ำ แถมยังเห็นหล่อนเปลือยทั้งตัว นอกจากจะไม่รับผิดชอบหล่อนแล้วยังมาขอให้หล่อนแสดงละครหลอกพ่ออีก ทำไมถึงได้เป็นคนขี้โกงแบบนี้กันนะ”

เธอและเฉินเจียเหอสงสัยความเป็นมาของความสัมพันธ์ระหว่างเย่ไป๋กับเซี่ยอวี่อยู่แล้ว แต่เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าเซี่ยไห่กับลินดานั้นก็คบกันปลอม ๆ เหมือนกัน!

พี่น้องคู่นี้แสดงละครตบตาได้สมบูรณ์แบบจริง ๆ

เซี่ยไห่ “…”

เขาเริ่มหน้าแดงก่ำและรีบปกป้องตัวเอง “ใครบอกเธอ? สงสัยย่าคงเล่าอะไรไม่เข้าท่าให้ฟังอีกแล้วล่ะสิท่า ฉันไม่ได้แอบมองซะหน่อย โอเคไหม? ฉันไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น นั่นมันแค่เรื่องบังเอิญ ผู้หญิงคนนั้น… ทั้งตัวมีอะไรให้น่าเชยชมบ้าง”

เมื่อเซี่ยไห่พูดจบ เขาก็กระแอมไอเล็กน้อย พร้อมกับใบหูที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

เขาหยิบกุญแจรถแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันต้องไปทำงานแล้ว คงไม่อยู่กินข้าวด้วย เธอช่วยฉันหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะแอบออกไปก่อน”

หลินเซี่ยรีบโบกมือและปฏิเสธ “ไม่เอาด้วยหรอก ฉันไม่โกหกคุณย่าเหมือนอารองแน่”

หลินเซี่ยไม่สนใจเขาเลย เซี่ยไห่จึงบ่นอย่างหนักใจว่า “แล้วใครซื้อมอเตอร์ไซค์ให้เธอ? คนมือสั้นนี่มือสั้นอยู่วันยังค่ำจริง ๆ เธอได้มอเตอร์ไซค์ไปแล้วนี่ คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือไง? งั้นจากนี้เงินที่หาได้ฉันจะไม่แบ่งมาช่วยเหลือเธออีกแล้ว เธอคงไม่อยากไปซื้อของที่เชินเฉิงกับฉันแล้วใช่ไหม? อีกสองสามวันข้างหน้าฉันไม่พาเธอไปด้วยแน่นอน”

คำพูดสุดท้ายของเซี่ยไห่ ทำให้หลินเซี่ยอยู่ภายใต้การควบคุมได้สำเร็จ

ร้านใหม่ของเธอทำกิจการเกี่ยวกับการแต่งหน้าเจ้าสาว และเช่าชุดแต่งงาน ซึ่งเป็นร้านแรก ๆ ในไห่เฉิงเลยก็ว่าได้ เธอจึงวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากช่องว่างของตลาดในปัจจุบันเริ่มต้นต่อยอดธุรกิจอย่างรวดเร็ว แล้วเปลี่ยนให้มันกลายเป็นธุรกิจหลักของเธอ

เธอจะต้องไปเชินเฉิงเพื่อซื้อชุดแต่งงาน ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวแบบต่าง ๆ และเครื่องสำอางใหม่ ๆ เพื่อให้งานออกมาทันสมัยที่สุด

แม้เซี่ยไห่จะไม่พาเธอไป แต่เธอจะไปเองก็ได้

อย่างไรก็ตาม มันยากเกินไปสำหรับเธอที่จะทำทุกอย่างเองตามลำพัง ดังนั้นการมีเพื่อนร่วมทางไปด้วยจึงนับว่าสะดวกกว่า

หลินเซี่ยเริ่มกระสับกระส่าย “ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วย แต่ฉันกลัวคุณย่ามากกว่า”

“ไม่เป็นไร แค่บอกว่าไม่ทันเห็นก็พอ เดี๋ยวฉันค่อยอ้างว่าต้องออกไปห้องเต้นรำเพราะมีเรื่องด่วน”

หลังจากหลินเซี่ยรู้ว่าเซี่ยไห่ไม่ได้สนใจลินดาเลย เธอจึงทำได้แค่ตกลงที่จะช่วยเซี่ยไห่ปิดเป็นความลับเท่านั้น

เธอกลับเข้าไปในห้องครัว และวางแผนถ่วงเวลาหญิงชรา ส่วนหู่จือยืนอยู่บนขั้นบันไดพลางแทะน่องไก่อย่างมีความสุข เมื่อเขาเห็นเซี่ยไห่แอบย่องออกไป ก็ตะโกนบอกคุณแม่เซี่ยว่า “คุณยายทวด คุณตารองกำลังจะออกจากบ้านแล้วฮะ”

คุณแม่เซี่ยรีบโผกระโดดออกมาทั้งที่ถือทัพพีอยู่ในมือ ออกคำสั่งด้วยเสียงหนักแน่นว่า “อนุญาตให้แกออกไปได้หลังอาหารมื้อเย็นเท่านั้น ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าลินดาก็อยู่ด้วย? มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

เซี่ยไห่หันไปมองหู่จือตาแข็ง และทำได้แค่หันหลังกลับไปอย่างไม่เต็มใจ

หู่จือบ่นกับคุณแม่เซี่ยว่า “คุณยายทวด คุณตารองส่งสายตาคาดโทษใส่ผมด้วยล่ะ”

คุณแม่เซี่ยหันกลับมาและจ้องไปยังเซี่ยไห่ “ทำไมถึงพาลไปลงกับเด็ก? ทำตัวให้สมกับเป็นคุณตารองหน่อยได้ไหม?”

เซี่ยไห่ “…”

คุณแม่เซี่ยสั่งเขาว่า “อาหารจะเสร็จเร็ว ๆ นี้แล้ว ไปเรียกพี่สาวแกกับลินดาออกมากินข้าวด้วย”

หลังจากคุณแม่เซี่ยพูดจบ นางก็หันหลังกลับเข้าครัว

เซี่ยไห่หันไปมองหู่จือที่กำลังแทะน่องไก่ พลางมองเขาอย่างขุ่นเคืองและถอนหายใจ “หู่จือ นี่เธอตอบแทนกันแบบนี้ได้ยังไง ทั้งที่ลุงทำดีกับเธอมาตั้งหลายปี?”

ทำไม แล้วทำไมเด็กแสบคนนี้ถึงเรียกเขาด้วยถ้อยคำที่ฟังดูเคอะเขินอย่างคำว่า “ตา” กันล่ะ?

เมื่อก่อนเขาเคยถูกเรียกว่าลุงเซี่ย แต่จู่ ๆ ก็เลื่อนขั้นเป็นคุณตาเสียอย่างนั้น รู้สึกว่าตัวเองแก่ชะมัด!

ตอนแรกเขารู้สึกมีความสุขมากที่ได้เลื่อนสถานะ แต่ตอนนี้หลังความอิ่มเอมใจผ่านพ้นไป ก็เหลือแค่ความกระดากอายเท่านั้น

หู่จือเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยไห่และพูดอย่างจริงจังว่า “ยายทวดบอกว่าอีกหน่อยตารองจะได้แต่งงานกับอาลินดา ถ้าปล่อยให้ตารองออกไป ท่านจะไม่รักคุณอีกต่อไป”

“เจ้าเด็กนี่ รู้มากเกินไปแล้ว”

เซี่ยไห่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปเรียกเซี่ยอวี่และลินดา

เมื่อเห็นลินดา เขาก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

ลินดาดูเฉยเมย ไม่ได้สนใจมองเซี่ยไห่ด้วยซ้ำ

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แผนแตกเพราะหู่จือ ความฝันที่จะหนีก็พลันสลาย สงสารตารองเซี่ยไห่เขานะคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท