ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 411 หล่อนคงไม่ได้แสดงละครจนคิดจริงจังหรอกใช่ไหม

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 411 หล่อนคงไม่ได้แสดงละครจนคิดจริงจังหรอกใช่ไหม

ตอนที่ 411 หล่อนคงไม่ได้แสดงละครจนคิดจริงจังหรอกใช่ไหม

เช้าวันที่สอง เมื่อหลินเซี่ยมาถึงร้านตัดผม เจียงอวี่เฟยก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน

ขณะนี้ร้านตัดผมยังไม่มีลูกค้า พนักงานคนอื่นก็ยังไม่มา หลินเซี่ยจึงเก็บอุปกรณ์ทำผมเพียงลำพัง เมื่อเธอเห็นเจียงอวี่เฟยเดินเข้ามา นัยน์ตาก็พลันส่องประกาย

เมื่อคืนนี้เธอมีความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเต็มเปี่ยมจนอยากสนทนาสัพเพเหระด้วย แต่โทรศัพท์ของเจียงอวี่เฟยถูกพ่อของหล่อนยึดไป ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่รอจนกว่าจะได้เจอหน้าพูดคุยกันในเช้าวันถัดไป

เมื่อเห็นเจียงอวี่เฟยมาตั้งแต่เช้าตรู่ แถมใบหน้ายังแสดงออกชัดเจนว่ามีเรื่องจะสนทนาด้วย หลินเซี่ยก็พลันรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายดายเสียแล้ว

เป็นไปตามคาด น้ำเสียงของเจียงอวี่เฟยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เซี่ยเซี่ย เรื่องนี้มันเกินไปมาก มีข่าวใหญ่จะมาบอก”

หลินเซี่ยแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง เช็ดกรรไกรพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ข่าวใหญ่อะไรเหรอ?”

“เธอรู้เรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันพาแฟนกลับมาบ้านไหม?” เจียงอวี่เฟยเอ่ยถาม

นัยน์ตาของหลินเซี่ยสั่นไหวเล็กน้อย “ไม่รู้ เขาพาแฟนกลับบ้านด้วยเหรอ สวยไหม?”

“อะไรกัน? เรื่องนี้เธอเองก็ไม่รู้เหรอ เขาก็ปิดบังเรื่องนี้กับเธอด้วยเหรอ?”

เจียงอวี่เฟยเห็นสีหน้าฉงนของหลินเซี่ย ทันใดนั้นก็พลันเกิดความสนใจ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและเตรียมจู่โจมหลินเซี่ย

“งั้นเธอรู้หรือเปล่าว่า…….แฟนของลูกพี่ลูกน้องฉันคือใคร?”

หลินเซี่ย “ใคร?”

“เธอต้องคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน แฟนของเขาแท้จริงแล้วคืออาของเธอ! อาเซี่ยอวี่ของเธอนั่นแหละ! อึ้งไหมล่ะ? เซอร์ไพร์สไหม?

เมื่อคืนนี้ฉันอยู่ที่บ้านของลุงด้วย พอเห็นหล่อนแล้วก็ตกใจมาก เธอต้องดูสีหน้าของป้าฉันซะก่อน พอท่านเห็นว่าหล่อนหน้าเหมือนคนที่อยู่ในทีวีเปี๊ยบ ท่านก็ตื่นตระหนกจนแทบกรีดร้อง! ลูกพี่ลูกน้องของฉันคบหากับอาเซี่ยอวี่ได้ไง? พวกเขาเริ่มชอบกันตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยงั้นเหรอ?”

เจียงอวี่เฟยสัมผัสคางและครุ่นคิด “ไม่สิ ครั้งก่อนเธอไปสถานีโทรทัศน์ไม่ใช่ว่ารับหน้าที่สไตลิสต์ให้กับอาเซี่ยอวี่เหรอ? ตอนนั้นลูกพี่ลูกน้องของฉันก็อยู่ที่นั่น เขาบอกว่าไปถ่ายภาพกับแฟน เธอก็อยู่ข้างพวกเขา ไม่สังเกตเห็นอะไรเลยเหรอ?”

หลินเซี่ยส่ายศีรษะ

“แปลกจริงๆ พวกเขาสองคนคบหากันได้ไง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกพี่ลูกน้องชายของฉันจะจีบอาเซี่ยอวี่ติด”

นอกจากเจียงอวี่เฟยจะรู้สึกประหลาดใจแล้ว หล่อนยังรู้สึกสงสัยมากอีกด้วย

ช่างเป็นพรหมลิขิตที่มหัศจรรย์อะไรอย่างนี้

หลินเซี่ยเองก็ประหลาดใจมาก เพราะเซี่ยไห่บอกอย่างชัดเจนว่าเย่ไป๋และเซี่ยอวี่เพียงแสดงละครทำเป็นคู่รักโกหกพ่อของหล่อน

ทำไมเพียงพริบตาเซี่ยอวี่ถึงได้ไปพบพ่อแม่ของเย่ไป๋แล้วล่ะ

เป็นไปได้หรือเปล่าว่าหล่อนคิดจะแต่งงานออกไปจริงๆ?

หลินเซี่ยดึงเจียงอวี่เฟยมานั่งและให้หล่อนเล่ารายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับเซี่ยอวี่ในเหตุการณ์อาหารมื้อค่ำบ้านของตระกูลเย่

เมื่อรับรู้ว่าพ่อของเย่ไป๋เป็นนักเขียนชื่อดัง แถมเซี่ยอวี่ยังขอลายเซ็นพร้อมกับหนังสือของเขา มุมปากของหลินเซี่ยพลันกระตุก

หลังจากทั้งสองคนสนทนาสัพเพเหระกันครู่หนึ่ง หลินเซี่ยก็เอ่ยเตือนเจียงอวี่เฟย

“เรื่องนี้เธออย่าได้แพร่งพรายออกไปเชียวนะ เผื่อมีจะมีเรื่องเข้าใจผิดกัน”

“ฉันไม่พูดไปหรอกน่า” เจียงอวี่เฟยกล่าว “พวกเขาทั้งสองคนยอมรับแล้ว ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรได้อีก ถ้าเข้าใจผิดจริง ลูกพี่ลูกน้องของฉันจะพาหล่อนกลับบ้านมาพบพ่อกับแม่ได้ไง หล่อนไม่มีทางตกอยู่ในกำมือของลูกพี่ลูกน้องฉันและถูกเขาบีบบังคับหรอก ฉันคิดว่าพวกเขาทั้งสองคนต้องมีใจให้กัน”

เจียงอวี่เฟยกล่าวพลางกอดหลินเซี่ยด้วยความตื่นเต้น “เซี่ยเซี่ย ยอดเยี่ยมไปเลยจริงๆ หลังจากนี้พวกเราก็เป็นญาติกันแล้ว เหมือนสถานะของฉันจะอาวุโสกว่าเธอด้วยนะ”

หลินเซี่ย “!!!”

เมื่อเอ่ยถึงสถานะอาวุโส หลินเซี่ยก็กลอกตาและผลักหล่อนออก “อย่าเพิ่งภาคภูมิใจไปหน่อยเลย ตอนนี้ทัศนคติพ่อเธอเป็นไงบ้าง? ได้โน้มน้าวเขาแล้วหรือยัง? แล้วลุงและป้าของเธอจัดการอะไรบ้างหรือยัง? ใกล้จะถึงรอบตัดสินแล้ว เธอจะถอนตัวไม่ได้นะ”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการแข่งขัน เจียงอวี่เฟยพลันห่อเหี่ยวอีกครั้ง “ลุงและป้าของฉันกล่าวว่าพวกเขาจะตัดสินใจแทนฉันหากฉันเกลี่ยกล่อมพ่อในเรื่องนี้ไม่ได้ เรื่องนี้ฉันกังวลอยู่ตลอดเลย ฉันไม่อยากให้ทำให้พ่อของฉันเสียใจ”

หลินเซี่ยเอ่ย “ให้พวกเขาพูดคุยกับพ่อของเธอให้ดีก่อนเถอะ”

เจียงอวี่เฟยเดินวนภายในร้านตัดผมรอบหนึ่ง ทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเอ่ยกับหลินเซี่ย “เซี่ยเซี่ย ตอนนี้ปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว ปกติแล้วฉันก็ไม่ได้ทำอะไร ฉันมาช่วยเธอที่ร้านตัดผมได้ไหม? ฉันเองก็อยากเรียนหน้าแต่งเหมือนกัน”

น้ำเสียงของหลินเซี่ยพลันแผ่วเบา “เธอจะเรียนแต่งหน้าอะไรกัน อย่ามาแย่งงานฉัน หลังจากนี้เธอเป็นดาราไปเงียบๆ เถอะ ให้ช่องทางทำมาหากินกับพวกฉันบ้าง ไม่ต้องจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเองหรอก”

เจียงอวี่เฟยจับแขนของหล่อนและออดอ้อน “เธอคิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย? ฉันก็แค่เบื่อและอยากหาอะไรทำ ต่อให้ฉันได้เรียนก็ไม่มีทางเก่งกว่าเธอหรอก ฉันเองก็ไม่ได้เรียนสไตล์ซับซ้อน ก็แค่การแต่งหน้าง่ายๆให้กับตัวเอง เธอรับฉันไว้เถอะนะ”

เห็นเจียงอวี่เฟยมานะบากบั่นขนาดนี้ หลินเซี่ยยิ้มพลางพยักหน้า “ได้ พอดีว่าฉันกำลังจะไปซื้อของที่เมืองเชินเฉิงและต้องไปหลายวัน ถ้าเธอเบื่อไม่มีอะไรทำก็ช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้านหน่อยก็แล้วกันนะ

ตอนนี้เสี่ยวเยี่ยนไปเตรียมการเปิดร้านใหม่อยู่ ทางด้านนี้เลยเหลือแต่ชุนฟางและอาจารย์หวังสองคน เธอมาช่วยได้อยู่ ตอนที่เธอยังไม่ดัง ฉันยังเรียกใช้เธอได้ หลังจากนี้หากเธอเป็นดาราดัง ฉันก็ไม่กล้าเรียกใช้เธอแล้ว”

“เธอจะไปเมืองเชินเฉิงเหรอ? ไปเมื่อไร?” เจียงอวี่เฟยถาม

หลินเซี่ยตอบ “น่าจะสองวันนี้ ฉันจะไปกับอารองของฉัน กำลังรอให้เขาตกลงวันที่แน่ชัดอยู่”

“แล้วจะกลับมาก่อนรอบตัดสินหรือเปล่า?”

หากหล่อนยังสามารถเข้าร่วมการแข่งขันต่อไปได้ หล่อนจะต้องพึ่งพาหลินเซี่ยให้แต่งหน้าให้หล่อน

หลินเซี่ยพยักหน้า “ได้ ฉันจะกลับมาก่อนสองวัน เมื่อถึงเวลานั้นจะแต่งหน้าและทำผมให้กับเธอ”

ในไม่ช้าชุนฟางและอาจารย์หวังก็มาทำงาน หลินเซี่ยเองก็เอ่ยกำชับพวกเขาและเอ่ยถึงเรื่องให้เจียงอวี่เฟยเข้ามาช่วยงานภายในร้าน

ในเมื่อเจียงอวี่เฟยมาแล้ว หล่อนก็ถือโอกาสไปหาหวังซิ่วฟางและต้องการสอบถามข่าวคราวทางด้านพ่อของหล่อน

หลังจากที่พ่อของหล่อนออกไปจากบ้านลุงของเธอ สองพ่อลูกก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย เจียงอวี่เฟยจึงเป็นกังวลเรื่องสภาพจิตใจของพ่อหล่อนเป็นอย่างมาก เกรงว่าร่างกายของเขาจะทรุดเพราะความโกรธ

สุดท้ายเมื่อเอ่ยถามหวังซิ่วฟาง หวังซิ่วฟางกลับกล่าวว่าหล่อนเองก็ไม่กล้าไปรบกวนเจียงกั๋วเซิ่ง

หวังซิ่วฟางรู้สึกว่าตนเองจัดการเรื่องราวได้ไม่ดี หลายวันมานี้เป็นกังวลอยู่เสมอ เมื่อเห็นเจียงอวี่เฟยไม่ตำหนิอะไร หล่อนพลันรู้สึกสบายใจขึ้น

ช่วงเที่ยง เซี่ยไห่ก็เดินเข้ามาหาหลินเซี่ยอย่างรีบร้อนและแจ้งข่าวแก่เธอ

“เซี่ยเซี่ย เธอไปเตรียมตัวเถอะ พวกเราจะนั่งรถไปเมืองเชินเฉิงในตอนบ่ายของวันพรุ่งนี้”

หลินเซี่ยประหลาดใจ “พรุ่งนี้เหรอคะ?”

“ใช่ น่าจะทันอยู่ใช่ไหม?”

“ทันอยู่ค่ะ”

เซี่ยไห่ส่งเสียงตอบรับ “ตกลง งั้นเธอไปเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ ฉันซื้อตั๋วแล้ว ออกเดินทางพรุ่งนี้ตอนบ่าย”

เซี่ยไห่กล่าวจบและกำลังจะจากไป หลินเซี่ยไล่ตามเขาและเอ่ยเรียกเขา “ใช่แล้ว อารอง คุณบอกฉันว่าอาของฉันและหมอเย่นั้นกำลังแสดงละครหลอกพ่อของฉันเหรอ นั้นใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?”

เซี่ยไห่เอ่ยตอบ “จริงอย่างแน่นอน คนต้นคิดเรื่องนี้ยังเป็นอาของเธอด้วย”

“งั้นเรื่องที่อาของฉันตามหมอเย่ไปพบกับพ่อแม่ของเขาที่บ้านเขาเมื่อวานนี้ล่ะ คุณรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?”

หลินเซี่ยรู้สึกว่าตนกำลังโดนเซี่ยไห่โกหก

เช่นนั้นสองคนนี้อาจจะปิดบังทุกคนและแอบคบกัน

เซี่ยไห่พลันตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “เธอพูดว่าอะไรนะ? ไปพบพ่อแม่เหรอ? หล่อนบ้าหรือเปล่า? หล่อนคงไม่ได้แสดงละครจนคิดจริงจังหรอกใช่ไหม?”

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เอ้ เรื่องนี้มันคืออะไรกันหนอ คุณดาราเริ่มมีใจแล้วใช่ไหม ขนาดเซี่ยไห่ยังไม่รู้เรื่องแบบนี้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท