ในบรรดาพวกนางเอกบ้าๆ ไม่ปกติในอยู่ในเกม’หิ่งห้อยรัติกาล(Yamiyo no Hotaru)’ หนึ่งในสามนางเอกที่โด่งดังมากที่สุดในเกม
คือยักษ์ษาหัวแดงอาโอโกะ หรือเหล่าแฟนๆ เรียกอีกชื่อว่าอาโอโกะจัง
ภายในเกม พระเอกจะเข้าใจผิดว่าเธอคือหนึ่งในสมาชิกของตระกูลคิซึกิเพราะเธอปรากฎครั้งแรกในคฤหาสน์และได้ใส่ชุดของสมาชิกตระกูลคิซึกิ
ดังนั้นผู้เล่นที่พึ่งเล่นเกมที่ไม่รู้ตัวจริงของเธอ ก็อาจคิดว่าเธอคงเป็น npc ประเภทดูแลหรือ NPC ที่คอยสนับสนุนเท่านั้น
แต่ธาตุแท้ของเธอนั้นเป็น”จตุรอสูรร้าย”เป็นผู้ที่บุกโจมตีและเคยเข้ายึดครองเมืองหลวงของฟุโซะ-คุนิเมื่อเกือบหนึ่งพันปีก่อนแล้วจากนั้นก็ถูกเรียกว่า”มหายักษ์ษาน้ำเงิน”เพราะสิ่งที่เธอได้ทำเรื่องโหดร้ายไป…
ตามเนื่อเรื่องเดิมทีเธอป็นสัตว์ประหลาดที่อาละวาดในทวีปหนึ่งและหลังจากข้ามทะเลไปอีกที่หนึ่งแล้ว
เธอได้ “กลืนกิน” อุเคียวและสัตว์ประหลาดอื่นๆ จำนวนมากและได้เข้ายึดครองเมืองหลวงและหมู่บ้านใกล้เคียง
โดยในตอนนั้น อาโอโกะจังถูกเรียกว่า “EX ท่านอาโอโกะ(อาโอโกะซามะ)” โดยแฟนๆ และทีมงานผู้พัฒนา(จากผู้แปล ไม่เข้าใจความหมาย EX แหะ)
อย่างไรก็ตามในที่สุดจักรพรรดิก็ได้สั่งให้”ผู้ปัดเป่าทั้ง 7″ ซึ่งเป็นกลุ่มกลุ่มองเมียวจิที่มีชื่อเสียง ซามูไร และพระ ให้สังหารลูกน้องของเธอทั้งหมดจนไม่เหลือ
หลังจากฆ่าลูกน้องของเธอเสร็จก็ได้ทำการฉีกอาโอะโกะเป็นชิ้นๆ
อวัยวะขาดออกจากร่างกายซ้าไปซ้ำมาหัวของเธอถูกตัดอย่างไม่รู้จบ
เคยได้ยินมาว่าเธอถึงกับวิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง และจนถึงตอนนี้บาดแผลของเธอก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูได้เลย
ต้องขอบคุณเหตุการณ์นั้นเลย ที่ทำให้เธอใช้พลังได้เพียง 20% จาก 100% ตอนเริ่มเกม แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้นกุก็ยังสู้โยวไคระดับภัยพิบัติไม่ได้เหมือนเดิม
แต่ที่สำคัญไอ้พวกคนที่ชนะเธอตอนแข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่โครตตึงเลยเหรอแม้จะรุมก็เหอะ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอมีจุดประสงค์บางอย่างในการแทรกซึมเข้าไปในตระกูลคิซึกิตั้งแต่เริ่มเกม และจะอยู่ถึงจากกลางเกมไปจนถึงช่วงท้ายเกม
จากนั้นเธอเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้กับพระเอกหรือคนที่อยู่ใกล้ๆ เธอในตอนนั้น หรืออีกทางเธอก็สามารถกลายเป็นตัวละครที่เป็นฝ่ายเราได้
โดยตัวเธอนั้นมีบุคลิกที่เป็นมิตร และเธอดูเป็นคนที่สามารถเชื่อถือได้ และความสามารถเธอที่ค่อนข้าง(?) ต่ำทำให้เธอเป็นเพื่อนที่ดีกับพระเอกและมีเพื่อนหลายๆ คน
นอกจากนี้ เธอยังเป็นที่นิยมจาก bad ending และความโดดเด่นของเธอ และช่วงหนึ่งเธอเคยเป็นถึงอันดับ 4 คนที่มีภาพ fanfiction จำนวนมากที่สุดในบรรดาตัวละครในเว็บๆ หนึ่ง
แต่ภาพลักษณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปหลังจากตัวนิยายและมังงะภาคแยกถูกปล่อยลงไป
โดยเฉพาะการกระทำของเธอในช่วง “EX ท่านอาโอโกะ(อาโอะโกะซามะ)” ของเธอ
มีการอธิบายที่ค่อนข้างโหดร้ายสุดๆ และน่าสยดสยอง และยิ่งไปกว่านั้นคือมีรายละเอียดชัดเจนและเยอะสุดๆ (จากผู้แปล มันจะอะไรขนาดนั้นว่ะนั้น)
และมีความคิดเห็นอย่าง’เห็นได้ชัดว่าคนและสัตว์ประหลาดเข้ากันไม่ทางเข้ากันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น’
ก่อนอ่านนิยาย”ทั้งหน้าอกและรักแร้ท่านอาโอะโกะ(อาโอโกะซามะ)ช่างสวยงามเหลือหลาย เลีย เลีย เลีย(lick lick lick)
หลังอ่านนิยาย”พวกเราควรฆ่าปีศาจให้หมด(ด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ)
“อันนี้มันคือเนื้อเรื่องของพวกที่ไม่ชอบเธอทำขึ้นมาใช่ไหม?”
“ปีศาจที่ดีคือปีศาจที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลยละ”
“ก็รู้สึกสงสารตัวอาโอะโกะในเกมอยู่หรอก แต่นี้มันโหดร้ายเกินไปแล้ว”
“ฉันก็นึกอยู่แล้ว…พวกปีศาจน่ะมีแต่พวกโกหก หลอกลวง”
“เทคนิคในการตัดหัวที่ผสมความโหดร้ายและไม่ไร้เหตุผลแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยพวกผู้ปัดเป่าในยุคนั้นคงมีความคิดคล้ายๆ กับ goblin slayer แหงๆ”
“ตอบจากเม้นบน คิดเหมือนกันเลย(ถ้าเกิดพวกปีศาจสารเลวยังทำเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้อยู่ละนะ)”
“ท่านอาโอะโกะ(อาโอะโกะซามะ)ดูน่ารักและน่าเอ็นดูสุดๆ เลยตอนที่เธอกำลังวิ่งหนีคนที่เล่นกับเธออย่างน่าสงสารจนไส้เธอไหลเป็นทาง ตอนครึ่งหลังของเรื่อง แม้ว่าเธอดูจะโมโหสุดๆ ตอนครึ่งแรกสภาพจัด”
นี้คือความคิดเห็นในกระดานข่าวบนอินเทอร์เน็ดหลังจากได้อ่านนิยายที่อธิบายตอนดิ้นรนต่อสู้กับ”ผู้ปัดเป่าทั้งเจ็ด”ที่ศาลอำนาจสูงสุดได้ส่งไปจัดการในเมืองหลวง
ไม่เอาจริงๆ ที่นั้นมันแย่สุดๆ โครตโหดร้ายสุดๆ เหล่าแฟนคลับเกมได้พูดกันเสียงเดียวกันความหมายของ”ยักษ์ษาหัวแดงอาโอโกะ”ไม่ได้มาเพราะฉายา
ภายในเกมมีตัวละครที่เคยบอกว่า”เธอนั้นเริ่มที่จะเงียบ”หรือ”ตอนนี้เธอสงบลงแล้ว” ความหมายจริงๆ ไม่ได้มีหมายความทางดีเลย
“ไม่ไหวเลยๆ เจ้าเนี้ยเป็นประเภทที่เมินคนที่ให้อาหารเจ้าเนี้ยนะ? เป็นคนไม่รับความหวังดีจากผู้อื่นเหรอเนี้ย?”
“โบราณเขาว่าไว้น่ะ มันจะอันตรายถ้ารับของจากพวกสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมีอะไรใส่ไว้ในอาหารที่มาจากพวกสัตว์เดรัจฉาน”
“แหมๆ โดยปกติแล้วเจ้าคงจะเป็นพวกระมัดระวังสูงสินะ? ข้าอุดส่าปฎิบัติด้วยความเคารพและสุภาพมาตลอด
มันเศร้านะที่มองข้าด้วยสายตาไม่เป็นมิตรแบบนี้ตลอกเวลาน่ะ ข้าเคยได้ยินนะ
พวกมนุษย์มักจะเริ่มทำทุกอย่างแม้กระทั่งฆ่ามนุษย์ผู้อื่นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในสถาณการณ์ที่น่ากลัวหรืออันตรายเมื่อต้องทำเพื่อเอาชีวิตรอด”
“ก็ถ้าเกิดมันมีมนุษย์ผู้อื่นข้าอาจทำก็ได้”
ฉันได้บอกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้สนใจปีศาจที่ทำตัวเหมือนพ่อพระแม่พระอย่างเธอ
ฉันได้เมินสิ่งที่เธอทำอยู่ต่อจากนั้น เธอก็นั่งลงบนพื้นกินข้าวห่อใบไผ่ที่เตรียมไว้ต่อหน้าฉันพร้อมมองมาที่ฉันด้วยความสนุกสนานและไม่แยแส
“….”
ในทางกลับกัน ฉันก็นั่งนิ่งๆ และยกหอกใส่เธอและมองเผชิญหน้ากับปีศาจที่อยู่ด้านหน้าของฉัน
ฉันจ้องมองเธอและระมัดระวังเธอทุกก้าวโดยใช้การสัมผัสทุกส่วนในร่างกาย
แล้วก็จะต้องไม่มองตาเธอโดยตรงเพราะต้องหลีกเลี่ยงวิชาที่ทำให้เป้าหมายตาบอด
ถ้าเป็นไปได้ก็จะพยายามไม่ฟังคำที่เธอพูดออกมาเลยเพราะบางที่ก็อาจใช้วิชาที่ใส่ใว้ในคำพูดซึ่งทำให้ดวงวิญญานอยู่ในความกลัวจนไม่สามรารถตอบโต้เธอได้…
แต่ก็ไม่อาจปิดหูในตอนนี้ได้เพราะต้องใช้การฟังในการระวังเผื่อกรณีเธออยู่ๆ จู่โจมเข้ามา
(ฉันก็พอเข้าใจว่าทำไมพวกกอลิล่ามีความสนใจฉันน่ะแต่…ทำไมเธอต้องมาสนใจคนอย่างฉันเนี้ย?)
ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงอยู่ๆ มาสนใจฉันเนี้ยเหตุผลที่สามารถอธิบายนั้นแถบไม่มี?
ถ้าเกิดฉันได้ฝึกทั้งวันทั้งคืนประมาณสัก 3 วัน และฝึกหนักขณะวิ่งไปด้วยโดยไม่พัก พระเอกอาจอยากลองมาคุยหรือสนใจฉันก็ได้
แต่นี่ไม่ใช่ว่ามันแปลกสุดๆ เลย ไม่ใช่หรอที่อยู่ๆ เธอก็สนใจฉันน่ะ?
“เจ้าต้องการอะไรกันแน่? ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี้? ทำไมต้องตามข้าด้วย?”
นี้คือคำถามที่จริงจังสุดๆ ที่ฉันสามารถถามได้ตอนนี้
“ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเป้าหมายของเจ้ามาก่อนครั้งอดีตมาก่อน มันไม่ดีกว่ารึแทนที่จะมานั่งอยู่กับข้าที่นี้ไปทำสิ่งอื่นดีกว่า? ขณะที่พวกเราคุยกันอยู่อาจมีฮีโร่ที่อัจฉริยะผู้มีพลังมหาศาลที่อาจเกิดมาก็ได้นะ?”
หรือพระเอกอาจเกิดมานานแล้วด้วยซ้ำ หรือถ้าเธออยากจะเจอเขาคนนั้นรอสัก 3 ปี อาจได้เจอแล้วด้วยซ้ำไป
ในมุมมองพวกปีศาจแค่แปบเดียวเองก็ถึงแล้วด้วยซ้ำ
ใช่…อันที่จริงแล้วฉันก็รู้ความต้องการหรือเป้าหมายของไอ้ปีศาจที่อยู่ตรงหน้าตัวนี้ เป็นความรู้จากในเกมน่ะ
แม้ว่าเธอบอกกับฉันด้วยไม่เต็มใจอ่ะนะ(คำตอบแค่ครึ่งเดียว)
ยักษ์ษาหัวแดงอาโอโกะคือปีศาจที่ถูกทิ้งเพราะอ่อนแอลงและกำลังจะถูกลืมเลือนตามกาลเวลา
เธอเคยเป็นท็อป 5 ด้านความแข็งแกร่งภายในประเทศแห่งนี้ นำทัพโยวไคด้วยพลังที่มีมหาศาล ใช่เธอนั้นเคยเป็นแบบนั้นละนะ
แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน ไปเรื่อยๆ เธอก็ไม่อาจสามารถดังเท่าในสมัยอดีต
แม้ครั้งหนึ่งเธออาจมีความสุขกับชื่อเสียงที่โด่งของตัวเองครั้งอดีตในตอนนี้ แม้เธอจะยังแข็งแกร่งอยู่แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งดั้งเท่าเมื่อก่อนที่เธอเคยเป็น
ในทางกลับกัน เธออาจถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ถูกผู้คนเรียกว่าเป็นปีศาจที่โง่เขลาด้วยซ้ำที่มั่นใจในพลังตัวเองมากจนเกินไป
จนถูก”ผู้ปัดเป่าทั้งเจ็ด”ไล่ล่า และกลายเป็นเรื่องน่าตลกขำขันสำหรับผู้คนในอนาคต
แต่ถึงยังไงมันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะล้างมลทินชื่อเสียงด้านลบของเธอด้วยการบุกเข้ามาในเมืองในปัจจุบัน
เพราะมนุษย์ในปัจจุบันแข็งแกร่งกว่าผู้คนในอดีตมากโข
ไม่เพียงแค่นั้นตัวผู้ปัดเป่าในอดีตเองก็ได้สืบเชื้อสืบทอดกันไปเรื่อยจากครั้งอดีตเพื่อเพิ่มพลังที่ตระกูลพวกเขา
จำนวนมนุษย์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีก็พัฒนามาก ความรู้เรื่องเกี่ยวกับวิธีฆ่าปีศาจและเรียนรู้จุดอ่อนของพวกเขานั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นในเมืองหลวงก็ได้เสริมและพัฒนาเทคโนโลยีจากเหตุการณ์การกบฎครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์โยวไคเมื่อ 500 ปีก่อน(the Great Human Youkai Rebellion of 500 years ago)
แม้ว่าเธอจะสามารถบุกเข้าไปในใจกลางของเมืองหลวงได้ หรือศูนย์กลางของฟุโซะคุนิ(fuso-kuni)
มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้แม้เธอจะมีพลังเต็มที่สามารถต่อกับพวกคนที่แข็งแกร่งดั่งสัตว์ประหลาดที่อยู่ในในเมืองหลวง
ถึงแม้เธอจะสามารถทะลุพวกเขาได้สำเร็จแต่ก็ต้องเจอกับกลุ่มพวกซามูไร องเมียวจิ นักบวช และนักบวชหญิงที่เป็นกลุ่มต้องปกป้องจักรพรรดิเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหลวงในตอนนี้
และตัวเธอก็คงจะเหนื่อยมากจากการบุกทั้งใจกลางและคนที่แข็งแกร่งดั่งสัตว์ประหลาด
สงสัยซะจริงๆ มาเธอจะตอบโต้กลับพวกเขาได้ยังไงกันนะ?
“จตุรอสูรร้าย”เหล่าปีศาจที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เมืองหลวงจมดิ่งลงในความหวาดกลัวร่วมกับโยไคอื่นๆ และทำให้เกิดกองศพสูงตามถนนในเมือง
ต่อมาได้ถูกปราบโดย ‘ผู้ปัดเป่าทั้ง 7’ ในเวลาต่อมา
ผู้ที่ตอนนี้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและฉาวโฉ่ในภูมิภาคอื่น ๆ ภายในญี่ปุ่น
แม้แต่ ‘คุบัง’ ชายผู้รวบรวมกองทัพปีศาจจากทั่วประเทศหรือแม้แต่ทั่วทวีปและก่อให้เกิดสงครามใหญ่กับมนุษย์ที่เรียกว่าการกบฎครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์โยวไค
ก็ถูกปราบโดยเหล่าผู้ปกป้องในยุคนั้น
ดังนั้นในปัจจุบันจึงไม่มีปีศาจที่มีอายุมากเท่าเธอหรือแก่กว่าและแข็งแกร่งกว่าเธอมากนักอย่างน้อยก็ที่ฟุโซะ-คุนิแห่งนี้น่ะนะ
แม้ว่าการมีอยู่ของโยไคยังคงเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อมนุษย์แต่มันก็ไม่ได้อันตรายเท่ากับเมื่อก่อนและในอนาคตอีกพันปีข้างหน้า
และเผื่อในอีกหนึ่งร้อยหรือสองร้อยปีข้างหน้าปีศาจก็คงจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์อีกต่อ
ไปนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า…
“เฮ้ๆ ข้าบอกเจ้าเมื่อก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอ? เหตุผลที่ข้าซ้อนตัวที่แบบนั้นเพราะข้ากำลังมองหาคนที่ดีพอที่จะสามารถฆ่าข้าได้”
อย่างไรก็ตามปีศาจตัวนั้นกำลังพูดอย่างเย่อหยิ่งด้วยโหนกแก้มของเธอใช่ความต้องการของเธอนั้นช่างสุดจะเห็นแก่ตัวและน่ารำคาญซะจริงๆ
เพื่อนๆ ปีศาจของเธอในสมัยอดีตทั้งหมดถูกฆ่าสังหารจนหมดและถูกทำให้เป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าผู้ปกป้องในสมัยนั้น
ทำให้พวกเขาถูกบันทึกว่าเป็นปีศาจที่ร้ายกาจและชั่วร้ายลงไปในประวัติศาสตร์ทำให้กลายเป็นตำนานที่คงอยู่ตลอดไป
เธอก็คิดเช่นกัน ผู้ที่กำลังจะถูกลืมเลือนและกลายเป็นอดีตอย่างเช่นเธอ
อยากจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ดั่งเพื่อนๆ ของเธอตลอดไปเช่นเดียวกัน
แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผลงานความสำเร็จของเหล่าผู้ปกป้องก็ตาม
ก่อนที่เธอจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังตามกาลเวลาและ “ทำให้” กลายเป็นคนที่ไม่มีใครจดจำ
ในขณะที่เธอยังคงกลายเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในฐานะโยวไค นี่คือเหตุผลว่าทำไมปีศาจอย่างเธอจึงปลอมตัวเข้าไปในตระกูลคิซึกิ
ตอนนี้เธอกำลังสำรวจตระกูลคิซึกิซึ่งมีรากฐานมาจากทางตอนเหนือของฟูโซ
เพื่อดูว่ามีว่าจะมีใครที่คู่ควรที่จะเอาชนะเธอหรือไม่
ในระหว่างสำรวจเธอก็ได้พบกับตัวพระเอกของเนื้อเรื่องหลัก
เธอนั้นได้สังเกตเห็นจิตวิญญาณ พรสวรรค์ และความสามารถของพระเอก และตรวจสอบเขาเพื่อดูว่าเขามีค่าพอที่จะล้างแค้นเธอได้ไหม
และเธอร่วมมือกับเขาเพื่อช่วยให้เขาเติบโตขึ้นอย่างสมศักดิ์ศรีเพื่อทำให้เส้นทางการตายของตนมีคุณค่าอย่างมากที่สุด
ในตอนแรกเธอก็มีเป้าหมายแบบนั้นแหละแต่…
แต่หลังจากเข้ารูทของเธอตามความชอบหรือความต้องการของพระเอก
เขาได้พัฒนาความสัมพันธ์เป็นความรักที่ไม่สามารถเป็นได้ตามปกติเพราะคนละเชื้อพันธ์อย่างมนุษย์กับโยวไค
เขาก็ไม่อาจเอาชนะกำแพงเชื้อพันธ์และและต้องฆ่าเธอเท่านั้น
หรือเขาลังเลก็จะกลายเป็น bad ending แทนอ่ะนะ
คือทางเลือกแรกของฉันก็ไม่สนใจมันหลอกด้วยซ้ำ
เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้ใครไม่พอใจ
หรือทางเลือกที่สองถ้าเกิดไปสนับสนุนมันเรื่องแบบนั้นละก็…
ถ้าเกิดเลือกเป็นอย่างหลัง
ปีศาจตัวนี้จะเริ่มคลั่งในครึ่งหลังของเนื้อเรื่องและเริ่ม “ฆ่า” ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องรอบๆและจบลงด้วยการต่อสู้จนตายโดยกองทัพที่ส่งมาจากศาลอำนาจสูงสุดเพื่อกำจัดและชนะปีศาจตัวนี้
“ปีศาจนี้ช่างเห็นแก่ตัวจริงๆ นะถ้าอยากทำสิ่งที่เจ้าปรารถนาคือการถูกฆ่าทำไมเข้าไม่ลองบุกเมืองหลวงแทนล่ะ? แต่กลับเห็นแก่ตัวและใจแคบเพื่อสร้างเวทีแห่งความตาย?”
“ถูกแล้วละ นั้นทำไมข้าถึงเป็นปีศาจไงล่ะข้าสมควรได้รับช่กายตายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับข้าแค่ถูกบันทึกเพียงแค่ไม่กี่บรรทัดมันจะไม่ดูเหงาไปหน่อยเหรอเจ้าไม่คิดว่างั้นเหรอ? ถ้าข้าจะต้องตาย ข้าก็อยากจากตายให้เศร้าที่สุดน่ะ…หรือควรเรียกว่าคำหลงใหลในฐานะปีศาจน่ะ?”
ปีศาจในรูปร่างมนุษย์ยิ้มขณะที่เธอปิดเปลือกตาแล้วพูดแบบนั้นออกไป
แต่ฉันรู้อยู่แล้วละ
รู้ว่าเธอคงกำลังจินตนาการถึงช่วงเวลาที่เธอกำลังต่อสู้จนตายกับผู้ปกป้องที่หายากในยุคของเธอ
อาบด้วยเลือดของเขา
และสุดท้ายเอง
เธอก็จะถูกฆ่าด้วยพลังของเธอเอง
“เจ้ามันบ้า”
ฉันมองดูสีหน้าตื่นเต้นบนใบหน้าของปีศาจตัวนั้นด้วยความเย้ยหยันเล็กน้อย
ฉันไม่เคยเข้าใจรู้สึกแบบนั้นเลยแบบนั้น
เป็นเวลาเกือบยี่สิบปีแล้วที่ฉันเกิดมาในโลกนี้และมีหลายครั้งที่เกือบตายหลายๆ ครั้งจนถึงตอนนี้ก็ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกนั้น
หรือบางทีการเกือบตายหลายๆ ครั้งนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่เข้าใจความรู้สึกนี้
หรือบางทีฉันอาจจะเห็นใจพวกเขาถ้าเกิดฉันไม่เคยรู้เกี่ยวกับชาติก่อนของฉันหรือเปล่านะ…
(หรือเป็นเพราะฉันรู้ชาติก่อนว่าฉันเป็นคนขี้ขลาดและหวาดกลัวจะตายหรือเปล่านะ?)
ถ้าฉันรู้จักโลกที่ชีวิตสว่างไสวตั้งแต่แรกละก็ฉันสงสัยว่าอาจทำให้ฉันได้เข้าใจถึงความรู้สึกของการแสวงหาเกียรติมากกว่าชีวิตก็ได้
ในชาติที่แล้วความตายก็ไม่เคยเข้าใกล้ตัวฉันเลยสักครั้ง
ดังนั้นฉันจึงกลัวที่จะตายแม้ว่าฉันจะเกิดใหม่ในโลกนี้ก็ตาม
และนั่นเป็นแรงผลักดันที่ขัดขวางไม่ให้ฉันยอมแพ้ และจากการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดไว้
แม้ว่าฉันจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่อาจสามารถอยู่อย่างสบายได้ตั้งแต่แรก แต่โอ้แม่มเอ๊ย…ฉันไม่เหนื่อยบ้างรึไง? เดียวสิ… อย่าพึ่งคิดฟุ้งซ่านตอนนี้
“..กลับเข้าประเด็นกันดีกว่า ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่นั่นคือสาเหตุที่ข้าไม่อาจเข้าใจเจ้าได้ เป้าหมายของเจ้าคือตามหาผู้ปกป้องที่จะฆ่าคุณ แต่สิ่งที่เจ้าทำอยู่คือเข้ามาวุ่นวายกับข้า ข้านั้นไม่เห็นคุณสมบัติที่มีทั้งสอง เข้าก็รู้หนิว่าฉันเป็นเพียงคนรับใช้ต่ำต้อยที่ไม่มีพลังพิเศษหรือมีต้นกำเนิดที่ดีเลย ไม่มีองค์ประกอบใดที่เจ้าคงเห็นในตัวข้าที่ไม่มีอะไรที่มีคุณสมบัติสำหรับเจ้าเลย”
พูดจริงนะ ฉันไม่ได้อยากคิดที่จะเป็นคนในอุดมคติแบบนั้นด้วยซ้ำ
ต่อหน้าฉันมีปีศาจที่ฝันว่าจะถูกผู้ปกป้องในอุดมคติของเธอฆ่านั้นเป็นปีศาจที่เห็นช่างแก่ตัวและเป็นปีศาจเอาแต่ใจตัวเอง
เธอคาดหวังและหวังอย่างที่สุดและถ้าเกิดมันผิดแผนจากเป้าหมายของเธอที่คิดไว้แม้แต่นิดเดียว
เธอก็รู้สึกเหมือนถูกหักหลังและเริ่มคลั่งจนออกอาละวาดไปทั่ว
ในความเป็นจริงความผิดหวังที่เห็นแก่ตัวของเธอเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมเธอถึงไม่ฆ่าตัวตายอย่างสละสลวยจนกว่าจะเริ่มเนื่อเรื่องของเกม
อีกความจริง ก่อนที่เธอจะพบกับพระเอกนั้นมีหลายคนที่ถูกฆ่าโดยไร้เหตุผลเพราะพวกเขาทำผิดพลาดเพียงเล็กๆ น้อยๆ ไม่ตามความคาดหวังของเธอ
ทำให้เธอไม่พอใจเมื่อเธอคิดว่าเธอรู้ชอบพวกเขา ดั่งที่ผู้สร้างเปิดเผยไว้ในคู่มือแนะนำสำหรับเหล่าแฟนๆ
นั้นหมายความว่า ถ้าเกิดฉันเผลอทำอะไรให้เธอรู้สึกชอบเข้าละก็ ฉันได้ตายแน่ๆ ช่างเป็นปีศาจที่โหดร้ายสะจริงๆ ไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ยังไงก็ตาม…ต้องหายใจลึกๆ ก่อน อดทนกับความเจ็บปวดทนความง่วงและอ่อนเพลียก่อน
“…หรือยังไง? ข้าเป็นของเล่นให้เจ้าเล่นฆ่าเวลางี้เหรอ? ข้าไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับปีศาจที่พูดแต่เรื่องโกหกอย่างเจ้าหลอกนะแต่มันคงจะง่ายกว่าสำหรับข้าถ้าเข้าพูดแบบนั้นออกไปจะได้เข้าใจทั้งสองฝ่าย”
ฉันโพล่งออกไปพร้อมกับหัวเราะเยาะตัวเอง มันเป็นไปได้ ปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่โลภ หยิ่ง เห็นแก่ตัว และแสวงหาความสุขโดยไม่คำนึงถึงสติปัญญาของพวกเขา โดยเฉพาะยัก (ปีศาจ) ซึ่งหลายตัวเป็นโยไคที่เกิดมาจากมนุษย์
“ไม่ไหวเลยนะ เจ้าน่ะจะทำตัวนิสัยไม่ดีกับข้าตลอดเลยใช่ไหม? คิดว่าข้าจะเตรียมอาหารให้คนที่เล่นฆ่าเวลาจริงๆ เหรอ ถ้ายังพูดแบบนั้นกับข้าอีก ข้าคงจะร้องไห้เสียใจรู้ไหม?”
เธอทำท่าทางเหมือนร้องไห้ แน่นอนว่าไม่มีทางที่ปีศาจจะร้องไห้จริงๆ ซึ่งมีแต่โกหก แล้วเมื่อเธอเห็นว่าคาถาร้องไห้ไม่ได้ผล เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เดียวนะใช่ว่าฉันควรเป็นคนที่ถอนหายใจหลอกหรอ…?
“…!?”
ทันใดนั้น อยู่ๆ การมองเห็นของฉันก็ตาลายขึ้น ฉันเกิดปวดหัวและง่วงนอนเป็นบ้าสุดๆ
“โอ้? เจ้าเหนื่อยงั้นเหรอ? ฮ่าๆๆ แน่นอนว่าเจ้าคงทำงานอย่างยากลำบากใช่ไหมขอโทษที่ข้ารบกวนการนอนหลับของเจ้านะ ถ้าเกิดเจ้าต้องการที่จะนอนละก็ข้าสามารถเฝ้าเวรแทนเจ้าได้นะ”
ปีศาจตรงหน้ายิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นฉันพยายามคงร่างกายตัวเองไปมา นี้คือสิ่งที่ปีศาจทำเป็นเรื่องปกติงั้นสินะ…?
“ล้อข้าใช่ไหม บ้าเอ๊ย…!?”
มาถึงจุดนี้ จมูกของฉันก็ได้กลิ่นบางอย่างจางๆ ดูเหมือนเธอกำลังใช้ยานอนหลับแบบใช้ดมหรืออะไรสักอย่างสินะ…!!
หอกของฉันหลุดออกจากมือไปและหอกก็ตกลงไปที่พื้น ไหล่ของฉันทรุดลงและเปลือกตาของฉันก็หนักขึ้นอย่างมาก
“เจ้าเป็นค่อนข้างทนได้นานอยู่ และกลอุบายแบบนี้ยังเป็นคนที่จับสังเกตุได้เร็วสินะ เลยแปลกใจที่เจ้าสามรถยืนหยัดมานานมากโอ้ข้าจำได้ว่าโดยส่วนตัวแล้วเจ้าเป็นพวกต้านพิษรู้มาจากคนรู้จักของเจ้าในกลุ่มแพทย์ชายน่ะ”
“เจ้า… ทำไม… เจ้าถึง…”
ฉันกำลังมึงงงในขณะที่ใกล้จะหลับเต็มที และกำลังสงสัยถึงสองสิ่งทำไมเธอถึงรู้เรื่องนี้กันแน่ แล้วทำไมเธอถึงต้องทำอย่างนี้กับฉันกันแน่…
“เอาล่ะ มันคงไม่สำคัญหรอกใช่ไหม? เป็นการดีกว่าที่จะไม่กดดันตัวเองมากเกินไป นี่คือคำแนะนำด้านสุขภาพจากปีศาจอย่างข้านะ เจ้าควรเชื่อฟังความต้องการของร่างกายตัวเองใช่ไหมล่ะ? ไม่ต้องห่วง ข้าไม่กินเจ้าตอนหลับหลอก”
อย่า…ล้อกูเล่นนะเว้ย…!! คำพูด… ของพวกปีศาจ… อย่างมึงน่ะ… แม่งไม่น่าเชื่อถือ…
“ราตรีสวัสดิ์ ข้าหวังว่าเจ้าจะฝันดี”
“หุบปาก… เจ้า… ปีศาจ… แก…ต้อง…ตาย…ใน…สัก…วัน…”
ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะจบคำถามก่อนที่ปีศาจจะพ่นสิ่งที่มีกลิ่นอายของการโกหกออกมา และสติของฉันก็มืดลง…