ตอนที่ 340 รังเกียจ
เยียนอวิ๋นเกอรู้สึกว่าเซียวฮูหยินผู้เป็นมารดามักจะมีความคิดประหลาด หรือกำลังปลอบนาง
แต่นางไม่คิดว่าเซียวฮูหยินผู้เป็นมารดามักจะยังสามารถชื่นชมนางได้เพียงนี้
เซียวฮูหยินพูดต่อ “จนถึงบัดนี้ นอกจากกุลสตรีรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าไม่พอใจต่อเจ้าบ้างแล้ว สตรีชั้นสูงอื่นๆ ต่างถือว่าพอใจต่อเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าเป็นสตรีที่มีความสามารถในการหาสินสอดของตัวเอง เหมาะสมกับการเป็นลูกสะใภ้คนโตอย่างมาก
เรื่องเดียวที่สมควรตำหนิก็คือไม่อ่อนโยน แต่ในฐานะลูกสะใภ้ของบุตรชายคนโตก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนโยนนัก ต้องมีความสามารถจึงจะข่มคนได้ แบกรับหน้าที่หนักจึงสำคัญที่สุด”
เยียนอวิ๋นเกอรู้สึกสองแก้มร้อนผ่าว
นางหัวเราะ “ในสายตาของท่านแม่ ไม่ว่าส่วนไหนข้าก็ดีหมด”
เซียวฮูหยินจิบชา “เจ้าคิดว่าเป็นแค่ความคิดของข้า เพราะเจ้าเป็นบุตรสาวของข้า จึงคิดว่าเจ้ามีแต่ข้อดี?”
ไม่ใช่หรือ
พ่อแม่ดูลูกของตัวเองย่อมมีตัวกรอง
ความไม่ดีพอล้วนจะถูกปิดบัง หลงเหลือไว้เพียงข้อดี
เซียวฮูหยินยิ้ม พลันพูด “ข้ากังวลเรื่องคู่ครองของเจ้าไม่ใช่วันสองวัน คนด้านนอกคิดเห็นอย่างไรต่อเจ้า เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เลยหรือ หลายปีนี้ เรื่องใหญ่ที่เจ้าก่อขึ้นก็มีเพียงพังทลายองค์หญิงเฉิงหยาง รองลงมาก็คือเพิ่งอุ่นปลูกผัก
หลายปีหลังมานี้ เจ้านับวันยิ่งสุขุม นับวันยิ่งถ่อมตัว คนด้านนอกไม่รู้ว่าเจ้ากำลังทำสิ่งใดด้วยซ้ำ กุลสตรีเหล่านั้นยังมีภาพจำหยุดอยู่ในเวลาที่เจ้าพังทลายจวนองค์หญิงเฉิงหยาง แต่ภาพจำของสตรีชนชั้นสูงที่มีต่อเจ้าคือเรือนพักร่ำรวย
ตั้งแต่ไม่มีจนมี เรือนพักร่ำรวยพัฒนาขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ยังสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของผู้ลี้ภัยนับหมื่นคน มันเป็นเรื่องที่น่ายกย่องอย่างมาก ผู้ชายร้อยละเก้าสิบในแผ่นดินก็ยังไม่อาจเทียบเจ้าได้ คนที่ดีเช่นเจ้า ผู้ใดจะรังเกียจ”
เยียนอวิ๋นเกอยิ้มเก้ออย่างเขินอาย “ในสายตาคนนอก ข้ามีดีเช่นนี้จริงหรือ”
เซียวฮูหยินเม้มปากยิ้ม “ประมาณนั้น!”
อ้อ!
เยียนอวิ๋นเกอรู้สึกเหมือนถูกปลอบใจ
การถูกคนยอมรับ ความรู้สึกนี้ไม่เลว
แต่…
“ข้ารู้ว่าตัวเองดี แต่ท่านแม่ก็ไม่ควรเชื่อมโยงข้ากับเซียวอี้ เขาคือเขา ข้าคือข้า…”
เซียวฮูหยินยกมือห้ามนาง “ไม่ต้องพูดถึงเซียวอี้ ความคิดของเขาไม่สำคัญ ไม่ต้องสนใจสาเหตุที่เขากลับจวนอ๋อง ฟื้นคืนสถานะนายน้อยจวนอ๋อง พวกนี้ไม่เกี่ยวกับเรา เทียบเชิญนี้ พวกเราไม่จำเป็นต้องไป เพียงแค่ส่งของขวัญไปให้ ส่วนเจ้า ต่อจากนี้อยู่ให้ห่างเซียวอี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องการค้าก็ให้พ่อบ้านไปเจรจา ไม่จำเป็นต้องพบกับเขา”
“ข้าฟังท่านแม่ ไม่พบกับเขา!”
เซียวฮูหยินโล่งใจ
นางไม่ชื่นชอบเซียวอี้ตั้งแต่แรก
แม้แต่จ้งซูหาวที่มีบิดามารดา คุณสมบัติโดดเด่นนางยังรังเกียจ
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเซียวอี้ที่ไม่อยู่ในกฎระเบียบ นิสัยหยิ่งยโส นางจึงยิ่งรังเกียจมากกว่า
คนแบบนี้ไม่ว่าจะมีความสามารถอย่างไร บุตรสาวก็จะแต่งงานด้วยไม่ได้
เพราะว่าหัวใจของเขาเย็นชาเกินไป อาจจะกลายเป็นคนโหดเหี้ยมได้ทุกเวลา
นอกจากนี้อายุเขายังไม่มาก แต่ความคิดกลับลึกซึ้งมาก
ทำสิ่งใดโดยไม่สนใจผลลัพธ์ บ้าคลั่งจนทำให้คนรู้สึกกลัว
คนแบบนี้ นอกจากใบหน้าแล้ว ไม่ว่ามองจากมุมใดก็ไม่ใช่คู่ครองที่ดี
บุตรสาวของตนเองจะไปมาหาสู่กับเด็กหนุ่มเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด
เซียวฮูหยินมองออก บุตรสาวเยียนอวิ๋นเกอก็คงไม่มีความรู้สึกรักใคร่แบบชายหญิงต่อเซียวอี้ ดังนั้นนางจึงวางใจ
เพียงแค่ความรู้สึกรักใคร่แบบชายหญิง ไม่ว่าเซียวอี้จะใช้กลอุบายใดก็ไม่เป็นผล
บุตรสาวของตนเอง อวิ๋นเกอไม่ใช่สตรีที่อ่อนแอ
หากเขากล้าทำเรื่องใดลับหลัง อวิ๋นเกอต้องเชือดเขาอย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าบุตรสาวของนางมีความแข็งแกร่งพอ และมีข้อดีเป็นจำนวนมาก
…
พระพันปีเถาไม่เข้าใจการกระทำของเซียวอี้
“เขาเป็นฝ่ายที่ต้องการกลับจวนท่านอ๋องตงผิง ฟื้นฟูสถานะนายน้อยจวนท่านอ๋องเองอย่างนั้นหรือ เขาไม่กลัวข้าฉวยโอกาสกำจัดเขาหรือ”
เหมยเส้าเจี้้ยนพูดเสียงเบา “เวลานี้ เซียวอี้ยังไม่เคยปรากฏตัวในเมืองหลวง บางทีตัวเขาอาจไม่อยู่ในเมืองหลวง งานเลี้ยงของจวนน่านอ๋องตงผิง เขาก็คงไม่เข้าร่วม”
“จวนท่านอ๋องตงผิงเชิญแขก เขายังเป็นเจ้าภาพ เขาไม่ปรากฏตัว งานเลี้ยงจะจัดต่อไปได้อย่างไร”
พระพันปีเถารู้สึกเหลือเชื่อ
เหมยเส้าเจี้้ยนครุ่นคิดพลันพูด “บางทีในสายตาของแขกจะดีกว่าหากเซียวอี้ไม่ปรากฏตัว”
“ฮ่าๆ…”
พระพันปีเถาหัวเราะเสียงดัง “เจ้าพูดถูก เซียวอี้ไม่ได้ใจคนอย่างไร ถูกคนรังเกียจอย่าวไร ข้ารู้ดีอย่างมาก เพียงแค่เขาลอบสังหารพี่ชายและแม่เลี้ยงของเขาก็พอที่จะทำให้คนทั่วทั้งแผ่นดินรังเกียจ
ข้าคิดว่าเขาจะมีความทะเยอทะยาน ไม่กลับจวนท่านอ๋องจงผิงในชาตินี้ ไม่คิดว่าเพิ่งถูกปลดออกจากกองทัพใต้ เขาก็รีบร้อนที่จะกลับจวนอ๋อง เห็นได้ชัดว่าเขาก็เป็นแค่คนที่ไล่ตามผลประโยชน์ เป็นคนชั่วช้าอย่างสมบูรณ์!”
“พระพันปีตรัสได้ถูกต้อง! เซียวอี้เป็นคนชั้นต่ำ เขาจึงกล้ากระทำเรื่องต่างๆ อย่างไร้ความเกรงกลัวและโหดเหี้ยมอำมหิต” เหมาเส้าเจี้้ยนพูดคล้อยตาม
พระพันปีเถาเคาะโต๊ะเบาๆ พลันหัวเราะเสียงเย็น
“เห็นเขาเป็นอิสระ กำลังจะกลับจวนอ๋องอีกครั้ง ข้าก็รู้สึกอึดอัดใจเสียจริง ไม่มีทางกำจัดเขาแล้วหรือ”
“พระพันปีอย่าได้ทรงเสี่ยง เพื่อชีวิตและอนาคตของตระกูลเถา พระองค์ทรงอดทนต่อเขาจะเป็นไร”
พระพันปีเถากัดฟันกรอดด้วยความไม่เต็มใจ
ฆ่าคนย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิต
เหตุใดเซียวอี้จึงได้รับข้อยกเว้น
เพียงเพราะเขาหน้าด้านหรือ
เพียงแต่เมื่อคิดได้ว่าเซียวอี้เคยมีอาชีพลอบสังหาร พระพันปีเถาก็ไม่มั่นใจเล็กน้อย
“เจ้าว่าตอนนั้นเขาไม่อยู่เป็นนายน้อยจวนอ๋องดีๆ เหตุใดจึงวิ่งไปเป็นมือสังหาร เขาคิดอย่างไร เขาบ้าไปแล้วหรือ”
“กระหม่อมไม่ทราบ! บางทีอาจเกี่ยวข้องกับท่านอ๋องตงผิงองค์ก่อน ได้ยินว่าตอนเซียวอี้กำเนิด ท่านอ๋องตงผิงองค์ก่อนไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย รักใคร่แต่เพียงบุตรของภรรยารอง ฉินฮูหยิน”
“เพื่อให้กำเนิดเขา พระชายาท่านอ๋องตงผิงต้องแลกด้วยชีวิต เขาจะคิดอย่างไรได้อีก ข้าว่าเขาเกิดมาเพื่อกบฏ ยากในการควบคุม เมื่อมีโอกาสต้องกำจัดเขาให้ได้”
พระพันปีเถาคิดแต่จะกำจัดเซียวอี้ทั้งใจ อีกทั้งยังหารือเรื่องนี้กับฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้อย่างจริงจัง
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ปิดบังเสด็จแม่ ตอนนั้นเพื่อเรียกคืนอำนาจทางการทหารของกองทัพใต้ ข้าให้หลิงฉางจื้อบอกกับเซียวอี้ เพียงแค่เขายอมส่งคืออำนาจทางการทหารของกองทัพใต้ ข้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเขา”
“ฝ่าบาททรงเหลวไหล! เซียวอี้โหดเหี้ยม จะปล่อยเขาไปได้อย่างไร”
“จนถึงเวลานี้ เซียวอี้ไม่ได้ทำสิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อราชสำนักหรือแผ่นดินต้าเว้ย ข้าบอกว่าหากวันหนึ่งเขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับข้า เป็นอันตรายต่อแผ่นเนต้าเว้ย ข้าจะเรียกคืนสัญญาที่มีต่อเขา”
พระพันปีเถาโกรธมาก
นางสงสัยว่าฮ่องเต้ถูกเซียวอี้มอมเมาหรือไม่ เหตุใดจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเขา
เหลวไหลสิ้นดี!
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้พูดอย่างจริงจัง “ข้ารู้ปมในใจของเสด็จแม่ พระองค์อยากแก้แค้นให้ท่านลุงสอง ข้าเองก็อยากทวงความเป็นธรรมให้ท่านลุงสอง แต่จุดยืนของเซียวอี้ในเรื่องนี้…เขาเป็นเพียงมือสังหารที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้นตอยังคงเป็นเสด็จพ่อ”
“พอแล้ว! เจ้าก็อยากให้ข้าล้มเลิกในการแก้แค้นหรือ เป็นไปไม่ได้!”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ครุ่นคิด พลันพูด “เสด็จแม่ทรงยืนกรานที่จะจัดการเซียวอี้ ข้าไม่ห้าม แต่ก็จะไม่ช่วย คำสัญญาของข้าอย่าน้อยก็ต้องครบหนึ่งปี นอกเสียจากเซียวอี้เป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อน ข้าต้องการที่จะเป็นคนที่มีสัจจะ ขอเสด็จแม่โปรดทรงอภัย”
พระพันปีเถายิ้มเย็น “ดูท่าทางข้าจะหวังพึ่งเจ้าไม่ได้แล้ว พูดถึงเรื่องฆ่าคน เจ้ายังเทียบพี่สองเจ้าไม่ได้ เขาเด็ดขาดกว่าเจ้ามาก”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าจะฆ่าแค่คนที่ควรฆ่า!”
“เซียวอี้สมควรถูกฆ่า!”
“แต่ในสายตาข้า เวลานี้ไม่ควรฆ่าเซียวอี้”
“เจ้าอยากจะทำให้ข้าอกแตกตายหรือ”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ต่อ ดังนั้นจึงลุกขึ้นขอตัวจากไป
พระพันปีเถาโกรธจนเขวี้ยงเครื่องลายครามที่นางชอบที่สุดทิ้ง
เหมาเส้าเจี้้ยนเกลี้ยกล่อมให้นางอดทน
เซียวอี้ยังไม่ปรากฏตัว อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าจะปรากฏตัวในงานเลี้ยงหรือไม่ เวลานี้ถกเถียงเรื่องฆ่าหรือไม่ยังเร็วเกินไป
พระพันปีเถาสูดลมหายใจเข้าเพื่อระงับความโกรธ “ข้าแค่ไม่พอใจท่าทีของฮ่องเต้ เขาคิดที่จะปกป้องเซียวอี้เอาไว้อย่างเหลวไหล ในเมื่อต้องการปกป้องเขา เหตุใดตอนนั้นจึงต้องยึดอำนาจทางการทหารของเซียวอื้ การตัดสินใจที่ย้อนแย่งเช่นนี้ เขาก็คิดออกมาได้?”
เหมาเส้าเจี้้ยนพูดเสียงเบา “พระองค์ต้องทรงอภัยให้ฝ่าบาท ฝ่าบาทไม่ใช่คนที่โหดเหี้ยม ที่สำคัญคือฝ่าบาทไม่ได้มีความรู้สึกต่อนายท่านรองตระกูลเถามากนัก”
พระพันปีเถาได้ยินจึงทำได้เพียงถอนหายใจ
บุตรของนางสามคนดูเหมือนจะดูถูกตระกูลเถาอย่างมาก
ใช่ ตระกูลเถาเป็นตระกูลยากจนที่เพิ่งจะร่ำรวย เมื่อเทียบกับตระกูลขุนนาง ไร้ซึ่งรากฐานแต่อย่างใด
การกระทำก็แตกต่างจากตระกูลขุนนาง
ตอนนั้น หากฮ่องเต้หย่งไท่ไม่ได้เป็นเพียงนายน้อยจวนอ๋องที่ไม่สะดุดตา อีกทั้งยังเป็นการแต่งงานรอบสอง นอกจากนี้ยังมีลูกติด ก็คงไม่ถึงคราวพระพันปีเถาแต่งเข้าตระกูล
ผู้ใดจะคิดว่า เมื่อนางแต่งงานเข้าไป จวนอ๋องและฮ่องเต้หย่งไท่จะเริ่มเดินขึ้นเนิน สุดท้ายได้ครอบครองบัลลังก์
เวลานั้นยังมีคนบอกว่านางส่งเสริมสามี
เนื่องจากชื่อเสียงส่งเสริมสามีของนาง ทำให้นางมีชีวิตอย่างราบรื่น ตระกูลเถาก็เติบโตตามไปด้วย
แต่บุตรของนางดูถูกตระกูลเถาตั้งแต่ต้น
การกระทำของตระกูลเถาถูกตำหนิ
นายท่านรองตระกูลเถาถูกเซียวอี้ฆ่า บุตรของนางไม่เคยเรียกร้องที่จะแก้แค้นแม้แต่คนเดียว
ใจคนจะเย็นชาเช่นนี้ได้อย่างไร
พระพันปีเถาผิดหวังอย่างมาก
นางคิดแต่จะกำจัดเซียวอี้ทั้งใจ นานทีจะมีโอกาส แต่ฮ่องเต้กลับไม่ยอมสนับสนุนนาง
นางโกรธจนปวดใจ
นางนึกถึงพระราชบุตรเขย หลิวเป่าผิงขึ้นมา
ในฐานะแม่ทัพเหมือนกัน หลิวเป่าผิงย่อมไม่ด้อยไปกว่าเซียวอี้
มีความเป็นไปได้หรือไม่…
“เรียกพระราชบุตรเขยหลิวเข้าเฝ้า!”
…
พระราชบุตรเขย หลิวเป่าผิงเข้าวังตามรับสั่ง เขาเข้าเฝ้าพระพันปีเถา
เมื่อรู้แผนการของพระพันปีเถา หลิวเป่าผิงมีความรู้สึกเหมือนถูกคนผลักลงหลุม
ผู้ใดเสนอความคิดให้พระพันปีเถากัน ให้เขาไปจัดการเซียวอี้ อีกทั้งยังต้องนำหัวของเซียวอี้มาด้วย
เขาไม่ได้เบื่อหน่ายในชีวิตเสียหน่อย
เขาไม่เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร หากพูดถึงเรื่องการลอบสังหาร เขาไม่คู่ควรแม้แต่ถือรองเท้าให้เซียวอี้
เขาจะฆ่าเซียวอี้ได้อย่างไร
อีกอย่าง เขากับเซียวอี้เป็นคนคุ้นเคยกัน ทั้งสองยังมีความร่วมมืออย่างลับๆ
แน่นอนสว่าเรื่องนี้เขาบอกพระพันปีเถาไม่ได้
เขากระแอมไอเสียงเบา “ทูลพระพันปี หากอยากฆ่าเซียวอี้ มีเพียงวิธีเดียว”
“วิธีใด” พระพันปีเถาร้อนใจอย่างมาก
เขาพูดอย่างจริงจัง “วิธีเดียวที่จะฆ่าเซียวอี้ได้ก็คือบนสนามรบตอนที่กองทัพทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน เวลานั้นย่อมมีโอกาสกำจัดเขา นอกจากสนามรบแล้ว แม้จะเป็นมือสังหารชั้นนำก็ไม่อาจคร่าชีวิตของเขาได้”
พระพันปีเถาผงะไปด้วยความเหลือเชื่อ
นางถาม “เขาร้ายกาจเพียงนี้เชียวหรือ”