คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง – ตอนที่ 345 เจ้าอยากแต่งเข้า

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 345 เจ้าอยากแต่งเข้า?

กลิ่นชาหอมรัญจวนใจ!

แต่เซียวอี้กลับไม่มีอารมณ์ลิ้มลอง

เขาอยากรู้ว่าเหตุใดความคิดของเยียนอวิ๋นเกอจึงแตกต่างจากผู้อื่นเช่นนี้

“เจ้ารู้ในเจตนาของข้าแล้ว เจ้าสามารถบอกความคิดของเจ้าได้หรือไม่ เจ้าอยากออกเรือนกับคนแบบใด หรือว่าจะเป็นแบบจ้งซูหาว”

ความหึงที่ชัดเจนเพียงนี้คือสิ่งใดกัน

เยียนอวิ๋นเกอจ้องมองเขา “เจ้าอิจฉาจ้งซูหาว?”

เป็นไปไม่ได้!

เซียวอี้ไม่จำเป็นต้องอิจฉาจ้งซูหาว พวกเขาต่างคนต่างมีวิธีการใช้ชีวิตของตัวเอง

เซียวอี้ลูบหน้า ภาพลักษณ์นายน้อยผู้สูงส่งแทบจะประคองไว้ไม่อยู่

เขาถามอย่างระมัดระวัง “หรือว่าเจ้าชอบคนแบบจ้งซูหาวจริง?”

เยียนอวิ๋นเกอตั้งใจไตร่ตรอง พลันส่ายหน้า “ไม่เชิงชอบ แต่ก็ไม่เกลียด หากบิดามารดาของเขาไม่คัดค้าน ไม่แน่ข้าอาจจะหมั้นหมายกับเขาแล้ว”

พู่!

คราวนี้ เซียวอี้อยากจะกระอักเลือดจริงๆ

หากพูดเช่นนี้ เขายังต้องขอบคุณที่องค์หญิงเฉิงหยางรังเกียจ

หากไม่มีองค์หญิงเฉิงหยางขัดขวาง เวลานี้เยียนอวิ๋นเกอคงกลายเป็นว่าที่ภรรยาของผู้อื่นไปแล้ว

ช่าง…

น่าหงุดหงิดเสียจริง

เขาตัดสินใจแล้วว่าจะตีจ้งซูหาวทุกครั้งที่พบหน้า

บังอาจแย่งภรรยากับเขา

เขาจ้องมองเยียนอวิ๋นเกออยู่อย่างนั้น จะต้องทำอย่างไรให้นางประทับใจ

เขารู้สึกหมดหนทาง

เยียนอวิ๋นเกอราวกับเมล็ดถั่วลันเตาทองแดง ตีไม่แหลก เคาะไม่แตก ไม่มีผู้ใดเดินเข้าไปในใจของนางได้

เหตุใดบนโลกนี้จึงมีเปลือกนอกที่แข็งแกร่งราวกับกำแพงทองแดงผนังเหล็ก ไม่ว่าอาวุธใดก็ทิ่มแทงไม่เข้า

“ต้องทำอย่างไรให้เจ้าประทับใจ”

เขาถามคำถามที่ซ่อนไว้ภายในใจส่วนลึกออกมา

ต้องทำอย่างไรจึงจะสู่ขอนางได้

แต่เยียนอวิ๋นเกอกลับหัวเราะขึ้นมา “เหตุใดเจ้าจึงคิดที่จะทำให้ข้าประทับใจ เจ้าอยากสู่ขอข้า เจ้าก็ต้องพยายามทำให้ท่านแม่ข้ายอมรับ ข้าไม่อาจแต่งงานกับผู้ชายที่ท่านแม่ข้าไม่ยอมรับได้”

เซียวอี้ผงะไป “เจ้าหมายความว่า เพียงแค่องค์หญิงจู้หยางพยักหน้า เจ้าก็จะแต่งงานกับข้า”

เยียนอวิ๋นเกอพูด “เรื่องใหญ่อย่างการแต่งงาน ข้าย่อมต้องเคารพความเห็นของท่านแม่ คนที่นางไม่ชอบ ข้าย่อมแต่งงานด้วยไม่ได้ ข้าหวังว่าตอนที่ข้าออกเรือน นางจะมีแต่ความดีใจ อีกทั้งยังวางใจให้ข้าออกเรือน ไม่ใช่มีแต่ความกังวลและไม่พอใจ แต่ท่านแม่เหมือนจะไม่พึงพอใจเจ้ามาเสมอ เจ้าอยากสู่ขอข้า เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้!”

เซียวอี้สับสนเล็กน้อย “อวิ๋นเกอ ข้าคิดเสมอว่าเจ้าเป็นคนที่มีความคิดของตนเองอย่างมาก แต่เจ้าไม่เคยมีเงื่อนไขหรือจินตนาการถึงคนที่เจ้าอยากแต่งงานด้วยเลยหรือ”

เยียนอวิ๋นเกอตั้งใจครุ่นคิด พลันพูดอย่างจริงจัง “ข้าไม่เข้าใจเรื่องคู่ชีวิต อีกทั้งยังไม่เข้าใจเรื่องความรักระหว่างหญิงชาย แต่ท่านแม่อยากให้ข้าออกเรือน บนโลกนี้ก็ไม่อนุญาตให้หญิงสาวไม่ออกเรือนตลอดชีวิต

ความคิดของข้าคือ เพียงแค่อีกฝ่ายไม่ขัดหูขัดตา ข้าไม่รู้สึกเกลียดก็พอ ในเวลาเดียวกัน คนผู้นี้ต้องได้รับความชื่นชมจากท่านแม่ของข้า ต้องได้รับการยอมรับจากท่านแม่ของข้า คนในตระกูลของอีกฝ่ายไม่รังเกียจข้า นี่ถือว่าเป็นเงื่อนไขของข้า”

“คนในตระกูลของข้าย่อมไม่รังเกียจเจ้า เจ้ามองข้าเป็นอย่างไร ไม่ขัดหูขัดตา ไม่รังเกียจใช่หรือไม่”

เซียวอี้ยืดหลังตรง คาดหวังจะได้รับการยอมรับอย่างมาก

เยียนอวิ๋นเกอเปล่งเสียงหัวเราะออกมา

นางพยักหน้า “ครั้งแรกที่พบเจ้า ข้ารู้สึกว่าเจ้ารูปลักษณ์งดงาม เพียงแต่สายตาหดหู่เป็นพิเศษ มีความบ้าคลั่งไปบ้าง น่ากลัวเล็กน้อย แต่ข้าไม่เกลียดเจ้า มิฉะนั้นข้าไม่มีทางร่วมมือกับเจ้า”

ฮ่าๆๆ …

เซียวอี้ดีใจอย่างมาก พยายามอดทนไม่ให้หัวเราะเสียงดังออกมา เขาพูดอย่างตื่นเต้น “หากเป็นเช่นนี้ ข้าผ่านด่านของเจ้าแล้ว เพียงแค่ได้รับความยินยอมจากองค์หญิงจู้หยาง เจ้าก็จะแต่งงานกับข้า ใช่หรือไม่”

เยียนอวิ๋นเกอครุ่นคิด “เจ้าแน่ใจว่าคนในตระกูลของเจ้าไม่รังเกียจข้า?”

เซียวอี้หัวเราะ “เจ้าวางใจ ไม่มีทางมีปัญหานี้ ข้าไม่ใช่จ้งซูหาว ยิ่งไม่ใช่เซิ่นซูเหวิน เรื่องแต่งงานข้าตัดสินใจเอง ทางตระกูลไม่มีผู้ใดแทรกแซงได้ ไม่มีผู้ใดสามารถชี้นิ้วเรื่องการแต่งงานของข้า ดังนั้นเจ้าสามารถวางใจ แต่งงานกับข้า รับรองจะไม่มีความขัดแย้งทางครอบครัวอย่างแน่นอน”

“อ่อ” เยียนอวิ๋นเกอตอบรับ แต่ไม่ได้มีความสนใจมากนัก

เซียวอี้ “…”

เหตุใดนางจึงไม่ตื่นเต้นแม้แต่น้อย

เรื่องนี้ไม่คู่ควรที่จะดีใจหรือ

จากนั้นเขาก็ได้ยินคำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจอีกครั้ง

“แซ่ของเจ้าคือเซียว และแซ่ของท่านแม่คือเซียว เราทั้งคู่มาจากตระกูลเซียว เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พวกเราแทบจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลย ท่านแม่ของข้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้า หากเจ้าต้องการทำให้ท่านแม่ประทับใจและทำให้ท่านแม่พยักหน้าเห็นด้วย ข้าคิดว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ท่านแม่ของข้าคงรู้สึกเสียใจแทนข้า นางคงจะไม่ยอมให้ข้าแต่งงานกับคนเหลวแหลก”

“ข้าไม่ใช่คนเหลวแหลก”

เซียวอี้แก้ต่างให้ตนเอง

เยียนอวิ๋นเกอยิ้ม “เจ้าพูดกับข้าไม่มีประโยชน์ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นคนเหลวแหลกหรือไม่ สิ่งสำคัญคือภาพลักษณ์ที่เจ้ามีต่อท่านแม่นั้นแย่มากจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางรังเกียจผู้ใดเท่านี้มาก่อน ถึงแม้จะเป็นบัณฑิตที่ยากจน คนที่พิถีพิถันแต่ยากจน ท่านแม่ก็ไม่เคยรังเกียจ มีเพียงเจ้าที่ท่านแม่ไม่ชอบใจ นอกจากใบหน้าที่ยังพอดูได้ของเจ้า”

เซียวอี้ลูบใบหน้าของตนเอง

เขาควรจะขอบคุณท่านพ่อท่านแม่ที่ให้ใบหน้าที่ ‘ชวนหลงใหล’ อย่างมากแก่เขาหรือไม่ อย่างน้อยก็ถือว่ายังมีข้อดี

เขามีรูปลักษณ์ที่ดี คิ้วคมตาโต ดวงตาคมกริบลึกซึ้ง ตอนที่มองผู้อื่นราวกับกำลังจ้องมองด้วยความรัก

เยียนอวิ๋นเกอมองดวงตาของเขา ไม่เห็นถึงความรักที่ลึกซึ้ง เห็นเพียงแต่ความหดหู่และบ้าคลั่ง

แต่ภายในสายตาของผู้อื่น ดวงตาคู่นี้เพิ่มเสน่ห์ให้เขาอย่างมาก

หากไม่ใช่เพราะชื่อเสียงย่ำแย่เกินไป เพียงแค่ใบหน้านี้ก็สามารถดึงดูดกุลสตรีนับไม่ถ้วนกระโจนเข้ามา

ท่านอ๋องผิงชินเซียวเฉิงเหวินจัดเป็นคนรูปงามในคราบคนป่วย

แต่เซียวอี้เป็นชายหนุ่มรูปงามที่แท้จริง สอดคล้องกับภาพลักษณ์ชายรูปงามในหัวของทุกคน

อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าที่ชัดเจน ดวงตาที่คมกริบ รูปศีรษะและใบหน้าที่งดงาม ตัวสูงขายาวเอวคอด

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติตัวโคร่ง หรือว่าชุดเครื่องแบบทางทหาร เขาก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคนได้ในทันที

ผู้ชายที่งดงามเกินไปมักจะไม่น่าไว้ใจ

บรรดาบิดามารดามักยกเซียวอี้เป็นตัวอย่างเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของประโยคนี้

ดูสิ เซียวอี้งดงามเพียงใด

แต่เขาไว้ใจได้หรือ

เขาคือผู้ชายที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดในโลก

ดังนั้น รูปลักษณ์ภายนอกของผู้ชายไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือนิสัยและความสามารถ มีความรับผิดชอบหรือไม่เป็นต้น…

อย่างไรก็ตาม เซียวอี้กลายเป็นตัวอย่างในการอบรมสั่งสอนบุตรของบิดามารดาไปแล้ว

ขอบคุณเซียวอี้ที่มอบตัวอย่างมากมายให้แก่บิดามารดาทั่วทั้งแผ่นดิน ขอบคุณ!

เซียวอี้สลัดความคิดที่เหลวไหลออกไป เขาพูดอย่างจริงจัง “เยียนอวิ๋นเกอ ข้าแค่อยากแต่งงานกับเจ้า! ดังนั้นเจ้าไม่ต้องสงสัยในเจตนาของข้า ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะต้องทำให้องค์หญิงจู้หยางยอมรับให้ได้”

เยียนอวิ๋นเกอขมวดคิ้ว “ข้าคิดว่าเจ้าควรปล่อยมือ”

“นอกเสียจากเจ้าไม่ยอมแต่งงานกับข้า” เซียวอี้ส่งเสียงไม่พอใจราวกับกำลังงอน

ความพยายามหลายปีไม่สามารถทำให้หัวใจที่แข็งดุจหินของอีกฝ่ายหวั่นไหวได้ ช่างรู้สึกพ่ายแพ้ยิ่งนัก

เยียนอวิ๋นเกอไตร่ตรองอย่างละเอียด “พวกเราไม่เหมาะสมที่จะเป็นสามีภรรยา!”

“ผิดแล้ว! พวกเราทั้งสองคือเนื้อคู่กัน! เจ้าไม่ต้องแต่งงานกับผู้อื่นไปทำลายชีวิตพวกเขา ข้าก็ไม่จำเป็นต้องสู่ขอหญิงอื่นไปทำลายชีวิตของพวกนาง พวกเราทั้งสองคนเป็นหายนะให้อีกฝ่าย เหมาะสมกันที่สุด!”

เยียนอวิ๋นเกอขุ่นเคือง “เจ้าต่างหากที่เป็นหายนะ!”

เซียวอี้หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“เยียนอวิ๋นเกอ เจ้าต้องยอมรับ ผู้อื่นต่างไม่เข้าใจเจ้า พวกเขาเห็นเพียงด้านเดียวของเจ้า แต่คิดว่ารู้จักเจ้า ชอบเจ้าเพราะเจ้าหาเงินได้ ดูแลจวนได้ แต่ข้าแตกต่างกัน ข้าไม่เพียงเห็นข้อดีของเจ้า แต่กลับเห็นถึงข้อเสียของเจ้า เจ้าไร้หัวใจต่อคนนอกตระกูล มีแต่ผลประโยชน์ ข้าอยากเป็นครอบครัวของเจ้า หวังว่าเจ้าจะให้โอกาสข้า”

เยียนอวิ๋นเกอส่ายหน้า “เจ้าไม่ใช่คนในครอบครัวของข้า ข้าไม่อาจให้โอกาสเจ้าได้”

พู่!

เซียวอี้อยากกระอักเลือดเสียจริง กระอักเลือดที่หลั่งไหลอยู่ในร่างกายกว่ายี่สิบปีออกมาให้หมด ให้เยียนอวิ๋นเกอเห็นว่านางทำร้ายตัวเองไว้มากเพียงใด

เขาดื่มชาหนึ่งคำเพื่อสงบจิตใจที่ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างมาก

การเป็นคนช่างยากลำบาก!

โดยเฉพาะการเป็นผู้ชายที่อยากจะสู่ขอเยียนอวิ๋นเกอเป็นภรรยา ช่างยากเหลือเกิน!

“เจ้าช่างไร้เหตุผล!” เขาบ่นเสียงเบา

เยียนอวิ๋นเกอเลิกคิ้วยิ้ม “เจ้าเองก็บอกว่ามองเห็นข้อดีและข้อเสียของข้า ใช่ ข้าไร้เหตุผล มันเป็นข้อเสียของข้า หากเจ้ายอมรับไม่ได้ ข้าขอให้เจ้ารีบล้มเลิกความคิด อย่าได้จ้องข้าไม่ปล่อย ไม่คุ้ม!”

“เจ้าผิดแล้ว! ข้าคิดว่าทุกอย่างคุ้มค่าอย่างมาก!”

เซียวอี้พูดอย่างจริงจัง “แม้เจ้าจะไร้เหตุผล แต่สิ่งที่ข้าชอบคือเจ้ามีหลักการของตัวเอง เพียงแค่เรื่องที่ตกลงกันไว้ แม้จะต้องสูญเสียเจ้าก็จะรักษาสัญญา เยียนอวิ๋นเกอ ข้าจะต้องแต่งงานกับเจ้าให้ได้ ต้องแต่งให้ได้! แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็ไม่มีวันล้มเลิก เพียงแค่ทำให้องค์หญิงจู้หยางประทับใจไม่ใช่หรือ ข้าย่อมทำได้แน่”

เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของเขา แต่ภายในดวงตากลับฉายแววไม่มั่นใจเล็กน้อย เยียนอวิ๋นเกอก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

นางคิดพลางพูด “ข้าจะรอดู! ไม่รู้เจ้าจะอดทนได้นานเพียงใด”

“ข้าจะอดทนต่อไป! เพียงแค่เจ้าอย่ากลับใจ แน่นอน ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้ากลับใจ เจ้ารู้สึกข้าไม่ขัดหูขัดตา อีกทั้งไม่รู้สึกเกลียดข้า ไม่ช้าเจ้าต้องแต่งงานกับข้า ตกลงตามนี้แล้ว!”

ช่างเป็นการสารภาพรักที่มั่นใจเหลือเกิน

เยียนอวิ๋นเกอยกแก้วชาขึ้น “มา ข้าใช้ชาแทนเหล้าดื่มให้เจ้า ข้าไม่อาจอวยพรให้เจ้าสมดังปรารถนาได้ ทำได้เพียงอวยพรให้เจ้าปลอดภัย อย่าถูกคนไล่ฆ่า”

เซียวอี้ทุกข์ใจอย่างมาก “ดูท่าทางเรื่องที่พระพันปีเถาต้องการฆ่าข้า ทุกคนต่างรู้ดี”

เยียนอวิ๋นเกอเม้มปากยิ้ม “เวลานี้เจ้ายังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ยังกล้าปรากฏตัวในเมืองหลวง เห็นได้ชัดว่าเจ้าเตรียมรับมือเอาไว้แล้ว ไม่เกรงกลัวการไล่ล่าของพระพันปีเถา เพียงแต่นายท่านรองตระกูลเถาตายเพราะเจ้า พระพันปีเถาไม่มีทางปล่อยเจ้าไป เจ้าคิดจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร”

“ข้ามีความคิดอยู่ก่อนแล้ว เจ้ารอดูเถิด ข้าจะทำให้พระพันปีเถาต้องเสียเปรียบ”

เขามองออกไปนอกหน้าต่าง “ข้าควรไปแล้ว! ไม่อาจนำความเดือดร้อนมาให้เจ้าได้ หากมีคนซักถามเรื่องของข้ากับเจ้า เจ้าก็บอกว่าไม่เคยพบข้า หากมีคนกล้าบังคับเจ้า ไม่ต้องเกรงใจ จู่โจมกลับไป องครักษ์จินอู่พวกนั้นขาดการสั่งสอน เจ้าทำร้ายองครักษ์จินอู่ ราชสำนักก็ไม่กล้าทำอันใดเจ้า สงครามทางเหนือยังต้องการให้ท่านพ่อของเจ้าออกแรง เวลานี้เจ้าคือสมบัติ!”

“ท่านพ่อข้าไม่ได้ต้องการข้า!”

“เจ้าผิดแล้ว ท่านพ่อเจ้าต้องการเจ้าอย่างมาก เจ้าไม่รู้จักท่านพ่อของเจ้าแม้แต่น้อย”

เยียนอวิ๋นเกอทำหน้าฉงน

เซียวอี้พูดขึ้นอีก “เจ้ารู้หรือไม่ เจ้าไม่ยอมรับยศ ท่านพ่อของเจ้าผิดหวังเพียงใด”

เยียนอวิ๋นเกอทำหน้าตกตะลึง “ท่านกำลังแก้ต่างแทนเขา?”

“ข้าเพียงแค่บอกความจริงกับเจ้า ท่านพ่อเจ้าไม่อยากมอบยศให้เยียนอวิ๋นฉวนแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะต้องการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับท่านแม่เจ้า แต่เขาอยากจะมอบยศแก่เจ้าอย่างจริงจัง”

เยียนอวิ๋นเกอส่ายหน้าระรัว คำพูดนี้เกินจริงไป น่าประหลาดใจเกินไป นางไม่เชื่อ

แต่เซียวอี้กลับพูด “หลายปีที่เจ้าอยู่ในเมืองหลวง เจ้าได้แสดงความสามารถและความกล้าหาญที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ข้าเดาว่าท่านพ่อเจ้าเคยคิดจะฝึกฝนเจ้า ให้เจ้าแข่งขันกับเยียนอวิ๋นถง พี่สองของเจ้า”

“เหลวไหลสิ้นดี!” เยียนอวิ๋นเกอส่ายหน้า “ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าไม่ถูกกัน เขาไม่ชอบพวกเราพี่น้อง เขาจะยกยศให้ข้าได้อย่างไร เจ้าอย่าได้พูดเหลวไหลแก้ตัวแทนเขา มิฉะนั้นข้าอาจจะรู้สึกว่าเจ้าขัดหูขัดตา หรืออาจจะเกลียดเจ้า”

เซียวอี้พูดอย่างจริงจัง “ข้าไม่ได้แก้ตัวแทนท่านพ่อเจ้า ใจคนเราย่อมเปลี่ยนแปลงได้ เจ้าไม่ได้พบกับท่านพ่อเจ้ามานานหลายปี เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เจ้าถึงวัยปักปิ่นแล้ว เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ ท่านพ่อเจ้าเคยเร่งเร้าหรือไม่ เคยแทรกแซงเรื่องนี้หรือไม่ เคยตัดสินใจหมั้นหมายให้เจ้าหรือไม่”

“มันเป็นเพราะว่าท่านแม่ของข้ามีข้อตกลงร่วมกับเขา!”

“เจ้าคิดว่าเพียงแค่ข้อตกลงก็จะขัดขวางท่านพ่อของเจ้าได้หรือ เจ้ารู้จักเขา ข้อตกลงสำหรับเขามันเป็นเพียงเศษกระดาษ เวลานี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ท่าทีของท่านพ่อเจ้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลง”

“หากท่าทีของท่านพ่อข้าเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ สุดท้ายแล้ว เขาก็ยังเห็นแก่ผลประโยชน์เป็นหลัก”

“ถูก เรื่องนี้ไม่ผิด แต่แตกต่างที่เวลานี้เขาเอนเอียงมาทางเจ้า เขาชื่นชมเจ้ามากกว่า”

“ข้าเป็นหญิง!”

“ชายก็แต่งเข้าได้” เซียวอี้โพล่งออกมา

เยียนอวิ๋นเกอทำหน้าฉงน “เจ้าอยากแต่งเข้า?”

เพียะ!

เซียวอี้ตบหน้าตัวเองหนึ่งที “ไม่อยาก ไม่อยากแม้แต่น้อย! ข้าควรไปแล้ว ขอตัว!”

———————*************——————–

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

Status: Ongoing
ณหนูจวนอื่นชื่นชอบแพรพรรณงดงาม กวี ภาพเขียน บุรุษหล่อเหลา แต่คุณหนูสี่จวนโหวกลับคลั่งไคล้ในเงินทอง! การค้ารูปแบบใดที่แผ่นดินนี้ไม่เคยมีล้วนออกมาจากสมองของนางและทั้งหมดล้วนทำให้เงินทองไหลมาเทมา!นิยายโรแมนติกจีนโบราณ ที่นางเอกมากความสามารถและคลั่งไคล้เงินสุดๆ!คุณหนูสี่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเกอ เป็นใบ้เพราะอุบัติเหตุตอนยังเด็กทำให้อุปนิสัยดุร้าย อารมณ์ร้อน มุทะลุยิ่งนักใครๆ ล้วนมองว่านางเป็นหญิงเอาแต่ใจไม่เคยคำนึงถึงสิ่งใดแต่จิตวิญญาณด้านในของนางนั้นคือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในวันสิ้นโลกอาจเพราะความยากลำบากในชาติก่อนสิ่งเดียวที่นางกลัวที่สุดก็คือกลัวอดตาย!ดังนั้นหากไม่อยากอดตายต้องทำอย่างไรก็ต้องมีเสบียง! และการจะมีเสบียงได้นั้นก็ต้องมีเงิน!เพื่อการนั้นนางจะทุ่มเทสมองในการบุกเบิกการค้า ปูรากฐานทุกอย่างเพื่อพี่น้องและมารดาด้วยมันสมองของคนยุคใหม่นางไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้ทหารต่อให้เก่งกาจเพียงใดหากไม่มีเสบียงแล้วไซร้ก็ยากจะรบต่อไปได้ถึงตอนนั้นในแผ่นดินที่ฮ่องเต้จ้องจะกวาดล้างอำนาจขุนนาง ครอบครัวนางย่อมหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท