ตอนที่ 338 มีชะตาร่วมกัน
ตอนที่ 338 มีชะตาร่วมกัน
ฉินมู่หลานกับคนกลุ่มหนี่งเดินตามรอยเท้าที่พบ แต่เมื่อเดินไปถึงเพียงครึ่งทางก็ไม่พบแล้ว
“พวกเราลองแยกย้ายกันหาเถอะ”
“ครับ”
ทุกคนรีบแยกย้ายกันตามหาเจี่ยงสือเหิง ฉินมู่หลานกับคนอีกหนึ่งคนก็รีบออกตามหาเช่นกัน ทั้งสองเดินมาบนเขาได้ครึ่งทาง ฉินมู่หลานจึงรีบชี้ไปยังบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์แล้วพูดขึ้น “ตรงนั้นมีถ้ำภูเขาใช่ไหม?”
“ครับ เป็นถ้ำภูเขาจริง ๆ”
ฉินมู่หลานรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าพ่อบุญธรรมต้องอยู่ตรงนั้นแน่ จึงรีบเอ่ย “พวกเราลองไปหากันเถอะ”
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในถ้ำภูเขา ทันใดนั้นก็ได้พบหญิงสาวทรงเสน่ห์คนหนึ่งเดินออกมา ในสถานที่แบบนี้กลับพบสาวสวย ฉินมู่หลานจึงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย
เซี่ยปิงชิงเห็นพวกฉินมู่หลานก็ตกใจนิดหน่อย ก่อนจะรีบเอ่ยถาม “พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานจึงรีบกล่าวตามตรง “พวกเรากำลังตามหาคนค่ะ ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณเคยเห็นชายวัยกลางคนที่ดูสง่าผ่านมาบ้างไหมคะ?”
เซี่ยปิงชิงไม่ได้ตอบทันทีหลังจากได้ยินแบบนี้ และเอ่ยถามขึ้น “พวกคุณตามหาคนทำไมเหรอ?”
แต่ฉินมู่ลานยังไม่ทันตอบ ในถ้ำก็มีเสียงดังออกมา “มู่หลาน…”
“พ่อบุญธรรม…”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ใบหน้าของฉินมู่หลานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น รีบเดินเข้าไปข้างในทันที
เซี่ยปิงชิงเห็นพวกเขารู้จักกัน ก็ไม่ขวางอีกต่อไป ก่อนจะเดินตามเข้าไป
ฉินมู่หลานเข้าไปแล้วก็เห็นเจี่ยงซือเหิงนั่งอยู่บนกองหญ้าแห้งด้วยสีหน้าอิดโรย แม้แผลที่ไหล่จะได้รับการปฐมพยาบาลแล้ว แต่ก็ยังมีเลือดไหลออกมา ทั้งคนเปียกโชก ดูไร้เรี่ยวแรงและซีดเซียว “พ่อบุญธรรมคะ พ่อกำลังบาดเจ็บอยู่ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ?”
เมื่อเห็นท่าทางประหม่าแบบนี้ของฉินมู่หลาน เจี่ยงสือเหิงก็ยกยิ้ม แล้วบอกกล่าว “มู่หลาน ลูกไม่ต้องห่วง พ่อไม่เป็นไร”
ขณะพูดเขาก็หันมองเซี่ยปิงชิง แล้วบอกกล่าว “ขอบคุณสหายผู้นี้มากที่ช่วยพ่อเอาไว้ เพราะแบบนี้พ่อถึงรอดมาได้”
ฉินมู่หลานพอจะคาดเดาได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยงสือเหิงในตอนนี้ จึงรีบหันมองเซี่ยปิงชิงแล้วบอกกล่าว “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ”
พูดจบเอ่ยแนะนำตัวเองอีกครั้ง “ฉันชื่อฉินมู่หลาน คนนี้คือพ่อบุญธรรมของฉันเอง เจี่ยงสือเหิงครั้งนี้เขาตกอยู่ในอันตรายก่อนจะพลัดตกลงมาในแม่น้ำ จากนั้นก็ลอยตามน้ำลงมาจนสุดที่ทะเลสาบ ถ้าไม่ได้คุณช่วยเอาไว้ พ่อบุญธรรมของฉันคงไม่รอดแน่”
เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ก็รีบโบกมือก่อนจะบอกกล่าว “ฉันเองก็บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดีค่ะ เห็นว่าเขายังมีลมหายใจ ก็เลยช่วยเอาไว้ พวกคุณไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ“ พูดจบก็เอ่ยแนะนำตัวเอง ”อ๋อ ฉันชื่อเซี่ยปิงชิงค่ะ”
“เซี่ยปิงชิง?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฉินมู่หลานก็รู้สึกตงิดใจนิดหน่อย เพราะมันคล้ายกับชื่อของเซี่ยปิงหรุ่ยมาก นอกจากนี้น้องสาวของเซี่ยปิงหรุ่ยก็อยู่ทางใต้ด้วย เพียงแต่ว่า…ผู้หญิงตรงหน้าดูท่าทางไม่เหมือนเซี่ยปิงหรุ่ยเลยสักนิด แต่เธอก็ยังเอ่ยถามต่อ “คุณ…มีพี่สาวด้วยใช่ไหมคะ?”
เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ก็เหลือบมองฉินมู่หลานด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่ ฉันมีพี่สาวคนหนึ่งค่ะ“
”พี่สาวคุณชื่อเซี่ยปิงหรุ่ยใช่ไหมคะ?”
เซี่ยปิงชิงรีบเอ่ยถามทันที “คุณรู้จักพี่สาวฉันเหรอคะ?“
“คุณคือน้องสาวของเซี่ยปิงหรุ่ยจริงด้วย ฉันได้ยินว่าพวกคุณเป็นแฝดกัน แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็หัวเราะ แล้วพูดขึ้น “เพราะพวกเราไม่ใช่ฝาแฝดที่เหมือนกัน ก็เลยไม่เหมือนกันน่ะค่ะ”
“ไม่แปลกนะ ว่าแต่คุณไม่ได้จะไปหาพี่ที่เมืองหลวงหรอกเหรอ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
ตอนนี้พวกเขาอยู่ทางใต้สุดของมณฑลเหอเป่ย หากประมาณการณ์ตามที่เซี่ยปิงหรุ่ยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ เซี่ยปิงชิงควรจะไปถึงเมืองหลวงตั้งนานแล้ว นอกจากนี้การเดินทางจากมณฑลเหอเป่ยไปปักกิ่งก็ไม่ผ่านทางนี้ด้วย
“ฉันเดินและแวะพักตลอด แล้วก็บังเอิญมาโผล่ที่นี่”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงอดถามไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นเธออยากไปเมืองหลวงพร้อมกับพวกเราไหม เดี๋ยวพวกเราขับรถไปกันเอง ไปด้วยกันได้นะ“
เซี่ยปิงชิงคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะเอ่ยตอบ ”ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปกับพวกเธอด้วยแล้วกัน”
เมื่อเห็นเซี่ยปิงชิงพูดแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มพลางเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นพวกเราออกไปกันเถอะ”
แต่เธอก็กลัวว่าเจี่ยงสือเหิงจะทนไปตามทางไม่ไหว จึงให้ยาเขากิน
เซี่ยปิงชิงเห็นจึงรีบห้ามทันที “เธออย่าเพิ่งเอายาให้เขากินเลย ฉันเพิ่งให้ไปเอง ถึงเขาจะดูอิดโรยไปบ้าง แต่อาการบาดเจ็บไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น”
ก่อนหน้านี้ฉินมู่หลานยังไม่มีโอกาสได้ตรวจชีพจรให้เจี่ยงสือเหิง เมื่อได้ยินแบบนี้ จึงลองตรวจชีพจรให้เขา หลังจากนั้นก็ยกยิ้มแล้วหันไปพูดกับเซี่ยปิงชิง “ปิงชิง ขอบคุณเธอมากนะ”
“พอแล้ว ไม่ต้องขอบคุณแล้ว”
“ก็ได้ งั้นไม่พูดแล้ว”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วขานรับ หลังจากนั้นก็พาเจี่ยงสือเหิงออกจากถ้ำเขา “เหยาอู่ นายไปบอกทุกคนหน่อย ว่าเจอตัวพ่อบุญธรรมแล้ว พวกเราจะได้กลับไปหาพวกอาหลี่กันเลย”
“ครับ”
ในไม่ช้า ทุกคนก็มารวมตัวกัน คนกลุ่มหนึ่งพากันเดินขึ้นไปข้างบน แต่พวกเขาเดินไปได้เพียงครึ่งทางก็พบพวกเซี่ยเจ๋อหลี่กับชุยเสี่ยวผิงเดินมาหา
ฉินมู่หลานเห็นพวกเขาเดินมาจึงรีบเอ่ยถาม “อาหลี่ แล้วพวกเหยาอี้หนิงล่ะ?”
“ไม่ต้องห่วง พวกเขาโดนจับหมดแล้ว พวกกำลังเสริมก็มาถึงกันแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเหยาอี้หนิงหนีไปไม่ได้แน่นอน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็สบายใจ
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นเจี่ยงสือเหิงมีใบหน้าซีดเซียว จึงรีบเอ่ยถาม “พ่อบุญธรรมเป็นอะไรไหมครับ?”
“ไม่เป็นไร บาดเจ็บนิดเดียว ครั้งนี้ต้องขอบคุณปิงชิง” พูดจบเขาก็แนะนำเรื่องความสัมพันธ์ของเซี่ยปิงหรุ่ยกับเซี่ยปิงชิงด้วย “ช่างเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตเสียเหลือเกิน ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าคนที่ช่วยพ่อบุญธรรมจะเป็นปิงชิง”
เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รู้สึกว่าช่างบังเอิญเสียจริง แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณเซี่ยปิงชิงมาก
หลังจากคนกลุ่มหนึ่งมาถึงที่หมายในตอนแรก ฉินมู่หลานก็พาเจี่ยงสือเหิงออกเดินทาง
เซี่ยเจ๋อหลี่หันมองแล้วเอ่ยถามพวกเขา “มู่หลาน พวกคุณไปก่อนเลย ผมจะอยู่รอจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ระวังหน่อยนะคะ เสร็จธุระแล้วรีบกลับด้วย”
“ได้”
ทั้งสองพูดคุยกันไม่กี่คำแล้วก็แยกออกเป็นสองกลุ่ม ฉินมู่หลานพาเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงกลับเมืองหลวงพร้อมกับชุยเสี่ยวผิงกับพวกคนที่มาจากตระกูลเหยาเหมือนกับตอนขามา
หลังจากหลายคนมาถึงเมืองหลวงแล้ว ก็ตรงไปที่บ้านตระกูลเจี่ยงทันที
“ปิงชิง เธอรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันให้คนไปบอกพี่สาวเธอให้”
เซี่ยปิงชิงพยักหน้าอย่างไม่มีข้อกังขาอยู่แล้ว ก่อนจะขานรับ “ได้เลย”
คนที่มาจากตระกูลเหยาก็กลับไปที่บ้านตระกูลเหยา ส่วนคนที่มากับชุยเสี่ยวผิงก็แยกย้ายกันกลับไปหมดแล้วเหมือนกัน
ฉินมู่หลานเห็นทุกคนกลับกันเร็ว จึงอดพูดไม่ได้ “ฉันยังไม่ได้ขอบคุณพวกเขาทุกคนเลย”
ชุยเสี่ยวผิงได้ยินแบบนั้น ก็อดยิ้มแล้วเอ่ยเสียไม่ได้ “ไม่เป็นไรค่ะ พวกเขาต่างเต็มใจจะช่วย”
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณอยู่ดี ฉินมู่หลานจึงให้ลุงเจี่ยงไปเตรียมของขวัญมา หวังให้ชุยเสี่ยวผิงไปมอบให้กับพวกเขาในวันพรุ่งนี้
ส่วนทางฝั่งตระกูลเหยา ฉินมู่หลานก็ไม่ลืมให้ลุงเจี่ยงเตรียมเอาไว้ด้วยเช่นกัน
ไม่นานเซี่ยปิงหรุ่ยก็มาถึง แล้วก็เห็นน้องสาวของตัวเอง “เซี่ยปิงชิง ทำไมเธอถึงมาอยู่กับมู่หลานได้ พวกเธอเจอกันได้ยังไง?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โลกกลมจริงๆ มาเจอน้องสาวของปิงหรุ่ยแบบบังเอิญพอดีเลย
ไหหม่า(海馬)