ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 341 รับงานครั้งแรก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 341 รับงานครั้งแรก

ตอนที่ 341 รับงานครั้งแรก

ฉินมู่หลานได้ยินคำพูดของเซี่ยเหวินปิง จึงรีบเอ่ยถาม “จริงเหรอคะพ่อ บ้านสี่ประสานหลังนั้นตกแต่งใกล้เสร็จแล้วเหรอคะ?”

“ใช่แล้ว สวยมากด้วย เธอต้องให้โบนัสก้อนโตกับอาจารย์เคอวั่ง เขาเก่งมากจริง ๆ พวกเราทำตามคำชี้แนะของเขา ทำทุกอย่างออกมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน มันเป็นผลงานของเขาทั้งหมดเลย”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้นทันที “เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ถึงตอนนั้นหนูจะพาเคอวั่งไปด้วย ไปขอบคุณอาจารย์ของเขาให้เป็นกิจลักษณะ”

หลังจากหลายคนพูดคุยกันอีกไม่กี่คำ ก็กลับไปพักผ่อน

พรุ่งนี้เช้าเป็นวันเสาร์ ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ทั้งสองคนจึงตรงไปที่เรือนสี่ประสานหลังนั้น ส่วนเซี่ยเหวินปิงกับฉฺนเจี้ยนเซ่อและลูกชายของเขาไปก่อนล่วงหน้าแล้ว

“มู่หลาน พวกเธอมาทำอะไร มาดูบ้านเหรอ ที่นี่ยังต้องทำความสะอาดอีกประมาณสองวัน ตอนนี้ยังดูรกอยู่เลย” เหลียงถงก็อยู่ตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นฉินมู่หลานกับคนอื่นมา จึงยิ้มแล้วกล่าวทักทาย

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะบอกกล่าว “อาจารย์เหลียงคะ พวกเราได้ยินว่าตกแต่งใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะฉะนั้นก็เลยมาดูค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เหลียงถงก็เดินนำไปข้างหน้าแล้วเอ่ยบอก “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันพาพวกเธอไปดู”

เหลียงถงพาทั้งสองเดินไปทางลานหน้าบ้านก่อน “ตอนนี้มันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะสวยมากขึ้นกว่านี้ถ้าพวกเธอปลูกพวกดอกไม้ ต้นไม้ ส่วนตรงสวนหลังบ้านนั้น ลุงไม่ได้ทำอะไรมาก คิดว่าพวกผู้ใหญ่ที่บ้านของเธออาจจะอยากปลูกพืชผักสวนครัวหรือใช้ทำอะไรสักอย่าง”

เดินทีเขาคิดจะตกแต่งสวนหลังบ้านทั้งหมด เพียงแต่แอบได้ยินเซี่ยเหวินปิงคุยกับฉินเจี้ยนเซ่อเข้าโดยบังเอิญ นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าการปลูกผักเอาไวส้ทานที่บ้านจะสะดวกกว่า อยากกินก็หยิบสรรได้ตามใจ จึงไม่ค่อยทำอะไรกับสวนหลังบ้านมากนัก

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“อาจารย์เหลียงคะ อาจารย์ช่างใส่ใจรายละเอียดจริงๆ สวนหลังบ้านนี้เอาไว้ปลูกผักบางชนิดได้ ถึงตอนนั้นอยากกินอะไรก็จะเลือกสรรได้ตามใจ”

เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานก็คิดแบบเดียวกัน เหลียงถงก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น “พวกเธอชอบก็ดีแล้ว”

หลังจากนั้นเหลียงถงก็พาทั้งสองคนเข้าไปในบ้านอีกครั้ง และแนะนำไปตามแต่ละบริเวณ “ข้างหน้าพวกเธอดูเรียบร้อยแล้ว ข้างหลังตรงนี้คือห้องนอนของพวกเธอ ฉันคิดว่าพวกเธอยังหนุ่มยังสาว เพราะฉะนั้นสไตล์การตกแต่งบ้านจึงทำให้ดูทันสมัยมากขึ้นนิดหน่อย ไม่แก่เกินไป สีที่เลือกจึงไม่ใช้สีที่หม่นหมอง”

ฉินมู่หลานเห็นแล้วก็รู้สึกชอบตั้งแต่แรกเห็น

“อาจารย์เหลียงคะ นี่มันสวยมากเลยค่ะ”

ห้องนอนใหญ่ยังคงเป็นสไตล์จีนโบราณ ผนังสีฟ้าขลับเงาควบคู่กับเฟอร์นิเจอร์สไตล์จีนสีควัน มีความคลาสสิกอย่างไม่สามารถบรรยายได้ โดยรวมแล้วดูดีมากจริง ๆ

“พวกเธอชอบก็ดี หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็ซื้อของมาตกแต่งเพิ่มได้ ในบ้านก็จะดีมากขึ้น”

ฉินมู่หลานรีบพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ ก่อนจะเอ่ย “ได้ค่ะอาจารย์เหลียง พวกเราจะไปเดินเลือกซื้อกันทีหลังค่ะ”

ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่คิดจะไปเดินเลือกซื้อของทันที ทันทีที่เดินออกมา ใครบางคนก็เข้ามาถาม “ขออนุญาตสอบถามหน่อยครับ บ้านหลังนี้พวกคุณกำลังปรับปรุงอยู่ใช่ไหม ตอนนี้เสร็จแล้วหรือยังครับ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็มองดูชายคนนั้นด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยถาม “มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”

ผู้มาเยือนเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าอ่อนโยนตัดผมสั้น

ชายวัยกลางคนผู้นั้นได้แต่ยกยิ้มแล้วบอกกล่าว “ผมเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ข้าง ๆ ครับ ติดกับข้างบ้านของพวกคุณเลย”

ๆพูดจบก็ชี้ไปทางบ้านของเขา ก่อนจะบอกกล่าวต่อ “ผมอยากจะตกแต่งบ้าน ได้ยินว่าพวกคุณกำลังตกแต่งพอดี ก็เลยอยากขอลองมาดู จะได้ไหมครับ อยากจะถามเรื่องของทีมก่อสร้างที่พวกคุณจ้างงานด้วย ว่าจะช่วยรับงานของผมเพิ่มด้วยได้ไหมครับ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดยิ้มไม่ได้ แล้วเชิญคนผู้นั้นเข้าไปข้างในทันที

“รีบเข้ามาดูได้เลยค่ะ ต่อจากนี้ไปพวกเราจะเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว ญาติมิตรห่างไกลก็เทียบไม่ได้กับเพื่อนบ้าน พวกเราจะต้องไปมาหาสู่กันต่อไปในอนาคตด้วยค่ะ” พูดจบเธอก็เอ่ยเล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันในเรือนสี่ประสานด้วย “ตอนนี้ตกแต่งใกล้เสร็จแล้วค่ะ เหลือแค่ทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะฉะนั้นที่คุณมาวันนี้ถือเป็นเวลาประจวบเหมาะพอดีเลยค่ะ”

เหลียงถงเพิ่งเอ่ยแนะนำไปเมื่อสักครู่ ฉินมู่หลานจึงพูดอธิบายขึ้นมาได้อย่างชัดถ้อยชัดคำและสมเหตุสมผล แม้แต่รายละเอียดในการตกแต่งบางส่วนก็อธิบายได้อย่างชัดเจน

เซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อแปลกใจนิดหน่อยในตอนแรกว่าสองคนนี้เป็นใคร จนกระทั่งได้ยินว่าเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างบ้าน สนใจเข้ามาชมการตกแต่งภายใน ถ้าหากเขามองไม่ผิด อาจอยากให้พวกเขาช่วยตกแต่งบ้านให้ด้วย

เมื่อทราบเรื่องนี้ ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงต่างรู้สึกตื่นเต้นมาก

หากเป็นอย่างนั้นจริง เช่นนั้นพวกเขาก็คงรับงานได้

ทางด้านฉินมู่หลานยังคงแนะนำอยู่ ขณะเดียวกันก็ได้เอ่ยถามชื่อของพวกเขาอย่างเป็นกันเอง

“ผมชื่อเผยเจิ้งผู่ ส่วนนั่นลูกชายผม เผยกวงซิ่น”

“ลุงเผยนี่เองค่ะ ทางนี้ดูเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะพาพวกคุณไปดูทางฝั่งนั้นค่ะ”

เดินชมไปหนึ่งรอบ เผยเจิ้งผู่ก็อดถอนหายใจเสียไม่ได้ “พวกคุณตกแต่งที่นี่กันได้ดูดีมากเหลือเกิน คงทำงานหนักมากแน่เลยใช่ไหมครับ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงยกยิ้มแล้วโบกมือก่อนจะพูดขึ้น “ฉันแค่คอยดูเฉย ๆ ค่ะ คนที่ทุ่มเทอย่างหนักคืออาจารย์เหลียงกับพ่อ และพ่อสามีของฉันค่ะ” หลังจากพูดก็เอ่ยแนะนำทั้งสาม

เผยเจิ้งผู่รีบหันมองเหลียงถง เซี่ยเหวินปิงและฉินเจี้ยนเซ่อทันที ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าวทักทาย หลังจากนั้นก็เอ่ยถามเรื่องที่ค้างคาใจ

“ที่นี่ใกล้จะเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกคุณจะรับตกแต่งเรือนสี่ประสานหลังนั้นของผมได้ไหมครับ?”

เซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อรีบพยักหน้าทันที แต่พวกเขาก็ยังเอ่ยบอกตามตรง

“เรื่องตกแต่งพวกเราทำได้ครับ แต่เรื่องการออกแบบของที่นี่อาจารย์เหลียงเป็นคนวาดทั้งหมด ที่ได้เขามาช่วย ก็เป็นผลพลอยมาจากมู่หลานกับเคอวั่งทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเขาจะออกแบบให้คุณได้ไหมก็คงต้องให้เขาดูก่อนครับ หากไม่มีภาพวาดของเขา พวกเราคงตกแต่งงานออกมาได้ไม่ดีเท่านี้แน่นอน”

เมื่อได้ยินแบบนั้น เผยเจิ้งผู่ก็หันไปมองเหลียงถงแล้วเอ่ยถาม “ไม่ทราบว่าอาจารย์เหลียงจะรับงานของผมได้ไหมครับ?”

เหลียงถงรู้สึกลังเลนิดหน่อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลังจากนั้นก็ตอบตกลง

“ผมรับงานของคุณได้ครับ เพียงแต่ว่าการวาดภาพออกแบบไม่ใช่เรื่องง่าย และผมจะต้องพาลูกศิษย์ไปที่นั่นด้วย ผมอยากจะให้ไอเดียการออกแบบออกมาดีที่สุด แต่ก็จะใช้เวลานานด้วยนะครับ” ตอนนี้สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมนอกสถานที่ได้ เมื่อที่นี่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะพาฉินเคอวั่งไปเรียนรู้ที่บ้านหลังข้าง ๆ ต่อได้

เผยเจิ้งผู่ได้ยินแบบนี้ จึงยกยิ้มแล้วพยักหน้าบอกกล่าวตามตรง “ไม่มีปัญหาครับ ถ้าอย่างนั้นเรื่องการตกแต่งต้องขอฝากพวกคุณด้วยนะครับ” ขณะพูดเขาก็หันมองแล้วเอ่ยถามหลายคน “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณอยากไปดูบ้านของผมตอนนี้เลยไหมครับ?”

“ค่ะ”

หลังจากนั้นฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไปที่นั่นด้วยกัน

บ้านตระกูลเผยมีขนาดนี้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ห้องนอนหลายห้องมาก เพราะฉะนั้นจำนวนงานก็จะเพิ่มมากขึ้น

หลังจากหลายคนเดินดูไปหนึ่งรอบ เหลียงถงก็หันมองแล้วเอ่ยถามฉินเคอวั่ง “เคอวั่ง เธอสำรวจบ้านหลังนี้ไปแล้ว มีความคิดเห็นอะไรบ้างไหม?”

ฉินเคอวั่งพูดด้วยท่าทางเคอะเขินนิดหน่อย “อาจารย์ครับ ไอเดียของผมที่สามารถคิดออก ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่อาจารย์เคยพูดมาก่อนหน้านี้ทั้งนั้นเลยครับ”

เหลียงถงได้ยินแบบนี้จึงพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ถ้าอย่างนั้นวันนี้อาจารย์จะให้เธอมาวัดพื้นที่บ้านหลังนี้ หลังจากนั้นก็วาดภาพออกแบบมาให้ดูหน่อยนะ”

“ได้ครับ อาจารย์”

หลังจากดูทางด้านนี้เรียบร้อยแล้ว ฉินมู่หลานกับคนอื่นก็เตรียมตัวกลับไป

และเผยเจิ้งผู่ก็พร้อมจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าทันที

“อาจารย์เหลียง อาจารย์ฉิน อาจารย์เซี่ย บ้านหลังนี้ต้องขอฝากพวกคุณด้วยนะครับ” หลังจากพูดจบเขาก็ยื่นกุญแจมาให้

เซี่ยเหวินปิงก้าวเข้าไปข้างหน้าแล้วรับกุญแจมา พลางยกยิ้มแล้วตอบกลับ “ครับ เดี๋ยวพวกเราทำงานที่นั่นเสร็จแล้ว จะรีบมาทำที่นี่ต่อนะครับ”

หลังจากคนกลุ่มหนึ่งออกไป เผยกวงซินก็อดมองพ่อแล้วพูดขึ้นอย่างเสียอดไม่ได้ “พ่อ พ่อตัดสินใจส่งเดชแบบนี้ แล้วถ้าแม่เกิดไม่ชอบขึ้นมาล่ะ ผมว่าแม่ชอบการตกแต่งสไตล์ยุโรปมากกว่านะ”

เผยเจิ้งผู่ปรายตามองลูกชาย แล้วบอกกล่าว “แล้วลูกไม่ชอบการตกแต่งแบบของข้างบ้านเหรอ”

เมื่อเห็นลูกชายพูดแบบนี้ เผยเจิ้งผู่เข้าใจว่าเขาเองก็ต้องชอบมันเหมือนกันแน่นอน “พวกเรากลับมาแล้ว และเดิมทีเราก็เป็นคนจีน ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ความชอบของเราก็ไม่มีวันเปลี่ยนผันตามหรอก แม่ของลูกเองก็ต้องชอบมันเหมือนกันแน่นอน”

อีกดด้านหนึ่ง ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เดินซื้อของกัน ส่วนฉินเจี้ยนเซ่อกับคนอื่นก็กลับไปทำงานกันอีกครั้ง

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

บ้านมู่หลานมีรายได้เสริมแล้วสิ ทำดีๆ จะได้รับงานอีกหลายงาน

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท