ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 362 จุดประสงค์ชัดเจน(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 362 จุดประสงค์ชัดเจน(2)

ตอนที่ 362 จุดประสงค์ชัดเจน(2)

เสิ่นหรูฮวนแตะท้องของตัวเองด้วยความรัก แต่เมื่อนึกถึงข่าวที่เพิ่งได้ยินเมื่อเช้า จึงรีบหันไปถามฉินมู่หลาน “มู่หลาน เธอเป็นลูกสาวของตระกูลเซี่ยจริงเหรอ?”

ถงทิงผิงที่อยู่ข้างๆ ก็มองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ถึงแม้จะเคยได้ยินคนพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่หล่อนก็ยังรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “ใช่ พ่อแท้ ๆ ของฉันคือเซี่ยฉางชิง”

“เป็นเรื่องจริงจริงด้วย”

ถงทิงผิงกับเสิ่นหรูฮวนได้แต่ตกใจ

ฉินมู่หลานที่อยู่ข้าง ๆ อธิบายขึ้น “ตอนแรกฉันก็อยากจะเชิญพวกเธอ แต่ว่าหรูฮวนท้องอยู่ แล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะไปบ้านตระกูลเซี่ยด้วย หลังจากนี้ฉันก็ยังอยู่กับพ่อแม่เหมือนเดิม ก็เลยไม่ได้บอกพวกเธอ”

เพราะหากให้อธิบายเรื่องนี้คงต้องเล่ากันยาวเหยียด

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าฉินมู่หลานจำเซี่ยฉางชิงที่เป็นพ่อได้ แต่เธอก็ไม่อยากกลับไปอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ย จากนี้ไปก็ยังจะถือว่าฉินเจี้ยนเซ่อกับซูหว่านอี๋ยังเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ของตัวเอง

เสิ่นหรูฮวนไม่ค่อยรู้เรื่องนิสัยของคนตระกูลเซี่ยมากนัก แต่รู้จักนิสัยของฉินเจี้ยนเซ่อ ซูหว่านอี๋ และฉินเคอวั่งเป็นอย่างดี และมีความประทับใจในตัวพวกเขามาก เมื่อเห็นเพื่อนบอกแบบนี้ จึงพูดเห็นด้วย “ก็ดี ยังไงเธอก็ทำได้ทุกอย่างตามที่เธอต้องการอยู่แล้ว”

แต่ถงทิงผิงยังคงเอ่ยถามเพิ่มเติม

“หรือว่าเติ้งซูหลานทำให้เธอลำบากใจ จึงเป็นเหตุผลให้เธอไม่อยากกลับไปอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ย?”

“น้าถงคะ ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอกค่ะ ฉันเองต่างหากเป็นฝ่ายที่จะทำให้เติ้งซูหลานลำบากใจ หล่อนจะมาทำให้ฉันลำบากใจได้ยังไงล่ะคะ”

เมื่อคิดถึงความสามารถของฉินมู่หลาน ถงทิงผิงก็อดหัวเราะไม่ได้

“ใช่ จากที่น้าดูแล้ว มู่หลานเก่งขนาดนี้ คงไม่โดนรังแกแน่นอน แต่ว่า…” หลังจากพูดจนถึงท้ายประโยค หล่อนก็หันมองแล้วพูดกับฉินมู่หลาน “มู่หลาน ถ้ามีใครอยากจะมีเรื่องกับเธอ ก็มาบอกพวกน้าได้นะ ครอบครัวของเราจะยืนข้างเธอเอง”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกอุ่นใจ ก่อนจะยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ได้ค่ะน้าถง ฉันจะจำเอาไว้”

อีกด้านหนึ่ง หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่กลับเข้าฐานทัพแล้ว ก็ตรงไปรายงานตัวกัผู้บังคับบัญชาทันที “ผบ.ครับ ผมกลับมาแล้วครับ”

เจียงอันปังเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดีๆๆ ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว”

พูดจบก็หันมองขาเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วเอ่ยถาม “ขาของเธอไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม”

เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลยสักนิด ต่อให้เข้ารับการฝึกอย่างหนัก ก็ไม่มีปัญหาครับ”

“ดี”

เจียงอันปังลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ภรรยาของเธอมีทางแก้เสมอเลย เห็นว่าต่อไปขาของเธอจะมีผลข้างเคียง แต่เมื่ออยู่ในมือหล่อน ทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป” หลังจากพูดจบ เขาก็เอ่ยถึงเรื่องการรับสมัคร “อาหลี่ โรงพยาบาลทหารที่นี่ต้องการบุคลากรที่มีความสามารถอย่างภรรยาของเธอมาก”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

“ผบ.ครับ ท่านลืมไปแล้วหรือครับว่ามู่หลานของผมกำลังเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอยู่”

“อ๋อ…จริงสิ ฉันลืมไป”

เจียงอันปังลืมไปแล้วจริง ๆ เพราะฉินมู่หลานมีฝีมือการรักษาได้ขนาดนี้ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอะไรแล้ว เขาจึงลืมเรื่องที่ฉินมู่หลานกำลังเรียนต่อมหาวิทยาลัยไปเสียสนิท “ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาหรอก ถึงภรรยาของนายจะเรียนจบมาแล้วปฏิเสธไม่ทำงานที่โรงพยาบาลทหารของเราก็ไม่เป็นไร พวกเราก็ไม่ได้รีบร้อน”

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ยอมตัดสินใจแทนฉินมู่หลานเพียงคนเดียว จึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เอาไว้ค่อยพูดถึงเรื่องนี้ตอนมู่หลานของเราเรียนจบแล้วดีกว่าครับ”

เจียงอันปังคิดว่าฉินมู่หลานยังต้องเรียนมหาวิทยาลัยอยู่อีกหลายปี จึงทำได้เพียงยอมแพ้และไม่พูดถึงประเด็นนี้อีก

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน หยวนปิงซินก็เดินเข้ามาจากข้างนอก “เหล่าเจียง พวกเรารอ…”

แต่ยังพูดไม่ทันจบก็มองเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ก่อน จึงยกยิ้มแล้วรีบเอ่ยทักทาย “อาหลี่ เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รีบนั่งก่อนเร็ว ฉันเพิ่งซื้อผลไม้มา พวกเรากำลังจะปอกใส่จานกินกัน”

เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจะปฏิเสธ แต่หยวนปิงซินก็เดินไปที่ห้องครัวเสียแล้ว

จนกระทั่งจานผลไม้ถูกนำออกมาวาง หยวนปิงซินก็บอกให้เซี่ยเจ๋อหลี่รีบทาน “อาหลี่ ฉันเพิ่งไปซื้อมาหมดเลย สดมาก”

“ครับ”

เซี่ยเจ๋อหลี่กินเพียงสองชิ้นเท่านั้น หลังจากนั้นก็เตรียมตัวกลับ

แต่หยวนปิงซินรั้งเขาเอาไว้เสียก่อน “อาหลี่ เธอเพิ่งกลับมา ไม่ต้องรีบร้อนกลับไปหรอก พวกเรามานั่งคุยกันเถอะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่จึงนั่งลงอีกครั้ง

“อาหลี่ เธอลองถามมู่หลานให้หน่อยสิว่ามีหญิงสาวดี ๆ แนะนำให้ป้าบ้างไหม เธอดูสิว่าอาเฉิงของพวกเราอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว แม้แต่เป้าหมายในชีวิตยังไม่มี” หล่อนนึกขึ้นได้ว่าฉินมู่หลานกำลังไปเรียนมหาวิทยาลัย จึงต้องมีเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงหลายคนแน่นอน

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ่อหลี่ก็พยักหน้าตอบรับ “ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลองบอกมู่หลานให้ ขอให้หล่อนช่วยลองหาดู”

ในตอนนั้นเอง เขาก็จำของขวัญที่ฉินมู่หลานขอให้เขานำมาด้วยได้ จึงรีบนำมันออกมา “พี่สะใภ้ครับ นี่เป็นเครื่องสำอางที่ผลิตจากโรงงานของมู่หลาน คุณภาพค่อนข้างดีมาก หล่อนจึงส่งมาให้พี่สะใภ้แทนคำขอบคุณที่ช่วยดูแลหล่อนก่อนหน้านี้”

หยวนปิงซินได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ

“อะไรนะ…มู่หลานเปิดโรงงานด้วยเหรอ?” พูดจบก็รับชุดเครื่องสำอางไป เมื่อเห็นบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามก็อดถามไม่ได้ “เครื่องสำอางนี้แพงมากเลยใช่ไหม”

มันดูแตกต่างกับครีมที่หล่อนใช้อยู่ตอนนี้มาก กล่องใหญ่ขนาดนี้ คงมีอะไรอยู่ข้างในเยอะมากแน่

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนัก จึงส่ายหัวแล้วกล่าว “เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจครับ แต่มู่หลานขอให้เอามามอบให้พี่สะใภ้โดยเฉพาะเลยครับ ยังไงพี่สะใภ้ก็ต้องยอมรับมันไว้”

ผู้หญิงจะไม่รักสวยรักงามได้อย่างไร หยวนปิงซินจึงยอมรับมันในที่สุดกระนั้นหล่อนก็ยังสนใจเรื่องการเปิดโรงงานของฉินมู่หลานมาก จึงเอ่ยถามอีกข้อสองข้อ

เซี่ยเจ๋อหลี่จึงอธิบายเรื่องนี้อีกครั้ง

หยวนปิงซินก็อดอุทานออกมาเสียไม่ได้ “อะไรนะ…เครื่องสำอางพวกนี้ส่งออกไปต่างประเทศด้วยเหรอ มู่หลานนี่เก่งเกินไปแล้วนะ” แต่เมื่อนึกถึงทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของฉินมู่หลาน หล่อนจึงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ถึงอย่างไรในสายตาหล่อน ฉินมู่หลานก็เป็นคนที่เก่งมากอยู่แล้ว

เจียงอันปังที่นั่งอยู่อีกด้านก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

“อาหลี่ ภรรยาของเธอคนนี้เหมาะสมที่จะแต่งด้วยจริง ๆ ดูสิว่าหล่อนเก่งกาจขนาดไหน”

เมื่อพูดถึงฉินมู่หลาน ใบหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็มีรอยยิ้มประดับ

เมื่อเห็นหน้าตาของเซี่ยเจ๋อหลี่ หยวนปิงซินก็อดหัวเราะไม่ได้ “ไม่คิดเลยนะ ว่าอาหลี่ของเราจะใจง่ายแบบนี้ พอพวกเราพูดถึงมู่หลาน หน้าตาก็ยิ้มแย้มไม่หุบเลย”

แต่เมื่อพูดถึงเซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลาน หยวนปิงซินก็นึกถึงเสิ่นหรูฮวนด้วย

“ภรรยาของซวี่ตงกำลังเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านพ่อแม่เธอใช่ไหม?”

“ครับ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หยวนปิงซินก็อดถอนหายใจไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น “ไม่เข้าใจเลยว่าพ่อแม่ของซวี่ตงคิดอะไรอยู่ ลูกชายแต่งงานมีลูกแล้วแต่ก็ไม่ยอมยื่นมือเข้ามาช่วยเลย”

ตอนแรกหล่อนอยากจะพูดอย่างอื่นต่อด้วย แต่โดนเจียงอันปังขัดขึ้นก่อน “พอแล้ว อาหลี่กำลังยุ่งอยู่นะ หยุดลากเขามานั่งพูดคุยได้แล้ว”

“ก็ได้ๆๆ พวกคุณยุ่งอยู่”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ต่อไปต้องขยายโรงงานเครื่องสำอางแล้วมั้งมู่หลาน ผลิตภัณฑ์เป็นที่นิยมขนาดนี้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท