ตอนที่ 365 บทลงโทษ(1)
ตอนที่ 365 บทลงโทษ(1)
เมื่อได้ยินฉินมู่หลานเรียกตนแบบนี้ ใบหน้าของเซี่ยอวี่หรงก็ยับยู่น่าเกลียดนิดหน่อย
“นักศึกษาฉิน ปกติเธอเรียกคนอื่นแบบนี้เหรอ ฉันกับเธอไม่ได้สนิทกัน เพราะฉะนั้นอย่าเรียกฉันว่าน้องสาวอีก แบบนี้เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดเรื่องของเรา” หล่อนไม่อยากเกี่ยวข้องกับฉินมู่หลานเลยสักนิด จึงไม่อยากให้คนอื่นรู้ด้วยว่าพวกเธอเป็นพี่น้องกัน
ก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมชั้นได้ปักใจเชื่อคำพูดของฉินมู่หลานไปแล้ว เพียงแต่เซี่ยอวี่หรงกับพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ตอนนี้พวกเขาจึงเชื่อเพื่อนร่วมชั้นมากกว่า
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็มองเซี่ยอวี่หรงด้วยสายตาขบขัน ก่อนพูดขึ้น “พวกเราเป็นพี่น้องแท้ ๆ กันนะ เธอคิดว่าเธอจะปฏิเสธความจริงเรื่องนี้ได้เหรอ?”
“นักศึกษาฉิน ฉันเป็นคนปักกิ่ง โตมาในปักกิ่งตั้งแต่เด็ก แต่เธอมาจากมณฑลซานตง เพิ่งมาที่ปักกิ่งได้ไม่นาน แล้วเราจะเป็นพี่น้องกันได้ยังไง” ขอเพียงหล่อนไม่ยอมรับ ฉินมู่หลานก็อย่าได้คิดจะมาผูกญาติด้วย นอกจากนี้ชาติกำเนิดของฉินมู่หลานก็เป็นแค่ลูกนอกสมรสที่ไม่ได้น่ายินดีเลย หล่อนไม่เชื่อหรอกว่าฉินมู่หลานอยากจะให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองเป็นลูกนอกสมรส
เมื่อเห็นว่าเซี่ยอวี่หรงต้องการปฏิเสธความสัมพันธ์ ฉินมู่หลานก็หัวเราะขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เซี่ยอวี่หรง พวกเราเรียกพ่อมากันดีไหมล่ะ แล้วลองถามเขา ว่าฉันใช่พี่สาวของเธอไหม”
“เธอ…”
เซี่ยอวี่หรงเห็นท่าทางมั่นใจของฉินมู่หลานแล้ว ใบหน้าก็ดูบูดบึ้งนิดหน่อย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ใส่ใจเรื่องที่ตัวเองเป็นลูกนอกสมรสเลย
เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็ขมวดคิ้วแล้วหันไปพูดกับเซี่ยอวี่หรง “ไม่กี่วันก่อนตระกูลเซี่ยเพิ่งจัดงานเลี้ยงรับรองเอง ปู่ของเธอก็จดชื่อมู่หลานลงในแผนผังวงศ์ตระกูลเรียบร้อยแล้ว ถึงเธอจะยอมรับพี่สาวคนนี้หรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ตอนแรกทุกคนยังสงสัยอยู่นิดหน่อย แต่หลังจากได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยในตอนนี้แล้ว จึงได้ทราบว่าฉินมู่หลานเป็นพี่สาวของเซี่ยอวี่หรงจริง เพียงแต่เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่างแน่นอน เพราะบางคำพูดของเซี่ยอวี่หรงก็เป็นเรื่องจริง ฉินมู่หลานเติบโตมาในมณฑลซานตง เพิ่งมาปักกิ่งได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าเธอกลายมาเป็นพี่สาวของเซี่ยอวี่หรงได้อย่างไร
ในตอนนี้เอง ฮั่วหย่าซงก็รีบตรงไปหาเซี่ยอวี่หรง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าโกรธจัด “เซี่ยอวี่หรง ตอนนั้นที่ฉันถามเธอ ทำไมเธอถึงบอกว่าฉินมู่หลานยังไม่มีคู่ครองล่ะ เธอเองก็รู้ว่าฉันชอบนักศึกษาฉินมู่หลาน พอได้ยินว่าหล่อนยังไม่มีคู่ครอง ฉันเลยตามจีบหล่อน แต่กลายเป็นว่าเธอหลอกฉัน ทำให้ฉันต้องทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิด ตอนนี้ข่าวลือเรื่องนักศึกษาฉินมู่หลานมันแพร่กระจายไปทุกที่แล้ว”
หลังจากได้ยินแบบนี้ เซี่ยอวี่หรงก็รู้กระจ่างขึ้นมาว่าเป็นเพราะข่าวลือเรื่องนี้ ทำให้พวกเขาต้องบุกมาหากันถึงห้องเรียน แต่หล่อนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรในตอนแรก
“ฮั่วหย่าซง ฉันบอกนายชัดเจนเหรอว่าฉินมู่หลานไม่มีคู่ครอง ฉันก็แค่บอกว่าฉันไม่รู้”
“เธอ…”
ฮั่วหย่าซงจำสิ่งที่เซี่ยอวี่หรงพูดในตอนนั้นได้เช่นกัน อีกฝ่ายไม่ได้บอกชัดเจนว่าฉินมู่หลานไม่มีคู่ครองก็จริง แต่สิ่งที่หล่อนพูดในตอนนั้นมันแสดงความหมายเป็นนัยว่าฉินมู่หลานยังไม่มีคู่ครอง
เมื่อเห็นฮั่วหย่าซงพูดไม่ออก เซี่ยอวี่หรงจึงแค่นหัวเราะด้วยความเย็นชา ก่อนจะบอกกล่าว “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย เห็นได้ชัดว่านายไปตามจีบฉินมู่หลานเองโดยที่ยังไม่ได้ถามให้ชัดเจนเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ”
“เธอ…”
ใบหน้าของฮั่วหย่าซงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรไปชั่วขณะหนึ่ง
จางเสวียหล่างโกรธมากเมื่อเห็นเพื่อนของเขาเอาแต่อึ้งงันไม่ยอมพูดอะไรออกมา จึงรีบก้าวไปข้างหน้าทันที ก่อนจะหันไปเอ่ยถามเซี่ยอวี่หรงด้วยความโกรธ “เซี่ยอวี่หรง เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนักศึกษาฉินมู่หลาน แล้วจะไม่รู้ได้ยังไงว่าหล่อนมีคู่ครองแล้วหรือยังไม่มี เธอแค่พยายามทำให้หย่าซงเข้าใจผิด จงใจจะใช้เขาเป็นเครื่องมืออย่างเห็นชัด”
ถึงอย่างนั้นเซี่ยอวี่หรงก็หัวเราะเยาะแล้วพูดขึ้น “พวกนายก็รู้ว่ามู่หลานเพิ่งมาเมืองหลวงได้ไม่นานนี่เอง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าฉันจะเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของหล่อน แต่ฉันก็ยังไม่ได้รู้จักหล่อนดี”
ในตอนนั้นเอง จางเสวียหล่างก็ขมวดคิ้วฉับ อยากจะเอ่ยถามต่อ แต่เซี่ยอวี่หรงก็คงไม่ยอมรับ เขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีก
แต่ฉินมู่หลานกลับฉีกยิ้มนิดหน่อยแล้วมองไปทางเซี่ยอวี่หรงก่อนจะพูดขึ้น “น้องสาวที่แสนดีของฉัน ก่อนจะมาปักกิ่ง พวกเราก็รู้จักกันมาก่อนแล้วนี่นา แน่นอนว่าเธอต้องรู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว หรือเธออยากให้ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นด้วยไหมล่ะ จะได้ช่วยเตือนความจำสักหน่อย”
เซี่ยอวี่หรงได้ยินแบบนี้ ก็หันขวับไปทันที
ฉินมู่หลานคิดจะทำตัวหน้าด้านแฉว่าหล่อนชอบเซี่ยเจ๋อหลี่อย่างนั้นเหรอ ไม่กลัวว่าตัวเองจะต้องอายเหมือนกันหรือไง?
แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของฉินมู่หลาน เซี่ยอวี่หรงจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอกล้าทำจริง แม้ฉินมู่หลานจะไม่อาย แต่หล่อนยังมีความอายอยู่บ้าง ไม่มีทางให้เพื่อนร่วมชั้นได้รู้เด็ดขาดว่าหล่อนแอบชอบผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ถึงแม้จะบอกว่าตัวเองไม่ผิดเพราะตัวเองเป็นคนตกหลุมรักเซี่ยเจ๋อหลี่ก่อน แต่คนอื่นก็คงสนใจเพียงแค่ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่เป็นคู่ครองของฉินมู่หลาน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซี่ยอวี่หรงจึงกำหมัดแน่น ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้น “ใช่ ฉันรู้ว่าเธอแต่งงานมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่นั่นมันก็นานแล้ว ฉันก็อาจจะลืมไปบ้าง”
“เซี่ยอวี่หรง ทำไมถึงพูดจากลับกลอกไปมาแบบนี้ล่ะ กลอุบายของเธอนี่ดูทุเรศมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ”
ฉินมู่หลานเหลือบมองเซี่ยอวี่หรงด้วยสายตาดูถูก ราวกับว่าหล่อนเป็นคนโง่
เมื่อเห็นฉินมู่หลานทำหน้าตาแบบนี้ เซี่ยอวี่หรงก็นึกโมโหขึ้นมา “ฉินมู่หลาน ฉันก็บอกอยู่ว่ามันนานมากแล้วไง ฉันก็เลยลืมไปแล้ว จึงหลุดปากพูดไปแบบนี้”
ยังไม่ทันที่ฉินมู่หลานจะได้เปิดปากพูดต่อ จางเสวียหล่างก็เอ่ยขึ้น “เหอะ…ตอนนั้นเหมือนเธอจะไม่ได้หลุดปากนะ เธอตั้งใจพูดแบบนั้นจริง”
ฮั่วหย่าซงก็รู้สึกว่าเซี่ยอวี่หรงตั้งใจ จึงได้แต่รู้สึกว่าเพื่อนนักศึกษาหญิงคนนี้มีเจตนาร้าย
นักศึกษาคนอื่นในชั้นเรียนเห็นเรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้และมองเห็นอะไรบางอย่างออก จึงต่างพากันชี้ไปที่เซี่ยอวี่หรงพลางมองด้วยสายตารังเกียจเหยียดหยาม
“ไม่คิดเลยว่าเซี่ยอวี่หรงจะเป็นคนแบบนี้ ตั้งใจไม่บอกความจริง ทำให้ฮั่วหย่าซงไปตามจีบฉินมู่หลานทั้งที่หล่อนรู้มาตั้งนานว่าฉินมู่หลานแต่งงานแล้ว นี่หล่อนมีแผนอะไรกันแน่”
“พวกเธอก็เพิ่งได้ยินไม่ใช่เหรอ ว่าฉินมู่หลานเป็นพี่สาวของเซี่ยอวี่หรง ต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ เซี่ยอวี่หรงถึงต้องการทำลายชีวิตแต่งงานของฉินมู่หลาน”
“เป็นไปได้มาก หล่อนมีเจตนาไม่ดีอย่างเห็นชัด”
เมื่อได้ยินคำพูดหนาหูรอบตัว ฉินมู่หลานก็ขยับริมฝีปาก รอยยิ้มปรากฏขึ้นในแววตา ครั้งนี้มาถูกทางแล้ว ตอนแรกเธอเพียงแค่อยากมาถามฮั่วหย่าซง แต่ตอนนี้ก็ดีแล้วที่ได้กำไรอย่างไม่คาดคิด กระนั้นก็ยังอยากขุดหลุมให้ลึกลงไปอีก
“เซี่ยอวี่หรง ข่าวลือล่าสุดที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย เธอเป็นคนกระจายข่าวใช่ไหม”
ตอนแรกหลายคนไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินมู่หลาน ทุกคนจึงพากันหันมองเซี่ยอวี่หรง
เซี่ยอวี่หรงปฏิเสธตามตรง ก่อนจะโต้กลับ “ฉินมู่หลาน อย่ามากล่าวหาคนอื่นแบบนี้นะ ฉันเองก็เพิ่งรู้ข่าวลือในวันนี้เหมือนกัน ฉันไม่ได้เป็นคนแพร่มันสักหน่อย”
สีหน้าของเซี่ยอวี่หรงเต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ได้มีความสำนึกผิดปรากฏออกมาเลย
เมื่อเห็นเซี่ยอวี่หรงเป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิวขึ้นพลางจ้องมองหล่อนอีกครั้ง
คนอื่นยังคงสงสัยนิดหน่อย แต่เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของเซี่ยอวี่หรง จึงค่อนข้างไม่แน่ใจนัก
ฉินมู่หลานเห็นว่าสายแล้ว จึงไม่คิดจะอยู่ต่อ ยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “จะใช่หรือไม่ใช่ เดี๋ยวเราจะได้รู้กันหลังจากตรวจสอบแล้ว ถึงยังไงฉันก็บอกเรื่องนี้กับอาจารย์แล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะช่วยสอบสวนเรื่องนี้ ถ้าเจอคนกระทำผิดก็จะจับตัวมาลงโทษ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ตอนนี้หัวเราะไปให้เต็มที่เลยนังอวี่หรง เพราะเดี๋ยวบทลงโทษออกมาเธอก็จะหัวเราะไม่ออกแล้ว
ไหหม่า(海馬)