ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 387 ฉีกเป็นชิ้น ๆ(1

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 387 ฉีกเป็นชิ้น ๆ(1)

ตอนที่ 387 ฉีกเป็นชิ้น ๆ(1)

ฉินมู่หลานถูกแม่เฒ่าผางพาไปยังสวนหลังบ้าน แต่เมื่อไปถึงสวนหลังบ้านกลับได้พบว่า ชสถานที่นี้มีห้องมากมาย และเหมือนจะได้ยินว่ามีคนอยู่ข้างในด้วย

หรืออาจมีคนกลุ่มอื่นอยู่ที่นี่อีก

ขณะที่ฉินมู่หลานกำลังสงสัย ประตูห้องหนึ่งก็เปิดออก เห็นเพียงชายวัยกลางคนผมสั้นผู้หนึ่งเดินออกมา แล้วไม่นานประตูก็ปิดลงอีกครั้ง

ชช

แต่ถึงจะเป็นเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น ฉินมู่หลานก็เห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน รูม่านตาของเธอหดเล็กลง สายตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่ไม่นานเธอก็แสร้งทำเป็นตาลอยอีกครั้ง ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางมึนงง

แม่เฒ่าผางเห็นผู้ชายคนนี้จึงขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นเสียไม่ได้ “จู้จื่อ ทุกคนเพิ่งไปรวมตัวกันอยู่ตรงห้องโถงข้างหน้า แต่แกไม่ไป มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง”

หลังจากพูดจบ แววตาของนางก็ดูเชือดเฉือน

“ที่นี่มีหญิงสาวบริสุทธิ์อยู่หลายคน แกอย่าสร้างปัญหาเลย หากถึงเวลาแล้วขายได้ราคาไม่ดี ลองดูได้เลยว่าหัวหน้าจะจัดการแกยังไง”

ชายที่ชื่อว่าจู้จื่อหัวเราะขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้น “วางใจเถอะ ฉันไม่แตะต้องพวกผู้หญิงที่บริสุทธิ์พวกนั้นหรอก อย่างมากก็แค่เล่นด้วยนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่พวกผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉันเล่นแค่ไม่กี่ครั้งจะเป็นอะไรไป”

ขณะพูด สายตาของจู้จื่อก็หันไปทางฉินมู่หลาน เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของเธอชัดเจน ก็พูดขึ้นด้วยความแปลกใจ “ย

เมื่อเห็นแววตาของจู้จื่อเปล่งประกาย แม่เฒ่าผางจึงแค่นสบถแล้วพูดขึ้น “แกหุบปากไปเลย สินค้านี้สำคัญมากนะ อย่าได้ทำอะไรพลาดเชียว”

ในตอนนี้ จู้จื่อได้สังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของฉินมู่หลาน เขาจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ “พวกเธอให้ยานั่นกับหล่อนเหรอ? ยานั่นเป็นของมีค่าหายากมาก แค่ใช้เพียงนิดหน่อยก็ทำให้คนมึนงงไปประมาณสองสามชั่วโมงได้ พวกเราเหลือใช้แค่นิดเดียว ยังจะเอาใช้แบบนี้อีก แล้วนังนี่เป็นใครกัน ทำไมพวกเธอต้องลงมือใหญ่โตเพื่อจับตัวหล่อนมาที่นี่ด้วย”

“เรื่องนี้แกไม่ต้องสนใจหรอก เดี๋ยวสินค้านี่ก็จะส่งออกไปคืนนี้ ตอนส่งต้องดูให้แน่ใจอย่าให้ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ไม่อย่างนั้นพวกเราตกที่นั่งลำบากแน่”

“อะไรนะ…”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของจู้จื่อก็ดูไม่ค่อยดีนัก “ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นคนของตระกูลที่มีอำนาจ ทำไมถึงลักพาตัวคนแบบนี้มา อย่างนี้มันจะไม่สร้างปัญหาให้พวกเราหกรอกเหรอ”

“แกจะไปรู้อะไร มีคนตั้งราคาสินค้านี้เอาไว้สูงเสียดฟ้าเชียวนะ ให้พวกเราไปลักพาตัวมาโดยเฉพาะ จากนั้นก็แค่ส่งตัวต่อไปให้เขา พวกเราไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลย”

เมื่อได้ยินว่าราคาสูงเสียดฟ้า จู้จื่อจึงหยุดพูด ตระหนักได้ว่าฉินมู่หลานเป็นตัวปัญหาใหญ่ จึงรีบพูดขึ้นทันที “เย็นนี้รีบส่งนังนี่ออกไปให้เร็วที่สุดเลยนะ ไม่อย่างนั้นหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น พวกเราต้องตกที่นั่งลำบากกันหมดแน่ ก่อนหน้านี้คนของแก๊งชางไห่ก็โดนจับกุมไปหมด เพราะฉะนั้นพวกเราต้องระวังให้มาก”

แม่เฒ่าผางได้ยินแบบนี้จึงพูดขึ้นด้วยความขุ่นเคือง “เรื่องนี้แกบอกตัวเองเถอะ พวกเราทุกคนระวังตัวกันมากอยู่แล้ว ขอแค่แกใส่ใจให้มาก หยุดมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ แล้วรีบออกไปข้างหน้าก็พอ”

สีหน้าของจู้จื่อแสดงออกไม่ชัดเจนนัก เขาแอบขมุบขมิบปากล้อเลียน หญิงชาคนนี้ใช้ประโยชน์จากการที่ตัวเองมีอายุมากตำหนิติเตียนคนอื่นอยู่ตลอด แต่หัวหน้าให้ความสำคัญกับแม่เฒ่าผางมาก เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไร

“ยายผาง ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะ”

แต่ฉินมู่หลานไม่คิดมาก่อนว่าคนพวกนี้จะรู้จักแก๊งของชางไห่ ทราบว่าพวกชางไห่โดนจับกุมไปหมดแล้ว พวกเขายังกล้าทำเรื่องแบบนี้ใกล้กับฐานทัพทหารอีก สิ่งนี้เป็นเครื่องหมายยืนยันคำพูดที่ว่า สถานที่ที่อันตรายที่สุดคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด คนพวกนี้รู้จักหลบซ่อน

แม่เฒ่าผางผลักฉินมู่หลานเข้าไปในห้อง ก็ลงกลอนประตู หลังจากนั้นก็หันหลังจากไป

หลังจากคนเดินจากไปแล้ว ฉินมู่หลานก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทางที่แสนงุนงงนั้น แล้วมองสำรวบรอบห้อง ก่อนจะพบว่าแม้แต่หน้าต่างในห้องก็ยังถูกปิดสนิท

“เหอะ…ทำได้เคร่งครัดมากเลยนะ”

ฉินมู่หลานนั่งลงก็ดึงใบมีดออกมาจากพื้นรองเท้า นี่คือสิ่งที่โหยวหย่งมอบให้เธอเมื่อตอนออกเดินทาง บอกได้ว่าคมมาก ดังนั้นหลังจากเธอดึงใบมีดออกมาแล้ว ก็ทำการตัดขอบไม้ที่เชื่อมปิดสนิทตรงบริเวณหน้าต่าง เมื่อทำเสร็จ เธอก็ปีนออกไปข้างนอกหน้าต่างอย่างระมัดระวัง

ฉินมู่หลานไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะได้เข้ามาอยู่ในรังของพวกค้ามนุษย์อีกครั้ง

สิ่งที่เธอคิดในตอนแรก คือเติ้งซูหลานอาจจ้างวานให้ใครมาฆ่าตน ไม่คิดว่าจะได้มาเจอพวกค้ามนุษย์อีก คิดจะขายตัวเธอไปอย่างนั้นใช่ไหม ช่างร้ายกาจเหลือเกิน แต่หล่อนไม่กลัวว่าเธอจะหนีได้หรอกเหรอ หรือว่าเติ้งซูหลานอาจเตรียมการมาอย่างรอบคอบ ทำให้ตัวเธอเองต่อให้คิดหนีก็ไม่สามารถทำได้?

ฉินมู่หลานคิดเรื่องนี้สักพักก่อนจะไม่คิดอีก ตอนนี้เธอกำลังสำรวจบริเวณโดยรอบ

หลังจากออกจากห้องแล้ว ฉินมู่หลานก็ตรงไปยังห้องที่จู้จื่อเพิ่งออกมาเมื่อสักครู่ แต่เธอไม่อยากเดินผ่านให้คนเห็น เมื่อมาถึงบริเวณหน้าต่างห้องแล้ว เธอจึงเจาะตรงขอบหน้าต่างอย่างระมัดระวัง แล้วมองเข้าไปข้างใน เมื่อนับดูแล้ว มีผู้หญิงประมาณเก้าคนอยู่ในนั้น ท่ามกลางคนพวกนั้นมีสามคนที่ยังเป็นวัยรุ่นอายุประมาณสิบเก้าปี อีกสองคนอายุมากกว่านิดหน่อย ประมาณสามสิบต้น ๆ ผู้หญิงสองคนนี้สภาพเลวร้ายสุด ๆ เสื้อผ้าสวมใส่ไม่เรียบร้อย ใบหน้าซีดเซียว แววตาดูเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

เมื่อเห็นแบบนี้ ใบหน้าของฉินมู่หลานจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชาลง พวกค้ามนุษย์นี้สมควรตายไปให้หมด

เมื่อสงบสติอารมณ์ลง ฉินมู่หลานก็เดินไปยังห้องถัดไปอีกครั้ง ข้างในห้องมีทั้งเด็กและผู้หญิง ผู้หญิงห้าคนและเด็กห้าคน

ขณะที่ฉินมู่หลานจะเดินไปสำรวจที่อื่นต่อ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้า เธอจึงรีบวิ่งกลับไปยังห้องที่ตัวเองโดนขังก่อนที่คนพวกนั้นจะมาถึง จากนั้นก็ปีนเข้าไปทางหน้าต่างที่อยู่ข้างหลัง

หลังจากเข้าไป ฉินมู่หลานก็นั่งจมอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า

คนที่มาคือแม่เฒ่าผางและคนที่เป็นหัวหน้าที่เคยเจอมาแล้วก่อนหน้านี้

หลังจากแม่เฒ่าผางเปิดประตูก็หันไปมองชายร่างผอมแล้วพูดขึ้น “เถี่ยจื่อ เดี๋ยวอีกไม่นานนังนี่ก็จะได้สติแล้ว พวกเราอาศัยจังหวะตอนที่หล่อนยังไม่ได้สติให้ยาเพิ่มอีกสักหน่อยไหม”

ผู้ชายคนที่ชื่อเถี่ยจื่อนี้เป็นหัวหน้าแก๊งลวี่เถี่ย เขาคือพี่ชายคนโตของลวี่ต้านี ทั้งสองพี่น้องไม่ใช่คนดีอะไร เป็นคนคดโกงมาตั้งแต่แรก ปัจจุบันแก๊งนี้ค่อนข้างใหญ่โต ทำเรื่องชั่วช้าเอาไว้มากมายเกินบรรยาย

ลวี่เถี่ยมองฉินมู่หลาน แล้วพูดขึ้น “ไม่จำเป็น เดี๋ยวคืนนี้ก็ส่งตัวออกไปก็เป็นอันจบ แต่ว่าตอนพวกเธออยู่บนรถไฟ ไม่เห็นคนอื่นเลยเหรอ?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้แม่เฒ่าผางก็ส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ไม่มี มีแค่สาวน้อยนี่คนเดียว ก่อนหน้านี้บอกว่าหล่อนมาคนเดียวไม่ใช่เหรอ ทำไมแกถามแบบนั้นล่ะ?”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

มู่หลานมีชะตาอะไรเกี่ยวพันกับแก๊งค้ามนุษย์หนอ โดนจับมาอีกรอบแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท