ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – บทที่ 346 สอนเจ้าหญิงหิมะปรุงยา

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บท​ที่​ 346 สอน​เจ้าหญิง​หิมะ​ปรุงยา​

“รุกล้ำ​เขา​โรคา​รึ​”

หลิว​ฉิงหยุ​น​ที่​บาดเจ็บ​หนัก​ก็​นิ่งอึ้ง​ไป​เมื่อ​ได้ยิน​คำ​นี้​ก็​นิ่งอึ้ง​ไป​ก่อนที่จะ​กระอัก​เลือด​ออกมา​อีก​คำ​หนึ่ง​

“รุกล้ำ​เขา​โรคา​ หลานชาย​ของ​ข้า​เนี่ย​นะ​ไป​รุกล้ำ​เขา​โรคา​”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…..”

หากว่า​ผู้นำ​มหา​ราชา​เมื่อ​ครู่​ไม่อธิบาย​ออกมา​นั้น​ หลิว​ฉิงหยุ​น​ยัง​จะรู้สึก​ดีกว่า​เมื่อ​ได้ยิน​คำอธิบาย​นี้​มาก​นัก​ และ​นี่​ทำให้​เขา​โกรธ​จน​ต้อง​กระอัก​เลือด​ออกมา​อีก​คำ​

ผอ.​ฉีที่​คอย​พยุง​หลิว​ฉิงหยุ​นอ​ยู่​เอง​ก็​ทำได้​เพียง​ถอดถอน​ลมหายใจ​และ​ส่ายหน้า​ไปมา​

“นี่​หรือ​คือ​ผู้คุม​กฎ​ของ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​พวกเรา​นับหน้าถือตา​”

“พวก​นั้น​ไม่มีสมอง​เลย​รึ​ไง”

“พวก​นั้น​ไม่เห็น​รึ​ไงว่า​หลิว​ฉางเชิงนั้น​เป็น​เพียง​นายพล​ขั้นต้น​”

“นี่​พวกเขา​ไม่เห็น​รึ​ไงว่า​เขา​นั้น​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​โง่งมขนาด​ไหน​”

“ต่อให้​หลิว​ฉางเชิงนั้น​จะรุกล้ำ​เข้าไป​ใน​เขต​ห่วง​ห้าม​จริง​ แต่​คน​เช่น​เขา​จะสามารถ​เดินทาง​นับ​พัน​กิโล​ใน​วัน​เดียว​ได้​ยังไง​”

ถึงแม้ทั้งสอง​คน​จะยังคง​ไม่เข้าใจ​ แต่​คำพูด​ของ​ผู้นำ​กลุ่ม​มหา​ราชา​เมื่อ​ครู่​ก็​เพียง​พอที่จะ​ได้ยิน​ทั่ว​ทั้ง​เขา​เทียมฟ้า​

เป็น​ตอนนี้​ที่​ผู้อาวุโส​ลำดับ​สอง​ หลัว​เฟิง ได้​เดิน​เข้า​มาหา​ทั้งสอง​คน​อย่าง​ช้าๆ “ผอ.​ ผู้อาวุโส​ลำดับ​ที่หนึ่ง​ ข้า​คิด​ว่า​ผู้คุม​กฎ​ของ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​ไม่ได้​ศักดิ์​แต่​พูด​ออกมา​เพียง​เท่านั้น​”

“หาก​คิดดู​แล้ว​ เพียงแค่​ระดับ​นายพล​ผู้​หนึ่ง​คง​ไม่ต้อง​ถึงกับ​ให้​มหา​ราชา​ทั้ง​สิบ​ต้อง​ถ่อ​มาถึงนี่​เพื่อ​ออกมา​ลง​มือสังหาร​ด้วยตัวเอง​เช่นนี้​หรอก​”

“เจ้าหมายความว่า​ยังไง​”

หลิว​ฉิงหยุ​น​ที่​ได้ยิน​ก็​เลือดขึ้นหน้า​อีก​ครั้งก่อน​จะพูด​ออกมา​ “ผู้อาวุโส​สอง​ ข้า​รู้​ว่า​เจ้านั้น​ไม่ได้​ชอบ​ฉางเชิงของ​ข้า​ แต่​เจ้าก็​ไม่ควร​ปล่อย​ให้​เขา​ถูก​ทำ​ประ​ดุจดั่ง​กวาง​ดั่ง​ม้าเช่นนี้​ นี่​เจ้าคิด​จริงๆ​รึ​ว่า​หลาน​ข้า​จะมีปัญญา​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​”

ผู้อาวุโส​สอง​ยก​มือขึ้น​ห้ามปราม​อย่าง​ไม่ร้อนรน​ “ผู้อาวุโส​สูงสุด​ ท่าน​เข้าใจ​ข้า​ผิด​แล้ว​ ที่​ข้า​กำลังจะ​สื่อ​ก็​คือ​ไอ้​ท่าทาง​ที่​มั่นอกมั่นใจ​ของ​ผู้คุม​กฎ​ของ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​นั่น​ต่างหาก​ แถมยัง​ชี้เป้า​เจาะจงหลิว​ฉางเชิงได้​นั่น​อีก​”

“ท่าน​ไม่คิด​ว่า​มัน​แปลก​บ้าง​รึ​ไง”

“ไม่อย่างนั้น​แล้ว​ทำไม​คนใน​ระดับ​ผู้คุม​กฎ​ถึงได้​รู้จัก​คน​อย่าง​หลาน​ของ​ท่าน​กัน​”

ผอ.​ฉีที่​ได้ยิน​ก็​พอ​จะเริ่ม​เข้าใจ​ใน​สิ่งที่​หลัว​เฟิงต้องการ​จะสื่อ​ และ​นี่​ทำให้​เขา​ต้อง​เอ่ย​ถามออกมา​ “ผู้อาวุโส​สอง​….เจ้าจะบอ​กว่า​มีคน​วางแผนการ​ไว้​รึ​”

“ถูกต้อง​” หลัว​เฟิงพยักหน้า​รับ​แล้ว​พูด​ต่อ​ “หาก​ข้า​เข้าใจ​ไม่ผิด​ เหล่า​ผู้คุม​กฎ​ของ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​ที่​ต้อง​ดั้นด้น​มาถึงที่นี่​เป็น​เพราะ​ไอ้​คน​ที่​รุกล้ำ​ไป​ยัง​เขตหวงห้าม​อย่าง​เขา​โรคา​นั่น​ย่อม​มีรูปลักษณ์​เหมือนกัน​กับ​ฉางเชิง และ​ต้อง​เผย​ตัว​ว่า​มาจาก​สำนัก​เต๋า​ใต้​บาดาล​ของ​เรา​”

“ด้วย​ทักษะ​ที่​หลอกลวง​ผู้คุม​กฎ​ได้​นี้​ ผอ.​ฉี ผู้อาวุโส​สูงสุด​ ท่าน​พอ​จะนึกออก​รึเปล่า​ว่า​จะเป็น​ใคร​ไป​ได้​”

หลังจาก​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ ผอ.​ฉีและ​ผู้อาวุโส​สูงสุด​แทบจะ​ลั่นปาก​ออกมา​พร้อมกัน​ “สำนัก​เต๋า​ดาวตก​”

“ต้อง​เป็น​พวก​มัน​แน่ๆ​”

หลิว​ฉิงหยุ​น​กัดฟัน​แน่น​ในทันที​ก่อน​จะคำราม​ลั่น​ “ไอ้​เจิ้งฮูเชิง ยาม​ที่​คน​ของ​มัน​สู้กับ​พวกเรา​มัน​ฝาก​ความหวัง​ได้​เพียง​คนใน​แผนก​หุ่นเชิด​โลหิต​เพียง​เท่านั้น​”

“ต้อง​เป็น​เพราะ​จิตใจ​ที่​ต่ำทราม​ของ​มัน​จึงได้​ทำ​เรื่อง​เลวทราม​เช่นนี้​ เรื่อง​ใน​ครั้งนี้​จะไม่เพียง​ทำให้​สำนัก​ของ​เรา​ต้อง​มีชื่อเสียง​ที่​ตกต่ำ​ลง​ แถมยัง​ต้อง​เสียหาย​อย่าง​เหลือคณา​นัก​”

“ผอ.​ฉี ท่าน​ต้อง​สะสางเรื่อง​นี้​ให้​ข้า​”

ผอ.​ฉีเอง​แม้จะคิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ก็​มีความเป็นไปได้​สูง แต่​ด้วย​ตำแหน่ง​ของ​เขา​แล้ว​ เขา​ต้องการ​หลักฐาน​มายืนยัน​นอกจาก​คำพูด​ลอยๆ​แบบนี้​

“คำพูด​ของ​ผู้อาวุโส​สอง​นั้น​แม้จะมีความเป็นไปได้​อย่าง​มาก​ แต่ว่า​นี่​ก็​เป็น​เพียง​การคาดการณ์​เพียง​อย่าง​เดียว​เพียง​เท่านั้น​”

“กับ​เรื่อง​นี้​เรา​ต้อง​มีหลักฐาน​หรือ​พยาน​มายืนยัน​ก่อนที่จะ​ไป​ปรามาส​กับ​ไอ้​พวก​นั้น​ได้​”

“และ​ก่อนหน้า​นั้น​ นอกจาก​เรา​จะทำ​การสืบสวน​ใน​เรื่อง​นี้​ เรา​ยัง​ต้อง​ฝึกฝน​ลูกศิษย์​ของ​พวกเรา​ให้​หนัก​ยิ่งขึ้น​อีก​”

“ผู้อาวุโส​สูงสุด​ อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เจ้านั้น​ไม่เบา​เลย​นา​ เจ้าเอง​ไม่ไป​พัก​ซะก่อน​ล่ะ​”

ถึงแม้หลิว​ฉิงหยุ​น​นั้น​จะมีทั้ง​ความคิด​ที่​ดื้อดึง​และ​คิด​จะไป​ล้างแค้น​เอา​ความ​กับ​สำนัก​เต๋า​ดาวตก​อย่าง​ที่สุด​ แต่​ด้วย​การ​ที่​เขา​ใน​ตอนนี้​ไม่มีกำลัง​พอ​ เขา​จึงทำได้​เพียง​ต้อง​อดทน​เพียง​เท่านั้น​ และ​นี่​ทำให้​มีศิษย์​ใน​ของ​สำนัก​มาช่วย​ประคอง​เขา​สอง​คน​ก่อนที่จะ​จากไป​

หลังจาก​ส่งผู้อาวุโส​สูงสุด​ไป​พัก​แล้ว​ ผอ.​ฉีก็ได้​มอง​ไป​รอบ​ๆแล้ว​พูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​อัน​ดังก้อง​ “ศิษย์​ภายใน​ประจำตำแหน่ง​และ​ทำ​การบ่ม​เพาะ​ต่อไป​ พวกเรา​ต้อง​สร้าง​ผลงาน​ดี​ๆใน​การ​ประ​ลองใน​อีก​ครึ่ง​ปี​ให้ได้​”

หลังจาก​ได้ยิน​แบบนี้​ ศิษย์​ภายใน​ทั้งหมด​ก็​แยกย้าย​กัน​ไป​อย่าง​ช้าๆ

แต่​การ​มาเยือน​ของ​ผู้คุม​กฎ​แห่ง​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​ครั้งนี้​นั้น​ได้​สร้าง​ความรู้สึก​ถึงฝังลึก​ใน​จิตใจ​ของ​ศิษย์​ใน​สำนัก​อย่าง​มาก​

แม้แต่​ศิษย์​ภายใน​ก็​ไม่เว้น​ใน​เรื่อง​นี้​

ศิษย์​ภายนอก​เกือบ​ทุกคน​นั้น​ นอกจาก​หลิว​ฉางเชิงและ​หลิว​เซียง​แล้ว​ ทุกคน​ล้วนแล้ว​อยู่​ใน​ระดับ​นักรบ​ บางคน​ก็​ยัง​ไม่ได้​ก้าว​เข้าสู่​เส้นทาง​การบ่ม​เพาะ​เลย​ด้วยซ้ำ​

แต่​พวกเขา​กลับ​ต้อง​มาเห็น​ความ​ทรงพลัง​ของ​ผู้​บ่ม​เพาะ​ระดับสูง​ต่อหน้าต่อตา​เหนือ​ฟากฟ้า​สำนัก​ของ​ตน​

เพียงแค่​หนึ่ง​ฝ่ามือ​ก็​ทำให้​ตึก​ๆหนึ่ง​ราบเป็นหน้ากลอง​

และ​เมื่อ​ได้​เห็น​ความ​ทรงพลัง​เช่นนี้​ เหล่า​คนหนุ่มสาว​ต่าง​ก็​ต้องการ​ก้าวเดิน​ใน​เส้นทาง​การบ่ม​เพาะ​แทบจะ​ทุกคน​

ด้วย​ความรู้สึก​นี้​ ต่อให้​หลิว​ฉางเชิงตก​ตาย​ไป​ต่อหน้า​ พวกเขา​ก็​หา​ได้​แยแส​ไม่

ความจริง​แล้ว​แต่เดิม​ด้วย​นิสัย​ของ​หลิว​ฉางเชิงนั้น​สถุล​รุน​ชาติ​อย่าง​ที่สุด​ จน​ได้รับ​ฉายา​ที่​ไม่มีใคร​คิด​จะเอ่ยถึง​

สำหรับ​ศิษย์​นอกนั้น​ การ​ลงมือ​ของ​ผู้คุม​กฎ​แห่ง​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​นี้​ใน​ตอนที่​ลงมือ​ก็​แทบจะ​เฮลั่น​ออกมา​เสีย​ด้วยซ้ำ​

และ​นี่​จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​ทำไม​ไม่เพียง​ศิษย์​นอก​ของ​สำนัก​ใต้​บาดาล​จะเป็น​เดือด​เป็น​แค้น​แทน​หลิว​ฉิงหยุ​น​ ทุกคน​ต่าง​รู้สึก​ยอมรับ​นับถือ​ใน​ตัว​ผู้คุม​กฎ​แห่ง​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​กัน​ทั่ว​ทุก​ตัว​คน​

“ช่างทรงพลัง​ยิ่งนัก​ ข้า​ไม่เคย​คิด​เลย​จริงๆ​ว่า​ผู้คุม​กฎ​แห่ง​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​จะมีอำนาจ​ขนาด​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​สวรรค์​และ​ปฐพี​ขนาด​นี้​”

“หาก​ข้า​ได้​เข้า​ร่วมกับ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ล่ะ​ก็​ ข้า​เอง​ก็​คงจะ​ทรงพลัง​ได้​เฉกเช่น​ท่าน​เหล่านั้น​”

“อย่าง​เจ้าอ่ะ​นะ​จะเข้า​ร่วมกับ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ ยิ่งกว่า​ฝันกลางวัน​เสีย​อีก​ หาก​ไม่ใช่อัจฉริยะ​เหนือ​ผู้คน​หรือ​ผู้​ที่อยู่​ใน​ระดับ​ราชา​ขั้นสูง​ช่วง​ปลาย​ล่ะ​ก็​ เจ้าก็​ทำได้​เพียง​ฝันเฟื่อง​ล่ะ​ว้า​”

“ฝัน​แล้ว​ยังไง​ เพียงแค่​ฝัน​ก็​กระชุ่มกระชวย​แล้ว​เฟ้ย​ แค่​ได้​ดู​ข้า​ก็​ยิ่ง​อยาก​จะพัฒนา​ตัวเอง​ให้​เข้า​ร่วมกับ​วิหาร​ศักดิ์​ให้ได้​สักวันหนึ่ง​”

การ​มาเยือน​ของ​เหล่า​มหา​ราชา​แห่ง​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​ครั้งนี้​ได้​สร้าง​แรงบันดาลใจ​ให้​กับ​เหล่า​ศิษย์​ภายนอก​ของ​สำนัก​เต๋า​ใต้​บาดาล​ได้​กว่า​ที่​เคย​ๆผ่านๆ​มาอย่าง​เหนือ​คณา​นัก​

แน่นอน​ว่า​ห​ยาน​เสวี่ย​และ​เฉิน​เฉียง​ไม่ได้​แยแส​แต่อย่างใด​

หาก​พูด​กัน​ตรงๆ​แล้ว​ ต่อให้​พวกเขา​ไม่ระวังตัว​ให้​ดี​และ​ถูก​จับได้​ล่ะ​ก็​ หาก​เฉิน​เฉียง​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​หนัก​ เพียงแค่​ผู้​ที่อยู่​ใน​ระดับ​เทียบเท่า​ราชา​จอมพล​ขั้นต้น​ทั้ง​สิบ​คน​นี้​ก็​ไม่แม้แต่​คณา​มือ​ของ​เขา​ เขา​มั่นใจ​ว่า​จะสามารถ​มีชัย​เหนือ​ทั้ง​สิบ​คน​นี้​ได้​

สำหรับ​ห​ยาน​เสวี่ย​นั้น​แม้เธอ​จะไม่ได้​อ่อนด้อย​ แต่​เมื่อ​ต้อง​พบ​เจอ​พร้อมกัน​สิบ​คน​แบบนี้​คง​ยาก​ที่จะ​ชนะ​ไป​หน่อย​

อย่า​ว่าแต่​ผู้คุม​กฎ​ของ​วิหาร​ศักดิ์สิทธิ์​ทั้ง​สิบ​คน​นี้​เป็น​เพียง​ผู้​บ่ม​เพาะ​ธรรมดา​เลย​ ต่อให้​ต้อง​เจอ​ผู้​ที่อยู่​ใน​ระดับ​ราชา​หุ่นเชิด​ เขา​ก็​ยัง​มั่นใจ​ว่า​ชนะ​ได้​ เพียงแต่​ห​ยาน​เสวี่ย​อาจจะ​ตก​ตาย​ไป​

เพราะ​ไม่ว่า​ยังไง​ก็ตาม​หาก​มีผู้​บ่ม​เพาะ​ที่​ขึ้น​ใน​ระดับ​มหา​ราชา​ได้​จริง​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​คน​ผู้​นั้น​ย่อม​ไม่แตกต่าง​จาก​ราชา​จอมพล​ แถมคน​คน​นั้น​ยังมี​ผู้​ที่​ถูก​สวม​คราบ​ร่าง​คอย​ช่วยเหลือ​เสีย​อีก​ นั่น​ย่อม​ทำให้​ยาก​ที่จะ​รับมือ​โดย​ไม่บาดเจ็บ​

นี่​จึงเป็น​เหตุผล​ที่​เฉิน​เฉียง​ให้​ห​ยาน​เสวี่ย​อดทน​ใน​เรื่อง​นี้​เอาไว้​

อย่าง​น้อย​ๆหาก​จะต้อง​มีเรื่อง​กัน​ก็​ควร​ให้​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เขา​หาย​ดี​ซะก่อน​

ด้วย​การ​ที่​เขา​ได้​บาดเจ็บ​อย่าง​หนัก​ ห​ยาน​เสวี่ย​เอง​ก็​ไม่มีกะ​จิต​กะ​ใจใน​การบ่ม​เพาะ​ และ​เอาแต่​ยืน​เฝ้าเฉิน​เฉียง​ไว้​อย่าง​ไม่ให้​ห่าง​กาย​มาก​นัก​

เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ เฉิน​เฉียง​ก็ได้​ฝืนยิ้ม​และ​พูด​ออกมา​ “ห​ยาน​เสวี่ย​ นี่​ข้า​บอก​เจ้าตั้ง​กี่​ครั้ง​แล้ว​เนี่ย​ว่า​หาก​เจ้ามาคอย​ยืน​เฝ้าหน้า​ประตู​ห้อง​ข้า​แบบนี้​จะยิ่ง​ทำให้​คนอื่น​สงสัย​น่ะ​”

“ข้า​ไม่สน​ จนกว่า​เจ้าจะหาย​ ข้า​ก็​จะยืน​อยู่​หน้า​ห้อง​ของ​เจ้าแบบ​นี้แหละ​”

เมื่อ​เห็น​ความ​ดื้อรั้น​ของ​ห​ยาน​เสวี่ย​ เฉิน​เฉียง​เอง​ก็​ทำได้​เพียง​คิด​หา​วิธี​แก้ไข​

“เอา​อย่างนี้​ ห​ยาน​เสวี่ย​ เจ้าไป​ซื้อ​สมุนไพร​บาง​ตัว​ให้​ข้า​ แล้ว​ข้า​จะสอน​เจ้าปรุงยา​ นี่​น่าจะ​ช่วย​ให้​ข้า​ฟื้น​คืน​อาการ​บาดเจ็บ​ได้​เร็ว​ขึ้น​”

“เยี่ยม​ บอก​ข้า​มา เจ้าต้องการ​ซื้อ​อะไร​บ้าง​”

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท