ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – บทที่ 348 ความคิดในใจ

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บท​ที่​ 348 ความ​คิดในใจ​

“ศิษย์​พี่​หลิว​ ท่าน​มาที่นี่​ทำไม​ครับ​”

เมื่อ​เห็น​หลิว​เซียง​เดิน​เข้ามา​ ท่าทาง​ของ​เสี่ยว​หลู่​ไจ๋ก็​เปลี่ยนไป​

หลิว​เซียง​ไม่ได้​สนใจ​เสี่ยว​หลูไจ๋​และ​เดิน​ตรง​ไปหา​ห​ยาน​เสวี่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ก่อน​จะพูด​ออกมา​อย่าง​สนิทสนม​ “ศิษย์​น้อง​ห​ยาน​เสวี่ย​ ข้า​ไม่คิด​ว่า​เจ้าที่​หายหน้า​หาย​ตา​ไป​เกือบ​สิบ​วัน​จะมาที่นี่​เพื่อ​หา​วัตถุดิบ​ไป​ฝึก​ปรุงยา​เลย​นะเนี่ย​”

“แต่​เส้นทาง​แห่ง​การ​ปรุงยา​นั้น​จะดีกว่า​หาก​ลงมือทำ​เอง​จริงๆ​นั่นแหละ​”

“ตอนที่​ทดสอบ​เข้า​สำนัก​ก่อนหน้านี้​ ข้า​เอง​ก็​เห็น​ว่า​เจ้านั้น​มีพลังจิต​ที่สูง​ล้ำ​ แต่​เจ้านั้น​ขาด​ความรู้​ด้าน​นี้​เพียง​เท่านั้น​”

“ตาม​ความเห็น​ของ​ข้า​ เป็นการ​ดี​ที่​เจ้านั้น​จะทำ​ความคุ้นเคย​กับ​ตัว​ยา​ก่อน​เป็น​อย่าง​แรก​”

ห​ยาน​เสวี่ย​ก้มหัว​ให้​เล็กน้อย​ก่อน​จะพูด​ออกมา​อย่าง​สงบ​ “ขอบคุณ​ท่าน​ผู้คุม​สอบ​หลิว​ที่​แนะนำ​ ข้า​จะจำไว้​ใส่ใจ”

หลิว​เซียง​พยักหน้า​รับ​อย่าง​พึงพอใจ​ก่อน​จะพูด​ต่อ​ “เอา​อย่างนี้​แล้วกัน​ น้อง​ห​ยาน​เสวี่ย​ วันนี้​ข้า​เอง​ก็​ยัง​ไม่ได้​วางแผน​จะทำ​อะไร​ ทำไม​เจ้าไม่ไป​ห้อง​ของ​ข้า​ล่ะ​ ข้า​จะได้​สอน​วิธีการ​ต่างๆ​รวมถึง​บอก​สรรพคุณ​ตัว​ยา​ด้วย​”

ด้วย​การ​ที่​ห​ยาน​เสวี่ย​นั้น​มีเฉิน​เฉียง​อยู่​ เป็นธรรมดา​ที่​เธอ​ไม่ต้อง​ขอให้​ใคร​มาสอน​เธอ​ใน​เรื่อง​นี้​

อีก​อย่าง​คือ​เธอ​มาที่นี่​เพื่อ​หา​สมุนไพร​ไป​ฟื้นฟู​ร่างกาย​ให้​เฉิน​เฉียง​โดยเร็ว​เพียง​เท่านั้น​

เส้นทาง​แห่ง​ยา​นั้น​เธอ​หา​ได้​สนใจ​ไม่

นี่​จึงเป็นธรรมดา​ที่​เธอ​จะปฏิเสธ​ และ​ตอบ​ปฏิเสธ​ออก​ไป​อย่าง​มีมารยาท​ “ขอบคุณ​ผู้คุม​สอบ​หลิว​ แต่​ข้า​นั้น​ต้องการ​จะศึกษา​เรื่อง​นี้​ด้วยตัวเอง​ และ​ใน​วันนี้​ ที่​ข้า​มาที่นี่​ก็​เพียง​เพราะ​ต้องการ​ซื้อ​สมุนไพร​เพียง​เท่านั้น​”

หลังจาก​โดน​ปฏิเสธ​ทั้งสอง​ทาง​(ทั้ง​ความรู้​ใน​การปรุง​และ​สรรพคุณ​ตัว​ยา​) หลิว​เซียง​ก็​รู้สึก​อับอาย​ขึ้น​มาใน​ทันใด​

ส่วน​เสี่ยว​หลูไจ๋​ที่​เห็น​ฉาก​นี้​อยู่​หลัง​เคาน์เตอร์​ขายของ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โวยวาย​ออก​ “น้อง​ห​ยาน​ นี่​มัน​เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​เลย​นะ​ที่​พี่​หลิว​จะทำ​อะไร​แบบนี้​ การ​ที่​ท่าน​พี่​หลิว​เสนอตัว​เสีย​ขนาด​นี้​ เจ้าควรจะ​สำนึก​บุญคุณ​ตอบรับ​ไว้​นะ​ แล้ว​ทำไม​ถึงได้​ตอบ​ปฏิเสธ​เยี่ยง​นี้​”

“เจ้าเอง​ก็​เป็น​เพียง​ศิษย์​ภายนอก​ ความเป็นอยู่​ทั้งหมด​ของ​ศิษย์​ภายนอก​ล้วนแล้ว​มีศิษย์​พี่​หลิว​เป็น​ผู้​จัดสรร​”

“หาก​เจ้าไม่คิด​ไว้​ไมตรี​กับ​พี่​หลิว​แบบนี้​ เจ้าจะต้อง​เจอ​ปัญหา​ใน​ภายภาคหน้า​เป็นแน่​”

ห​ยาน​เสวี่ย​นั้น​ไม่ชอบ​คน​ที่​ใช้อำนาจ​ใน​การ​บังคับ​ขู่เข็ญ​มาพูดคุย​เรื่อง​นี้​กับ​เธอ​อยู่​ก่อน​แล้ว​ และ​เมื่อ​เห็น​สอง​คน​ตรง​หน้าที่​คิด​ใช้อำนาจ​ใน​มือ​มากดขี่​ มีหรือ​ที่​เธอ​จะแยแส​ใน​เรื่อง​นี้​

เพียงแต่​นี่​ทำให้​ท่าทาง​ของ​เธอ​เปลี่ยนเป็น​เย็นชา​ ก่อนที่​เธอ​จะพูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​ที่​นิ่ง​ลึก​ “ข้า​มาที่นี่​เพียง​เพื่อ​ซื้อ​ยา​ เจ้าจะขาย​หรือไม่​”

“โฮ่ ยัย​ตัว​ตำ​บอน​ ยัง​มีหน้า​มาถามอีก​รึ​”

เสี่ยว​หลูไจ๋​สบถ​ออกมา​ ก่อนที่จะ​เดิน​ออกมา​จากเคาน์เตอร์​ขายของ​แล้ว​ยื่น​นิ้วชี้​ของ​ตน​ออกมา​หมาย​จะเชิด​คาง​ห​ยาน​เสวี่ย​ขึ้น​

หลิว​เซียง​ที่อยู่​ข้างๆ​ไม่ได้​มีท่าทาง​ตอบสนอง​แต่อย่างใด​

เพราะ​เขา​ถือว่า​สิ่งที่​เสี่ยว​หลูไจ๋​พูด​นั้น​ถูกต้อง​แล้ว​

ที่​ฝั่งศิษย์​ภายนอก​นี้​เขา​คือ​นายใหญ่​

ตราบใดที่​เขา​ต้องการ​สิ่งใด​ก็​ไม่มีใคร​หยุด​เขา​ได้​

และ​ท่าทาง​ของ​เสี่ยว​หลูไจ๋​นี้​เป็น​สิ่งที่​เขา​ต้องการ​ให้​เกิดขึ้น​

และ​เขา​ก็​กำลัง​รอ​ให้​ห​ยาน​เสวี่ย​ขอความช่วยเหลือ​จาก​เขา​

อย่างไรก็ตาม​ หลิว​เซียง​ไม่คิด​ว่า​ใน​ทันทีที่​เสี่ยว​หลูไจ๋​ได้​ยื่นมือ​ออกมา​นั้น​ ห​ยาน​เสวี่ย​ได้​ส่งสายตา​ที่​เย็นยะเยือก​ออกมา​ก่อนที่จะ​ปรากฏ​กระบี่​ยาว​ใน​มือ​ตวัด​ไป​ทาง​นิ้วชี้​ของ​เสี่ยว​หลูไจ๋​ที่​ยื่น​ออกมา​

ด้วย​ความเร็ว​ของ​ห​ยาน​เสวี่ย​ที่​รวดเร็ว​นี้​ แม้แต่​เสี่ยว​หลูไจ๋​ที่​มีระดับ​การบ่ม​เพาะ​อยู่​ใน​ระดับ​นักรบ​ขึ้น​สูงยัง​ไม่รู้ตัว​ด้วยซ้ำ​ว่า​นิ้ว​โดน​ตัดขาด​ไป​แล้ว​

“อ้ะ​ นิ้ว​ของ​ข้า​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​นิ้ว​ของ​ตน​บังเกิด​ความเจ็บปวด​ เสี่ยว​หลูไจ๋​ได้​มอง​ไป​ที่​นิ้ว​ของ​ตน​ไป​อย่าง​ไม่อาจ​ละสายตา​พลาง​มองดู​เลือด​ที่​พวยพุ่ง​

หาก​ไม่ใช่ว่า​ห​ยาน​เสวี่ย​นั้น​ไม่อยาก​ให้​ร่างกาย​ต้อง​แปดเปื้อน​ด้วย​เลือด​ของ​คน​เช่นนี้​ ปานนี้​ไม่ใช่แค่​นิ้ว​ของ​เสี่ยว​หลูไจ๋​ที่จะ​ขาด​

หลิว​เฉียง​เอง​ที่​เห็น​ก็​รีบ​เข้า​ไปหา​เสี่ยว​หลูไจ๋​เพื่อ​ดู​อาการ​อย่าง​ตื่นตระหนก​

หลังจากที่​หัวใจ​สั่นสะท้าน​ เขา​ได้​เงยหน้า​ขึ้น​มาแล้ว​ยิ้มแห้ง​ๆในทันที​

“น้อง​ห​ยาน​เสวี่ย​ เสี่ยว​หลูไจ๋​นั้น​พูด​ไม่คิด​ อย่า​ได้​ถือสา​เขา​เลย​นะ​”

“หากว่า​เจ้าต้องการ​สิ่งใด​ เดี๋ยว​ข้า​จะเป็น​คน​สั่งให้​เสี่ยว​หลูไจ๋​มอบ​มัน​ให้​เจ้าเอง​”

เมื่อ​พูด​จบ​ หลิว​เสียง​ขยิบตา​ให้​เสี่ยว​หลูไจ๋​อย่าง​รวดเร็ว​

เสี่ยว​หลูไจ๋​เอง​เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​นี้​ก็ได้​ฝืน​ความเจ็บปวด​เงยหน้า​มอง​ห​ยาน​เสวี่ย​อย่าง​หวาดกลัว​ ก่อน​จะไป​หยิบ​ตัว​ยามา​สิบ​กว่า​ชนิด​ตามที่​ห​ยาน​เสวี่ย​ต้องการ​

“ศิษย์​น้อง​ห​ยาน​เสวี่ย​ นำ​สมุนไพร​เหล่านี้​ไป​ได้​เลย​ ถือ​เสีย​ว่า​เป็น​ค่าทำขวัญ​ที่​เสี่ยว​หลูไจ๋​เสียมารยาท​กับ​เจ้า”

ห​ยาน​เสวี่ย​สบถ​ออกมา​ที​หนึ่ง​เมื่อ​ได้ยิน​ ก่อนที่จะ​ไม่แยแส​ท่าทาง​ของ​สอง​คนใน​สหกรณ์​แห่ง​นี้​หยิบ​สมุนไพร​ที่​เธอ​ต้อง​การออกไป​

“ศิษย์​พี่​หลิว​ นัง​นี่​ช่างร้าย​นัก​” เมื่อ​เห็น​ห​ยาน​เสวี่ย​เดิน​ไป​ได้​ไกล​พอดู​ เสี่ยว​หลูไจ๋​ได้​พูด​ออกมา​อย่าง​หวาดๆ​

“ฮึ ผู้หญิง​แบบนี้​สิน่า​ครอบครอง​ยิ่ง​” หลิว​เซียง​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​เจ้าเล่ห์​แทน​ความในใจ​ของ​ตน​

“ศิษย์​พี่​หลิว​ ท่าน​คง​ไม่ได้คิด​จะครอบครอง​นาง​เป็น​จริงจัง​หรอก​นะ​ นี่​มัน​วิ่ง​เข้า​ไปหา​เสี้ยนหนาม​ชัด​ๆ”

“หึหึ​ ข้า​ไม่สนใจ​สิ่งใด​ที่​ไม่มีขวากหนาม​ขวางกั้น​หรอก​นะ​” เมื่อ​พูด​จบ​ หลิว​เซียง​ได้​ยก​มือขึ้น​มา “ไม่ต้อง​กังวล​ไป​หรอก​ ตราบใดที่​นาง​ต้องการ​ที่จะ​เข้าไป​เป็น​ศิษย์​ภายใน​ ยังไง​ซะนาง​ก็​ต้อง​ผ่าน​ความ​เห็นชอบ​จาก​ข้า​อยู่ดี​”

“เจ้าเอง​ก็​คอย​ดู​แล้วกัน​ ใน​ภายภาคหน้า​ ยังไง​ซะนาง​ก็​ไม่อาจ​หนี​พ้น​ข้า​ไป​ได้​หรอก​ หึหึ​หึ​”

เมื่อ​ห​ยาน​เสวี่ย​กลับ​ไป​ที่พัก​ เฉิน​เฉียง​ก็​เปิด​เปลือกตา​ขึ้น​มา เพื่อที่จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ แต่​เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​อารมณ์เสีย​ของ​ห​ยาน​เสวี่ย​แล้วก็​อด​ที่จะ​เอ่ยปาก​ถามเสีย​ไม่ได้​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​ เจ้าไป​พบ​ปัญหา​เข้า​รึ​”

“เปล่า​ ก็​แค่​หนอน​แมลง​เพียง​ไม่กี่​ตัว​น่ะ​”

เฉิน​เฉียง​รู้​ถึงความนัย​ใน​ประโยค​นี้​ในทันที​ก่อนที่จะ​ส่าย​หัว​ไปมา​

สำหรับ​เขา​นั้น​ หา​กห​ยาน​เสวี่ย​ได้​พบ​เจอ​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​น่าแปลกใจ​แต่อย่างใด​ เพราะ​นับวัน​เธอ​นั้น​ยิ่ง​สวย​ยิ่งขึ้น​ ยัง​ไม่รวม​การ​ที่​เธอ​นั้น​เลิก​สวม​ผ้าคลุม​หน้า​ไป​แล้ว​ บางครั้ง​ เฉิน​เฉียง​ยัง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ใบ​หน้าที่​งดงาม​ของ​เธอ​เลย​

“เอาล่ะ​ นี่​คือ​เตา​ปรุงยา​ที่​ข้า​เคย​ใช้ ข้า​จะให้​เจ้าแล้วกัน​”

เฉิน​เฉียง​ได้​นำ​เตา​ปรุงยา​หนึ่ง​ออก​มาจาก​แหวน​แล้ว​ส่งให้​ห​ยาน​เสวี่ย​

ห​ยาน​เสวี่ย​ได้​นำ​เอา​สมุนไพร​สี่ชนิด​ที่​ได้​ซื้อ​มาออก​มาจาก​แหวน​

เพื่อที่จะ​สอน​ห​ยาน​เสวี่ย​ให้​ปรุงยา​ฟื้นฟู​เป็น​ เฉิน​เฉียง​ได้​จัดแบ่ง​ชุด​ปรุงยา​ไว้​ยี่สิบ​ชุด​

“เม็ด​ยา​ฟื้นฟู​เป็น​ยา​ระดับ​หนึ่ง​ การหลอม​มัน​นั้น​ง่าย​อย่าง​มาก​”

“ส่วนผสม​ของ​มัน​คือ​โสม ดอกไม้​สี่แฉก​ หญ้า​ฟ้าคราม​และ​หญ้า​ดินขาว​ ใส่พวก​มัน​ทั้งหมด​เข้าไป​ใน​เตา​ปรุงยา​แล้ว​จุดไฟ​อ่อน​ๆ หลังจากนั้น​เจ้าก็​คอย​ใช้พลังจิต​ของ​เจ้าคอย​ตรวจสอบ​แล้ว​บังคับ​ไฟให้​เผาไหม้​สิ่งเจือปน​ออก​จน​หมด​จน​ตัว​ยา​นั้น​ขึ้น​รูป​ของ​มัน​อย่าง​สมบูรณ์​”

“เส้นทาง​การ​ปรุงยา​เป็น​เส้นทาง​ที่​ใช้เพียง​พลังจิต​เพียง​เท่านั้น​ ดังนั้น​ไม่ใช่ว่า​คน​ที่​ปรุงยา​ได้​ต้อง​มีพลังจิต​ที่สูง​ล้ำ​ แต่​การควบคุม​พลังจิต​เอง​ก็​เป็น​ส่วนสำคัญ​ หากว่า​ควบคุม​ไฟได้​ไม่ดี​ การ​ปรุงยา​ก็​จะล้มเหลว​ได้​ง่ายๆ​”

“ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​ทาง​พลังจิต​ของ​เจ้าแล้ว​กับ​การ​ปรุงยา​ข้า​บอก​ได้​เลย​ว่า​นี่​ไม่ใช่ปัญหา​ที่​เจ้าต้อง​ใส่ใจ”

“สิ่งที่​เจ้าต้อง​ใส่ใจก็​คือ​การควบคุม​พลังจิต​ให้ได้​อย่าง​เหมาะสม​และ​หน่วง​ไว้​ให้ได้​จนกว่า​ยา​จะถูก​ปรุง​เสร็จ​ และ​ขึ้น​รูป​ได้​แล้วแต่​กรณี​”

เฉิน​เฉียง​พูด​ออกมา​ราวกับว่า​มัน​เป็นเรื่อง​ที่​ง่ายดาย​จน​ทำให้​ห​ยาน​เสวี่ย​รู้สึก​ผ่อนคลาย​อย่าง​มาก​

ถึงแม้ว่า​ห​ยาน​เสวี่ย​จะไม่เคย​สนใจ​เรื่อง​ปรุง​ยามา​ก่อน​ก็ตาม​ แต่​เพื่อ​ที่​เฉิน​เฉียง​จะได้​ฟื้นฟู​ร่างกาย​ได้​เร็ว​ที่สุด​ นี่​ทำให้​เธอ​นั้น​ตั้งใจ​อย่าง​มาก​

เป็น​ความตั้งใจ​ที่​มุ่งมั่น​พอ​ๆกับ​ตอนที่​เธอ​เก็บตัว​บ่ม​เพาะ​เลย​ทีเดียว​

แต่​เพียงแค่​เธอ​ได้​ลอง​ปรุงยา​ดู​ เธอ​ก็ได้​รับรู้​ว่า​มัน​ไม่ได้​ง่าย​อย่าง​คำกล่าว​ของ​เฉิน​เฉียง​แต่อย่างใด​

ถึงแม้ระดับ​พลังจิต​ของ​เธอ​จะสูงล้ำ​กว่า​ใคร​ใน​เหล่า​หมู่​ศิษย์​นอก​ของ​สำนัก​เต๋า​ใต้​บาดาล​แห่ง​นี้​ แต่​การ​ปรุงยา​นี้​มัน​จุกจิก​ยุ่งยาก​สำหรับ​เธอ​อย่าง​มาก​ มัน​ไม่ใช่การ​ใช้พลังจิต​หมุน​พลิกกลับ​สมุนไพร​ใน​เตา​ปรุงยา​อย่าง​ที่​เธอ​คิด​ แต่​มัน​คือ​การ​ที่​เธอ​นั้น​ต้อง​ค่อยๆ​หมุนตัว​ยา​ให้​สิ่งเจือปน​ถูก​กำจัด​ออก​ไป​ทีละเล็กทีละน้อย​อย่าง​ละมุน​พร้อมกับ​การควบคุม​ความร้อน​ของ​ไฟให้​ทำลาย​สิ่งเจือปน​โดย​ไม่ให้​ตัว​ยา​สำคัญ​ต้อง​ถูก​ทำลาย​ ไหนจะ​การ​ใช้พลังจิต​ของ​เธอ​คอย​อุปถัมภ์​ค้ำจุน​ให้​ตัวอย่าง​ผสมกลมกลืน​กัน​แล้ว​ขึ้น​รูป​ให้ได้​ด้วย​ตัว​มัน​เอง​

นี่​ทำ​ให้การ​ปรุงยา​ของ​เธอ​สอง​ครั้งแรก​นั้น​ล้มเหลว​อย่าง​ไม่เป็นท่า​

สำหรับ​ครั้ง​ที่สาม​ ถึงแม้เฉิน​เฉียง​จะรับรู้​แล้ว​ว่า​ห​ยาน​เสวี่ย​จะปรุงยา​ไม่สำเร็จ​ แต่​เขา​ก็​ยัง​คิด​ปล่อย​ให้​เธอ​ฝึก​ควบคุม​ไฟไป​อย่างนั้น​ พลาง​คิด​จะที่จะ​ทำตาม​แผน​ของ​เขา​หลังจาก​เธอ​หมดแรง​ไป​แล้ว​

แต่​เขา​นั้น​กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​ตอนนี้​ไม่เพียง​ห​ยาน​เสวี่ย​จะยัง​ไม่ถอดใจ​ เธอ​ยังคง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​และ​กำลังใจ​ แถมยัง​ดู​ตั้งใจ​ใน​การ​ปรุงยา​มากกว่า​เดิม​เสีย​อย่างนั้น​

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท