มู่หนานจือ – บทที่ 326 ไม่สบาย

มู่หนานจือ

เจียง​เซี่ยน​รู้สึก​ว่า​ ตนเอง​เป็น​คน​มาสอง​ชาติ​ แต่​คน​ที่​คบหา​ล้วน​เป็น​คน​ที่​แก่​กว่า​นาง​มาก​ การ​แต่งตัว​และ​นิสัย​ของ​นาง​ก็​เหมือน​จะค่อนข้าง​เป็นผู้ใหญ่​ด้วยเหตุนี้​เช่นกัน​

เพราะ​แบบนี้​หรือเปล่า​ นาง​จึงชอบ​พวก​เด็ก​ที่​ร่าเริง​ น่ารัก​ เฉลียวฉลาด​ และ​รู้ความ​เป็นพิเศษ​?

ความคิด​ฉาย​วาบ​ผ่าน​ไป​ นาง​ถูก​เสียง​ของ​ฮูหยิน​ติง​ดึง​สติ​กลับมา​ “ไม่อย่างนั้น​ก็​แสดง​ ‘กุ้ยเฟย​เมาสุรา​’ แล้วกัน​? ได้ยิน​ว่า​นี่​เป็น​รายการ​ที่​ยอดเยี่ยม​และ​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​ที่สุด​ของ​คณะ​สื่อ​เจีย​”

“‘สะพาน​ขาด​’ กับ​ ‘ฉีซวง​ฮุ่ย​’ ของ​พวกเขา​ก็​ไม่เลว​เหมือนกัน​” เจียง​เซี่ยน​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ล้วน​เป็น​สิ่งที่​พวกเขา​เก็บ​ไว้​ก้น​หีบ​ ครั้งหน้า​พวกเรา​ค่อย​เชิญพวกเขา​มาแสดง​ ‘สะพาน​ขาด​’ กับ​ ‘ฉีซวง​ฮุ่ย​’ แล้วกัน​”

“ทำไม​จะต้อง​ครั้งหน้า​!” ฮูหยิน​ลู่​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “พรุ่งนี้​ทุกคน​ไป​กิน​เหล้า​ที่​บ้าน​ของ​ข้า​ดีกว่า​ และ​ให้​คน​ของ​คณะ​สื่อ​เจีย​ไป​แสดง​งิ้ว​ที่​บ้าน​ของ​พวกเรา​วันหนึ่ง​” นาง​พูด​ไป​ สายตา​ก็​จับจ้อง​ไป​ที่​เจียง​เซี่ยน​ “ท่านหญิง​ คิด​ว่า​เป็น​อย่างไร​?”

เจียง​เซี่ยน​แปลกใจ​เล็กน้อย​

ใน​ความทรงจำ​ของ​นาง​ ฐานะ​ครอบครัว​ของ​อาจารย์​ลู่​ธรรมดา​ เลี้ยง​อาหาร​หนึ่ง​วัน​แบบนี้​ ค่อนข้าง​กินแรง​ทีเดียว​

หรือว่า​…ฮูหยิน​ลู่​มีเรื่อง​อะไร​จะขอร้อง​นาง​?

เจียง​เซี่ยน​คิด​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เม้มปาก​ยิ้ม​

ตอนนี้​นาง​ไม่ใช่ไทเฮา​เสียหน่อย​ ตระกูล​ลู่​มีเรื่อง​อะไร​ก็​ไม่น่าจะ​มาขอร้อง​นาง​

คง​อยาก​เชิญฮูหยิน​คน​ไหน​ที่นั่ง​อยู่​ แต่​กลัว​จะเชิญไม่ได้​ จึงฉวยโอกาส​นี้​ลาก​คน​ไป​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​

หลาย​วันนี้​เจียง​เซี่ยน​ว่าง​จน​ว้าวุ่น​ใจพอดี​ จึงค่อนข้าง​รู้สึก​มีความสุข​กับ​ความทุกข์​ของ​คนอื่น​ เลย​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​แล้วแต่​ท่าน​”

ฮูหยิน​ลู่​รีบ​มอง​ไป​ทาง​ฮูหยิน​ติง​

ฮูหยิน​ติง​กับ​ฮูหยิน​ห​ลี่​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​ครั้งหนึ่ง​ ลังเล​อยู่​ชั่วครู่​ ก็​ยิ้ม​และ​ตกลง​

คนอื่น​พา​กัน​แสดงออก​ว่า​ความคิด​นี้​ดี​ทันที​ ได้​ดู​งิ้ว​ติดกัน​สอง​วัน​ ฮูหยิน​ของ​ผู้ช่วย​ขวา​ตระกูล​หลู่​ก็​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “จะให้​ท่านหญิง​กับ​ฮูหยิน​ลู่​ได้ชื่อ​เสียงดี​เพียง​ฝ่าย​เดียว​ก็​ไม่ได้​เช่นกัน​ วัน​มะรืน​ทุกคน​ไป​ที่​บ้าน​ของ​ข้า​เถอะ​ แสดง​ ‘ฉีซวง​ฮุ่ย​’ จะได้​ดู​งิ้ว​ที่​คณะ​สื่อ​เจีย​แสดง​ได้ดี​ให้​หมด​” นาง​พูด​ไป​ก็​ขยิบตา​ให้​เจียง​เซี่ยน​ และ​เอ่ย​ว่า​ “แต่​เรื่อง​นี้​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​ท่านหญิง​จะช่วย​หรือไม่​แล้ว​…คณะ​สื่อ​เจีย​ไม่ได้​เชิญง่าย​ขนาด​นั้น​ ยัง​ต้อง​ขอให้​ท่านหญิง​ออก​หน้าเป็น​คนกลาง​ด้วย​”

ฮูหยิน​หลู่​เป็น​ผู้หญิง​ที่​กำลัง​อยู่​ใน​วัยสาว​และ​สวย​ ผิวขาว​เกลี้ยงเกลา​ ดวง​ตาโต​ หน้า​กลม​ เวลา​ยิ้ม​ยังมี​ลักยิ้ม​สอง​ข้าง​ด้วย​ เผย​ความงดงาม​ออกมา​เล็กน้อย​ สายตา​ที่​มอง​เจียง​เซี่ยน​ก็​ฉายแวว​หวังดี​ที่​ยาก​จะหลีกเลี่ยง​ได้​ว่า​เป็น​ความเข้าใจผิด​

เจียง​เซี่ยนอด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ออกมา​

คน​ที่นั่ง​อยู่​นอกจาก​เจียง​เซี่ยน​แล้วก็​นับว่า​นาง​อายุ​น้อยที่สุด​

เท่าที่​เจียง​เซี่ยน​รู้​ ฮูหยิน​หลู่​เป็น​ภรรยา​ใหม่​ของ​ใต้เท้า​หลู่​ ตระกูล​ของ​นาง​เป็น​พ่อค้า​ที่​ร่ำรวย​อันดับ​ต้น​ๆ ของ​ซาน​ตง​ บิดา​ของ​ฮูหยิน​หลู่​เคย​ออก​เงิน​ช่วย​ให้​ใต้เท้า​หลู่​ได้​เรียนหนังสือ​ ตอนหลัง​ภรรยา​คน​แรก​ของ​ใต้เท้า​หลู่​ป่วย​ตาย​ เลย​ให้​ลูกสาว​แต่งงาน​กับ​เขา​ ดังนั้น​ใต้เท้า​หลู่​จึงเคารพ​พ่อตา​ของ​ตนเอง​มาก​ และ​รัก​ภรรยา​ใหม่​ที่​อายุ​น้อยกว่า​ตนเอง​สิบ​กว่า​ปี​เป็นอย่างมาก​ ส่วน​ฮูหยิน​หลู่​ก็​ใช้เงิน​อย่าง​ใจกว้าง​มาก​เพราะ​มีสินเดิม​มากมาย​

มิน่าเล่า​ถึงกล้า​คุย​กับ​ฮูหยิน​ลู่​!

นาง​หยอก​ฮูหยิน​หลู่​เล่น​ว่า​ “นี่​ท่าน​กำลัง​กลั่นแกล้ง​ข้า​ใช่หรือไม่​! คณะ​สื่อ​เจีย​ได้​ไป​แสดง​งิ้ว​ที่​บ้าน​ นั่น​คือ​พวกเขา​โชค​ดีมาก​ พวกเขา​ยัง​จะรีบ​ออก​ไป​ข้างนอก​อีก​อย่างนั้น​หรือ​?”

ทุกคน​หัวเราะ​

ฮูหยิน​จวง​เอ่ย​ว่า​ “ฮูหยิน​หลู่​ยังคง​ร่ำรวย​และ​บุคลิก​ไม่ธรรมดา​ ได้​ วัน​มะรืน​พวกเรา​ก็​ไป​กิน​ดื่ม​ที่​บ้าน​ที่​ร่ำรวย​กัน​เถอะ​!”

ทุกคน​หัวเราะ​อีกครั้ง​

มีแต่​ฮูหยิน​ลู่​ที่​ยิ้ม​อย่าง​ฝืนใจ​เล็กน้อย​

วันนี้​เลือก​ ‘กุ้ยเฟย​เมาสุรา​’ วัน​มะรืน​เป็น​ ‘ฉีซวง​ฮุ่ย​’ เช่นนั้น​ตระกูล​ของ​พวก​นาง​ก็​จำเป็นต้อง​แสดง​ ‘สะพาน​ขาด​’ แล้ว​

นี่​เป็น​งิ้ว​เล็ก​

หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ที่จะ​แสดง​ความรัก​ของ​ชาย​หญิง​

ตระกูล​ที่​จริงจัง​หน่อย​จะไม่แสดง​งิ้ว​แบบนี้​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ที่​มีลูกสาว​สอง​คน​ และ​ยังมี​คน​หนึ่ง​ถึงวัย​ออกเรือน​แล้ว​อย่าง​ตระกูล​ของ​นาง​

แต่​นาง​พูด​ออก​ไป​แล้ว​ หาก​เปลี่ยน​อีก​ก็​จะกระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​ นาง​จึงจำเป็นต้อง​กลืน​ความโกรธ​นี้​ลง​ไป​ ทว่า​ใน​ใจกลับ​คิด​อย่าง​หยุด​ไม่ได้​ว่า​ ฮูหยิน​หลู่​ตั้งใจ​หรือไม่​ตั้งใจ​กัน​แน่​?

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​และ​พยักหน้า​ให้​ไป่​เจี๋ย​

ไป่​เจี๋ย​หยิบ​รายการ​งิ้ว​ออก​ไป​ และ​ให้​คณะ​สื่อ​เจีย​ไป​เตรียมตัว​

ส่วน​พวก​อิ้นไฉ่​ก็​เดิน​เข้ามา​อย่าง​แผ่วเบา​ และ​เริ่ม​วาง​ถ้วย​กับ​ตะเกียบ​

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​พลาง​เชิญทุกคน​ย้าย​มานั่ง​ที่​โต๊ะอาหาร​

พวก​ฮูหยิน​ติง​เข้า​ประจำ​ที่นั่ง​อย่าง​แผ่วเบา​

พวก​สาวใช้​ยก​น้ำ​เข้ามา​ล้างมือ​

ฮูหยิน​ติง​ก็​ได้ยิน​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ที่นั่ง​อยู่​โต๊ะ​หลัง​ตนเอง​ถามเสียง​เบา​มากว่า​ “ทำไม​ถึงไม่เห็น​พี่​เกา​?”

เห​อถง​เหนียง​ถูก​นาง​ถามก็​อึ้ง​ไป​

เจียง​เซี่ยน​เป็น​คน​ตัดสินใจ​รายชื่อ​ที่​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​ นาง​ก็​ไม่เคย​คิด​ที่จะ​ซักถาม​การตัดสินใจ​ของ​เจียง​เซี่ยน​เลย​ บวก​กับ​จู่ๆ นาง​ก็​ถูก​โยน​ให้​ไป​ต้อนรับ​พวก​คุณหนู​จาก​ตระกูล​ขุนนาง​ที่​ชาติกำเนิด​ต่าง​ทิ้ง​นาง​ไป​หลาย​ถนน​ที่​ห้อง​เล็ก​ นาง​ประหม่า​จน​ท้องน้อย​เป็น​ตะคริว​อยู่​ตลอดเวลา​ จึงไม่มีเวลาว่าง​ไป​คิด​เรื่อง​อื่น​ด้วยซ้ำ​ เวลานี้​พอ​ถูก​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ถาม กลับ​ทำให้​นาง​ไม่รู้​จะตอบ​อย่างไร​ดี​

แปลก​มาก​จริงๆ​!

เมื่อก่อน​อย่า​ว่าแต่​งานเลี้ยง​แบบนี้​เลย​ แม้แต่​ใน​บ้าน​มีแขก​มาหรือ​ญาติ​มานั่ง​คุย​ ท่าน​อา​ก็​จะดึง​เกา​เมี่ยวหรง​ไว้​ และ​ให้​เกา​เมี่ยวหรง​ช่วย​คุย​กับ​แขก​ที่มา​หรือ​ญาติ​

วันนี้​ทำไม​ถึงไม่เห็น​เงาของ​เกา​เมี่ยวหรง!​

นาง​ป่วย​หรือ​?

หรือว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​?

เห​อถง​เหนียง​โทษ​ตนเอง​ทันที​

นาง​น่าจะ​ละเอียด​อีก​สักหน่อย​

แบบนี้​จะได้​รู้​เร็ว​หน่อย​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​ไม่มา และ​ส่งสาวใช้​สัก​คน​ไป​ถามเกา​เมี่ยวหรง​ จะได้​ไม่เดี๋ยว​พี่สะใภ้​หรือ​ท่าน​อา​ถามนาง​ นาง​ก็​ตอบ​ไม่ได้​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​นาง​เข้าสังคม​เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ตง​จื้อ​

หาก​แม้แต่​เรื่อง​เล็กน้อย​แค่นี้​ยัง​ทำได้​ไม่ดี​ พี่สะใภ้​จะผิดหวัง​แค่​ไหน​กัน​!

นาง​คิด​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​จะส่งสาวใช้​ไปดู​เดี๋ยวนี้​!”

คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ได้ยิน​ก็​ขมวดคิ้ว​ และ​เอ่ย​ว่า​ “พวก​เจ้าก็​ไม่ใส่ใจเกินไป​แล้ว​เช่นกัน​ พี่​เกา​ยัง​ไม่มาจนถึง​ตอนนี้​ พวก​เจ้ากลับ​ไม่สังเกต​สัก​คน​ ยัง​ดี​ที่​ข้า​ใส่ใจ…”

เห​อถง​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​ลำบากใจ​ และ​กวักมือ​เรียก​สาวใช้​ข้าง​กาย​ไป​พบ​เกา​เมี่ยวหรง​

สาวใช้​ขานรับ​และ​จากไป​

พวก​ฮูหยิน​ติง​ยิ้ม​และ​ค่อยๆ​ ริน​ชาให้​ตนเอง​

พวก​อิ้นไฉ่​เริ่ม​นำ​อาหาร​เข้ามา​

สาวใช้​ที่​ถูก​เห​อถง​เหนียง​สั่งย้อน​กลับมา​ และ​รายงาน​เสียง​เบา​ว่า​ “คุณหนู​ แม่นม​เหมียว​บอ​กว่า​ นี่​เป็น​งานเลี้ยง​ของ​จวน​ จึงไม่ได้​ส่งเทียบเชิญ​ให้​คุณหนู​เกา​เจ้าค่ะ​”

งานเลี้ยง​ของ​จวน​…หมายความว่า​เชิญแขก​ในนามของ​จวน​สกุล​ห​ลี่​

แต่​งานเลี้ยง​ของ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​กลับ​เป็นการ​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​ตระกูล​ที่​สนิทสนม​กัน​มาก​จน​เหมือน​เป็น​คนใน​ครอบครัว​หรือ​คนใน​ครอบครัว​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ด้วยกัน​

ดังนั้น​งานเลี้ยง​ของ​จวน​จึงเป็นทางการ​กว่า​งานเลี้ยง​ของ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​

“เจ้าว่า​อะไร​นะ​?” คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ตกใจ​ “จะไม่มีพี่​เกา​ได้​อย่างไร​…พวก​เจ้าทำ​กับ​นาง​แบบนี้​ได้​อย่างไร​…”

เสียง​ของ​นาง​ดัง​ไป​หน่อย​ สายตา​ของ​ทุกคน​จึงมอง​ไป​ที่​นาง​

คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​หน้าแดง​

เวลา​กินข้าว​กับ​เวลานอน​ห้าม​พูดมาก​ นาง​ตะโกน​เสียงดัง​แบบนี้​ ขาด​การ​อบรมสั่งสอน​

“ข้า​…ข้า​เพียงแค่​รู้สึก​แปลกใจ​” นาง​พึมพำ​ว่า​ “เมื่อ​ก่อนเวลา​ใน​จวน​มีเรื่อง​อะไร​ พี่​เกา​ก็​เป็น​คน​ออกหน้า​ และ​ช่วย​ออก​ความคิด​ตลอด​…”

คุณหนู​สามซือ​เอ่ย​พลาง​มอง​ไป​ที่​ฮูหยิน​เห​อ​

หน้า​ของ​ฮูหยิน​เห​อบ​วมจน​เป็น​สีม่วง​อม​แดง​

ก่อนหน้านี้​นาง​ไม่เห็น​เกา​เมี่ยวหรง​ก็​เดา​ว่า​เจียง​เซี่ยน​ไม่เชิญเกา​เมี่ยวหรง​

ไม่อย่างนั้น​เกา​เมี่ยวหรง​จะต้อง​ไป​เชิญนาง​ที่​เรือน​ของ​นาง​แต่เช้า​ และ​มาเป็นเพื่อน​นาง​อย่าง​แน่นอน​

แต่​นาง​ก็​ไม่ได้คิด​อะไร​มาก​เช่นกัน​

ใน​ความคิด​ของ​นาง​ เจียง​เซี่ยน​ไม่มีทาง​พลาด​

หาก​ไม่เชิญเกา​เมี่ยวหรง​ ก็​ต้อง​มีเหตุผล​ที่​ไม่เชิญเกา​เมี่ยวหรง​อย่าง​แน่นอน​

ทว่า​เวลานี้​พอ​ถูก​คุณหนู​สามซือ​เอ่ย​แบบนี้​ นาง​ก็​นึกถึง​เมื่อก่อน​งานเลี้ยง​ใน​บ้าน​ เกา​เมี่ยวหรง​เป็น​คน​ช่วย​ตลอด​ แต่​เวลานี้​งานเลี้ยง​ที่​มาตรฐาน​สูงแบบนี้​กลับ​ไม่เชิญเกา​เมี่ยวหรง​…ก็​รู้สึก​อาย​และ​ละอายใจ​

แต่​เจียง​เซี่ยน​กลับ​รำคาญ​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​จริงๆ​ แล้ว​

ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​ให้​นาง​กิน​ยา​เสน่ห์​อะไร​ ตัวนาง​ยัง​ยืนหยัด​ไม่ได้​ กลับ​ออกหน้า​ช่วย​เกา​เมี่ยวหรง​

เดิมที​นาง​ไม่คิด​ที่จะ​สนใจ​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ ทว่า​พอ​เห็น​สีหน้า​ของ​ฮูหยิน​เห​อ​ นาง​ก็​ตัดสินใจ​ว่า​จัดการ​เรื่อง​นี้​สักหน่อย​ดีกว่า​ คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​จะได้​ไม่ปล่อยไก่​ต่อหน้า​นาง​อีก​

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท