มู่หนานจือ – บทที่ 335 ให้กำลังใจ

มู่หนานจือ

วันรุ่งขึ้น​ เจียง​เซี่ยน​เตรียมตัว​ไป​บ้าน​ของ​ฮูหยิน​หลู่​ตาม​นัด​

ฮูหยิน​เห​อ​ให้​แม่นม​เฉิงนำ​ข่าว​มาบอ​กว่า​ตนเอง​ไม่ค่อย​สบาย​ ให้​ห​ลี่​ตง​จื้อ​อยู่​รับใช้​ข้าง​กาย​ จึงไม่ไป​บ้าน​ของ​ฮูหยิน​หลู่​แล้ว​

เมื่อวาน​ให้​พวก​นาง​พักผ่อน​ที่​บ้าน​วันหนึ่ง​เพื่อ​ปรับ​อารมณ์​แล้ว​ ทำไม​วันนี้​ยัง​ไม่ยอม​ไป​อีก​!

เจียง​เซี่ยน​คิด​แล้วก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ฮูหยิน​เห​อ​

ฮูหยิน​เห​อ​เตรียมตัว​ไป​เพียง​ครึ่ง​เดียว​ แต่งหน้า​แล้ว​ สวม​เสื้อผ้า​สำหรับ​ออก​ไป​ข้างนอก​แล้ว​ แต่​ไม่ได้​สวม​เครื่องประดับ​ และ​ไม่ได้​ทาปาก​ กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​อุ่น​หลัง​ใหญ่​ใกล้​หน้าต่าง​ของ​ห้อง​พักผ่อน​และ​กิน​เต้าฮวย​ซิ่งเห​ริน​เป็นระยะๆ​

พอ​เห็น​เจียง​เซี่ยน​เข้ามา​ นาง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​ และ​เอ่ย​ทั้งที่​หน้าแดง​ว่า​ “ข้า​…ข้า​ไม่ไป​แล้ว​ดีกว่า​ มีเจ้าเป็นตัวแทน​ตระกูล​ห​ลี่​ก็​พอแล้ว​”

งานเลี้ยง​ใน​บ้าน​เมื่อวานซืน​ ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​นาง​พูด​ไม่เกิน​สอง​ประโยค​ แต่​เจียง​เซี่ยน​กลับ​พูดคุย​กับ​เหล่า​สตรี​ชนชั้นสูง​ที่​พบกัน​ครั้งแรก​อย่าง​มั่นใจ​ใน​ตนเอง​ โดย​พูดคุย​และ​หัวเราะ​อย่าง​จริงใจ​ ไม่มีความ​เงียบ​อย่าง​สิ้นเชิง​

นาง​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​อยู่​ตรงนั้น​แล้ว​เป็น​ส่วนเกิน​มาก​

เมื่อวาน​นาง​อ้างว่า​เหนื่อย​เกินไป​และ​ไม่ไป​ เจียง​เซี่ยน​จึงไป​คนเดียว​

นาง​พักผ่อน​อยู่​บ้าน​วันหนึ่ง​ ตอนเย็น​ยัง​กินข้าว​เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ฉางชิง รู้สึก​ดีมาก​

ตอนเช้า​ตัดสินใจ​แน่วแน่​ว่า​จะไป​กับ​เจียง​เซี่ยน​ แต่ก่อน​จะไป​ก็​ท้อแท้​อี​กว่า​จะใส่ชุด​อะไร​

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​บน​ม้านั่ง​ข้าง​โต๊ะกลม​

หาก​ฮูหยิน​เห​อ​ไม่อยาก​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ ก็​น่าจะ​ไม่แต่งหน้า​ ทว่า​เวลานี้​กลับ​แต่งตัว​ไป​ครึ่งหนึ่ง​และ​หยุด​ แสดงว่า​ใน​ใจของ​ฮูหยิน​เห​อ​ก็​ลังเล​มาก​เหมือนกัน​ ไม่ใช่ไม่อยาก​ไป​ เพียงแต่​กลัว​ที่จะ​ไป​เล็กน้อย​

เจียง​เซี่ยน​ไม่กลัว​ฮูหยิน​เห​อ​ไม่ไป​ อย่าง​ที่​ฮูหยิน​เห​อ​เอ่ย​ ตระกูล​ห​ลี่​มีนาง​ออกหน้า​ รัศมี​ของ​คนอื่น​ล้วน​จะถูก​บดบัง​หมด​

ทว่า​ชีวิต​ใน​วัง​ของ​นาง​บอก​นาง​ว่า​ ทุกคน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ต้อง​ใช้ชีวิต​อย่าง​มีความสุข​ บรรยากาศ​ใน​บ้าน​ถึงจะมีความสุข​

ใน​เมื่อ​ฮูหยิน​เห​อ​เพียงแค่​กังวล​และ​หวาดกลัว​ เช่นนั้น​นาง​ก็​ช่วย​ฮูหยิน​เห​อ​เอาชนะ​ก็​พอแล้ว​

หาก​ไม่ไหว​จริงๆ​ ค่อย​ยอมแพ้​ก็​ไม่สาย​เช่นกัน​

อย่างไร​ก็​จะยอมแพ้​โดยที่​ไม่ได้​ลอง​ด้วยซ้ำ​ไม่ได้​!

นาง​ยิ้ม​พลาง​ยก​น้ำชา​ที่​เสี่ยว​ฮุ่ย​ยื่น​ให้​ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​ไป​กับ​ข้า​ดีกว่า​! เมื่อวาน​ไม่ไป​ เป็น​เพราะ​ฮูหยิน​ลู่​เชิญแขก​กะทันหัน​เกินไป​ ใคร​ไม่มีเรื่องด่วน​บ้าง​ อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​ทิ้ง​เรื่อง​ของ​ตนเอง​ไป​สนับสนุน​คนอื่น​ได้​กระมัง​? ยิ่งกว่านั้น​ยังมี​ข้า​เป็นตัวแทน​ตระกูล​ของ​เรา​ไป​แล้ว​ วันนี้​ท่าน​ไม่ไป​ก็​ไม่ดีแล้ว​ ใน​ความคิด​ของ​คนอื่น​ ทั้งที่​ท่าน​รู้​ว่า​วันนี้​ฮูหยิน​หลู่​เชิญแขก​ ท่าน​ก็​ยัง​ไม่จัดการ​เรื่อง​ใน​ตระกูล​ให้​เรียบร้อย​ เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่อยาก​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ที่​ตระกูล​หลู่​ ไม่ไว้หน้า​ฮูหยิน​หลู่​”

พอ​ฮูหยิน​เห​อ​ได้ยิน​ก็​เริ่ม​ลังเล​

เจียง​เซี่ยน​เอ่ย​ต่อว่า​ “ใน​บรรดา​ฮูหยิน​เหล่านี้​ ท่าน​รู้สึก​ว่า​ฮูหยิน​คน​ไหน​ค่อนข้าง​มีอัธยาศัย​?”

ฮูหยิน​เห​อ​เอ่ย​ว่า​ “ต้อง​เป็น​ฮูหยิน​หวัง​อยู่แล้ว​ พวกเรา​สอง​ตระกูล​ต่าง​มาจาก​ตระกูล​ทหาร​ ฮูหยิน​หวัง​แค่​เห็น​ก็​ดู​ใจกว้าง​ อ่อนโยน​ รัก​และ​เมตตา​ ข้า​รู้สึก​ว่า​นาง​เข้ากับ​คน​ง่าย​ที่สุด​”

“รอง​ลงมา​ล่ะ​?” เจียง​เซี่ยน​ถามต่อ​

ฮูหยิน​เห​อ​คิด​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​รู้สึก​ว่า​ฮูหยิน​หลู่​ก็​เข้ากับ​คน​ง่าย​มาก​เช่นกัน​ ถึงแม้นาง​จะดูเหมือน​ทั้ง​พูด​เร็ว​และ​รีบ​ แล้วก็​แต่งตัว​สดใส​ งดงาม​ และ​หรูหรา​ แต่​เป็น​คน​ไม่แย่​ ค่อนข้าง​ปากร้ายใจดี​…”

เจียง​เซี่ยน​แปลกใจ​มาก​

ฮูหยิน​เห​อ​สามารถ​มองออก​ได้​ว่า​ฮูหยิน​หลู่​ปากร้ายใจดี​ แสดงว่า​เรื่อง​การสื่อสาร​ระหว่าง​คน​ยังมี​ทางรอด​

นาง​เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​ดู​สิ ท่าน​ไม่ได้​ไม่มีคน​ที่​สามารถ​คุย​ด้วย​ได้​ใน​งานเลี้ยง​ ข้า​ว่า​…วันนี้​พวกเรา​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ที่​บ้าน​ของ​ฮูหยิน​หลู่​ด้วยกัน​ หาก​ท่าน​รู้สึก​ไม่ประทับใจ​ ก็​เพียงแค่​ทักทาย​และ​ยิ้ม​ พวก​นาง​พูด​อะไร​ ท่าน​ก็​ไม่คุย​แล้วก็​ไม่ต้อง​แก้ต่าง​ หาก​ท่าน​รู้สึก​ประทับใจ​ ท่าน​ก็​คุย​กับ​นาง​อีก​เล็กน้อย​ นาง​พูด​อะไร​ ท่าน​ก็​คุย​อย่าง​วางใจ​ ก็​จะค่อยๆ​ ได้​คบ​เพื่อน​ที่​รสนิยม​เหมือนกัน​สอง​คน​แล้ว​”

“แต่​…” ฮูหยิน​เห​อ​เอ่ย​อย่าง​ลังเล​ว่า​ “เมี่ยวหรง​บอ​กว่า​ ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ก็​ต้อง​คุย​กับ​คน​เหล่านี้​ดี​ๆ ไม่ว่า​จะชอบ​หรือไม่​ ไม่อย่างนั้น​จะล่วง​เกินคน​ได้​ง่าย​มาก​ และ​สร้างศัตรู​ให้​ตระกูล​ห​ลี่​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​…”

“ข้า​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​เยอะ​หรือ​คุณหนู​เกา​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​เยอะ​?” หาก​เจียง​เซี่ยน​ถกเถียง​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​ต่อไป​ จะต้อง​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ช้าอย่าง​แน่นอน​ นาง​จึงขัดจังหวะ​ฮูหยิน​เห​อ​ด้วย​อำนาจ​และ​บารมี​ที่​ฐานะ​ของ​นาง​สร้าง​ขึ้น​มาเสีย​เลย​ “ท่าน​เชื่อฟัง​ข้า​ ไม่ผิด​อย่าง​แน่นอน​! ยิ่งกว่านั้น​ท่าน​ก็​ไม่อาจ​เก็บตัว​อยู่​ใน​บ้าน​แบบนี้​ทั้งวัน​ได้​เช่นกัน​ อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​ทั่ว​ทุกที่​ คบ​เพื่อน​ที่​คุย​ด้วย​ได้​ ต่อไป​ถงเหนียง​คุย​เรื่อง​แต่งงาน​ ตง​จื้อ​ดู​คนอื่น​ ก็ได้​ใช้ทั้งนั้น​!”

ฮูหยิน​เห​อนึก​ถึงวัน​เวลา​ที่​ตนเอง​ใช้ชีวิต​อยู่​ที่​ฝูเจี้ยน​หลาย​ปี​นั้น​ แล้วก็​ถูก​เจียง​เซี่ยน​โน้มน้าว​ทันที​

นาง​ลุกขึ้น​ยืน​อย่าง​มีชีวิตชีวา​ และ​สั่งเสี่ยว​ฮุ่ย​ว่า​ “รีบ​ไป​บอก​คุณหนู​ใหญ่​ บอก​ให้​นาง​รีบ​แต่งตัว​ เดี๋ยว​ตาม​ข้า​กับ​พี่สะใภ้​ของ​นาง​ไป​กิน​เหล้า​ที่​ตระกูล​หลู่​”

เจียง​เซี่ยน​ก็​เอ่ย​อี​กว่า​ “ลอง​ถามดู​ว่า​ท่าน​ป้า​จะไป​หรือไม่​? หาก​ท่าน​ป้า​ไม่ไป​ ก็​ต้อง​ให้​คุณหนู​ไป​กับ​พวกเรา​ ไม่ง่าย​เลย​ที่จะ​ได้​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​เหล่า​ฮูหยิน​และ​คุณหนู​ นี่​หาก​พยายาม​ซ่อน​ไว้​อย่าง​สุดกำลัง​ ก็​ไม่รู้​ว่า​เมื่อไร​ถึงจะทำให้​คน​จำคุณหนู​ได้​!”

ป้า​เห​อ​ไม่มีบรรดาศักดิ์​ ทว่า​นาง​เป็น​ป้า​ที่​แท้จริง​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​ ตระกูล​ห​ลี่​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​แขก​ นาง​ก็​เป็น​แขก​ที่​ตระกูล​ห​ลี่​ ออกหน้า​ต้อน​รับแขก​ ไม่มีอะไร​จะปกติ​ไป​กว่า​นี้​อีกแล้ว​ แต่​ฮูหยิน​หลู่​เชิญแขก​ก็​ไม่เหมือนกัน​แล้ว​ หาก​อยาก​เชิญป้า​เห​อ​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​จริง​ จะส่งเทียบเชิญ​ให้​ป้า​เห​อ​ เวลานี้​ป้า​เห​อ​ไม่ได้รับ​เทียบเชิญ​ แสดงว่า​สิ่งที่​ฮูหยิน​หลู่​เอ่ย​ใน​ตอนนั้น​เป็น​เพียง​คำพูด​เกรงใจ​เท่านั้น​

ทว่า​เห​อถง​เหนียง​ก็​ไม่เหมือนกัน​แล้ว​

นาง​ยัง​ไม่ออกเรือน​ ถือว่า​เป็น​เด็กสาว​และ​เป็น​เด็กน้อย​ อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​อา​ ห​ลี่​ตง​จื้อ​อายุ​ยัง​น้อย​ นาง​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ต่างๆ​ เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ใน​ฐานะ​พี่สาว​ นั่น​เป็นความ​สนิทสนม​ของ​พี่น้อง​ แล้วก็​เป็นการ​รับรอง​ความประพฤติ​ของ​คุณหนู​ผู้​นี้​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​ด้วย​

นี่​เป็นผลดี​ต่อ​เห​อถง​เหนียง​สำหรับ​การคุย​เรื่อง​แต่งงาน​ในอนาคต​มาก​

เสี่ยว​ฮุ่ย​ไป​ด้วย​สีหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​

แต่​รอ​พวก​นาง​มาพักใหญ่​แล้ว​ ฮูหยิน​เห​อ​ส่งคน​ไป​เร่ง​เล็กน้อย​ ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ถึงจะค่อยๆ​ เดิน​มาอย่าง​เชื่องช้า​

เจียง​เซี่ยน​เพ่งมอง​ไป​ ข้างหลัง​พวก​นาง​ยังมี​เกา​เมี่ยวหรง​ตามมา​ด้วย​

นาง​ไม่เอ่ย​สิ่งใด​

ทว่า​ฮูหยิน​เห​อก​ลับ​ตกใจ​มาก​ และ​เอ่ย​ว่า​ “เมี่ยวหรง​ เจ้ามาอยู่​ที่นี่​ได้​อย่างไร​?” พอ​เอ่ย​จบ​ ก็​รู้สึก​ว่า​น้ำเสียง​ของ​ตนเอง​กะทันหัน​เกินไป​ จึงรีบ​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าไป​ที่​เรือน​ของ​ตง​จื้อ​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ทำไม​ข้า​ไม่รู้​? ใน​เมื่อ​เจ้ามาแล้ว​ ทำไม​ไม่มานั่ง​ที่​เรือน​ของ​ข้า​?”

ตั้งแต่​วันนั้น​ที่​เจียง​เซี่ยน​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​แบบ​นั้น​ ฮูหยิน​เห​อ​ก็​รู้สึก​ว่า​แม้นาง​จะไม่เสียหน้า​ แต่กลับ​รู้สึก​ผิด​ต่อ​เกา​เมี่ยวหรง​เล็กน้อย​ ไม่ว่า​อย่างไร​ ถึงอย่างไร​นาง​ก็​เป็น​คน​ขอให้​เกา​เมี่ยวหรง​ช่วย​นาง​ออกหน้า​ต้อนรับ​ นาง​จึงรู้สึก​ละอายใจ​ต่อ​เกา​เมี่ยวหรง​มาก​

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ้ม​ หน้าตา​สดใส​ และ​ใจกว้าง​มาก​ ราวกับ​รู้เรื่อง​ที่​เจียง​เซี่ยน​ประเมิน​ฐานะ​ของ​นาง​ตั้ง​นาน​แล้ว​ และ​ไม่เห็นด้วย​กับ​เรื่อง​นี้​ และ​ไม่ได้​ใส่ใจ “เมื่อวาน​ข้า​ได้ยิน​ว่า​ฮูหยิน​กับ​ตง​จื้อ​ต่าง​ไม่ออก​ไป​ข้างนอก​ จึงคิด​ว่า​ฮูหยิน​กับ​ตง​จื้อ​ไม่มีธุระ​อะไร​แล้ว​ และ​ก็​คิด​ว่า​ข้า​ไม่ได้​ช่วย​ตรวจ​การบ้าน​ให้​ตง​จื้อ​หลาย​วัน​แล้ว​ จึงมาดู​สักหน่อย​ คิดไม่ถึง​ว่า​ฮูหยิน​กับ​ตง​จื้อ​ยัง​จะไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ของ​ฮูหยิน​อื่น​อีก​ จึงคุย​กับ​ตง​จื้อ​อีก​เล็กน้อย​ ข้า​ล่วงเกิน​แล้ว​ ขอให้​ฮูหยิน​กับ​ท่านหญิง​อย่า​ได้​ตำหนิ​”

นาง​เอ่ย​พลาง​มอง​ห​ลี่​ตง​จื้อ​

แต่​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กลับ​มอง​เจียง​เซี่ยน​อย่าง​อยาก​พูด​ทว่า​ก็​หยุด​ไว้​

เจียง​เซี่ยนอด​ที่จะ​สนใจ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ไม่ได้​

เห็นได้ชัด​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​อยาก​ให้​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ช่วย​พูด​ให้​นาง​ แต่​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กลับ​ยังคง​เงียบ​อย่าง​ชาญฉลาด​

เด็กสาว​อายุ​แปด​ขวบ​ มีไหวพริบ​แบบนี้​ ดีมาก​

ไม่เหมือน​ฮูหยิน​เห​อ​แม่แท้ๆ​ ของ​นาง​แม้แต่​นิดเดียว​

หรือ​ว่าความ​ฉลาด​ของ​นาง​ได้​มาจาก​ตระกูล​ห​ลี่​มากกว่า​อย่างนั้น​หรือ​?

เจียง​เซี่ยน​คิดในใจ​ พลาง​ดื่ม​ชาและ​ยิ้ม​ตาหยี​ โดย​ไม่พูด​อะไร​

ประการ​แรก​ที่นี่​มีฮูหยิน​เห​อ​ นาง​จะไม่พูด​ก็ได้​

ประการ​ที่สอง​นาง​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​กับ​คุณหนู​เกา​ไม่มีเรื่อง​อะไร​ที่​คุย​กัน​ได้​จริงๆ​ พูด​ไป​ก็​เปล่าประโยชน์​อย่าง​สิ้นเชิง​

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท