มู่หนานจือ – บทที่ 339 กังวล

มู่หนานจือ

ฮูหยิน​เห​อ​พยักหน้า​ติดกัน​หลายครั้ง​

เจียง​เซี่ยน​บอก​นาง​ว่า​ “ต่อไป​คน​ที่​สามารถ​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ต่างๆ​ เป็นเพื่อน​ตง​จื้อ​ได้​มีแต่​อา​ถงเท่านั้น​ หาก​จำเป็นต้อง​มีคนแนะนำ​เพราะ​ตง​จื้อ​อายุ​น้อย​เกินไป​ ใน​คนรุ่นเดียวกัน​ต้องหา​คน​ที่​มีอำนาจ​มากกว่า​ตระกูล​ห​ลี่​ ใน​ผู้อาวุโส​ต้องหา​คน​ที่​มีคุณธรรม​สูงและ​มีชื่อเสียง​มาก​ น้อง​หญิง​ทั้งสอง​เดิน​ออก​ไป​ถึงจะถูก​คน​ให้ความสำคัญ​ เรื่อง​นี้​ท่าน​ต้อง​จำไว้​!”

“ข้า​จำไว้​แล้ว​” ฮูหยิน​เห​อ​รับประกัน​ แต่​จะไป​บอก​เกา​เมี่ยวหรง​อย่างไร​ กลับกลาย​เป็นความ​ทุกข์ใจ​ของ​นาง​แล้ว​ นาง​จึงขอร้อง​เจียง​เซี่ยน​ว่า​ “ไม่อย่างนั้น​…ท่านหญิง​ส่งคน​ไป​บอก​ดีกว่า​! ก่อนหน้านี้​ข้า​ทำผิด​ต่อ​นาง​เล็กน้อย​แล้ว​ ตอนนี้​จะ…ถึงอย่างไร​นาง​ก็​เป็น​เด็กสาว​ที่​ยัง​ไม่ออกเรือน​ นิสัย​หยิ่งยโส​ ข้า​กลัว​ว่า​ถึงเวลา​นั้น​จะทำลาย​มิตรภาพ​ระหว่าง​ใต้เท้า​ของ​พวกเรา​กับ​ท่าน​ฝูอวี้”​ และ​เอ่ย​อี​กว่า​ “ข้า​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​ข้า​ทำ​ไม่ถูก​ ท่านหญิง​ก็​ถือว่า​ช่วย​ข้า​สักครั้ง​แล้วกัน​ ต่อไป​มีเรื่อง​อะไร​ ข้า​จะไม่ตัดสินใจ​โดยพลการ​อีกแล้ว​”

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​และ​เอ่ย​ว่า​ “หาก​ข้า​ออกหน้า​ คุณหนู​เกา​จะคิด​ว่า​ข้า​เป็น​คน​จงใจขัดขวาง​ใน​นั้น​หรือเปล่า​?”

ใคร​จะรู้​ว่า​ฮูหยิน​เห​อก​ลับ​เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​เป็น​ท่านหญิง​ ต่อให้​เมี่ยวหรง​ไม่พอใจ​ ก็​ทำได้​เพียง​อดทน​ไว้​เช่นกัน​”

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​อย่าง​โกรธ​สุดขีด​

ฮูหยิน​เห​อ​ผู้​นี้​…ไม่ได้เรื่องได้ราว​อย่าง​ที่​คิด​จริงๆ​

ทว่า​อย่างไรก็ดี​กว่า​เจอ​แม่สามีที่​ชอบ​ขี้ระแวง​เล็กน้อย​

เจียง​เซี่ยน​ปลอบใจ​ตนเอง​ และ​สั่งเสี่ยว​ฮุ่ย​ต่อหน้า​ฮูหยิน​เห​อ​ว่า​ “เจ้าไป​บอก​คุณหนู​เกา​ บอ​กว่า​ถึงวัน​งาน.​..น้อง​หญิง​ทั้งสอง​จะไป​กับ​คุณหนู​รอง​ของ​ใต้เท้า​ติง​ วันนั้น​คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​จะใส่สีน้ำเงิน​ ให้​นาง​อย่า​ใส่สีเดียว​กับ​คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​”

ฐานะ​ของ​คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​สูงกว่า​นาง​มาก​ แบบนี้​…หาก​เกา​เมี่ยวหรง​อยาก​ไป​กับ​พวก​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ ก็​จะกลายเป็น​ตัวประกอบ​ของ​พวก​นาง​

เห็นได้ชัด​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​ก็​คิดได้​เช่นกัน​

นาง​แอบ​ร้องไห้​โฮอยู่​ใน​ห้อง​

ตอนที่​ดูแล​ให้​เกา​ฝูอวี้​รับประทาน​อาหารเย็น​ ดวงตา​ยังคง​บวม​

เกา​ฝูอวี้​ต้อง​ถามสาเหตุ​กับ​นาง​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​

นาง​อ้ำๆ อึ้งๆ​ อยู่​นาน​มาก​ ถึงจะบอก​เรื่องราว​ทั้งหมด​กับ​เกา​ฝูอวี้​อย่าง​ตะกุกตะกัก​

เกา​ฝูอวี้ตบ​ตะเกียบ​ลง​บน​โต๊ะ​ พลาง​มอง​เนื้อไก่​เป็ด​ปลา​ที่อยู่​เต็มโต๊ะ​ และ​สูญเสีย​ความอยาก​อาหาร​ไป​ทันที​

เกา​เมี่ยวหรง​เตือน​อยู่​ข้างๆ​ ว่า​ “ท่าน​อา​ก็​อย่า​โกรธ​เลย​ เพราะ​เมื่อก่อน​ท่าน​ลุง​ห​ลี่​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​ดี​กับ​หลาน​มาก​ ทำให้​หลาน​ลืม​ฐานะ​ ถึงได้​ยิ่ง​ทำ​เกิน​หน้าที่​ จน​ตนเอง​ถูก​ดูหมิ่น​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ต่อไป​หลาน​จะไม่ทำ​แบบนี้​อีกแล้ว​ จะไม่ทำให้​ท่าน​อา​เสียหน้า​แล้ว​เจ้าค่ะ​” นาง​พูด​ไป​ก็​สะอึกสะอื้น​อีก​เล็กน้อย​

พูด​จน​เกา​ฝูอวี้​สีหน้า​โกรธจัด​ ครู่ใหญ่​ถึงจะลุก​ขึ้นไป​ห้อง​หนังสือ​ทันที​

เกา​เมี่ยวหรง​เรียก​เขา​อยู่​ข้างหลัง​ แต่​เขา​กลับ​ไม่สนใจ​

กระทั่ง​เกา​ฝูอวี้​เจอ​เกา​เมี่ยว​หวา​ที่​เพิ่ง​เข้ามา​ เกา​เมี่ยว​หวา​คารวะ​เกา​ฝูอวี้​อย่าง​นอบน้อม​ ทว่า​กลับ​ถูก​เกา​ฝูอวี้​เดิน​เฉียด​ผ่าน​ไหล่​ไป​อย่าง​ไม่สนใจ​

เกา​เมี่ยว​หวา​อด​ที่จะ​ถามเกา​เมี่ยวหรง​อย่าง​ประหลาดใจ​ไม่ได้​ “ท่าน​อา​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​?”

“ไม่มีอะไร​” เกา​เมี่ยวหรง​เอ่ย​ และ​บอก​เรื่อง​ที่​ทั้งที่​เจียง​เซี่ยน​รู้ดี​ว่า​นาง​จะไป​ตระกูล​ซือ​เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ กลับ​จัด​ให้​คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​ไป​ร่วมงาน​เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ที่​ปรากฏตัว​ใน​วง​ตระกูล​ขุนนาง​ซาน​ซีคนเดียว​ครั้งแรก​กับ​เกา​เมี่ยว​หวา​

เกา​เมี่ยว​หวา​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ก็​เปลี่ยนเป็น​หม่นหมอง​ลง​เช่นกัน​

เขา​เอ่ย​ว่า​ “ตามที่​เจ้าว่า​ ท่านหญิง​เจีย​หนาน​คุย​ยาก​มาก​หรือ​?”

“ก็​ไม่ถึงขนาด​นั้น​กระมัง​!” เกา​เมี่ยวหรง​เอ่ย​เหมือน​นาง​จะไม่ตัดสิน​ถูก​ผิด​ลับหลัง​คน​ “เพียงแค่​หยิ่ง​ไป​หน่อย​ เข้าหา​ค่อนข้าง​ยาก​ หาก​ไม่ใช่ว่า​บางครั้ง​ได้​เจอ​ที่​เรือน​ของ​ฮูหยิน​เห​อ​ ปกติ​ก็​ไม่ได้​เห็น​นาง​ด้วยซ้ำ​ เรื่อง​บาง​เรื่อง​จึงเข้าใจผิด​ได้​ง่าย​มาก​ ความจริง​แล้ว​ครั้งนี้​ข้า​ก็​หวังดี​เช่นกัน​ คิด​ว่า​ตง​จื้อ​ยัง​อายุ​แค่​แปด​ขวบ​ และ​เมื่อก่อน​ข้า​ก็​เป็น​คน​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​พวก​นี้​เป็นเพื่อน​นาง​ แต่กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่านหญิง​จะมีแผนการ​อื่น​ ใน​ความคิด​ของ​ข้า​ ฮูหยิน​เห​อ​ก็​เหมือน​จะไม่รู้​เหมือนกัน​ ไม่อย่างนั้น​ฮูหยิน​เห​อ​ก็​คงจะ​ไม่ขอให้​ข้า​พา​ตง​จื้อ​ไป​ด้วย​…”

นาง​เอ่ย​พลาง​สังเกต​สีหน้า​ของ​เกา​เมี่ยว​หวา​

สีหน้า​ของ​เกา​เมี่ยว​หวา​แลดู​แปลก​ไป​เล็กน้อย​

คลุมเครือ​ แต่​ไม่ได้​โกรธ​หรือ​โมโห​อย่าง​แน่นอน​

เกา​เมี่ยวหร​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​หยุด​พูด​ และ​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “ท่าน​พี่​ เป็น​อะไร​ไป​หรือ​?”

เกา​เมี่ยว​หวา​เหมือน​สะดุ้งตื่น​ และ​จู่ๆ ก็​เอ่ย​ว่า​ “เมื่อ​ตอนเที่ยง​ข้า​รับประทาน​อาหารกลางวัน​กับ​พวก​ห​ลี่​เจี่ย​หยวน​ ห​ลี่​เจี่ย​หยวน​บอ​กว่า​ อยาก​ยืม​ภาพวาด​ที่เก็บ​สะสมไว้​ของ​ท่านหญิง​ดู​หน่อย​ ข้า​รับปาก​ไป​แล้ว​ว่า​จะช่วย​พูด​ต่อหน้า​จงเฉวียน​ให้​เขา​…เช่น​…เช่นนี้​จะทำ​อย่างไร​?”

ความโกรธ​ของ​เกา​เมี่ยวหรง​ติด​อยู่​ที่​อก​และ​เจ็บปวด​จน​พูด​อะไร​ไม่ออก​สัก​คำ​นาน​มาก​

นาง​ถูก​เจียง​เซี่ยน​รังแก​แบบนี้​แล้ว​ พี่ชาย​ของ​นาง​ พี่ชาย​ร่วม​สายเลือด​ พี่น้อง​ท้อง​เดียวกัน​ ไม่คิดถึง​ความทุกข์​ของ​น้องสาว​ ทว่า​กลับ​กลุ้มใจ​ว่า​เจียง​เซี่ยน​จะให้​เพื่อน​ของ​เขา​ยืม​ภาพวาด​ดู​หรือไม่​…นี่​ยัง​ใช่พี่ชาย​แท้ๆ​ ของ​นาง​หรือไม่​?

แต่​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ซักถาม​ เกา​เมี่ยว​หวา​ก็​พึมพำ​แล้ว​ว่า​ “ไม่ได้​! เรื่อง​นี้​ข้า​รับ​ปา​กห​ลี่​เจี่ย​หยวน​แล้ว​ หาก​ท่านหญิง​เจีย​หนาน​ไม่ยอม​ให้ยืม​ภาพวาด​ นั่น​ก็​ยุ่งยาก​แล้ว​!” แล้ว​หัน​ตัว​ไป​เอ่ย​เสียงดัง​ว่า​ “น้อง​หญิง​ เจ้ากลับ​ไป​ช่วย​ท่าน​อา​ก่อน​ ไว้​ข้า​ไป​พบ​จงเฉวียน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

เกา​เมี่ยวหรง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่าง​โกรธ​จน​ตัวสั่น​ทั้งตัว​

——————————————————

ทว่า​เวลานี้​เจียง​เซี่ยน​กลับ​กำลัง​คุย​กับ​ฉางเห​ริ่นตง​ “ดังนั้น​…ปลายเดือน​แปด​พี่ชาย​ของ​เจ้าก็​จะมา เช่นนั้น​พวกเรา​ต้อง​เตรียม​อะไร​บ้าง​? ข้า​ได้ยิน​คน​บอ​กว่า​ เปิด​โรง​หมอ​ต้อง​ขาย​ยา​ด้วย​ ถึงจะได้เงิน​ เป็น​แบบนี้​หรือ​? เหมือน​พ่อค้า​ยา​รายใหญ่​มากมาย​ต่าง​ต้อง​เข้าไป​ซื้อ​ยา​ที่​เสฉวน​ พวก​เจ้าต้องการ​หรือไม่​?”

ว่า​กัน​ว่า​เสฉวน​มีมลพิษ​ที่​เป็นอันตราย​ต่อ​ร่างกาย​คน​และ​ทำให้​คนป่วย​ หาก​สามารถ​ทำให้​พี่ชาย​ของ​ฉางเห​ริ่นตง​เข้า​เสฉวน​พร้อม​ห​ลี่​เชีย​น​ได้​ ก็​ถือว่า​ได้ประโยชน์​ด้วยกัน​ทั้งสองฝ่าย​เช่นกัน​

ฉางเห​ริ่นตง​ได้ยิน​แล้วก็​เบิก​ตาโต​เหมือน​ระฆัง​ทองแดง​ทันที​ “ท่าน​เปิด​ร้านขายยา​ ยัง​คิด​จะหาเงิน​ด้วย​อย่างนั้น​หรือ​?”

“ทำไม​ไม่หาเงิน​?” เจียง​เซี่ยน​ย้อนถาม​ “คน​ต่าง​ไม่สนใจ​สิ่งที่​ได้มา​โดย​ไม่เสียเงิน​ ต่อให้​ข้า​อยาก​ใช้เงิน​หรือ​สิ่งของ​ช่วยเหลือ​คน​ที่​ใช้ชีวิต​ลำบาก​ใน​ใต้​หล้า​ ก็​ไม่สามารถ​รักษา​คน​โดย​ไม่รับเงิน​และ​บริจาค​ยา​อย่าง​ไร้​สาเหตุ​ได้​เช่นกัน​ หาก​ฝ่าบาท​ทรง​ทราบ​ จะคิด​ว่า​ข้า​กำลัง​ดึง​คนอื่น​มาเป็น​พวก​ อยาก​จะวางแผน​กบฏ​น่ะ​สิ?”

ไม่ได้​อย่างนั้น​หรือ​?!

ฉางเห​ริ่นตง​นึกถึง​สิ่งที่​เขา​ได้​เห็น​จาก​การ​ขึ้นเหนือล่องใต้​ใน​หลาย​ปี​นี้​ คิด​แล้ว​คิด​อีก​ สุดท้าย​ก็​ยัง​เก็บ​คำพูด​นี้​ไว้​ใน​ใจ และ​เอ่ย​ว่า​ “เช่นนั้น​ท่าน​คิด​จะเปิด​โรง​หมอ​หรือ​เปิด​ร้านขายยา​กัน​แน่​!”

“ต้อง​เปิด​โรง​หมอ​อยู่แล้ว​!” เจียง​เซี่ยน​เอ่ย​พลาง​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​เจ้าเล่ห์​ “หาก​ข้า​อยาก​เปิด​แค่​โรง​หมอ​ธรรมดา​ นั่น​ยัง​มีความหมาย​อะไร​? แน่นอน​ว่า​ต้อง​รอ​ให้​มีค่าตอบแทน​ดี​ถึงจะยอม​ตกลง​ทำงาน​ บอ​กว่า​พี่ชาย​ของ​เจ้าเป็น​หมอ​หลวง​ที่​มาจาก​ใน​วัง​ รักษาโรค​ที่​รักษา​ยาก​ต่างๆ​ โดยเฉพาะ​ รอ​คนอื่น​มาขอร้อง​ที่​บ้าน​ พอ​เริ่ม​มีชื่อเสียง​ ก็​เปิด​โรง​หมอ​เล็ก​ๆ ใน​ตรอก​เล็ก​ๆ ที่​เปล่าเปลี่ยว​ตาม​ความต้องการ​ของ​ทุกคน​ได้​ รักษา​ให้​แค่​คน​ที่​รู้จัก​กัน​ พอ​หน้า​ประตู​เจริญรุ่งเรือง​และ​คึกคัก​ ก็​เปลี่ยน​สถานที่​ได้​…”

ฉางเห​ริ่นตง​มอง​เจียง​เซี่ยน​อย่าง​ตกใจ​มาก​ และ​เอ่ย​ว่า​ “นี่​…นี่​เป็น​ความคิด​ของ​แม่ทัพ​ห​ลี่​หรือ​เป็น​ความคิด​ของ​ท่าน​กั๋วกง​ขอรับ​?”

เจียง​เซี่ยน​เอ่ย​อย่าง​แปลกใจ​ว่า​ “เรื่อง​นี้​เกี่ยว​อะไร​กับ​พวกเขา​สอง​คน​? เจ้ากลัว​พวกเขา​ไม่เห็นด้วย​หรือ​? เจ้าวางใจ​เถอะ​ ใน​เมื่อ​ข้า​ตัดสินใจ​แน่วแน่​แล้ว​ ต่อให้​พวกเขา​ไม่เห็นด้วย​ ข้า​ก็​จะคิด​หาทาง​โน้มน้าว​พวกเขา​ พวก​เจ้าเริ่ม​ทำ​ไป​ก่อน​ได้​เลย​ มีอะไร​ ข้า​รับผิดชอบ​เอง​! จะไม่ทำให้​เจ้ากับ​พี่ชาย​ของ​เจ้าลำบาก​อย่าง​แน่นอน​!”

ฉางเห​ริ่นตง​คารวะ​เจียง​เซี่ยน​ และ​เอ่ย​ว่า​ “เช่นนั้น​ข้า​จะเก็บกวาด​ห้อง​ข้าง​ตะวันออก​ที่​ตนเอง​อยู่​ก่อน​ ไว้​ท่าน​พี่​มาถึงแล้ว​ พวกเรา​ค่อยๆ​ ปรึกษาหารือ​กัน​อย่าง​ละเอียด​อีกที​!”

เจียง​เซี่ยน​พยักหน้า​

ฉางเห​ริ่นตง​ลุกขึ้น​บอกลา​

เจียง​เซี่ยน​มอง​แผ่น​หลัง​ที่​ตรง​ของ​เขา​และ​ถามฉิงเค่อ​อย่าง​งุนงง​ว่า​ “เจ้ารู้สึก​ว่า​ท่าน​หมอ​ฉางแตกต่าง​ไป​จาก​ปกติ​หรือไม่​?”

ฉิงเค่อ​คิด​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “วันนี้​เขา​ไม่ล้อ​ท่าน​เล่น​”

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท