มู่หนานจือ – บทที่ 340 ยืมภาพวาด

มู่หนานจือ

เจียง​เซี่ยน​คิดดู​แล้ว​ ก็​เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​

ปกติ​เวลา​ฉางเห​ริ่นตง​มาตรวจ​ชีพจร​ให้​นาง​มักจะ​หยอก​นาง​เล่น​เสมอ​ แต่​วันนี้​กลับ​ไม่มี

อาจจะ​เพราะ​อารมณ์ไม่ดี​หรือ​เรื่อง​ที่​คุย​วันนี้​ค่อนข้าง​สำคัญ​กระมัง​?

เจียง​เซี่ยน​เดา​ และ​ไม่นาน​ก็​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​จน​หมดสิ้น​

นาง​พา​ฉิงเค่อ​ไป​ห้องครัว​อย่าง​เบิกบานใจ​ “วันนี้​อากาศ​ร้อน​กว่า​เมื่อวาน​ ข้า​จะทำ​บะหมี่​เย็น​ให้​ห​ลี่​เชีย​น​ ใส่น้ำส้มสายชู​กับ​พริก​แดง​เยอะ​หน่อย​ แบบนี้​เจริญอาหาร​”

ฉิงเค่อ​หัวเราะ​ และ​รู้สึก​ว่า​วันนี้​ห้องครัว​จะต้อง​วุ่นวาย​ไป​หมด​อีก​อย่าง​แน่นอน​

ครั้งก่อน​ท่านหญิง​จะทำ​บะหมี่​ตั้นตั้น​ สุดท้าย​รังเกียจ​ที่​ห้องครัว​สกปรก​เกินไป​ คนครัว​ใช้เวลา​สามวัน​ทำความสะอาด​ห้องครัว​ จู่ๆ บะหมี่​ตั้นตั้น​ก็​หาย​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​

ทว่า​ถึงจะเป็น​แบบ​นั้น​ ท่าน​แม่ทัพ​ก็​ยัง​ชมท่านหญิง​อย่าง​หนัก​ว่า​ท่านหญิง​ใส่ใจชีวิต​ความเป็นอยู่​ของ​เขา​มาก.​..แม้นาง​จะฟังอยู่​ข้างๆ​ ก็​จำเป็นต้อง​นับถือ​ความสามารถ​ใน​การ​พูดโกหก​อย่าง​ไร้​ความเกรงกลัว​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​เช่นกัน​

ฉิงเค่อ​ไป​ห้องครัว​เป็นเพื่อน​เจียง​เซี่ยน​

——————————————————

ส่วน​ห​ลี่​เชีย​นพ​บ​แขก​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​ตนเอง​

“เจ้าบอ​กว่า​ห​ลี่​เน่อ​หมิ่น​อยาก​ชมภาพวาด​ที่มา​กับ​สินเดิม​ของ​ท่านหญิง​มาก​หรือ​?” เขา​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​มั่นใจ​และ​น้ำเสียง​นิ่งเฉย​ว่า​ “เรื่อง​นี้​ท่านหญิง​รู้​หรือไม่​?”

เน่อ​หมิ่น​เป็น​ชื่อ​ของ​ห​ลี่​หนิง​บุตรชายคนโต​ของ​เจ้าเมือง​ห​ลี่​

เขา​เป็น​เจี่ย​หยวน​ของ​การ​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เซียง​ซื่อ​ที่​จัด​ขึ้น​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ปี​ที่แล้ว​ของ​ซาน​ซี

“ไม่…ไม่รู้​” ห​ลี่​เชีย​น​ที่​เป็น​แบบนี้​ เกา​เมี่ยว​หวา​เพิ่ง​เคย​เจอ​เป็นครั้งแรก​ ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​ ห​ลี่​เชีย​น​มักจะ​ยิ้ม​ แล้ว​วางตัว​เป็นมิตร​และ​ใจกว้าง​มาก​ เดิมที​เขา​คิด​ต้นฉบับ​ไว้​ใน​ใจเรียบร้อย​แล้ว​ พอ​เจอ​ห​ลี่​เชีย​น​ที่​เป็น​แบบนี้​ เขา​กลับ​พูดติดอ่าง​ และ​ขี้ขลาด​เล็กน้อย​ “ดังนั้น​ถึงมาขอ​จงเฉวียน​ จงเฉวียน​กับ​ท่านหญิง​เป็น​สามีภรรยา​กัน​ หาก​เจ้าเอ่ยปาก​ ท่านหญิง​จะต้อง​อนุญาต​อย่าง​แน่นอน​”

หาก​เจียง​เซี่ยน​ไม่อนุญาต​ล่ะ​?

ไม่นาน​ข้างนอก​ก็​จะลือ​ว่า​ท่านหญิง​เจีย​หนาน​ไม่เห็น​เขา​อยู่​ใน​สายตา​ด้วยซ้ำ​หรือเปล่า​? หรือ​ลือ​ว่า​ท่านหญิง​เจีย​หนาน​เป็น​คน​เย่อหยิ่ง​ไร้​มารยาท​ และ​ไม่ใช่ภรรยา​ที่​มีคุณธรรม​?

เขา​หัวเราะเยาะ​ใน​ใจ แต่กลับ​ไม่แสดงออก​ทาง​สีหน้า​ และ​เอ่ย​ว่า​ “สินเดิม​ของ​ท่านหญิง​ล้วน​เป็น​ของล้ำค่า​ คิด​ว่า​ห​ลี่​เน่อ​หมิ่น​ก็​ต้อง​รู้​เช่นกัน​ ใน​เมื่อ​เขา​อยาก​ดู​ ทำไม​ไม่มาหา​ข้า​หรือ​ขอ​พบ​ท่านหญิง​โดยตรง​?”

อันที่จริง​ตอนที่​เขา​กับ​เจียง​เซี่ยน​แต่งงาน​กัน​ ห​ลี่​เจี่ย​หยวน​ก็​มีความคิด​นี้​แล้ว​

หลังจากนั้น​เขา​ยัง​เคย​ปรึกษา​เรื่อง​นี้​กับ​เจียง​เซี่ยน​ด้วย​

เจียง​เซี่ยน​คิด​ว่า​ห​ลี่​เน่อ​หมิ่น​เป็น​ลูกชาย​ของ​เจ้าเมือง​ห​ลี่​ แล้วก็​ค่อนข้าง​มีชื่อเสียง​ใน​แวดวง​ปัญญาชน​ หาก​เขา​เอ่ย​ว่า​อยาก​ชมสินเดิม​ของ​เจียง​เซี่ยน​ ก็​ให้​เขา​ชมแล้วกัน​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ได้​นำ​ออก​ไป​จาก​จวน​ หา​สถานที่​ให้​เขา​ชมและ​วาด​ตาม​ภาพ​เดิม​สักพัก​ก็ได้​ จะได้​ขยาย​ชื่อเสียง​ของ​จวน​สกุล​ห​ลี่​ใน​แวดวง​ปัญญาชน​ด้วย​

เวลานี้​ห​ลี่​เน่อ​หมิ่น​ไม่มา แต่​เกา​เมี่ยว​หวา​กลับ​โผล่​มา

ห​ลี่​เชีย​น​ไม่ต้อง​เดา​ก็​รู้​เช่นกัน​ว่า​นี่​เป็น​สิ่งที่​เกา​เมี่ยว​หวา​ตั้งใจ​ทำ​เพื่อ​โอ้อวด​ตนเอง​

ซึ่งเกา​เมี่ยว​หวา​ก็​ดึง​มาไว้​กับ​ตัวเอง​เพื่อ​โอ้อวด​ต่อหน้า​ห​ลี่​เจี่ย​หยวน​จริงๆ​ เช่นกัน​

เพียงแต่​เขา​จะมีหน้า​บอ​กห​ลี่​เชีย​น​ได้​อย่างไร​

ถึงแม้เขา​กับ​ห​ลี่​เชีย​น​จะเติบ​โตมา​ด้วยกัน​ตั้งแต่​เด็ก​ ทว่า​ความสัมพันธ์​กับ​ห​ลี่​เชีย​นก​ลับ​ธรรมดา​มาก​

ใน​ความคิด​ของ​เขา​ ตระกูล​ห​ลี่​มาจาก​ตระกูล​โจร​ท้องถิ่น​ จึงไม่ค่อย​รู้หนังสือ​ แม้ห​ลี่​เชีย​น​จะเฉลียวฉลาด​หลักแหลม​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​สงบ​จิตใจ​เรียนหนังสือ​ได้​ พอได้​ตำแหน่ง​ซิ่ว​ไฉก็​ไม่ยอม​แสวงหา​ความก้าวหน้า​แล้ว​ และ​เริ่ม​หา​ช่องทาง​ประจบประแจง​ผู้มีอำนาจ​เพื่อ​แสวงหาผลประโยชน์​ให้​ตนเอง​ ลุ่มหลง​ใน​เส้น​ทางการ​เป็น​ขุนนาง​

เขา​ดูถูก​การ​เลือก​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​

แล้ว​กลับ​จิบ​เหล้า​และ​ดื่ม​ชากับ​ห​ลี่​หลิน​ที่​นิสัย​สุภาพ​และ​มีมารยาท​ เรียน​ประวัติศาสตร์​และ​ถกเถียง​ปัจจุบัน​ จึงเข้ากันได้​มากกว่า​

ดังนั้น​เขา​มาขอร้อง​ห​ลี่​เชีย​น​ ก็​รู้สึก​ขัดแย้ง​เล็กน้อย​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตอนที่​พวกเขา​รวมตัวกัน​ มักจะ​มีคน​เอ่ยถึง​ห​ลี่​เชีย​น​ บอ​กว่า​ห​ลี่​เชีย​น​โชค​ดีแล้ว​ ไม่เพียงแต่​แต่งงาน​กับ​ท่านหญิง​เจีย​หนาน​ ยัง​ได้​ภาพวาด​และ​ของโบราณ​ที่​ราชวงศ์​เก็บรักษา​เอาไว้​อย่าง​ดี​มากมาย​เป็น​สินเดิม​ด้วย​ ทำให้​ตระกูล​ห​ลี่​จาก​ตระกูล​เล็ก​ที่​ยากจน​และ​ล้าหลัง​มาก​จน​เกรง​ว่า​ใน​บ้าน​คงจะ​ไม่มีแม้แต่​ ‘บทกวี​ของ​พัน​ปรมาจารย์​’ สัก​เล่ม​ด้วยซ้ำ​กลายเป็น​ตระกูล​ที่​สืบทอด​หนังสือ​ที่เก็บ​สะสมไว้​เกิน​สามพัน​เล่ม​ ทำให้​บัณฑิต​ใน​ใต้​หล้า​ต่าง​อิจฉา​มาก​ ใน​ใจเขา​ก็​เหมือน​ถูก​แมว​ข่วน​ และ​บอก​ไม่ถูกว่า​รู้สึก​อย่างไร​

เขา​ถึงได้​วู่วาม​ไป​ชั่วขณะ​

ตอนนี้​เขา​ใจเย็น​ลง​แล้วก็​ยิ่ง​รู้สึก​แย่​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​เขา​เคย​สัญญาใน​สิ่งที่​ตนเอง​ทำ​ไม่ได้​ต่อหน้า​เพื่อน​ เขา​ก็​หันหลัง​กลับ​ตั้ง​นาน​แล้ว​

เพียงแต่​…พอ​เขา​คิด​อีกที​ จู่ๆ ก็​มีความคิด​หนึ่ง​ที่​ทำให้​เขา​ตื่นเต้น​มาก​

“ชาย​หญิง​แตก​ต่างกัน​!” เกา​เมี่ยว​หวา​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “เดิมที​เน่อ​หมิ่น​อยาก​เอ่ยปาก​กับ​ท่านหญิง​โดยตรง​ แต่​ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​บอก​เจ้าสักหน่อย​จะดีกว่า​ ด้วย​มิตรภาพ​ของ​พวกเรา​ เจ้าคงจะ​ไม่รู้สึก​ว่า​ข้า​จุ้นจ้าน​ไป​หน่อย​ใช่หรือไม่​?”

ห​ลี่​เชีย​น​รู้สึก​ว่า​เขา​จุ้นจ้าน​ไป​หน่อย​จริงๆ​ ยิ่งกว่านั้น​เกา​เมี่ยว​หวา​กิน​ของ​ของ​พวกเขา​อยู่​บ้าน​ของ​พวกเขา​ยัง​แอบ​วางท่า​ดูถูก​เขา​ตลอดเวลา​ เขา​มอง​เกา​เมี่ยว​หวา​ก็​ขัดตา​มาก​เช่นกัน​ จึงเอ่ย​ตรงๆ​ ว่า​ “ข้า​คิด​ว่า​เจ้ายัง​ไม่ควร​เข้าไป​ก้าวก่าย​เรื่อง​นี้​จริงๆ​ อย่า​ว่าแต่​เจีย​หนาน​เป็น​ท่านหญิง​เลย​ ต่อให้​เป็น​ผู้หญิง​ธรรมดา​ อยาก​ยืม​ภาพวาด​ใน​สินเดิม​ของ​นางชม​ นั่น​ก็​ต้อง​บอก​ทุกคน​ที่​วาดภาพ​สักหน่อย​ใช่หรือไม่​? ใคร​จะบุ่มบ่าม​บุก​เข้ามา​อย่าง​เจ้า ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​ภาพวาด​เหล่านั้น​ล้วน​มีมูลค่า​มาก​ เจ้าก็​หุนหันพลันแล่น​เกินไป​หน่อย​เช่นกัน​!”

คำพูด​ของ​เขา​ทำให้​เกา​เมี่ยว​หวา​โกรธ​มาก​

หา​กห​ลี่​เชีย​น​ไม่แต่งงาน​กับ​ท่านหญิง​ จะมีสิทธิ​อะไร​มาว่า​เขา​!

เขา​สูด​หายใจ​ลึก​สอง​สามครั้ง​ถึงจะยับยั้ง​ความโกรธ​ใน​ใจไว้​ได้​ และ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “เช่นนั้น​ก็​ถือว่า​ข้า​จุ้นจ้าน​แล้วกัน​! ข้า​ขอตัว​ก่อน​! ให้​ห​ลี่​เจี่ย​หยวน​มาขอยืม​จาก​เจ้าเอง​แล้วกัน​” พอ​เอ่ย​จบ​ก็​สะบัด​แขน​เสื้อ​จากไป​

ห​ลี่​เชีย​น​นั่ง​โกรธ​อยู่​ตรงนั้น​นาน​มาก​ จนกระทั่ง​หายโกรธ​พอสมควร​แล้ว​ ถึงจะกลับ​ห้อง​หลัก​

เจียง​เซี่ยน​กำลัง​สั่งให้​สาวใช้​วาง​ถ้วย​กับ​ตะเกียบ​อย่าง​ร่าเริง​ พอ​เห็น​เขา​กลับมา​ ก็​เข้า​มาหา​อย่าง​ดีใจ​ และ​เอ่ย​ว่า​ “วันนี้​พวกเรา​กิน​บะหมี่​เย็น​! ข้า​ให้​แม่ครัว​ใช้น้ำมัน​ผัด​พริก​แดง​แล้ว​ถึงจะราด​ลง​ไป​ใน​บะหมี่​ ต้อง​อร่อย​มาก​อย่าง​แน่นอน​!”

ห​ลี่​เชีย​น​ก็​ยิ้ม​พลาง​มอง​นาง​พัก​หนึ่ง​

เจียง​เซี่ยน​เอ่ย​อย่าง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ “เจ้ามอง​อะไร​?”

ห​ลี่​เชีย​น​จับมือ​ของ​นาง​และ​ลูบ​ฝ่ามือเบา​ๆ พลาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ข้า​ดู​ว่า​เจ้าบาดเจ็บ​หรือเปล่า​?”

“ไม่แน่นอน​!” เจียง​เซี่ยน​หน้าแดง​เล็กน้อย​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ และ​บอก​ให้​แม่ครัว​ทำ​ ไม่ได้​ลงมือ​เอง​เสียหน่อย​”

“เจ้าก็​เป็น​คน​บอก​ให้​นาง​ทำ​เช่นกัน​” ห​ลี่​เชีย​น​ยิ้ม​และ​จูงนาง​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ “วันนี้​หิว​จะตาย​อยู่แล้ว​ อากาศ​ก็​ร้อน​อีก​ ตอนที่​เพิ่ง​กลับ​มายัง​คิด​อยู่​ว่า​ดื่ม​น้ำแกง​ถั่วเขียว​สัก​ถ้วย​ก็​พอแล้ว​ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าจะทำ​บะหมี่​เย็น​ ข้า​ได้ยิน​แล้วก็​น้ำลายไหล​ตลอด​ ต้อง​ลอง​ชิมสักหน่อย​ หาก​อร่อย​ พรุ่งนี้​ให้​ใน​ห้องครัว​ทำ​เยอะ​หน่อย​ และ​ส่งไป​ให้​ท่าน​พ่อ​ด้วย​”

“ได้​สิ ได้​สิ!” เจียง​เซี่ยน​ก็​ชอบ​ให้​ทั้ง​ครอบครัว​มากินข้าว​และ​เล่น​ด้วยกัน​อย่าง​คึกคัก​ ต่อให้​ทะเลาะ​กัน​ก็​สนุก​เช่นกัน​

ใช้เฉียว​ม่าย​[1]ที่​ออก​ใหม่​ทำ​จน​บะหมี่​นุ่ม​เหนียว​และ​ลื่น​ชุ่มคอ​ บวก​กับ​เครื่องปรุง​ที่​เปรี้ยว​เผ็ด​ ทำให้​ห​ลี่​เชีย​น​ที่​ตัดสินใจ​ว่า​ไม่ว่า​บะหมี่​นี้​จะอร่อย​หรือไม่​ก็​ต้อง​กิน​หนึ่ง​ชามใหญ่​ชมเป็น​เสียง​เดียว​ และ​ถามเจียง​เซี่ยน​ทันที​ว่า​ “ยังมี​อีก​หรือไม่​? หาก​ยังมี​อีก​ ส่งไป​ให้​ท่าน​พ่อ​ตอนนี้​เลย​ เขา​ก็​ต้อง​ชอบ​กิน​มาก​เหมือนกัน​อย่าง​แน่นอน​!”

เจียง​เซี่ยน​เอง​ไม่กิน​เผ็ด​ นาง​จึงเปลี่ยน​พริก​เป็น​น้ำตาล​ บะหมี่​เปรี้ยวหวาน​ ก็​เจริญอาหาร​มาก​เหมือนกัน​ จึงสั่งให้​พวก​ฉิงเค่อ​ส่งบะหมี่​เย็น​ที่​รสเปรี้ยว​เผ็ด​ให้​ห​ลี่​ฉางชิง และ​บะหมี่​เย็น​ที่​รส​เปรี้ยวหวาน​ให้​ฮูหยิน​เห​อ​ ห​ลี่​ตง​จื้อ​ ป้า​เห​อ​ และ​เห​อถง​เหนียง​

ไม่นาน​ ทาง​เรือน​ตะวันออก​ก็​ส่งเสียง​ชื่นชม​มา

ห​ลี่​ฉางชิงกิน​จน​ท้อง​ใหญ่​เหมือน​กระบุง​และ​นั่ง​อย่าง​อ่อนแอ​ไร้​เรี่ยวแรง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่ซือ​ พลาง​ถอนหายใจ​และ​เอ่ย​กับ​เกา​ฝูอวี้​อย่าง​มีความสุข​มากว่า​ “ลูกสะใภ้​ของ​ข้า​คน​นี้​ฐานะ​มีอำนาจ​มาก​ ตอนที่​แต่ง​นาง​เข้ามา​ ข้า​ขอ​เพียง​ให้​นาง​ดี​กับ​ลูกชาย​ของ​ข้า​หน่อย​ แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ ข้า​ยังมี​วัน​ได้​กิน​บะหมี่​ที่​ลูกสะใภ้​ทำ​ด้วย​ มิน่าเล่า​คนอื่น​ถึงต่าง​บอ​กว่า​ข้า​มีวาสนา​ ข้า​ก็​ยังมี​วาสนา​ตอน​แก่​จริงๆ​ ด้วย​!”

ทำให้​เกา​ฝูอวี้​ที่​เดิมที​คิด​จะต่อว่า​เจียง​เซี่ยน​กับ​ห​ลี่​ฉางชิงได้ยิน​แล้ว​อยาก​พูด​แต่​ก็​หยุด​ไว้​ สุดท้าย​คุย​เล่น​กับ​ห​ลี่​ฉาชิงสอง​สามคำ​ก็​ลุกขึ้น​บอกลา​

———————————–

[1] เฉียว​ม่าย​ = บัค​วี​ท​

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท