มู่หนานจือ – บทที่ 343 ความสัมพันธ์

มู่หนานจือ

คุณหนู​ลู่​ประหลาดใจ​มาก​

ตอนนั้น​ที่​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​เป็น​แขก​ที่​ตระกูล​ห​ลี่​ พูดจา​ก็​ไม่ค่อย​เกรงใจ​ ใน​ฐานะ​ที่อยู่​เป็นเพื่อน​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ เห​อถง​เหนียง​ควรจะ​ออกหน้า​ปกป้อง​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ถึงจะถูก​ แต่​หลังจาก​เห​อถง​เหนียง​พูด​อย่าง​ตะกุกตะกัก​ไม่กี่​คำ​ก็​ไม่รู้​จะพูด​อะไร​แล้ว​ จึงทำให้​คน​จำว่า​เห​อถง​เหนียง​ไม่เพียงแต่​ขี้ขลาด​ ทว่า​ยัง​อ่อนแอ​ด้วย​

นาง​คิดไม่ถึง​ว่า​ไม่เจอกัน​เพียง​ไม่กี่​วัน​ เห​อถง​เหนียง​กลับ​จะคุย​กับ​นาง​เอง​ และ​น้ำเสียง​จริงใจ​ ทำให้​คน​รู้สึก​ชอบ​

คุณหนู​ลู่​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ข้า​ไม่เป็นไร​! แค่​งานเลี้ยง​ติดกัน​หลาย​วัน​ จึงเหนื่อย​นิดหน่อย​!”

เห​อถง​เหนียง​โล่งอก​ และ​ยิ้ม​ให้​นาง​เล็กน้อย​อย่าง​เป็นมิตร​มาก​

คุณหนู​ลู่​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

คิด​ว่า​ถึงอย่างไร​เห​อถง​เหนียง​ก็​ยัง​มีประสบการณ์​ไม่มาก​นัก​ จึงยังคง​มีความใส​ซื่อ​ไร้เดียงสา​อยู่​เล็กน้อย​ ไม่รู้​ว่า​นานๆ​ ไป​ จะกลายเป็น​เจ้าเล่ห์​ขึ้น​เหมือนกัน​หรือไม่​

รับประทาน​อาหารกลางวัน​แล้ว​ ทุกคน​ไป​ดื่ม​ชากับ​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​ที่​ห้อง​ข้าง​ฝั่งตรงข้าม​ก่อน​ ให้​ห้อง​ข้าง​ฝั่งนี้​ว่าง​ จะได้​ให้​พวก​หญิง​รับใช้​ทำความสะอาด​ จัด​โต๊ะ​ใหม่​ เดี๋ยว​จะได้​ดู​งิ้ว​

เวลานี้​พวก​คุณหนู​ที่​อยาก​เข้า​ส้วม​หรือ​เติม​เครื่องสำอาง​ต่าง​ก็​พา​สาวใช้​ที่​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ตนเอง​ไป​ห้อง​เล็ก​ด้านหลัง​แล้ว​

คุณหนู​ลู่​ไป​กับ​เห​อถง​เหนียง​และ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ ตอนที่​กลับมา​บังเอิญ​ได้ยิน​คุณหนู​จวง​กำลัง​เอ่ย​เสียงดัง​อยู่​พอดี​ “…เสียดาย​ที่​พี่​สามหยวน​ไม่ได้​ไป​ ข้า​ได้ยิน​ท่าน​แม่บอ​กว่า​ พวกเขา​อาจจะ​ใช้คนใน​ห้องเครื่อง​ แตงกวา​ดอง​ทำได้​รสชาติ​เมืองหลวง​มาก​ เพียงแต่​ไม่ค่อย​ถูกปาก​ท่าน​แม่ ทว่า​ลูก​นก​พิราบ​ใส่เครื่องเทศ​ทั้ง​ห้า​ของ​พวกเขา​ทำได้​ดี​สุด​ๆ ท่าน​แม่รู้สึก​ว่า​อร่อย​มาก​ ยัง​คิด​ว่า​อีก​ไม่กี่​วัน​จะส่งคน​ไป​ถามท่านหญิง​ว่า​ อาหาร​นี้​ทำ​อย่างไร​ หาก​สามารถ​ยืม​คนครัว​ของ​พวกเขา​ได้​ก็​ยิ่ง​ดี​เลย​ แต่​ยืม​ไม่ได้​ก็​ไม่เป็นไร​ ข้า​เขียนจดหมาย​ให้​ท่าน​ยาย​ ให้​นาง​หา​คนครัว​ที่​มาจาก​ห้องเครื่อง​ให้​ข้า​สัก​คนก​็เหมือนกัน​ ถึงเวลา​นั้น​จะเชิญทุกคน​ไป​กินเลี้ยง​”

ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ได้ยิน​ว่า​ใน​คำพูด​คุณหนู​จวง​เกี่ยวพัน​ถึงเจียง​เซี่ยน​ ทั้งสอง​คน​จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​หยุด​ฝีเท้า​ แล้วก็​ได้ยิน​คุณหนู​สามหยวน​เอ่ย​ว่า​ “ขอบคุณ​มาก​” ด้วย​รอยยิ้ม​สดใส​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ท่านหญิง​เจีย​หนาน​ฐานะ​มีอำนาจ​มาก​ จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​แขก​ครั้งแรก​ ต้อง​เชิญเหล่า​ฮูหยิน​ที่​ค่อนข้าง​โดดเด่น​ใน​เมือง​ไท่​หยวน​อย่าง​แน่นอน​ ท่าน​แม่ของ​ข้า​อาจจะ​ไม่ติดอันดับ​ด้วยซ้ำ​ นับประสาอะไร​กับ​ข้า​?”

“พี่​สามหยวน​ก็​อย่า​ดูถูก​ตนเอง​เกินไป​เช่นกัน​ พวกเรา​ต่าง​คิด​ว่า​ท่าน​ดีมาก​” ทั้งสอง​คน​ก็​ได้ยิน​คุณหนู​ใหญ่​ชางลูกพี่ลูกน้อง​ที่​มีศักดิ์​เป็น​พี่สาว​ของ​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​เอ่ย​ว่า​ “เพียงแต่​ท่านหญิง​เพิ่ง​มาถึง จึงยัง​ไม่รู้จัก​พี่​สามหยวน​เท่านั้นเอง​ หาก​ท่านหญิง​รู้จัก​พี่​สามหยวน​ ก็​จะต้อง​เชิญพี่​สามหยวน​เป็น​แขก​อย่าง​แน่นอน​”

แน่นอน​ว่า​นี่​เป็น​คำพูด​ที่​เอ่ย​ไป​ตาม​พิธี​เพื่อ​ยกย่อง​คน​

คุณหนู​สามหยวน​ก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ และ​ไม่เอ่ย​อะไร​ต่อ​

คน​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​นาง​เป็น​ลูกสาว​ของ​พัศดี​คน​หนึ่ง​ใน​เมือง​ไท่​หยวน​ นาง​ถามอย่าง​อยากรู้​ว่า​ “คุณหนู​จวง​ เคย​เจอ​ท่านหญิง​เจีย​หนาน​หรือไม่​? นาง​หน้าตา​เป็น​อย่างไร​? ข้า​ได้ยิน​ว่า​นาง​รูปร่างหน้าตา​ไม่มีใคร​เทียบ​ได้​ ทำให้​แม่ทัพ​ห​ลี่​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​ตกหลุมรัก​ตั้งแต่​แรกเห็น​ จึงป้วนเปี้ยน​อยู่​หน้า​ประตู​วัง​ ดังนั้น​หลังจาก​ท่านหญิง​เจีย​หนาน​ล่วงเกิน​เฉาไทเฮา​ จึงถูก​เฉาไทเฮา​พระราชทาน​ให้​แม่ทัพ​ห​ลี่​ เป็น​ความจริง​หรือไม่​?”

“เรื่อง​นี้​ก็​ข้า​ไม่รู้​แล้ว​!” คุณหนู​จวง​ปิดปาก​ยิ้ม​ ทว่า​ใน​น้ำเสียง​กลับ​แฝงเจตนาร้าย​เล็กน้อย​ “ถึงอย่างไร​ นาง​นอกจาก​ผิวขาว​มาก​แล้ว​ ก็​ไม่มีอะไร​ แต่งตัว​เหมือน​คนแก่​มาก​ ไม่เหมือน​หญิงสาว​แม้แต่​นิดเดียว​ ท่าน​แม่บอ​กว่า​ นั่น​เป็น​เพราะ​นาง​เติบโต​ใน​วัง​” คุณหนู​จวง​เอ่ย​จบ​ก็​เอ่ย​อย่าง​ลึกลับ​มาก​อี​กว่า​ “พวก​เจ้าอาจจะ​ยัง​ไม่รู้​กระมัง​? ฝ่าบาท​ขึ้น​ครองราชย์​ตั้งแต่​อายุ​หก​ขวบ​ ปี​นี้​ถึงจะตัดสินใจ​ตั้ง​ฮองเฮา​ คน​ที่อยู่​ใน​วัง​แต่เดิม​ ล้วน​เป็น​สนม​ของ​ฝ่าบาท​พระองค์​ก่อน​และ​พวก​แม่ม่าย​ พวก​เจ้าก็​น่าจะ​จินตนาการ​ได้​ว่า​เมื่อก่อน​นาง​ใช้ชีวิต​อย่างไร​แล้ว​…”

นาง​ยัง​เอ่ย​ไม่จบ​ ก็​เห็น​ห​ลี่​ตง​จื้อ​พุ่ง​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​โกรธจัด​แล้ว​

คุณหนู​จวง​หยุด​พูด​อย่าง​ร้อนตัว​เล็กน้อย​ทันที​ และ​ไอ​เบา​ๆ ครั้งหนึ่ง​

ใคร​จะรู้​ว่า​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กลับ​คว้า​ถ้วย​ชาบน​โต๊ะ​ชาข้าง​กาย​นาง​ขึ้น​มาและ​โยน​ใส่หน้า​คุณหนู​จวง​

คุณหนู​จวง​กรีดร้อง​

คุณหนู​สามหยวน​ตกใจ​ แล้ว​รีบ​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​สอง​ก้าว​ขวาง​อยู่​หน้า​คุณหนู​จวง​

ถึงจะเป็น​เช่นนี้​ นาง​ก็​ยัง​ช้าไป​ก้าว​หนึ่ง​อยู่ดี​ ชาครึ่ง​ถ้วย​ส่วนใหญ่​สาด​ลง​บน​หน้า​และ​บน​ตัว​ของ​คุณหนู​จวง​แล้ว​ จนกระทั่ง​บน​หน้า​และ​บน​ตัว​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​กาก​ใบชา​ เลอะเทอะ​มาก​

“ห​ลี่​ตง​จื้อ​ เจ้าคิด​จะทำ​อะไร​?” คุณหนู​จวง​ร้อง​ตะโกน​อย่าง​โกรธจัด​

พวก​คุณหนู​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​ต่าง​พา​กัน​เข้า​ไปหา​ บางคน​ถามนาง​ว่า​ “โดน​ลวก​หรือเปล่า​” บางคน​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ให้​นาง​เช็ดหน้า​ แล้วก็​สั่งให้​หญิง​รับใช้​ที่​รับใช้​ใน​ห้อง​ไป​เรียก​สาวใช้​ที่​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​คุณหนู​จวง​…ไม่ว่า​จะเป็น​คุณหนู​หรือ​นาย​หญิง​ ตระกูล​ที่​พิถีพิถัน​หน่อย​เวลา​ออก​ไป​ข้างนอก​ไม่เพียงแต่​ต้อง​พา​คน​ที่​ติดตาม​รับใช้​ข้าง​กาย​ไป​ ทว่า​ยัง​ต้อง​พก​เสื้อผ้า​กับ​เครื่องประดับ​สอง​สามชุด​และ​เครื่องสำอาง​ไป​ให้​พร้อมด้วย​ กลัว​ว่า​หาก​ไม่ระวัง​แล้ว​เหล้า​กับ​น้ำ​หก​ลง​บน​ตัว​และ​เสื้อผ้า​ไม่เรียบร้อย​ ก็​สามารถ​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​และ​แต่ง​ตัวใหม่​ได้​ทันเวลา​

แม้แต่​คุณหนู​สามหยวน​ ก็​รีบ​หันไป​ถามคุณหนู​จวง​อย่าง​ร้อนใจ​มาก​เช่นกัน​ “โดน​ลวก​หรือเปล่า​?”

คุณหนู​จวง​พอ​ถูก​ล้อม​แบบนี้​ ก็​ยิ่ง​เย่อหยิ่ง​และ​จองหอง​ จน​เรียก​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ที่​ได้สติ​กลับมา​ก็​รู้สึก​หวาดกลัว​เล็กน้อย​ จึงยืน​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​ค่อนข้าง​เซื่องซึม​ว่า​ “เจ้าอยาก​ตาย​หรือ​!”

คุณหนู​สามหยวน​อด​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​ พอ​เห็น​ว่า​บน​หน้า​คุณหนู​จวง​ไม่มีแม้แต่​รอย​แดง​สัก​รอย​ ก็​รู้​ว่า​น้ำชา​นั้น​อาจจะ​ถูก​ใคร​ดื่ม​ไป​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว​ จึงไม่ลวก​แล้ว​ คุณหนู​จวง​เพียงแค่​ศีรษะ​กับ​หน้า​เปียก​ ไม่ได้รับบาดเจ็บ​ นาง​ถึงวางใจ​ จึงเริ่ม​ไกล่เกลี่ย​ความขัดแย้ง​ให้​เรื่องราว​สงบ​ลง​และ​เตือน​ให้​คน​หยุด​ทะเลาะ​กัน​

“อา​เป้ย​ เจ้าออก​ไป​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​ก่อน​ แล้ว​ดู​ว่า​บน​ตัว​โดน​ลวก​หรือไม่​” นาง​เอ่ย​พลาง​เงยหน้า​มอง​สาว​ใช้กับ​หญิง​รับใช้​ที่​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​คุณหนู​จวง​วิ่งเหยาะๆ​ เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ซีดเผือด​ทั้ง​หน้า​ แล้วก็​โอบ​ไหล่​ของ​คุณหนู​จวง​ไป​ทาง​พวก​สาว​ใช้กับ​หญิง​รับใช้​ “ถึงแม้อากาศ​จะร้อน​ แต่​เจ้าร่างกาย​บอบบาง​และ​ถูก​เลี้ยง​มาอย่าง​ดี​ตั้งแต่​เด็ก​ หาก​เป็นหวัด​ก็​ยุ่งยาก​แล้ว​”

คุณหนู​จวง​โตมา​ขนาด​นี้​ก็​เพิ่ง​เคย​ถูก​เหยียดหยาม​แบบนี้​เป็นครั้งแรก​ พอ​ได้ยิน​คุณหนู​สามหยวน​เอ่ย​แบบนี้​ ยังอยู่​ได้​ที่ไหน​กัน​ นาง​หันกลับ​ไป​ถลึงตา​ใส่ห​ลี่​ตง​จื้อ​อย่าง​ดุร้าย​ครั้งหนึ่ง​ และ​กัดฟัน​เอ่ย​ว่า​ “เจ้ารอ​ข้า​ก่อน​” แล้ว​รีบ​เดิน​ไป​ห้อง​เล็ก​ที่​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​โดย​มีเหล่า​สาวใช้​และ​หญิง​รับใช้​ของ​ตนเอง​ล้อม​อย่าง​แน่นหนา​

คุณหนู​สามหยวน​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ ถึงพบ​ว่า​ใน​ห้อง​นี้​นอกจาก​นาง​แล้ว​ พวก​ติง​หวั่น​ต่าง​ก็​ไม่อยู่​ ทว่า​คุณหนู​ลู่​ที่​ตาม​ห​ลี่​ตง​จื้อ​เข้ามา​กลับ​ยืน​มอง​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ โดย​ไม่คิด​ที่จะ​เข้ามา​แทรกแซง​อย่าง​สิ้นเชิง​ นาง​อดไม่ได้​ที่จะ​ปวดศีรษะ​มาก​ และ​จำเป็นต้อง​ออกหน้า​จัดการ​เรื่อง​นี้​

“ข้า​เห็น​ว่า​เจ้าเป็น​เด็ก​ที่​ว่านอนสอนง่าย​มาก​ ทำไม​ถึงอารมณ์ร้อน​ขนาด​นี้​?” คุณหนู​สามหยวน​ยิ้ม​และ​เข้าไป​โอบ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ที่​ยัง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่าง​เซื่องซึม​ แต่​ตากลับ​มอง​ไป​ที่​เห​อถง​เหนียง​ “หญิง​รับใช้​ที่​ติดตาม​รับใช้​ข้าง​กาย​พวก​เจ้าล่ะ​? เจ้าก็​ไป​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​และ​ล้าง​หน้าที่​ห้อง​ข้างๆ​ เป็นเพื่อน​คุณหนู​ห​ลี่​เถอะ​? เดี๋ยว​ยัง​ต้อง​ดู​งิ้ว​อีก​นะ​!”

คุณหนู​จวง​เติบโต​ใน​บ้าน​ของ​ลุง​ที่​เมืองหลวง​ตั้งแต่​เด็ก​ ต้นปี​ที่แล้ว​ถึงจะถูก​ฮูหยิน​จวง​รับ​มาอยู่​ข้าง​กาย​ และ​ไม่ออกมา​เข้าสังคม​บ่อย​นัก​ ทุกคน​จึงไม่ค่อย​รู้จัก​นาง​ แต่​ก็​มองออก​ว่า​ ฮูหยิน​จวง​รัก​นาง​มาก​ เวลานี้​คุณหนู​จวง​ถูก​หลี่​ตง​จื้อ​สาด​น้ำชา​ทั้งตัว​ ดูท่าทาง​ของ​คุณหนู​จวง​ เกรง​ว่า​จะไม่ใช่เรื่อง​ที่​สามารถ​จัดการ​ได้​ด้วย​คำพูด​ไม่กี่​คำ​หรือ​ขอโทษ​สักครั้ง​

คุณหนู​สามหยวน​เตือน​ให้​ห​ลี่​ตง​จื้อ​รีบ​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​คนใน​ครอบครัว​

นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ห​ลี่​ตง​จื้อ​สามารถ​จัดการ​ได้​ด้วย​ตนเอง​แล้ว​

เวลานี้​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ได้สติ​กลับมา​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​เช่นกัน​

นาง​รู้สึก​ว้าวุ่น​ใจมาก​ทันที​

ตระกูล​ห​ลี่​เป็น​ผู้​ที่​เป็น​ขุนนาง​ระดับสูง​ได้​ไม่นาน​ ทว่า​ความสัมพันธ์​ใน​วงการ​ราชการ​กลับ​ซับซ้อน​ ทุกครั้งที่​นาง​ตาม​มารดา​ออก​ไป​เข้าสังคม​ ฮูหยิน​เห​อ​ก็​จะกำชับ​ให้​นาง​เชื่อฟัง​ อย่า​ก่อเรื่อง​ และ​ยัง​บอก​นาง​ว่า​ ‘พวกเรา​หาเรื่อง​ใคร​ไม่ได้​ทั้งนั้น​! พ่อเจ้า​อยู่​ข้างนอก​ลำบาก​พอแล้ว​ เจ้าอย่า​ก่อเรื่อง​ให้​ตระกูล​ ให้​พ่อเจ้า​ขอโทษ​คน​และ​ทำ​อะไร​ตามอารมณ์​คนอื่น​เพราะ​เรื่อง​ของ​เจ้าอย่าง​เด็ดขาด​ ไม่อย่างนั้น​ต่อให้​พ่อเจ้า​ไม่ตี​เจ้าตาย​ ต่อไป​ก็​จะไม่สนใจ​เจ้าอีกแล้ว​!’

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท