โยโยกิ-ฮาจิมัน
ผมหยิบออร์บเก็บไว้ในกระเป๋าเเล้วรีบออกไปจากตรงนั้น ครึ่งนึงของรถบรรทุกกึ่งเทรลเลอร์ก็ยังถูกฝังอยู่ในดิน ถึงรูด้านล่างจะหายไปในพริบตา เเต่รอยเเผ่นดินเเยกก็ยังคงอยู่
ผมไม่อยากจะถือออร์บไปมาตอนที่ยังเปียกอยู่ เลยตัดสินใจโทรกลับไปที่บริษัทเพื่อขอเลิกงานเร็ว ในอีกฝั่งของโทรศัพท์ เอโนกิกำลังพ่นคำด่าใส่ผม “ครับ ครับ เข้าใจเเล้วครับ” ผมตอบกลับเหมือนหุ่นยนต์เเล้ววางสาย
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ผมออกมาจากห้องอาบน้ำภายในห้องของตัวเองเเละนั่งลงที่โต๊ะโคทัตสึที่ตั้งอยู่ข้างเตียงมาตลอดทั้งปี
“เอาล่ะ เจ้านี่มันขายได้เท่าไรนะ”
ผมเเตะไปที่ออร์บเเละได้รับรู้ชื่อของมัน ดูเหมือนกับว่าตัวเลขปริศนาข้างใต้ชื่อของมันนั้นคือเวลาที่ผ่านไปตั้งเเต่ออร์บนี้ดรอปออกมา เมื่อตัวเลขนี้ไปนึง 1436 นาที ออร์บจะหายไป คนส่วนมากบนโลกรู้เรื่องนี้อยู่เเล้ว
“เมย์คิง-0074 เจ้าเเห่งฤดูใบไม้ผลิ หรอ? ฟังดูไม่เลวเลยนี่ น่าจะเกี่ยวกับการเกษตรรึปล่าว”
ผมเปิดโนตบุคเเละเข้าไปที่ รายการออร์บที่JDAต้องการเเละใส่คำว่า ‘เมย์คิง’ ลงไป เเต่ทว่าผลการค้นหากลับเป็นศูนย์
รายการออร์บที่ต้องการซื้อนั้นจะเเสดงว่า บริษัท องค์กร หรือบุคคลทั่วไปประสงค์จะจ่ายเงินเท่าไรเพื่อซื้อออร์บนั้นๆ ใครก็ตามที่มีออร์บเหล่านี้สามารถติดต่อ JDA เพื่อให้เป็นคนกลางในการซื้อขายได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากพบออร์บเเล้ว ผู้ขายมีเวลาเเค่หนึ่งวันในการขาย ทำให้ไม่สามารถทำการเลือกซื้อของบนชั้นวางเหมือนอย่างร้านค้าทั่วไปได้ เเละก็ไม่มีเวลาจะจัดการประมูลเช่นกัน สุดท้ายเเล้วก็ต้องใช้การซื้อขายเเบบต่อหน้า
“เเย่เลยเเฮะ” ผมพูด “อย่างน้อยก็ขอดูหน่อยละกันว่ามันทำอะไรได้บ้าง”
ผมเข้าไปที่ฐานข้อมูลสกิลของJDAเเละพิมพ์ “เมย์คิง”ลงไป เเละก็เป็นอีกครั้งที่ผลการค้นหาเท่ากับศูนย์
“เฮ้ เฮ้ นี่มันอะไรเนี่ย เป็นสกิลที่ไม่มีใครรู้จักรึไง”
เเน่นอนว่าฐานข้อมูลของ JDA นั้นเชื่อมต่อกับ WDA เพราะฉะนั้น พูดในอีกเเง่คือ จนมาถึงตอนนี้ ยังไม่มีเคยพบสกิลออร์บนี้มาก่อน สกิลออร์บที่ไม่มีใครรู้จักและไม่รู้ว่าทำอะไรได้นั้นเเทบจะไม่มีช่องทางในการซื้อขาย สุดท้ายเเล้วก็ไม่สามารถตั้งราคาขายได้ เเละเเน่นอนว่าไม่มีเวลาจะมาตรวจสอบหรือต่อรองราคาด้วย
“ความฝันที่จะรวยทางลัด…จบสิ้นซะเเล้ว จะออกจากงานอะไรกัน”
ผมไหล่ตกเมื่อคิดถึงปัญหาที่จะต้องเจอตอนไปทำงานวันรุ่งขึ้น หลังจากที่จมอยู่กับความคิดที่ทำให้จิตใจห่อเหี่ยวนี่สักพัก ผมก็ส่ายหัวไล่ความคิดเเละไปที่ครัวเพื่อต้มน้ำร้อน วางกาลงบนเตา เเละหยิบชาชั้นดีออกมาจากตู้ พยายามที่จะทำให้ตัวเองร่าเริงขึ้น
“เกียวคุโระจากหมู่บ้านโฮชิโนะนี่มันดีจริงๆน้า”
ตั้งอยู่ที่บริเวณขอบของฟุคุโอกะกับโออิตะ หมู่บ้านโฮชิโนะนั้นเป็นผู้นำการผลิตของเกียวคุโระ – ชาเขียวคุณภาพสูง ของญี่ปุ่น โดยทั่วไปจะถูกขายในชื่อของ ชาเขียวยาเมฉะ
หลังจากที่ต้มน้ำเเล้ว ผมก็หยิบกาออกจากเตา ระหว่างที่รอให้น้ำอุณหภูมิลดลงสักหน่อย ผมก็มองไปยังสกิลออร์บที่วางอยู่บนโต๊ะ
“คงต้องใช้เองสินะ”
หลังจากที่เทยาเมฉะลงในแก้วด้วยอุณหภูมิที่ควบคุมมาอย่างดี ผมก็กลับมานั่งที่โต๊ะโคทัตสึอีกครั้ง เเละยกเเก้วชาขึ้นมาจิบ
“หือ รสชาติมันเข้มข้นมากกว่าปกติเยอะเลย ทำอะไรผิดไปจากเดิมรึปล่าวนะ”
เอาเถอะ ถ้ามันยังอร่อยอยู่ก็โอเคเเหละ ไม่ได้คิดอะไรมาก ผมจึงหยิบสกิลออร์บขึ้นมา
“เอาล่ะ เวลาเเบบนี้ก็ต้องใช้คำๆนั้นสินะ”ผมพูดพลางนึกถึงคำพูดหนึ่งจากมังงะเเปลกๆเรื่องนึง ผมปิดตา ใช้สกิลออร์บ เเละตะโกนเสียงดังพอที่จะไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ‘ฉันจะเลิกเป็นมนุษย์เเล้ว!’”
มีความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกตามมา เหมือนอะไรบางอย่างวิ่งอยู่ทั่วร่างกาย ผมไม่รู้สึกว่าร่างกายมีอะไรเปลี่ยนเเปลงไป รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะนึกว่าโลกจะดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“บางทีอาจจะเหมือนเซ็กส์ก็ได้ พอเคยทำเเล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร… ช่างเถอะ จะใช้สกิลยังไงล่ะทีนี้”
ปกติเเล้วผมจะค้นหาในอินเตอร์เนตเสมอเวลาสงสัยอะไร ผมลองค้นหาผู้มีประสบการณ์การใช้สกิลออร์บในอินเตอร์เนต เเต่เเน่นอน ผมไม่มีทางรู้ว่าอันไหนเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเเต่ง
ลองอ่านดูหลายๆอย่างเเล้ว สุดท้ายที่ผมรู้มาก็คือ ‘อยู่ดีก็รู้ขึ้นมาเอง’ อยู่ดีๆก็รู้นี่มันหมายความว่ายังไงล่ะ
ผมหลับตาเเล้วเอามือกอดอก กลืนชาทีเหลืออยู่ลงคอ เเต่สุดท้ายเเล้วก็..
ไม่รู้อะไรเลย
หรือว่าผมล้มเหลวในการรับสกิลกันเเน่ เเต่ผมก็นึกถึงดี-การ์ดขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิด สกิลที่มีต้องถูกบันทึกไว้ในนั้น
“เดี๋ยวนะ เก็บการ์ดไว้ที่ไหนเนี่ย น่าจะอยู่ใกระเป๋ากางเกงรึปล่าว”
ผมไปหยิบกางเองออกมาจากตะกร้าผ้าใช้เเล้ว เเละควานหาในกระเป๋า เเละเจอการ์ดสีเงินในที่สุด
“เอาล่ะ สกิลๆ”
ชื่อ : โยชิมูระ เคโกะ
แอเรีย : 12
เเรงค์ : 1
สกิล : เมย์คิง
“เยส! ในการ์ดมีสกิลเขียนเอาไว้จริงๆ…” หลังจากที่เห็นบางอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ผมมาดูที่การ์ดอีกครั้ง “หา?”
สายตาผมมีปัญหาอะไรรึปล่าว ผมใช้ชิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขยี้ตาเเละมองไปที่การ์ดอีกครั้ง ถึงอยากนั้นก็ยังเห็นเหมือนเดิม
“ระ-เเรงค์หนึ่ง?”
ตัวเลขหนึ่งนั้นส่องสว่างอยู่บนการ์ด
“เดี่ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ใช่ว่าเป็นเเรงค์เก้าสิบเก้าล้านกว่าหรอ”
เเต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมสำรวจการ์ด เเรค์ก็ยังคงเป็นหนึ่งอยู่ ตามสันนิฐานที่เป็นที่ยอมรับกัน ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการกำจัดมอนสเตอร์จะเป็นตัวกำหนดเเรงค์ ถ้าเป็นอย่างนั้น…
“หลังจากที่ทำเหล็กรีบาร์ร่วง ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวน หรือว่า…?”
ถ้าเป็นเรื่องนอกเหนือจากนั้นผมก็นึกอะไรไม่ออกเเล้ว ไม่งั้นก็ต้องขับรถไปทับตัวอะไรสักอย่างตอนกลับบ้าน หลังจากที่คิดเรื่องนี้อยู่สักพัก ผมก็เงยหน้าขึ้นพลางนึกอะไรออกขั้นมา
“ถ้าเป็นที่หนึ่ง ก็หมายความว่าผมต้องเเข็งเเกร่งสุดๆสินะ”
สามปีมาเเล้วที่ดันเจี้ยนเเห่งแรกปรากฏขึ้นมาบนโลกนี้เเละตั้งเเต่เเรกเริ่มเลยที่พวกทหารถูกผลักดันให้เข้าไปทำการสำรวจ ถึงตอนนี้จะมีนักสำรวจที่เป็นคนธรรมดา เเต่พวกเเรงค์สูงๆส่วนมากจะเป็นทหารหรือไม่ก็ตำรวจ นี่ผมเเซงความความพยายามตลอดสามปีของพวกเขามาได้ในหนึ่งอึดใจเลยงั้นหรอ? ไม่รู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นเลยสักนิด
“เเถมไม่รู้สึกว่าตัวเองเเข็งเเกร่งขึ้นสักนิด ไม่ใช่ว่าจะหมุนลูกบิดจนหักคามือได้สักหน่อย”
ผมลองจับลูกบิดที่ประตูทางเข้าเเละบิดมันสุดเเรง แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
“ถ้างั้นเเล้วเวทมนตร์ล่ะ เดี๋ยวก่อน ถ้ามันเป็นสกิลก็ไม่น่าจะมีผลกับความสามารถทางร่างกายนี่”
ผมนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันเพื่อพยายามหาข้อมูลที่สุดท้ายเเล้วก็ปล่าวประโยชน์
กลับสู่ด้านบน | ทั้งหมด | 1- | ล่าสุด 50
จัดอันดับนักสำรวจของโลก WDARL(World Dungeon Association Ranking List) กระดานสนทนา
US : มีใครเห็นเเรงค์กิ้งโลกรึยัง
RU : ใช่ วีรบุรุษของรัสเซีย ดิมิทรี เนลนิคอฟตอนนี้กลายเป็นเเรงค์สองแล้ว เป็นครั้งเเรกเลยหลังจากมีการจัดอันดับจากทาง WRL เลยใช่มั้ย
GB : งั้นตอนนี้ใครล่ะที่เป็นเเรงค์หนึ่ง
US : เหมือนกับคนๆนั้นไม่ได้ลงทะเบียนไว้น่ะ
RU : อะไรนะ งั้นก็เป็นคิงเเซลมอนหรือไม่ก็เเม่มดแห่งเเคมเบลน่ะสิ
US : ไม่ ไม่น่าใช่หรอก ตอนนี้นักสำรวจนิรนามจากแอเรียสองนั้นอยู่ที่เเรงค์เก้า เเละนักสำรวจนิรนามจากแอเรียสิบเอ็ดอยู่ที่เเรงค์สิบเจ็ด
DE : ฉันกำลังลองเปรียบเทียบทั้งรายชื่อก่อนเเละหลังการเปลี่ยนแปลงอยู่
DE : อย่างน้อยๆ ไม่มีใครใน200อันดับสูงสุดที่เข้าข่ายเลย
GB : ว่าไงนะ?
FR : เรื่องใหญ่เเล้วล่ะ ไม่มีใครที่อยู่ในอันดับสามหลักที่เข้าข่ายเหมือนกัน
US : พวกนายรู้ได้ยังไง
FR : นอกจากญี่ปุ่นเเล้ว ไม่มีเมืองใหญ่ไหนเลยทีอยู่ในแอเรีย12 ถึงจะนับรัสเซียเเละอินโดนิเซียด้วยก็เหอะ อย่างมากก็คือเมืองแอดเอเลดของออสเตรเลีย
FR : ในญี่ปุ่น แอเรียสิบสองนั้นครอบคลุมตั้งเเต่ฟุกุโอกะไปจนถึงโตเกียว มีคนเยอะมากเลยทีเดียว เเต่ว่าญี่ปุ่นนั้นมีการก่อตั้งระบบจัดการอย่างรวดเร็ว เลยทำให้นักสำรวจแรกเริ่มส่วนมากนั้น ถูกลงทะเบียนในฐานะของกองกำลังป้องกันตนเอง
FR : ในรายชื่อของเเรงค์สามหลัก แทบจะไม่มีนักสำรวจที่ไม่เปิดเผยตัวตนที่อยู่ในแอเรียสิบสองเลย ฉันลองรวบรวมข้อมูลของคนพวกนั้นมาดู เเต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
US : เดี่ยวนะ นายกำลังจะบอกว่า คุณX นี่อยู่ดีๆก็โผล่มาเป็นเเรงค์หนึ่งจากอันดับสี่หลักงั้นหรอ
JP : คนๆนั้นชื่อ ลุค สกายวอคเกอร์ รึปล่าว ใช้ฟอซได้ใช่มั้ย
US : ฮ่าฮ่า ตลกแแล้ว บางทีคนๆนี้อาจจะมาจากลำดับห้าหลักก็ได้
JP : นั่นก็เกินไป…
FR : เดี๋ยวฉันจะลองหาในเเคชย้อนหลังดู
GR : ขอให้โชคดี
DE : หรือว่ามีดันเจี้ยนใหญ่ๆถูกพิชิตได้อะไรเเบบนี้หรอ
GB : ล่าสุดก็ที่เดนเวอร์
US : ใช่ เเต่คนที่เคลียร์คือทีมไซมอน
GB : หรือเป็นใครบางคนที่อยู่ในทีมนั่น?
US : อย่าโง่ไปหน่อยน่า คิดว่าจะมีใครบางคนในอันดับสี่หลักอยู่ในทีมไซมอนเเละเเซงพวกเขาได้หรอ ไม่มีทาง
GB : งั้นคนๆนั้นกลายเป็นเป็นเเรงค์หนึ่งได้ยังไงล่ะ
US : ……
DE : ……
JP : ……
RU : หรือคนๆนั้นจะพิชิตดันเจียนใหญ่ที่ไม่มีใครรู้ได้ด้วยตัวคนเดียว?
GB : ตอนนี้เเทบทุกอย่างมี WDA ควบคุมดูเเลอยู่ ทำให้นั่นมันเป็นไปไม่ได้เลย เเถมลำดับควรจะค่อยๆขึ้นมาสิ เว้นเสียเเต่ว่าคนๆนั้นเคลียร์ดันเจียนนั่นได้ภายในวันเดียว
US : ต้องมาจากดาวคริปตอนเเน่
DE : ไม่ล่ะ ต้องมาจาก เมสไซอา 78 เนบิวลาร์
GB : ใช้น้ำสีฟ้ารึปล่าว หรือว่ามีร่างกายที่บินได้สามนาที
JP : พวกนายรู้จักวัฒนธรรมของพวกเราดีชะมัด ฉันนี่ซึ้งใจจริงๆ
FR : ทุกคน ฉันลองตรวจสอบดูจนถึงหกหลักเเล้ว
DE : ผลเป็นไง
FR : เจอว่า…ไม่มีใครเข้าข่ายเลย
GB : จากเกือบล้านคน ไม่มีใครตรงกันเลยงั้นหรอ
FR : ในหกหลัก จะมีจำนวนคนธรรมดาเยอะขึ้นมาก ทำให้กลายเป็นว่าต้องไปเปรียบเทียบกับคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนในแอเรียสิบสอง การหาให้ละเอียดกว่านี้คงจะเป็นไปไม่ได้เเล้วล่ะ
DR : กลายเป็นเรื่องลึกลับไปซะเเล้ว
US : หลังจากผ่านไปสามปี ก็มีคนนิรนามโผล่มาอย่างกับดาวหาง เท่ดีออกว่าไหม