สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 93 อัญเชิญ

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 93 อัญเชิญ

ท่านผิงอันพยายามฝืนใจเต็มกลืนเอ่ยว่า “ข้ามาขอพบผู้ดูแลร้านของพวกเจ้า”

หลิวโจวสีหน้าประหลาดใจ แต่ก็มิได้ปฏิเสธ “เช่นนั้นก็เข้ามาก่อน”

คนงานเอี้ยวตัวหลบ ท่านผิงอันก็เดินเข้าไป

เขามองไปรอบๆ อย่างไม่รู้ตัว การจัดวางในโถงกลางยังคงเหมือนภาพในความทรงจำ เพียงแต่รายละเอียดหลายจุดประณีตมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงของหนังสือ ตอนเขาย้ายไปร้านหนังสือหย่าซิน ร้านหนังสือชิงซงก็อยู่ในช่วงขาลงแล้ว แม้ชั้นหนังสือวางหนังสือไว้เต็ม แต่กลับไม่ได้วางเต็มแน่นทุกมุมอย่างเช่นตรงหน้าตอนนี้ มองดูให้ดีล้วนเป็นเรื่อง ‘วาดหนัง’

หลิวโจวรู้สึกได้ถึงอาการตกใจของท่านผิงอัน ก็เผยสีหน้าได้ใจ

ผู้ใดจะคิดว่าการค้าร้านหนังสือถึงกับฟื้นคืนจนถึงขั้นนี้ได้! ตอนนี้ไม่เพียงแค่ ‘วาดหนัง’ เล่มสองมีไม่พอขาย เล่มหนึ่งก็ยังมีลูกค้าใหม่มาซื้อหากันมาก โรงพิมพ์ด้านหลังไม่ได้หยุดงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ได้ยินผู้ดูแลร้านบอกว่าเป็นเพราะเรื่องราวของลูกค้าหญิงผู้นั้นแพร่ออกไป ทำให้คนที่ไม่อ่านนิยายหลายคนอยากรู้อยากเห็นมาซื้อไปอ่านบ้าง คนเหล่านี้มากยิ่งกว่าคนชอบอ่านนิยายมาก ตอนนี้กระแสนิยมในเมืองหลวงก็คือผู้คนทุกระดับต่างสนทนาเรื่อง ‘วาดหนัง’

ความจริงไม่ต้องให้ผู้ดูแลเอ่ย ตั้งแต่เจ้าของร้านซื้อร้านหนังสือ เขาก็มองออกว่า เจ้าของร้านของพวกเรามีหัตถ์ทองเทพเจ้า!

“สือโถว ไปเชิญผู้ดูแลร้านมาหน่อย บอกว่าท่านผิงอันมา”

สือโถวรับคำไปยังเรือนตะวันออก

ไม่นานผู้ดูแลร้านหูก็ก้าวเข้ามา พอกวาดตามองเห็นท่านผิงอันก็เผยรอยยิ้มละไม “ท่านผิงอัน มาแต่เช้าตรู่ มีอันใดหรือ”

ตอนนั้นท่านผิงอันจากไปไม่ค่อยดีนัก ผู้ดูแลร้านหูเห็นว่าเป็นการเสียบร้านหนังสือชิงซงดาบหนึ่งก่อนไป และยังเสียบจุดตายเสียด้วย

ท่านผิงอันประสานมือ “ผู้ดูแลร้าน ข้าอยากขอพบท่านซงหลินสักครา”

เขาอยากดูว่าคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ยับเยินแท้จริงเป็นเช่นไร

ผู้ดูแลร้านหูนิ่งอึ้งไปทันที เขายังคิดว่าท่านผิงอัน ถูกฝั่งตรงข้ามขับไล่ออกมา จึงคิดหวนกลับมา ที่แท้ก็อยากพบท่านซงหลิง

“เช่นนั้นก็ต้องขออภัยจริงๆ ท่านซงหลิงไม่ได้พักอยู่ร้านหนังสือเรา”

“ผู้ดูแลร้านพอจะบอกได้ไหมว่าท่านซงหลิงพักที่ใด”

ในใจผู้ดูแลร้านหูคิดว่าอย่าว่าแต่ไม่รู้ แม้ว่ารู้ก็ไม่บอกเจ้าหรอก ไม่เช่นนั้นเกิดเจ้าไปหาเรื่องท่านซงหลิงจะทำอย่างไร

“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าบ้านท่านซงหลิงอยู่ที่ใด”

ในแววตาท่านผิงอันมีไฟโทสะคุกรุ่น “ข้าเพียงแค่ต้องการขอพบท่านซงหลิงสักครา ไยผู้ดูแลร้านจึงได้ปฏิเสธเช่นนี้!”

ผู้ดูแลร้านหูเริ่มรำคาญแล้ว เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “เรื่องของท่านซงหลิง ข้าเองก็ไม่รู้จริงๆ หากท่านไม่มีเรื่องอื่นใดแล้วก็อย่าได้มาเสียเวลาที่นี่อีก”

“เจ้า!”

หลิวโจวผายมือ “เชิญท่าน”

ใบหน้าท่านผิงอันพองบวมดังตับสุกร ถลึงตาจ้องมองทั้งสองคนก่อนจะสะบัดแขนเสื้อจากไป

“ชิชะ คนอันใดกัน” หลิวโจวค้อนปะหลับปะเหลือกใส่ประตูที่ว่างเปล่า

“ข้าไปกวาดหน้าประตูหน่อย” สือโถวถือไม้กว้าวิ่งออกไป

สำหรับสือโถวแล้ว ช่วงเวลาฝุ่นจับไร้ผู้คนของร้านหนังสือชิงซงนั้นก็คือวันเวลาฝุ่นจับมืดมนของเขา โชคดีที่ผู้ดูแลร้านเมตตาอารี ต่อมาได้เจ้าของร้านคนใหม่ช่วยเหลือ ร้านหนังสือตรงข้ามล้วนเป็นคนชั่ว!

พอซินโย่วออกมาจากด้านหลัง ผู้ดูแลร้านหูก็บอกเรื่องที่ท่านผิงอันมาเยือน

“ท่านทำได้ถูกต้องแล้ว ท่านซงหลิงบอกตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ยินดีให้ผู้ใดรู้สถานะและรูปลักษณ์ของเขา ตอนนี้ท่านซงหลิงชื่อเสียงโด่งดัง คนที่คิดสืบข่าวคราวของเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ ทางเราจะต้องระมัดระวังสักหน่อย”

“ท่านเจ้าของร้านวางใจ ผู้ใดก็อย่าได้คิดสืบข่าวคราวท่านซงหลิงจากร้านหนังสือเราแม้แต่คำเดียว”

เพราะอย่างไรเขาเองก็ไม่รู้อันใดจริงๆ

จากนั้นลูกค้าที่มาซื้อหนังสือก็ยิ่งมากขึ้น ทุกคนจึงลืมเรื่องท่านผิงอันมาหาที่ร้านไปอย่างรวดเร็ว ซินโย่วทำงานยุ่งอยู่พักหนึ่งก็กลับเรือนตะวันออก ผ่านไปไม่นานคนเฝ้าประตูก็มารายงานว่าคุณหนูสามจวนรองเจ้ากรมมา

ซินโย่วสั่งให้เสี่ยวเหลียนไปเชิญต้วนอวิ๋นหลิงเข้ามา

“พี่ชิง ข้าเห็นร้านหนังสือคนแน่นเบียดเข้ามาไม่ไหว ก็เลยตรงมาหาทางนี้แทน”

เสี่ยวเหลียนยกน้ำชาและขนมออกมา

“น้องหลิงดื่มน้ำชา”

ต้วนอวิ๋นหลิงยกชาดอกจวี๋ฮวาขึ้นมาพลางเอ่ยจุดประสงค์ที่มาในวันนี้ “พรุ่งนี้เป็นวันเทศกาลฉงหยาง[1] ท่านย่าจะพาพวกเราออกไปท่องเที่ยวธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วง ให้ข้ามาตามพี่ชิงกลับบ้านไปเตรียมตัว”

“ท่องเที่ยวธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วง?” หลายวันนี้ซินโย่วยุ่งมาก ลืมไปแล้วว่าเทศกาลฉงหยางมาถึงแล้ว

“ใช่ พอดีเทศกาลฉงหยางปีที่แล้วท่านย่าสุขภาพไม่ค่อยดี มีแค่พวกเราไปกัน ท่านย่าบอกว่าปีนี้ขอเพียงไม่มีเรื่องอันใดก็จะไปด้วยกัน”

ซินโย่วไม่รู้สึกสนใจท่องเที่ยวธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วงกับคนจวนรองเจ้ากรม แต่ประเพณีเทศกาลฉงหยางของชาวเมืองหลวง บางทีอาจควรไปสักครั้ง

“ท่านยายได้บอกไหมว่าจะไปท่องเที่ยวที่ใด”

“เขาไป๋ลู่ซานที่พวกเราไปมาเมื่อปีที่แล้ว”

ซินโย่วถอนหายใจ “เรื่องปีที่แล้ว ข้ายังไม่ลืมเลย”

ต้วนอวิ๋นหลิงจึงนึกขึ้นได้ว่าพี่ชิงสูญเสียความทรงจำ อดยิ้มเก้อไม่ได้ “ก็แค่ขึ้นเขาไปชมทิวทัศน์กว้างไกลเท่านั้น ยังกินขนมดอกจวี๋ฮวา ดื่มสุราดอกจวี๋ฮวา มอบพวงดอกจูอวี๋ให้กัน น่าสนุกมาก พี่ชิงไปเถอะเจ้าค่ะ”

เห็นกิจการรุ่งเรืองของร้านหนังสือเช่นนี้ นางก็กลัวว่าพี่ชิงจะปฏิเสธ

ต้วนอวิ๋นหลิงไม่อยากใกล้ชิดกับต้วนอวิ๋นหวา อายุนางก็ห่างจากต้วนอวิ๋นเยี่ยนมาก ในใจก็อยากได้ซินโย่วไปเป็นเพื่อน

“ส่วนใหญ่คนตระกูลใดไปเขาไป๋ลู่ซาน?” ซินโย่วอาศัยข้ออ้าง ‘สูญเสียความทรงจำ’ ถามตรงไปตรงมาได้อย่างสบายใจ

“ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตระกูลขุนนางชนชั้นสูง”

ซินโย่วพยักหน้า “น้องหลิงกลับไปก่อนเถิด ข้าเสร็จงานร้านหนังสือแล้วก็จะกลับไป”

ต้วนอวิ๋นหลิงเชิญนางได้สำเร็จ ก็กลับไปอย่างดีใจ

“เสี่ยวเหลียน อย่าเพิ่งเก็บของ” ซินโย่วโบกมือ “ปีที่แล้วเทศกาลฉงหยาง คุณหนูโค่วกับคุณหนูจวนรองเจ้ากรมไปเขาไป๋ลู่ซาน?”

“อืม ตอนนั้นคุณหนูเพิ่งออกจากการไว้ทุกข์ได้ไม่นาน นับว่าเป็นการออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นครั้งแรก”

“วันนั้นคุณชายไต้ที่มาร้านหนังสือแล้วบังคับซื้อ ‘วาดหนัง’ ไป เขาก็จะไปใช่ไหม”

เสี่ยวเหลียนพยายามระลึกอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้า “บ่าวจำไม่ได้ คนไปเขาไป๋ลู่ซานกันมาก คุณหนูไม่ได้ออกนอกบ้านนานจึงไม่ค่อยชิน ไม่ได้ไปในที่ผู้คนพลุกพล่าน ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่เจาหยางก็เสด็จ นายหญิงหลายตระกูลก็พาลูกหลานในตระกูลไปถวายบังคมองค์หญิงใหญ่”

ได้ยินชื่อองค์หญิงใหญ่เจาหยาง ในใจซินโย่วก็กระตุกวาบ

ท่านแม่เคยเอ่ยถึง นางยังมีท่านอาอีกคน สายสัมพันธ์กับท่านแม่ดีมาก องค์หญิงใหญ่เจาหยางจะใช่ท่านอาที่ท่านแม่เอ่ยถึงหรือไม่

ถึงตอนนี้ แม้ไม่ใช่เพื่อกู้ชางป๋อ ซินโย่วก็คิดจะไปดูสักคราแล้ว

จวนรองเจ้ากรม

นายหญิงผู้เฒ่าได้ยินต้วนอวิ๋นหลิงรายงานก็ยิ้มกล่าวกับนายหญิงบ้านสองจูซื่อ “คิดไม่ถึงจริงๆ ชิงชิงมีความสามารถเช่นนี้ ทำให้กิจการร้านหนังสือรุ่งเรืองขึ้นมาได้”

ระยะนี้นายหญิงผู้เฒ่าได้ยินเรื่องร้านหนังสือชิงซงมา ดังนั้นจึงถือโอกาสตอนออกนอกบ้านมามองอยู่ไกลๆ เห็นคนที่มาซื้อหนังสือเข้าแถวกันออกมาถึงหน้าถนน

การค้าดีเช่นนี้ กล่าวว่าเงินทองเข้ามาเป็นกระบุงก็ไม่มากเกินไป

จูซื่อยิ้มรับคำ “ใช่เจ้าค่ะ”

“ตอนนี้เจ้าดูแลจวน รอให้ชิงชิงกลับมาก็บำรุงสุขภาพนางหน่อย นางจะได้ไม่เอาแต่ยุ่งกับการงานจนเสียสุขภาพ” นายหญิงผู้เฒ่าเอ่ยถึงตรงนี้ก็ยิ้มอย่างมีความหวัง “ชิงชิงเป็นคนมีน้ำใจ เจ้าเป็นท่านป้าดีต่อนาง นางจะต้องจดจำไว้ในใจ”

“ท่านแม่วางใจ ดูแลชิงชิงให้ดีเป็นหน้าที่ของสะใภ้” จูซื่อรับคำ ในใจยิ้มเยาะ

นายหญิงผู้เฒ่ายังคิดอัญเชิญให้พุทธะองค์นี้กลับมาอยู่จวนอีกหรือ ไม่ดูเสียบ้างว่าคนเขาบินไปไกลเพียงใดแล้ว จะยอมกลับมาอยู่ในกรงอีกหรือ

[1] เทศกาลฉงหยางคือวันที่เก้าเดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติของจีน มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การไต่เขาขึ้นที่สูง เสียบผมด้วยพวงจูอวี๋ลูกสีแดง (มีกลิ่นฉุนไว้ไล่แมลงได้) ชมดอกเบญจมาศ(ดอกเก๊กฮวย) ดื่มเหล้าดอกเบญจมาศ เป็นต้น หญิงที่ออกเรือนแล้วก็จะกลับบ้านไปเยี่ยมมารดาตนเอง และแสดงความกตัญญูต่อผู้สูงอายุ

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท