ตอนที่ 11-2 องค์ชายใหญ่
ขณะนี้มีรถม้าอยู่สองสามคันกำลังจอดขวางอยู่ด้านหน้ารถม้าขององค์รัชทายาท
คันแรกเป็นขององค์ชายใหญ่ รถม้าของเขาตกแต่งอย่างหรูหรา รถม้าคันนั้นประดับประดาด้วยไข่มุกหายากอยู่ทั่วทั้งคัน
นอกจากนี้เขายังมีทหารองครักษ์หลายคนอยู่เคียงข้าง หากเปรียบเทียบเขากับองค์รัชทายาทแล้ว ผู้คนคงจะคิดว่าเขาต่างหากที่น่าจะเป็นองค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทตัวจริงกลับดูด้อยค่า และมิมีผู้ใดอยู่เคียงข้างกายเลย
และในขณะนี้ ผู้คนต่างก็มารวมตัวกันอยู่บริเวณถนน แต่ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้
ทุกคนรู้ดีว่า องค์รัชทายาทผู้นี้ขี้โรค ขี้ขลาดและไร้ซึ่งความสามารถ แต่มิมีผู้ใดที่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาเลย
เพราะองค์รัชทายาทแทบมิเคยก้าวออกจากตำหนักของพระองค์
เมื่อมองไปยังองค์ชายใหญ่ที่กำลังยั่วโมโหองค์รัชทายาท ผู้คนต่างก็รอคอยที่จะได้เห็นความอับอายของเขา
ดวงตาขององค์ชายเซิ่งเฉินเจ่าเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ได้ยั่วยุองค์รัชทายาทผู้นี้
แล้วหากเขามิได้เป็นรัชทายาทเล่า?
ฝ่าบาทมิชอบเขา และองค์รัชทายาทผู้นี้ก็มิมีมารดาคอยช่วยเหลืออีกต่อไปแล้ว
ผู้คนต่างมีความคิดเห็นว่าพระองค์คงมิสามารถรักษาตำแหน่งรัชทายาทเอาไว้ได้นานเป็นแน่
เมื่อคิดได้ดังนั้น องค์ชายเซิ่งเฉินเจ่ายิ่งไร้ความเกรงกลัวต่อองค์รัชทายาท
เขาหัวเราะเยาะชางอู๋ซินออกมาด้วยน้ำเสียงอันดัง
ชางอู๋ซินมิได้แยแสต่อการกระทำขององค์ชายใหญ่เลยแม้แต่น้อย วันนี้องค์ชายเซิ่งเฉินเจ่าสวมเสื้อคลุมสีม่วงที่ค่อนข้างฉูดฉาดมาก
น่าเสียดายที่แม้แต่สีม่วงอันทรงเกียรติก็มิสามารถดึงเอาความสูงส่งของเขาออกมาได้
แต่กลับทำให้เขาดูเหมือนบุคคลที่ไร้ความยำเกรงต่อผู้อื่น สีหน้าของเขาค่อนข้างแข็งกร้าว และดุดัน
แต่ดวงตาของเขากลับมิสามารถซ่อนเร้นความในใจของตนเองได้ ชางอู๋ซินเริ่มมีความรู้สึกว่า เสียเวลาที่จะมองคนผู้นี้ นางจึงปิดม่านลงทันที
องค์ชายเซิ่งเฉินเจ่าเป็นผู้ที่มีนิสัยประเภท มักจะเอาแต่ใจตนเอง เขาจึงมิควรค่าแก่การให้ความสนใจของนาง
เมื่อสังเกตเห็นว่า องค์รัชทายาทได้ปิดม่านลงแล้ว อู๋เหว่ยจึงเข้าใจความหมายนั้นได้ในทันที นางเตรียมที่จะบังคับรถม้าออกเดินทางต่อไป
ท่าทีของอู๋เหว่ยทำให้องค์ชายใหญ่ยิ่งเกิดความโกรธกริ้วมากยิ่งขึ้น
ปกติแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เขาพบกับองค์รัชทายาท องค์รัชทายาทก็จะยอมแพ้โดยง่ายทุกครั้งไป
แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทีเพิกเฉย แม้แต่สาวใช้ผู้น่าเกลียดก็ยังกล้าที่จะประพฤติเช่นนั้น
อาจเป็นเพราะองค์ชายใหญ่ผู้นี้มิได้สั่งสอนบทเรียนแก่น้องชายผู้นี้เช่นนั้นหรือ?
“องค์รัชทายาท เหตุใดเจ้าจึงมิออกมาพบพี่ชายผู้นี้เล่า?”
องค์ชายเซิ่งเฉินเจ่าต้องการที่จะจับตัวองค์รัชทายาทและโยนเขาลงมาจากรถม้า
แต่เมื่อเห็นการแสดงออกของเหล่าทหารองครักษ์ เขาจึงรู้ว่า ตนเองมิสามารถทำเช่นนั้นในที่สาธารณะได้
อีกทั้งขณะนี้ยังมีผู้คนมากมายกำลังรายล้อมอยู่โดยรอบ ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงล้อเลียนองค์รัชทายาทต่อไป
“หรือว่าองค์รัชทายาทจะกลัวจนตัวสั่น จึงมิกล้าออกมาจากรถม้า?”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!” ทางฝั่งขององค์ชายใหญ่ต่างก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา และมีผู้หนึ่งกล่าวขึ้นว่า
“ผู้ใดจะทราบได้ บางทีองค์รัชทายาทอาจจะฉี่รดกางเกงด้วยความกลัวแล้วในตอนนี้ ผู้คนต่างก็ทราบว่าองค์รัชทายาทมีนิสัยขี้ขลาดเหมือนหนู!”
ผู้คนต่างกำลังเฝ้าดูว่า องค์ชายใหญ่จะสามารถทำให้องค์รัชทายาทอับอายขายหน้าได้ถึงเพียงใด
แม้แต่องครักษ์ของจักรพรรดิก็ยังกล้าเข้าร่วม เนื่องจากพวกเขารู้ว่าองค์รัชทายาทมีชื่อเสียงเช่นไร
อู๋เหว่ยกำหมัดของตนเองแน่น
และสิ่งที่นางต้องการทำในตอนนี้ มิมีอันใดมากไปกว่าการสังหารผู้คนเหล่านี้
ผู้ที่กำลังเย้ยหยันองค์รัชทายาทอันเป็นที่เคารพรัก
แต่นางก็มิสามารถจัดการกับผู้คนจำนวนมากเหล่านี้ได้ในคราวเดียว
จริงอยู่ที่อู๋เหว่ยสามารถเอาชนะองค์ชายใหญ่ได้ แต่นางก็คงจะมิมีจุดจบที่เลวร้าย
“พวกเจ้าต่างก็ทราบดีว่า องค์ชายผู้นี้เป็นถึงรัชทายาท แล้วเหตุใด พวกเจ้าจึงมิปฏิบัติอย่างที่สมควร?
หรือว่าพระมเหสีฉินสั่งสอนองค์ชายใหญ่ด้วยวิธีนี้?”
น้ำเสียงเยือกเย็นราวกับหิมะได้ดังออกมาจากในรถม้า มันช่างลึกซึ้งและมีความไพเราะเสียเหลือเกิน
เพียงแค่ได้ยินเสียงนั้นก็ทำให้ฝั่งองค์ชายใหญ่หยุดหัวเราะได้ในทันที
และทำให้ผู้คนต่างก็จ้องมองไปยังรถม้าขององค์รัชทายาทด้วยความอยากรู้อยากเห็น
น้ำเสียงที่มีความไพเราะเช่นนี้ รูปร่างหน้าตาของเขาจะมีเสน่ห์เพียงใด? บางทีข่าวลืออาจผิดเพี้ยน
“ท่านต้องการให้องค์ชายผู้นี้คำนับท่านหรือไม่…
นี่เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใดกัน จึงกล้าที่จะสั่งให้ข้าทำความเคารพ?!”
องค์ชายเซิ่งเฉินเจ่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงการประชดประชัน
องค์รัชทายาทเป็นน้องชายที่มักจะให้เคารพ และยำเกรงเขาอยู่เสมอ
แต่ในตอนนี้ กลับกล้าที่จะสั่งให้เขาแสดงความเคารพ องค์รัชทายาทเสียสติไปแล้วหรืออย่างไรกัน?
องค์ชายเซิ่งเฉินเจ่ามิทันได้กล่าวคำเหล่านั้นเสร็จดี ขณะนั้นเขาได้ยินเสียงฮือฮาจากรอบ ๆ ตัวเขา
มิว่าองค์รัชทายาทจะไร้สามารถเพียงใด องค์ชายใหญ่ก็มิควรจะกล่าววาจาเช่นนั้นกับเขา
เพราะคำกล่าวเช่นนั้นขัดต่อกฎหมาย ทำให้ผู้คนต่างก็กำลังจ้องมองไปยังองค์ชายใหญ่ด้วยความรู้สึกที่สับสน