นิยาย สุดยอดรัชทายาทตอนที่ 30 รวบรวมผู้ติดตาม
ทันทีที่รัชทายาทปรากฏตัวปัญหาตรงหน้าพลันคลี่คลาย!
“ท่าทางของข้าดูเหมือนคนขี้แพ้เช่นนั้นหรือ?” ชางอู่ซินเอ่ยถามขณะมองไปยังหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาและคําพูดของเขาก่อนหน้านี้ทําให้อารมณ์ของนางดีขึ้นดังนั้นนางจึงตัดสินใจไว้ชีวิตเขา
หัวหน้าโจรภูเขารู้สึกตกใจกลัวเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าอย่างยิ่งและรู้ว่าเขากําลังเผชิญหน้ากับผู้มีอํานาจก่อนหน้านี้เมื่อเขาเห็นว่ามีอาหารและผู้ติดตามเพียงไม่กี่คนเขาจึงตั้งใจจะปล้นอีกฝ่ายและสายตาของชายหนุ่มที่ดูท่าทางอ่อนแอซึ่งเป็นผู้นํานั้นทําให้ความคิดดังกล่าวเย้ายวนมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ใดจะไปคาดคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นจะเป็นนายใหญ่ผู้สูงส่งเช่นนี้!
“พวกท่านไปกันได้แล้ว! วันนี้ถือว่าข้าตาบอดที่มารบกวนพวกท่าน โอ้เช่นนั้นข้าน้อยจะรีบหลบหนีไปทันที!”หัวหน้าโจรโค้งคํานับด้วยศีรษะของเขาที่ก้มลงดังนั้นคนส่วนใหญ่ย่อมดูถูกวิธีการของโจร แต่ชางอู่ซินกลับมองดูเขาด้วยความชื่นชมด้วยเหตุผลที่ว่าคนเราควรรู้ขีดความสามารถของตนเองและเห็นได้ชัดว่าหัวหน้าโจรผู้นี้ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเขาต้องทําอะไร
ฮวนม่อเฉอมองไปยังการแสดงออกในดวงตาขององค์รัชทายาทและเข้าใจว่าองค์รัชทายาทพอใจกับโจรกลุ่มนี้มากและเขายังตระหนักว่าโจรนั้นฉลาดเพียงใด
โจรไม่รู้จักตัวตนของพวกเขาแม้แต่น้อยทว่ายังคงเรียกพวกเขาว่า “ผู้ยิ่งใหญ่”ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีไหวพริบและหากบุคคลที่มีความสามารถหลากหลายเช่นเขาได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะสามารถเป็นผู้ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมได้เป็นอย่างดีแน่นอน
“จู่ๆ เบงเบงกลับมิต้องการจะจากไป!”ชางอู๋ซินลงจากหลังม้าฮวนม่อเฉอและคนอื่น ๆ ก็เช่นกันนางค่อนข้างพึงพอใจกับนักรบกลุ่มนี้และเริ่มครุ่นคิดว่าจะนําพวกเขามาอยู่ใต้ปีกของนางดีหรือไม่
“เบงกง?” หัวหน้าโจรมองดูเด็กหนุ่ม อย่างหวาดกลัวเนื่องจากผู้เดียวที่จะเรียกตนเองว่า”เบงกง”คือรัชทายาทที่รู้จักกันดี อย่างไรก็ตามเดิมที่กลุ่มโจรเพียงคิดว่าพวกเขาทําให้ขุนนางบางคนขุ่น เคืองเท่านั้นแต่ไม่ใช่องค์รัชทายาท!
“สังหารพวกมัน!พี่น้องของข้าสังหารพวกมันซะ!”เขาคํารามลั่นเนื่องจากเขาตระหนักว่าหากปล่อยคนเหล่านี้ไปพี่น้องของเขาจะต้องเสียชีวิตในภายหลังดังนั้นคงดีกว่าที่จะสังหารผู้ติดตามในตอนนี้และลบร่องรอยของเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาไม่อ่อนต่อโลกพอที่จะเชื่อว่ารัชทายาทจะปล่อยพวกเขาไปจริงๆ
“ช่างน่าสนใจ…” ริมฝีปากของชางอู่ซินโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอันเย็นชาก่อนที่นางจะเปิดตัวต่อหน้าโจรตามด้วยฮวนม่อเฉอที่ยังคงกังวลแม้จะรู้ว่ารัชทายาททรงฝึกฝนวิทยายุทธ์
เบื้องหลังพวกเขา ในทันใดทหารเข้าโจมตีกลุ่มโจรเพื่อไม่ให้เสียหน้าองค์ชายของพวกเขา
ช่างอู๋ซินไร้ซึ่งอาวุธ ตั้งแต่มายังโลกนี้เมื่อไม่นานนี้นางยังไม่พบอาวุธที่เหมาะสมสําหรับคนเช่นนางอาวุธของพวกเขาย่อมไม่ต่างจากตัวตนที่สองดังนั้นนางจึงไม่รีบเร่งที่จะเสาะหามันสําหรับเรื่องนี้คงต้องพึ่งพาการทํางานของโชคชะตา
ทุกครั้งที่นางเผชิญหน้ากับโจร นางจะหักแขนหรือขาของพวกมัน แต่เวลานี้นางได้รับบาดเจ็บทางร่างกายเท่านั้นด้วยวิธีนี้พวกโจรจะยังคงสามารถดําเนินชีวิตต่อไปได้
“ไว้ชีวิตพวกมัน!” นางออกคําสั่งอย่างกะทันหันด้วยน้ําเสียงที่ไม่อาจโต้แย้งได้แม้เหล่าทหารจะรู้สึกสับสนถึงกระนั้นย่อมไม่มีผู้ใดกล้าขัดขึ้นโดยพวกเขายังคงต่อสู้ด้วยอาวุธของตนแต่ไม่ได้ตั้ง เป้าที่จะทําให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บที่คุกคามถึงชีวิต
โจรภูเขานั้นแข็งแกร่งแต่เมื่อเปรียบเทียบกับทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่า งดีของผู้ติดตามพวกเขายังคงด้อยกว่ายิ่งไปกว่านั้น ทหารที่ติดตามมาในครั้งนี้ทุกคนล้วนมีความพิเศษเนื่องจากพวก เขาถูกคัดเลือกมาจากวังหลวงโดยเฉพาะเป็นผลให้พวกโจรทั้งหมดต้องร้องโหยหวนอยู่บนพื้น
หัวหน้าโจรภูเขารูปร่างกํายําสังเกตเห็นว่าพี่น้องของเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บแต่ปราศจากผู้เสียชีวิตหัวใจของเขาจึงสั่นสะท้านและจับไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บของเขาขณะที่หันไปสอบถาม“เจตนาของรัชทายาทคืออะไร?ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ข้าน้อยสามารถทําได้แม้ต้องบุกน้ําลุยไฟข้าก็จะทํามันให้สําเร็จ!”
ชางอู่ซินตรวจสอบเขาอย่างละเอีย ดก่อนเอ่ยถามว่า“เจ้าชื่อเรียงเสียงไร?เจ้าคือผู้นํากลุ่มโจรภูเขานี้หรือ?”
“ขอรับ ข้าน้อยคือหลินเจียเอ๋อผู้นํากองโจรบนเขาลูกนี้!” หลินเจียเอ่อคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กหนุ่มและต้องการคว้าเสื้อคลุมที่ขาวสะอาดของอีกฝ่ายทว่าถูกดาบยาวสกัดไว้และเมื่อมองขึ้นไปเขาเห็นสุภาพบุรุษที่สง่างามเป็นพิเศษอีกท่านหนึ่งอย่างไรก็ตามสุภาพบุรุษมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มเย็นชา ส่งผลให้ หลินเจียเอ๋อไม่กล้าเข้าใกล้องค์รัชทายาทอีกต่อไป
“หลินเจียเอ๋อ…ข้าต้องการเจ้า!”คํากล่าวของชางอู่ซินทําให้ทุกคนประหลาดใจและพวกเขาเริ่มสงสัยว่ารัชทายาทกําลังคิดสิ่งใดอยู่ ในทางกลับกันฮวนม่อเฉอรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขแม้เขาจะ ตระหนักว่าองค์รัชทายาทไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งแต่อย่างใด แต่เขายังคงทนฟังรัชทายาทกล่าวเช่นนั้นกับผู้อื่นไม่ได้
“ข้า?” หลินเจียเอ๋อกอดตัวเองด้วยความกลัว“องค์รัชทายาทโปรดไว้ชีวิตผู้ต่ําต้อยคนนี้ข้าน้อยผู้นี้น่าเกลียดและจะทําให้องค์ชายแปดเปื้อนดูนั่น!” ทันใดนั้นเขาชี้ไปที่ฮวนม่อเฉอ“สุภาพบุรุษผู้นี้สง่างามและหล่อเหลาเขาเข้ากันกับท่านได้มากกว่าและจะสามารถตอบสนองความต้องการของท่านได้อย่างแน่นอน!”
คํากล่าวนี้ทําให้คนอื่นๆรู้สึกงงงันแต่ยังคงจับใจความได้ทันทําให้ทหารหลายคนถึงกับต้องกลั่นหัวเราะในขณะเดียวกันใบหน้าของฮวนม่อเฉอกลายเป็นสีแดงก่ําจนถึงลําคอและไม่ต้องการปลิดชีพหลินเจียเอ๋ออีกต่อไปตามความเป็นจริงเขาเริ่มรู้สึกคาดหวังเล็ กน้อย
“ไร้สาระ!” ทันใดนั้นเสียงของสตรีที่เกรี้ยวโกรธพลันดังขึ้นสตรีชุดดําปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาผมของนางถูกมัดเป็นหางม้าทรงสูงและมีคนหลายร้อยคนติดตามนางมาเป็นเหตุให้ทหารทั้งหมดยกอาวุธขึ้นเพื่อเตรียมปกป้ององค์รัชทายาท
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดคือมีร่องรอยแผลเป็นที่แก้มของสตรีผู้นี้ทว่านางไร้ความตั้งใจที่จะปกปิดมันขณะทั้งร่างของนางเปล่งประกายความสง่างามแห่งความมั่นใจในตนเองออกมา
โดยบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนางทุกคนวนแต่งกายด้วยชุดสีดําซึ่งมีอักษร“ช่าง”ตัวเดียวปักเย็บบนเสื้อคลุมของพวกเขาต่อมาสตรีผู้นั้นพาพวกเขาไปหารัชทายาทและคุกเข่าลง
“ถวายพรพรองค์ชาย ผู้ใต้บังคับบัญชามาถึงแล้วเพคะ!”
อู่เหว่ยรายงานตัวอย่างตื่นเต้น เมื่อนางได้รับข้อความจากองค์รัชทายาทเมื่อสองสามวันก่อนนางมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ
ก่อนหน้านี้องครัชทายาทไม่ได้พานางหรืออิจกับผู้ติดตามเดินทางมาทางใต้ด้วยดังนั้นนางจึงกังวลอย่างยิ่งและทันทีที่ได้รับข้อความจากองค์รัชทายาทนางจึงรีบนําผู้ติดตามสองสามร้อยคนเดินทางมา
ถึงกระนั้นสิ่งแรกที่นางได้ยินเมื่อมาถึงคือคํากล่าวที่อวดดีเหล่านั้น
ช่างอู๋ซินสํารวจผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้านางขณะที่แต่ละคนยืดตัวขึ้นทันทีและพยายามทําให้ดีที่สุดบางคนได้รับการฝึกฝนโดยขันที่ไห่ และบางคนได้รับการรวบรวมและฝึกฝนโดยอู่เหว่ยโดยมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกองกําลังทั้งหมดอย่างไรก็ตามพวกเขาล้วนเคยเห็นองค์รัชทายาทมาก่อน
บางครั้งองค์รัชทายาทจะจัดการฝึกอบรมเป็นการส่วนตัวโดยทุกคนใน “กลุ่มโลหิตชาง”ล้วนมองว่ารัชทายาทเป็นเทพเจ้าของพวกเขา!
ชางอู๋ซินตั้งชื่อกลุ่มพลังนี้ว่า “โลหิตชาง” และตอนนี้ยังเป็นพลังที่น่าเกรงขามมาก!นั่นคือเหตุผลที่นางยอมให้ส่วนหนึ่งของพวกเขาออกมาจัดการภารกิจในวันนี้นางเชื่อว่าจากนี้ไปกองทัพโลหิตชางจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับความนับถือมากที่สุด
อย่าว่าแต่ผู้อื่น แม้แต่ฮวนม่อเฉอเองยังตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของกลุ่มคนเนื่องจากเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่ารัชทายาทจะมีกําลังมหาศาลอยู่ในมือ
นอกจากนี้หัวหน้ากลุ่มยังเป็นสาวใช้ส่วนตัวของรัชทายาทอีกด้วย การมอบความรับผิดชอบอันหนักหน่วงให้กับสตรีผู้หนึ่ง… การกระทําที่กล้าหาญแต่มั่นใจเช่นนี้ทําให้ฮวนมอเฉอชื่นชมองค์ชาย มากยิ่งขึ้น
“จับคนพวกนี้ไป!” ชางซินออกคําสั่ง
นางขาดกําลังคนและการหาคนจํานวนมากขึ้นนั้นใช้เวลานาน โดยไม่คาดคิดคราวนี้เมื่อนางเดินทางไปทางใต้นางเริ่มมีแผนเกี่ยวกับโจรภูเขาที่นางต้องเผ ชิญระหว่างทาง
โจรภูเขาล้วนมีฝีมือไม่มากก็น้อยและสามารถฝึกสอนได้นอกจากนี้ คนทั้งหมดเป็นพวกนอกกฎหมายที่ทําทุกอย่างเพียงเพื่อให้มีชีวิตอยู่ดังนั้นพวกเขาจึงเหมาะกว่าตราบใดที่พวกเขาได้รับการฝึกฝนและดูแลอย่างถูกต้องชางซินตระหนักว่าตนจะไม่ต้องกังวลกับ ความภักดีของพวกเขา
หลังจากที่อู่เหว่ยนําเหล่าขุนโจรออกไปชางอู่ซินเหลือบมองทหารที่เหลืออยู่ขณะดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้าด้วยแสงลึกลับและไปเส้าหลินเป็นคนแรกที่คุกเข่าพร้อมร้องตะโกนออกมา
“กระหม่อมให้คํามั่นว่าจะจงรักภักดีต่อรัชทายาท!”เขาตั้งใจเอาไว้แล้วดังนั้นฉากเมื่อครู่ที่เขาเห็นจึงเป็นการช่วยยืนยันการตัดสินใจของเขา
“ผู้ใต้บังคับบัญชาให้คํามั่นว่าจะจงรักภักดีต่อองค์รัชทายาท!” ทหารคุกเข่าลงที่ละคนพวกเขาเองก็ถือว่าองค์รัชทายาทเป็นเจ้านายของพวกเขาแล้วเช่นกัน
“ข้าไม่มีวันละทิ้งพวกเจ้า!” ฮวนม่อเฉอเดินไปที่ด้านข้างชางอู่ซินพร้อมกล่าวด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนทว่าแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจอย่างแรงกล้า
ชางอู๋ซินพยักหน้าเห็นด้วยแล้วมองไปที่อู่เหวย “จากที่นี่ไปทางใต้ มีภูเขามากมาย”
นางยื่นกระดาษให้อู่เหว่ย “เบงเบงหวังว่าเจ้าจะสามารถกวาดล้างกลุ่มโจรภูเขาทั้งหมดเพื่อทําเครื่องหมายไว้ภายใต้ธงรบของเราอ๋จกําลังเดินทางมาที่นี่หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งเมื่อกลับไปที่ เมืองหลวง”
“เพคะ หม่อมฉันจะไม่ทําให้องค์ชายผิดหวัง!”อู่เหว่ยให้คํามั่นสัญญา
ด้วยเหตุนี้ช่างอู่ซินจึงขี่ม้าของนางและนําทหารออกไปโจรภูเขาที่นางต้องการนั้นคือผู้ที่นางเห็นว่าสมควรรับไว้สําหรับโจรภูเขาที่นางไม่ได้รับเข้าร่วมกลุ่มคือผู้ที่นางดูแคลนและนางไม่ชอบเสียเวลากับสิ่งที่ไร้ประโยชน์