บทที่ 867 หลี่จิ่วเต้า ‘แค่คิดก็เห็นภาพแล้ว!’
ถุงน่องสีดำคู่กับรองเท้าส้นสูง
หลี่จิ่วเต้าเห็นภาพในพริบตา ห้วใจพลันเร่าร้อน ไม่อาจสลัดภาพนี้ออกจากหัว
“โลกนี้ไม่มี…แต่ข้าทำเองได้!”
ทักษะจักสานของเขาก็อยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน เฉลียวฉลาดช่างประดิษฐ์ ถุงน่องสีดำไม่ถือว่ายากสำหรับเขา
“กระโปรงสั้นก็สำคัญ!”
ถุงน่องสีดำไม่ใส่คู่กับกระโปรงสั้นนับว่าเสียของทีเดียว ถุงน่องสีดำขับให้เห็นขาเรียวยาวสุดวาบหวาม ส่วนกระโปรงสั้นสามารถเผยขายาวเรียวสวยออกมาได้เต็มที่
“รีบไปดีกว่า”
เขาเร่งความเร็ว กระบี่ฉุนจวินพาดผ่านผืนฟ้าประดุจแสงดาวตก
“คุณชายเป็นอันใดไป?!”
ด้านหลัง กิเลนไฟหน้าตามึนงง
ดูจากท่าทีคุณชาย คล้ายว่ามีเรื่องรีบร้อน เรื่องใดทำให้คุณชายร้อนใจได้เพียงนี้กัน?
“คุณชายลืมข้าไปแล้ว!”
มันนึกอยากร้องไห้ กระบี่ฉุนจวินไวเกินไป มันไล่ตามไม่ทันเลย หากมิใช่มันรู้ว่าคุณชายต้องกลับเมืองชิงซาน มันคงไม่รู้ว่าต้องไปที่ใด
หลังจากนั้นมันรีบไล่ตามไป ทว่าไม่เห็นแม้เงาของคุณชาย
ผ่านไปไม่นาน หลี่จิ่วเต้าก็เหินกระบี่ฉุนจวินกลับมาถึงนอกเมืองชิงซาน เขาก้าวลงจากกระบี่ เดินเท้าเข้าเมือง
“หากมีพรสวรรค์ฝึกฝนจริง ร่างมนุษย์ย่อมมิใช่ปัญหา…”
เขาพึมพำเสียงแผ่ว ยังเฝ้าคะนึงถึงจิ้งจอกทั้งสอง
ในอดีตเขาเคยแลกเปลี่ยนของวิเศษจากบรรพจารย์ฝูมากมาย น้ำพิสุทธิ์ไร้รากแสนมหัศจรรย์คือหนึ่งในนั้น มีประโยชน์ต่อผู้ฝึกตนอย่างยิ่งยวด ช่วยในด้านการฝึกฝน
เขาดื่มไปนิดหน่อย ไม่เกิดผลสักนิด จึงยกให้พวกเซี่ยเหยียนและลั่วสุ่ย
หากจิ้งจอกทั้งสองมีพรสวรรค์ด้านการฝึกตนจริง และสามารถฝึกฝนได้ น้ำพิสุทธิ์ไร้รากย่อมเป็นประโยชน์มหาศาลต่อจิ้งจอกทั้งสอง เพิ่มพูนพลังเป็นทวีคูณ
นอกจากนี้ เขายังแลกดินโกลาหลมาจากบรรพจารย์ฝูอีกด้วย ว่ากันว่าฟูมฟักได้ทุกสิ่ง เมล็ดพันธุ์ธรรมดาหลังปลูกลงไปก็สามารถงอกเงยเป็นโอสถวิเศษสะท้านโลกาได้
เขาเพาะปลูกด้วยดินโกลาหลไว้ไม่น้อยในลานเล็ก พืชพรรณเหล่านั้นงอกดอกผลิผลออกมาพักใหญ่แล้ว ช่วยจุนเจือการฝึกฝนของผู้ฝึกตนได้มากโข
ก่อนไป เขาได้กำชับลั่วสุ่ยแล้วว่าหากจิ้งจอกทั้งสองก้าวสู่เส้นทางฝึกตนสำเร็จ สามารถนำผลไม้เหล่านั้นไปให้จิ้งจอกทั้งสองกินเพื่อช่วยในการฝึกฝน
ใต้เงื่อนไขเช่นนี้ ขอเพียงจิ้งจอกทั้งสองมีพรสวรรค์ด้านฝึกฝน หลังเขากลับไปก็จะได้เห็นร่างมนุษย์ของจิ้งจอกทั้งสอง
หากไม่ได้เห็นร่างมนุษย์ของจิ้งจอกทั้งสอง พอแน่ใจได้แล้วว่าพวกมันปราศจากพรสวรรค์ ไม่อาจฝึกฝนได้…
ไม่นานนัก เขาก็กลับมาถึงลานเล็ก
ก่อนเข้าไป เขาประหม่านิดหน่อย กลัวจิ้งจอกทั้งสองจะไม่มีพรสวรรค์ด้านการฝึกฝน
“คุณชาย!”
ลั่วสุ่ยก้าวเข้ามาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มทันที ด้านหลังของนางมีสตรีสองนางผู้มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงติดตามมาด้วย
นางหนึ่งยังเป็นเด็กสาว มีผมยาวสีแดงเพลิง ดวงตากลมโตสุกสกาวเปี่ยมชีวิตชีวา รูปร่างอวบอิ่ม ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มหวานใส เผยให้เห็นฟันเขี้ยวน้อย ๆ ทั้งน่ารักและงดงาม
อีกนางหนึ่งดูเป็นมาดพี่สาว มีผมสีขาวประกาย บุคลิกค่อนไปทางเย็นชา ราวกับนางเซียนผู้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ โลกหล้า
นางมีรูปร่างสูงเพรียว ยามยืนข้างเคียงเด็กสาวสูงกว่าหนึ่งช่วงศีรษะ ขายาวคู่นั้นเรียวเล็กทิ้งตัวตรง ให้มาดคล้ายจักรพรรดินี
หลี่จิ่วเต้ายิ้มออกมาในฉับพลัน ไฉนจะจำไม่ได้
นี่คือจิ้งจอกทั้งสองอย่างไม่ต้องสงสัย เด็กสาวผมสีแดงคือจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิง พี่สาวผมขาวคือจิ้งจอกขาวเย็นชา
“คุณชาย!”
เด็กสาวผมแดงคลี่ยิ้มละไม วิ่งไปอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้าด้วยท่าทางน่ารักสุดขีด และกอดแขนหลี่จิ่วเต้าไว้ด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติ เสมือนน้องสาวขี้อ้อนคนหนึ่ง
“คุณชาย”
พี่สาวผมขาวเอ่ยด้วยสุ้มเสียงเยียบเย็น ตามฉบับนิสัยของนาง
ถึงแม้นางจะมิได้รู้สึกต่อต้านหลี่จิ่วเต้าอีกแล้ว กระนั้นด้วยอุปนิสัยของนาง จึงไม่อาจแสดงท่าทีสนิทสนมมากเท่าใด
“คุณชาย!”
มัจฉาสัตมายาจำแลงเป็นร่างมนุษย์แล้วเช่นกัน เขายืนอยู่อีกด้าน ทักทายพร้อมทำความเคารพคุณชายด้วยความปีติ
ทว่าดูเหมือนคุณชายมิได้สนใจเขา หาได้แยแสเขาไม่ ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองด้วยซ้ำ
“ดี ๆๆ ข้าว่าแล้วว่าพวกเจ้าทำได้ มีพลังวิญญาณเฉลียวฉลาด สามารถก้าวสู่เส้นทางฝึกตน”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยกับเด็กสาวผมแดงและพี่สาวผมขาวยิ้ม ๆ
เขาดีใจมาก หลังจิ้งจอกทั้งสองจำแลงกายเป็นมนุษย์แล้วงดงามเพริศพริ้งเหมือนดั่งที่เขาจินตนาการ
‘ถุงน่องและกระโปรงสั้นใกล้ถือกำเนิดแล้ว! อืม แล้วก็รองเท้าส้นสูงด้วย!’
เขาคิดในใจ
จิ้งจอกขาวเหมาะกับกระโปรงสั้นสีดำและถุงน่องสีดำ รวมถึงรองเท้าส้นสูงมาก ขาคู่นั้นทั้งยาวทั้งตรง แค่คิดก็เห็นภาพแล้ว
จิ้งจอกขาวที่สวมใส่กระโปรงสั้นสีดำ ถุงน่องสีดำ และรองเท้าส้นสูง กล่าวด้วยวลีของดาวเคราะห์สีฟ้า นางคือพี่สาวมาดเท่ห์ทรงเสน่ห์ดี ๆ นั่นเอง ต้องทั้งสวยทั้งทรงพลังอย่างแน่นอน!
ส่วนจิ้งจอกน้อยนั้นเหมาะกับการแต่งกายด้วยเสื้อเครื่องแบบสีขาวและกระโปรงกลีบรอบ บวกกับถุงน่องสีขาวบริสุทธิ์มาก ให้มาดน้องสาวใสซื่อที่ทั้งสวยทั้งน่ารัก!
เขาสนทนากับจิ้งจอกน้อยและจิ้งจอกขาวอยู่พักหนึ่ง ถึงจะสังเกตเห็น…มัจฉาสัตมายาด้านข้าง
มัจฉาสัตมายาเห็นคุณชายมองมาพลันตื้นตันจนแทบร่ำไห้
เขารีบเอ่ยขึ้น “คุณชาย ข้าคือมัจฉาสัตมายา เป็นปลาในบ่อน้ำนี้!”
“อ้อ เจ้าเองก็ไม่เลว พยายามต่อไป”
หลี่จิ่วเต้าตบบ่ามัจฉาสัตมายายิ้ม ๆ พร้อมเอ่ยต่อเขา
จากนั้นเขาก็สนทนากับจิ้งจอกทั้งสองต่อ
แน่นอนว่าคุยกับจิ้งจอกน้อยเป็นหลัก จิ้งจอกขาวมิค่อยพูดจา
เท่านี้ก็…จบแล้วหรือ?!
มัจฉาสัตมายาอยากร้องไห้แล้วจริง ๆ คุณชายสนทนากับจิ้งจอกทั้งสองได้มากมาย แต่กับเขามีเพียงสองประโยคเท่านั้น?!
สองมาตรฐาน สองมาตรฐานชัด ๆ!
ชางเหยาผู้อยู่ข้างกายมัจฉาสัตมายาเมื่อเห็นท่าทีก็รู้เลยว่าเขาคิดสิ่งใดอยู่
นางมองค้อนใส่มัจฉาสัตมายาทันที ความหมายนั้นชัดเจน ท่านหรือจะเทียบได้กับจิ้งจอกสองตัวนั้น?!
“ประเสริฐ คืนนี้พวกเรามากินเลี้ยงฉลองกันหน่อย!”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ ก่อนจะหันมองอสูรปริภูมิเวลาซึ่งถูกล่ามไว้อยู่ในมุมหนึ่งของลาน
อสูรปริภูมิเวลาเห็นสายตาของหลี่จิ่วเต้าแล้วหน้าดำคร่ำเครียดลงในบัดดล มันรู้ว่าตนต้องโดนเฉือนอีกแล้ว!
มันครุ่นคิดอยู่ว่าเมื่อใดกองกำลังของพวกมันจะกรีธาทัพมาเสียที ชีวิตที่ต้องโดนเฉือนเป็นนิตย์เช่นนี้มันเหลือทนแล้วจริง ๆ!
“น่าเศร้ายิ่งนัก!”
มันอยากร้องไห้จริง ๆ
ในฐานะสิ่งมีชีวิตขอบเขตอิสระแต่กลับไม่เป็นอิสระ ถูกกักขังจองจำ โดนมีดเฉือนเป็นเนือง ๆ ผู้ใดรันทดได้เท่ามันอีก?!
“พวกเจ้ารอสักครู่ ข้าอยากมอบเสื้อผ้าชุดหนึ่งให้พวกเจ้า เพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเจ้าชอบหรือไม่ ข้าวาดออกมาให้พวกเจ้าเชยชมก่อนแล้วกัน”
หลี่จิ่วเต้าบอกกับจิ้งจอกทั้งสอง
“ชอบ! สิ่งที่คุณชายมอบให้ไม่ว่าแบบไหนข้าก็ชอบหมด!”
จิ้งจอกน้อยติดคนมาก ส่ายแขนหลี่จิ่วเต้าไปมาพลางเอ่ยเสียงหวาน
“ได้”
ส่วนจิ้งจอกขาวนั้นตอบสั้น ๆ ได้ใจความ
จากนั้น หลี่จิ่วเต้าเข้าไปในห้องอักษร
ถึงแม้เขารู้สึกว่าหลังจิ้งจอกทั้งสองได้สวมใส่กระโปรงสั้น ถุงน่อง และรองเท้าส้นสูงแล้วคงดูดีมาก ทว่านี่เป็นเพียงรสนิยมของเขาผู้เดียว มิได้หมายความจิ้งจอกทั้งสองจะพิสมัยด้วย
เพราะอย่างนั้นเขาจึงอยากให้จิ้งจอกทั้งสองได้ดูก่อน หากทั้งคู่ชอบ เขาค่อยลงมือเย็บกระโปรงสั้น ถุงน่อง และรองเท้าส้นสูง
“ความห่างชั้นนี้!”
มัจฉาสัตมายาร้องไห้แล้วจริง ๆ น้ำตาไหลลงมาอย่างไร้สุ้มเสียง
จิ้งจอกทั้งสองได้อาภรณ์ชุดใหม่ทันทีที่จำแลงเป็นมนุษย์ เขาเล่า? ไม่ได้รับอะไรเลย! มีเพียงไม่กี่ประโยคจากคุณชาย อืม ไม่เลว พยายามต่อไป
ฝีมือวาดภาพของหลี่จิ่วเต้าไม่ต้องพูดถึง เขาตวัดพู่กันอย่างลื่นไหล ไม่นานนักก็วาดเสร็จโดยอิงจากร่างมนุษย์ของจิ้งจอกทั้งสอง
“งดงามเหลือเกิน!”
หลังจิ้งจอกน้อยเห็นภาพวาดของตนซึ่งเป็นนางในเสื้อแขนสั้นสีขาว กระโปรงสั้นจีบรอบลายตาราง ถุงน่องสีขาวพอดีเข่า รองเท้าหนังสีดำก็หลงรักทันที!
นี่มันการจับคู่สุดวิเศษอะไรกัน เฉิดฉันยิ่งนัก สมแล้วที่เป็นคุณชาย เหตุใดถึงออกแบบอาภรณ์งดงามได้ปานนี้!
“สวยมาก ข้าอยากใส่ คุณชายต้องเย็บให้ข้านะ!”
ดวงตากลมโตของจิ้งจอกน้อยจ้องมองหลี่จิ่วเต้า ชื่นชอบอาภรณ์ชุดนี้มาก นางกระตุกชายเสื้อหลี่จิ่วเต้าพลางกล่าว
อีกด้าน หลังจิ้งจอกขาวได้เห็นภาพวาดของตนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในภาพวาดนั้น นางอยู่ในเสื้อผ้าสีดำ กระโปรงสั้นสีดำ และถุงน่องสีดำที่หุ้มขึ้นไปถึงโคนขา รวมถึงรองเท้าส้นสูงสีดำด้วย บุคลิกงดงามระคนองอาจเผยให้เห็นทันที
นางเองก็ตกหลุมรักเช่นกัน ไม่ว่าชิ้นไหน ล้วนเป็นที่พิสมัยของนางอย่างมาก
อาภรณ์ชุดนี้และรองเท้าช่างเข้ากับนิสัยใจคอของนางยิ่งนัก นางหวั่นไหวตั้งแต่แวบแรกที่เห็น
“ข้า…อยากใส่”
นางมิได้ช่างจ้ออย่างจิ้งจอกน้อย จึงตอบด้วยถ้อยคำกระชับ
“พวกเจ้าชอบก็ดีแล้ว”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม “หากชอบ ข้าจะลงมือทันที เย็บให้พวกเจ้าหลาย ๆ ตัวไว้สลับใส่ในแต่ละวัน”
เอ่ยจบ เขาหันมองลั่วสุ่ยพลางถาม “แมวขาวน้อย เจ้าชอบหรือไม่”
เห็นได้ว่าเขาและลั่วสุ่ยชิดเชื้อขึ้นเรื่อย ๆ ฟังจากสรรพนามเรียกขานก็รู้ว่าสนิทสนมกันมาก
“ข้า…มิสู้จะชื่นชอบเท่าใด”
ลั่วสุ่ยตอบ ถึงแม้อาภรณ์และรองเท้าแบบนี้จะงดงามมาก แต่นางกลับมิได้ชอบเท่าไหร่ รู้สึกไม่เหมาะกับตนเอง
แน่นอนว่า หากคุณชายประสงค์ให้นางใส่ นางก็จะใส่
“ไม่ชอบก็ช่างเถิด”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า เขาก็รู้สึกเช่นกันว่าลั่วสุ่ยไม่เข้ากับการแต่งกายเช่นนี้นัก ลั่วสุ่ยเหมาะกับการแต่งกายแบบสาวน้อยร่างบางผู้สดใสมากกว่า ช่วยขับความไร้เดียงสา ทว่าเย้ายวนของนางได้ดีกว่า
“ชางเหยาเล่า”
เขาหันไปถามชางเหยา
หากชางเหยาชอบ เขาจะเย็บสักสามสี่ชุดให้ชางเหยาด้วย
ทว่าชางเหยามิได้ตอบทันที หากแต่เหลือบมองมัจฉาสัตมายา ราวกับต้องการความเห็นจากเขา
หลี่จิ่วเต้าได้เห็นภาพนี้ก็หัวเราะในใจ
ระหว่างชางเหยากับมัจฉาสัตมายามีเงื่อนงำแน่ ๆ!
เขานึกได้ว่า เมื่อคราวชางเหยายังอาศัยอยู่ในลานเล็ก มักหยอกเย้าเล่นกับมัจฉาสัตมายาอยู่เสมอ สงสัยคงชอบมัจฉาสัตมายามาก
หลังมัจฉาสัตมายาจำแลงกายเป็นมนุษย์ น่ากลัวว่าคงมีความคิดอื่น
‘จะได้กินเลี้ยงอีกแล้วหรือ’
เขาคิดในใจ
หากมัจฉาสัตมายาและชางเหยาได้ลงเอยกันจริง ๆ เขาจะได้กินเลี้ยงงานวิวาห์อีกครั้ง
“อืม…เอาสิ!”
มัจฉาสัตมายาก้มหน้า กระซิบเสียงเบากับชางเหยา
งดงามจริง ๆ เขาอยากเห็นชางเหยาร่ายรำเพื่อเขาในถุงน่องสีดำนี้เหลือเกิน!
อืม ถุงน่องสีขาวก็ได้!
“ชุดไหน”
ชางเหยาถาม มีอยู่สองชุด นางนึกไปว่ามัจฉาสัตมายาชอบชุดไหน นางจะใส่ชุดนั้น
เห็นนางมักข่มเหงรังแกมัจฉาสัตมายาอยู่บ่อย ๆ อย่างนี้ แท้จริงแล้วนางมีใจปฏิพัทธ์ต่อมัจฉาสัตมายาอย่างแท้จริง
นางดูออกว่ามัจฉาสัตมายาชอบอาภรณ์แบบนี้ จึงอยาก…ใส่ให้มัจฉาสัตมายาดู
มัจฉาสัตมายาลังเล สวยทั้งสองชุด เขาเลือกไม่ถูกเลยสักนิด
“ฮ่า ๆ ไม่ต้องคิดมาก เย็บสองชุดเลยก็ได้”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ สตรีประทินโฉมเพื่อคนรัก ประโยคนี้กล่าวไว้ไม่ผิด สะท้อนจากตัวชางเหยาได้อย่างชัดเจน
ทว่าเสื้อผ้ารองเท้านั้นง่าย เพียงแต่ถุงน่องออกจะยุ่งยากนิดหน่อย
โลกนี้ไม่มีเส้นไหมลีบเล็กปานนั้น…
‘ชุมนุมพ่นใย! ใช่แล้ว จัดชุมนุมพ่นใยดีกว่า!’
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะในใจ คิดทางออกได้แล้ว
โลกนี้ไม่มีเส้นไหมลีบเล็กปานนั้นก็จริง แต่มีอสูรปีศาจต่าง ๆ อย่างเช่นปีศาจแมงมุม ปีศาจหนอนไหม เขาสามารถตามหาวัตถุดิบในพื้นที่โดยการจัดงานชุมนุมพ่นใย ดูว่ามีใยไหมชนิดใดเหมาะสมบ้าง
‘เอาตามนี้!’
เขาตัดสินใจได้แล้ว