ใจของเฉินเสี่ยวถงเองก็กำลังเต้นแรงตึกตัก รู้สึกว้าวุ่น ทำเอาสายตาของเฉินเสี่ยวถงมีความเบลอเล็กน้อย
เมื่อหลี่โม่ทำแผลที่เรียวขาของเฉินเสี่ยวถงเสร็จ ตัวก็เต็มไปด้วยเหงื่อแล้ว
“ฟู่” หลี่โม่ถอนหายใจยาวๆ มองดูผ้าพันแผลที่ตัวเองทำแล้วก็ยิ้มออกมา เป็นการพันแผลที่สมบูรณ์แบบจริงๆ และเพื่อความสวยงามหลี่โม่ยังมัดโบให้ด้วย
“เป็นยังไงบ้าง ฉันพันแผลให้เธอซะสวย แล้วยังจงใจมัดโบไว้ให้เธอด้วยนะ” หลี่โม่พูดอย่างได้ใจมาก
เฉินเสี่ยวถงนั้นปิดปากหัวเราะจนตัวงอไปแล้ว คิดว่านี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่ตัวเองเคยได้รับมา ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การพันแผลแค่ครั้งเดียว แต่ว่าสิ่งนี้หลี่โม่เป็นคนพันด้วยมือตัวเอง
“อื้อ สวยมากจริงๆด้วย หลายวันนี้ที่ต้องล้างแผลก็มอบหน้าที่ให้นายละ ต้องพันแผลให้ฉันสวยๆแบบนี้ทุกวันนะ” เฉินเสี่ยวถงพูดเสียงหวาน ในใจเต็มไปด้วยความหวานไปหมดแล้ว
“แผลของเธอ พันครั้งเดียวก็พอแล้ว” หลี่โม่หันหลังล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา และทำการโทรหาหัวหน้าจาง เพื่อติดต่อถึงผลที่ตามมาในภายหลัง
หลังจากที่ติดต่อหัวหน้าจางและอธิบายเรื่องราวให้เข้าใจแล้ว หลี่โม่ก็ขึ้นรถ แล้วค้นหาเส้นทางไปอิมพีเรียล
“ไปวนที่ไนต์คลับสักรอบหนึ่ง ไปถามหาความเป็นมากับหยางเฉียนจิ้น” หลี่โม่พูดไปด้วยและสตาร์ตรถไปด้วย
เมื่อกี้ตอนที่ให้หัวหน้าจางสอบถามสถานการณ์ หลี่โม่ก็รวดให้หัวหน้าจางสืบประวัติของหยางเฉียนจิ้นด้วย เมื่อได้ยินคำตอบของหัวหน้าจางแล้ว หลี่โม่กลับมึนงงไปหมด
หยางเฉียนจิ้นเป็นประธานของบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองฮ่าน ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหลี่โม่รวมทั้งกู้หยุนหลัน และแม้กระทั่งตระกูลกู้ และหลี่โม่ก็ตัดสินว่าหยางเฉียนจิ้นน่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับจางเต๋ออู่ และราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน
ผลลัพธ์แบบนี้เกินความคาดหมายของหลี่โม่สักหน่อย ดังนั้นจึงตัดสินไม่ออกมาคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร ดังนั้นหลี่โม่ถึงได้ไปหาหยางเฉียนจิ้นที่อิมพีเรียลด้วยตัวเอง เพื่อจะได้รับรู้ว่าผู้สั่งการเบื้องหลังคือใคร
ไม่นานก็มาถึงหน้าประตูอิมพีเรียล หลี่โม่ลงรถแล้วกอดเฉินเสี่ยวถงไว้ แกล้งทำเป็นคู่รัก เดินเข้าไปในอิมพีเรียล
ภายในอิมพีเรียลเสียงดัง แสงที่มึนเมา ทำเอาหลี่โม่ไม่ค่อยจะชินสักเท่าไหร่
DJที่อยู่ไม่ไกลนักกำลังเล่นแผ่นอย่างหลงใหล มีคนไม่น้อยกำลังเต้นรำอยู่ที่ฟลอร์ ดูแล้วเหมือนอย่างกับรำมายากลซะอย่างนั้น ที่นั่งรอบด้าน มีชายหญิงไม่น้อยกำลังนั่งล้อมกันดื่มเหล้าพูดคุยกันเสียงดัง
แต่ว่าคู่ของหลี่โม่ที่หนุ่มหล่อสาวงามแบบนี้ ก็ดึงดูดสายตาจากผู้คนไม่น้อย พวกผู้ชายมองเฉินเสี่ยวถง พวกผู้หญิงมองหลี่โม่ ในสายตาล้วนมีความโลภแอบแฝงอยู่
ที่นั่งในมุมหนึ่ง มีพวกหนุ่มเลวที่แต่งตัวหล่อนั่งกันอยู่ พวกเขาคือพวกนักสู้ที่คุมอิมพีเรียล
โดยปกติที่พวกเขามักจะทำบ่อยๆก็คือล่อลวงสาวๆอยู่ที่นี่ รวมทั้งเก็บหญิงสาวที่ดื่มจนเมาเละไปรุมโทรมก็เคยทำมาไม่น้อย
ในตอนนี้ที่เห็นสีหน้าสวยงามสมบูรณ์แบบและรูปร่างหุ่นดีของเฉินเสี่ยวถง ดวงตาของไอ้พวกหนุ่มเลวก็ถึงกับเป็นประกายกันในทันที
“เหี้ย สาวน้อยคนนี้สวยมากเลยนี่ อีกอย่างดูไปแล้วยังเป็นหน้าสดด้วย จะต้องเป็นสาวสวยธรรมชาติอย่างแน่นอนเลย”
“น่าเสียดายที่ข้างกายยังมีหนุ่มคนหนึ่งอยู่ด้วย ลงมือไม่สะดวก”
“ชิ ไอ้ปอดแหก ลากพวกเขามา มอมเหล้าผู้ชาย ส่วนผู้หญิงก็พาออกไปไง เอายาที่เตรียมไว้ใส่ในเหล้า พวกเราไปเรียกพวกเขามาสนุกด้วยกัน”
ไอ้พวกหนุ่มเลวหลายคนกำลังปรึกษากัน โต๊ะข้างๆก็มีผู้หญิงอายุประมาณสามสิบกว่าที่ยังสวยงามขยับเข้ามาใกล้
“พวกนายสนใจผู้หญิงคนนั้น? พอดีเลย ผู้หญิงพวกนายพาไป ส่วนผู้ชายพวกเราขอ”
“โอ๊ะ พี่ฮัว ชอบไอ้หนุ่มคนนั้นแล้วงั้นหรอครับ? ไม่มีปัญหา พวกผมมอมเหล้าไอ้หนุ่มเสร็จแล้ว พี่ฮัวจะจัดการยังไงก็ได้ จะให้พวกผมให้ยากับพี่ฮัวสักหน่อยมั้ยครับ? รับประกันสนุกสุดยอดครับ” ไอ้หนุ่มเลวหัวเราะและพูดด้วยความโรคจิต
“ยาของพวกนาย ฉันไม่ชอบหรอกนะ ถ้าจัดการเรื่องเสร็จแล้วมีผลดีกับพวกนายไม่น้อยหรอก” พี่ฮัวพูดเสียงเบาประโยคหนึ่ง แล้วก็หันหลังกลับไปนั่งยังที่นั่งของตัวเอง
ไอ้พวกหนุ่มเลวมองตากัน แล้วยิ้มโรคจิตออกมาพร้อมกัน “ไปกันเพื่อน ดูแล้วคืนนี้จะได้สนุกกันแล้ว”
หลี่โม่กับเฉินเสี่ยวถงนั่งอยู่ตรงหน้าบาร์ สั่งค็อกเทลมาคนละแก้ว มองดูไอ้พวกหนุ่มเลวที่กำลังเดินมา หลี่โม่ยิ้มอย่างเอือมระอา
“มีพวกหนุ่มเลวมาแล้ว สาวงามไปถึงไหนก็ไม่ค่อยสงบจริงๆด้วย”
“ไม่ค่อยสงบแล้วยังไง ก็มีนายอยู่ไม่ใช่นี่ไง จะต้องเป็นผู้รักษาความปลอดภัยของเค้าให้ดีนะ” เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างมีเหตุผลเต็มปากเต็มคำ ไม่ได้เงยหน้ามองพวกหนุ่มเลวพวกนั้นเลยสักนิด
พวกหนุ่มเลวเดินกร่างเข้ามา ท่าทางการเดินที่กร่าง เหมือนกับว่ากำลังบอกกับทุกคนว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีอย่างนั้นแหละ
“ไอ้หนุ่ม สาวที่พามาไม่เลวนี่ พวกพี่อยากจะทำความรู้จักกับพวกนาย ไปดื่มด้วยกันสักหน่อยสิ”
หลี่โม่มองพวกหนุ่มเลวอย่างเบื่อหน่าย “ไม่มีอารมณ์ พวกนายไปหาคนอื่นเถอะ พวกเรายังรอคนอีก”
“โอ๊ะ ยังรอคนอีกหรอ ไม่ทราบว่าไอ้หนุ่มรอใครละ ไม่แน่พวกพี่อาจจะรู้จักก็ได้นะ” พวกหนุ่มเลวถามอย่างตรงไปตรงมา
หลี่โม่พูดเบาๆว่า “ฉันรอหยางเฉียนจิ้น”
พวกหนุ่มเลวอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็หัวเราะ “ที่แท้นายก็หมายถึงประธานหยางงั้นหรอ พวกเราเคยทำงานให้ประธานหยางมาไม่น้อย ตอนนี้ประธานหยางอยู่ข้างบน นายจะยังต้องรอที่ไหนกันละ”
“ใช่แล้ว ถ้านายรู้จักประธานหยาง ขึ้นไปหาประธานหยางเลยก็ได้แล้ว ไม่ใช่ว่านายใช้ชื่อคนอื่นเขามาขู่หรอกใช่มั้ย”
“ถ้าหากว่านายไม่รู้จักทาง พวกเราก็สามารถพานายขึ้นไปหาประธานหยางได้ ดูสิว่าประธานหยางรู้จักนายมั้ย”
หลี่โม่มองพวกหนุ่มเลวอย่างเย็นชา “ในเมื่อพวกนายกระตือรือร้นกันขนาดนี้ งั้นพวกนายก็ไปช่วยฉันเรียกหยางเฉียนจิ้นลงมาหน่อย”
ไอ้พวกหนุ่มเลวหัวเราะเสียงดังออกมาทันที เหมือนกับว่าได้ยินเรื่องตลกระดับโลกซะอย่างนั้น
“ประธานหยางเป็นถึงลูกค้าวีไอพีของที่นี่ พวกเราเชิญไม่ไหวหรอก ดูแล้วนายกับประธานหยางน่าจะไม่ถูกกัน คงไม่ใช่ว่าเอาสาวน้อยมาให้เพื่อเอาใจประธานหยางหรอกใช่มั้ย”
“ฮ่าๆๆ ถ้าหากว่านายดื่มกับพวกเราสักหน่อย ให้สาวน้อยข้างกายของนายเล่นกับพวกฉัน พวกเราสามารถพูดสิ่งดีของนายให้ประธานหยางฟังสักหน่อย”
ในตอนที่พวกหนุ่มเลวเยาะเย้ยหลี่โม่ ก็มีหนุ่มล่ำสองคนเดินเข้ามา
เห็นว่าหนุ่มล่ำสองคนเดินเข้ามา ไอ้พวกหนุ่มเลวก็ยิ้มหน้าบานกันทันที แล้วโค้งคำนับพูดว่า “พี่ฮั่ว พี่เฟย”
พี่ฮั่วและพี่เฟยพยักหน้าอย่างเฉยๆ สายตามองไปทางหลี่โม่
“ไอ้คนที่ถามหาประธานหยางก็คือไอ้นี่?”
ไอ้หนุ่มเลวคนหนึ่งรีบพูดว่า “ใช่ครับ มาถึงก็ด้อมๆมองๆ อ้อมไปอ้อมมาสืบถามหาประธานหยาง จะต้องคิดไม่ซื่อแน่นอนครับ”
พี่ฮั่วสำรวจดูหลี่โม่อย่างละเอียดทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงโหดว่า “ไอ้หนุ่ม ถ้ารู้จักคิดก็รีบไปให้พ้นซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆนายสามารถมามีปัญหาได้”
“ไปซะ? พวกนายไปเรียกหยางเฉียนจิ้นมาดีกว่า” หลี่โม่พูดอย่างปรือตา
“ดูแล้วไอ้หนุ่มนายนี่จะไม่เปลี่ยนใจแล้วสินะ จัดการมันซะ” พี่เฟยตะโกนอย่างโมโห