ไป๋หลี่ซ่างเสียเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา เขาปล่อยมือจากเสี่ยวชิงเฉิง ดวงตาสีแดงสดของเขาจับจ้องไปที่มุมหนึ่งของสายตา ใบหน้าเล็กๆ อันหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
เมื่อเห็นปีศาจตัวน้อยที่เขาตั้งใจจะนำมาเลี้ยงชะงักไป เสี่ยวชิงเฉิงจึงหยุดเคลื่อนไหวเหมือนกัน จากนั้นจึงหันหน้ากลับไปมองยังจุดที่ไป๋หลี่ซ่างเสียจ้องอยู่ ตากลมๆ ที่เป็นประกายด้วยความตื่นเต้นอย่างกะทันหันนั้นทำให้เขาดูเหมือนกระรอกขนฟูไม่มีผิด
เขาดูดีใจอย่างเห็นได้ชัดจนไป๋หลี่ซ่างเสียถึงกับเลิกคิ้วขึ้น
เฮ่อเหลียนเวยเวยเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเด็กชายตัวน้อยทั้งสองแล้วในเวลานี้ เธอก้มลงอุ้มเสี่ยวชิงเฉิงขึ้นมากอด ก่อนจะลูบศีรษะของเขาอย่างแรง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชายฉกรรจ์ทั้งหกคนกุลีกุจอเข้ามารับโทรศัพท์แล้วตะโกนใส่มันราวกับกลัวว่าคนที่อยู่ปลายสายจะไม่ได้ยินพวกเขา ”ลูกพี่ เจอนายน้อยแล้วหรือครับ กระผมจะรีบไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ครับ ผมสาบานว่าจะไปให้ถึงภายในครึ่งชั่วโมงครับ!”
“เหล่าเอ คุณต้องไปฝึกโกหกมาให้มันเนียนกว่านี้หน่อยนะ จากที่นี่ไปถึงสถานีใช้เวลาอย่างน้อยก็เป็นชั่วโมง นายน้อยอย่าไปฟังเขาเลยครับ ฟังผมดีกว่า! ผมทำวาฟเฟิลไว้ให้นายน้อยตั้งเยอะนะครับ พวกมันต้องอร่อยแน่ๆ!”
“แกจะพูดถึงวาฟเฟิลแตกๆ ของตัวเองขึ้นมาทำไมในเวลานี้ นายน้อย อยากได้อะไรที่สถานีรถไฟก็ซื้อมาได้เลยนะครับ ผมมีเงินเก็บไว้ที่นี่เยอะแยะ นายน้อยอยากได้อะไรก็เลือกมาได้เลย!”
หูของเฮ่อเหลียนเวยเวยปวดแปลบจากเสียงทั้งหมดนั้น เธอจึงหันไปบอกลูกชายว่า ”พูดอะไรกับพวกเขาสักหน่อยสิ”
เสี่ยวชิงเฉิงเป็นเด็กที่เชื่อฟังอย่างมาก เขาหยิบหูฟังของเฮ่อเหลียนเวยเวยขึ้นมา แล้วตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ”ผมกินบะหมี่ที่เพื่อนใหม่เอามาให้ไปแล้วหนึ่งถ้วยครับ”
เพื่อนหรือ
ชายฉกรรจ์สองสามคนเกิดอาการสับสนขึ้นมาทันทีที่พวกเขาได้ยินสิ่งที่เขาพูด!
พวกเขากลัวว่าเพื่อนใหม่คนนี้จะขโมยความสนใจทั้งหมดของนายน้อยไปจากพวกเขา
“เอาล่ะ ทีนี้เราก็คุยกันจบแล้ว ไปรวมตัวกันที่เดิม แล้วเจอกันในอีกสองชั่วโมง” จากนั้นเฮ่อเหลียนเวยเวยก็กดวางหู แล้วสั่งให้หูฟังเข้าสู่โหมดห้ามรบกวน
หลังจากโทรศัพท์เสร็จ เฮ่อเหลียนเวยเวยจึงมองไปที่ไป๋หลี่ซ่างเสียที่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำเดียว
ไป๋หลี่ซ่างเสียตัวน้อยมองเฮ่อเหลียนเวยเวยด้วยสายตาประเมินเช่นกัน ที่ด้านหลังของเขามีอีกาดำบินลงมาตัวแล้วตัวเล่า ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือดที่เป็นเอกลักษณ์ของปีศาจเท่านั้น
“ฉันได้ยินมาว่าหนูชอบกินช็อกโกแลตหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้มพร้อมกับย่อตัวลงแล้วส่งห่อช็อกโกแลตที่เธอพกติดตัวเป็นประจำให้กับไป๋หลี่ซ่างเสีย
ช็อกโกแลตทำมือห่อนี้เป็นก้อนกลมราวกับลูกบอล มันดูค่อนข้างน่าอร่อยทีเดียว
แต่ไป๋หลี่ซ่างเสียไม่ได้รับของขวัญห่อนั้นมา
เฮ่อเหลียนเวยเวยตัดสินใจแกะห่อลูกบอลช็อกโกแลตออกสองห่อ แล้วป้อนช็อกโกแลตสองก้อนนั้นให้ไป๋หลี่ซ่างเสียกับเสี่ยวชิงเฉิงกินคนละก้อน
ตั้งแต่โตมาไป๋หลี่ซ่างเสียไม่เคยถูกใครป้อนอะไรให้กินมาก่อน ใบหน้าเล็กๆ เย็นชานั้นจึงดูอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ช็อกโกแลตก้อนนี้ก็อร่อยถูกปากเขาทีเดียว
เสี่ยวชิงเฉิงเคี้ยวช็อกโกแลตก้อนนั้นอย่างอารมณ์ดีจนปากเล็กๆ เปรอะช็อกโกแลตเต็มไปหมด เขาถือช็อกโกแลตไว้ในมือซ้ายพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปจับมือไป๋หลี่ซ่างเสียไว้
สัญชาตญาณความเป็นพี่ของไป๋หลี่ซ่างเสียออกอาการอย่างเห็นได้ชัด เขารู้ว่าอีกฝ่ายยังเดินไม่มั่นคง ดังนั้นเขาจึงรีบจับมือของเสี่ยวชิงเฉิงไว้อย่างรวดเร็ว แล้วสาวเท้าออกเดินพลางกัดช็อกโกแลตไปด้วย
เฮ่อเหลียนเวยเวยเลิกคิ้วและรู้สึกสบายใจอย่างมาก เธอไม่จำเป็นต้องจับมือเสี่ยวชิงเฉิงไว้อีกต่อไป เพราะมีคนอื่นทำหน้าที่นั้นให้แล้ว
“เวยเวยคนสวย เมื่อกี้แม่บอกว่าจะไปพบพวกคุณลุงที่เดิม ที่เดิมที่ว่านั่นคือที่ไหนหรือครับ” เสี่ยวชิงเฉิงกินช็อกโกแลตในปากหมดแล้ว แต่เขาก็ยังอยากกินอีกชิ้นหนึ่ง
เฮ่อเหลียนเวยเวยยกมือขึ้นแล้วเก็บห่อช็อกโกแลตพร้อมตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า ”บนรถไฟสายสีเขียว หัวหน้ากลุ่มที่ลักพาตัวลูกมาก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาจะทำการซื้อขายกันบนนั้น”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้น เด็กชายตัวน้อยทั้งสองก็สบตากัน ก่อนตอบโดยพร้อมเพรียงว่า ”เราอยากไปด้วยครับ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยยิ้ม ”แม่พาพวกหนูไปด้วยก็ได้ แต่ห้ามให้มีเหตุการณ์แบบเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในโรงแรมนั้นเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด ถ้ามีคดีคนตายอย่างไร้วิญญาณเกิดขึ้นมากเกินไป ตำรวจจะรู้ตัวเอาได้ ส่วนรอบนี้ สิ่งที่เราจะทำไม่ใช่เพียงแค่กำจัดพวกมันเท่านั้น แต่พวกเราจะทำลายองค์กรของพวกมันไปพร้อมกันด้วย เข้าใจไหม”
เธอกำลังพูดกับองค์ชายน้อยอยู่หรือ
อีกาดำที่ได้สติกลับมาแล้วถึงกับกลอกตา ในเวลานั้นพวกมันนึกถึงผู้ขับไล่วิญญาณร้ายที่ครั้งหนึ่งองค์ชายน้อยสั่งให้พวกมันคอยจับตาดูเอาไว้ให้ดี แต่สุดท้ายผู้ขับไล่วิญญาณร้ายคนที่ว่าก็ถูกองค์ชายน้อยจัดการจนไม่เหลือพลังแทบจะในทันที
นักล่าแวมไพร์ที่พวกเขาเคยเจอบนเกาะอังกฤษถึงกับต้องนอนติดเตียงอยู่เป็นสัปดาห์หลังจากถูกองค์ชายน้อยอัดเข้า
พวกเขาสงสัยยิ่งนักว่าคราวนี้องค์ชายน้อยจะทำอะไรกับอีกฝ่าย
แต่อีกาดำพวกนั้นกลับคาดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายน้อยจะพยักหน้าด้วยท่าทางหล่อเหลาราวกับเขาเห็นด้วยกับเฮ่อเหลียนเวยเวย!
โอ้ สวรรค์!
แม้แต่คำสั่งขององค์ราชา องค์ชายน้อยก็ยังไม่ค่อยจะยอมทำตามเลยด้วยซ้ำ
อันที่จริงต้องบอกว่าองค์ชายน้อยโปรดปรานการขัดคำสั่งขององค์ราชาเป็นชีวิตจิตใจมากกว่า
นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยกระมังที่องค์ชายน้อยทำตัวว่าง่ายถึงเพียงนี้
หรือว่าหมูกำลังจะบินได้
เขาทำอย่างนี้เพียงเพราะช็อกโกแลตชิ้นเดียวหรือ
อีกาดำฝูงนั้นมองหน้ากันเงียบๆ และได้แต่สงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความฝันหรือไม่…
ไป๋หลี่ซ่างเสียรู้ดีว่าอีกาดำพวกนั้นคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนสายตาไปมองพวกมัน
สายตาของเขาดูเย็นชาและดุร้ายสุดขีด!
อีกาดำเหล่านั้นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกมันรีบยืนตรงแล้วตั้งใจมองตรงไปข้างหน้า
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่เสียเวลาอีก เธอใช้เสื้อกันลมห่มให้เด็กน้อยทั้งสองแล้วจัดให้พวกเขานั่งบนเบาะหน้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูโทมาฮอว์ก เท่ากับว่าตอนนี้มีคนสามคนนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์คันเดียว
ไป๋หลี่ซ่างเสียไม่เคยนั่งรถจักรยานยนต์มาก่อน เขาไม่เคยนั่งชิดกับใครถึงขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ทำตัวได้สมกับเป็นพี่ชายอย่างยิ่ง เด็กชายใช้มือเล็กๆ ของตัวเองกอดเสี่ยวชิงเฉิงไว้จากข้างหลังราวกับกลัวว่าเสี่ยวชิงเฉิงจะถูกลมพัดจนเป็นหวัดเอาได้ มิหนำซ้ำยังถึงขั้นจับมือของเสี่ยวชิงเฉิงซุกเข้าไปในเสื้อกันลมของตัวเองอีกด้วย
เฮ่อเหลียนเวยเวยนั่งอยู่ไกลสุด ทันทีที่เธอคาดสายรัดหมวกกันน็อกเสร็จ เธอก็พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า ”จับให้แน่นๆ ล่ะ รถจะออกแล้ว”
เสียงเร่งเครื่องดังก้องในอากาศ
รถบีเอ็มดับเบิลยูโทมาฮอว์กพุ่งตัวเข้าสู่ยามค่ำคืนปลายฤดูใบไม้ผลิด้วยท่วงท่าอันงดงามเป็นที่สุด
ระหว่างการเดินทางเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กตัวน้อยๆ ราวกับพวกเขากำลังเล่นเกมแสนสนุก
เฮ่อเหลียนเวยเวยเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ ระหว่างเร่งความเร็วรถขึ้น เธอจึงถามกับไป๋หลี่ซ่างเสียว่า ”หนูต้องส่งอีกาดำพวกนั้นกลับไปรายงานทางบ้านหรือเปล่าว่าตัวเองอยู่ที่ไหน”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ” ไป๋หลี่ซ่างเสียส่ายหน้า เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมว่า ”ผมหนีออกจากบ้านอยู่”
เฮ่อเหลียนเวยเวยกับเสี่ยงชิงเฉิงถึงกับงงขึ้นมาทันที
นายถูกลักพาตัวมาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลายเป็นว่านายหนีออกจากบ้านไปได้ล่ะ
“ยังไงที่บ้านก็ไม่มีใครเป็นห่วงผมอยู่ดี” ไป๋หลี่ซ่างเสียพูดต่อด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ”ผมไม่ใช่ลูกคนโปรดของบ้านนั้นครับ”
อีกาดำที่บินอยู่รอบพวกเขาชะงักไป พวกมันแทบจะร่วงตกจากฟ้าหลังจากได้ยินประโยคนี้!
แดนปีศาจทั้งหมดล้วนแต่อยู่ใต้อาณัติท่าน ท่านยังต้องการอะไรอีกหรือพ่ะย่ะค่ะองค์ชายน้อย!
“ผมเชื่อฟังคำสั่งของท่านพ่อมาโดยตลอด” ไป๋หลี่ซ่างเสียก้มหน้า ”แต่เขาไม่เคยพอใจในความแข็งแกร่งของผม เขาถึงกับเตือนผมว่าถ้าผมถูกไล่ออกอีกครั้ง คราวนี้เขาจะไม่อนุญาตให้ผมไปเข้าเรียนที่โรงเรียนไหนอีกเลย”