แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 896 คุณยายเถียนจากไปแล้ว

ตอนที่ 896 คุณยายเถียนจากไปแล้ว

ตอนที่​ 896 คุณยาย​เถียน​จากไป​แล้ว​

ลู่​เวย​กระวนกระวาย​มาเป็นเวลา​หนึ่ง​สัปดาห์​ แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​รับโทรศัพท์​หรือ​จดหมาย​จาก​บริษัท​กุย​ตัน​เพื่อ​ไล่​เขา​ออก​

เขา​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ โดย​คิด​ว่า​หลิน​ม่าย​ยอม​ปล่อย​เขา​ไป​

หล่อน​คง​ไม่ได้​ส่งจดหมาย​อย่าง​เป็นทางการ​ถึงบริษัท​เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​เขา​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​หล่อน​ และ​ขอให้​บริษัท​ไล่​เขา​ออก​หรอก​กระมัง​

แต่​หลิน​ม่าย​ไม่ได้​ใจกว้าง​อย่าง​ที่​คิด​

แม้ว่า​เธอ​จะไม่ใจแคบ​เหมือน​หญิงสาว​ทั่วไป​ แต่​เธอ​ก็​ไม่ใช่คน​ใจกว้าง​อย่าง​แน่นอน​

นอกจากนี้​เธอ​ยัง​ไม่รู้จัก​ลู่​เวย​มาก่อน​ ดังนั้น​จะยอม​ทน​ให้​เขา​แอบอ้าง​เป็นเพื่อน​ของ​เธอ​ต่อหน้า​คนอื่น​ได้​อย่างไร​?

เธอ​จึงต้อง​การชี้แจง​ โดย​ส่งหนังสือ​อย่าง​เป็นทางการ​ไป​

แต่​นั่น​ไม่ได้​ทำให้​บริษัท​ไล่​ลู่​เวย​ออก​

เธอ​จะไม่ตอบโต้​ใคร​ใน​ที่ทำงาน​เพราะ​เรื่องส่วนตัว​ นั่น​คงจะ​เป็นนิสัย​ที่​แย่​เกินไป​

แต่​ลู่​เวย​ไม่กล้า​ถามเจ้านาย​ของ​เขา​ เขา​จึงไม่รู้​อะไร​ และ​คิด​ว่า​เป็น​หลิน​ม่าย​ที่​มีความเมตตา​

เขา​รู้สึก​โล่งใจ​และ​ซาบซึ้ง​ที่​หลิน​ม่าย​ปล่อย​เขา​ไป​ จากนั้น​จึงเชิญเธอ​มาร่วม​งานแต่งงาน​ระหว่าง​เขา​กับ​เฝิงเย​ว่​จู๋

ประการ​แรก​เพื่อ​แสดง​ไมตรี​ต่อกัน​ ประการ​ที่สอง​เป็นผล​ให้​พวกเขา​สอง​คน​เปลี่ยน​จาก​คน​ไม่มีความเกี่ยวข้อง​ใด​ ๆ ไป​สู่การ​มีพื้นฐาน​ร่วมกัน​ และ​ในอนาคต​ก็​อาจ​พัฒนา​เป็นมิตร​ที่​ดี​ได้​

เขา​ได้​บอก​เจ้านาย​ก่อนหน้านี้​ว่า​เขา​และ​หลิน​ม่าย​เป็นเพื่อน​ที่​ดี​ต่อกัน​ ดังนั้น​มัน​จะไม่กลายเป็น​คำ​โกหก​เพื่อ​ยกย่อง​ตัวเอง​

หลิน​ม่าย​ได้รับ​บัตรเชิญ​ จึงเขียน​ประโยค​หนึ่ง​ลง​ไป​ว่า​ “ต่าง​สังคม​ไม่อาจ​ยุ่งเกี่ยว” จากนั้น​ก็​ขอให้​เสิ่น​เสี่ยว​ผิง​ส่งบัตรเชิญ​กลับ​ไป​

เมื่อ​มอง​ประโยค​ตอบกลับ​ใน​บัตรเชิญ​ ลู่​เวย​ก็​รู้​ว่า​เฝิงเย​ว่​จู๋ทำให้​หลิน​ม่าย​ขุ่นเคือง​ไป​ถึงกระดูกดำ​แล้ว​

แม้คน​ทั้งสอง​จะแต่งงาน​กัน​ใน​อีก​ไม่กี่​วัน​ เฝิงเย​ว่​จู๋ก็​ยังคง​ถูก​เขา​ตำหนิ​เรื่อย​มา

หาก​ไม่ใช่เพราะ​เฝิงเย​ว่​จู๋มีเงื่อนไข​ส่วนตัว​ที่​ดี​ที่สุด​และ​ถึงพร้อม​ที่สุด​ใน​บรรดา​ผู้หญิง​ทุกคน​ที่​นัดบอด​ด้วย​ เขา​คง​ไม่มีทางเลือก​หล่อน​

เวลา​ล่วงเลย​ผ่าน​มาถึงเดือน​กรกฎาคม​อย่าง​สงบสุข​ และ​เป็น​วันหยุด​ฤดูร้อน​

สำนักงานใหญ่​ใน​เมือง​เจียง​เฉิงบริหาร​จัดการ​ได้​ดีมาก​ หลิน​ม่าย​จึงไม่ต้อง​กังวล​มากเกินไป​

เธอ​ไม่มีแผน​ที่จะ​กลับ​ไป​เมือง​เจียง​เฉิงใน​วันหยุด​ฤดูร้อน​นี้​ และ​ต้องการ​ใช้ช่วงเวลา​ใน​วันหยุด​ฤดูร้อน​เพื่อ​สร้าง​อยู่อาศัย​เชิงพาณิชย์​อย่าง​เป็นทางการ​ใน​เมืองหลวง​ แทนที่จะ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​ของ​ครอบครัว​แบบ​สุ่มสี่สุ่มห้า​เหมือน​อย่าง​ห้องชุด​ของ​รัฐ​

ไม่ว่าการ​สร้าง​ชุมชน​ครอบครัว​ด้วย​เงิน​มาก​เพียงใด​ มัน​ก็​ไม่สามารถ​ทำกำไร​ได้​เท่ากับ​การ​สร้างบ้าน​เพื่อ​การพาณิชย์​ และ​จะไม่ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​ว่า​นท​งก​รุ๊ป​

หาก​ต้องการ​ทำให้​ว่า​นท​งก​รุ๊ป​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​ เธอ​ก็​ยัง​ต้อง​พึ่งพา​การ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​เพื่อ​การพาณิชย์​

เธอ​รับ​ช่วงต่อ​โครงการ​พื้นที่​ครอบครัว​มา ซึ่งเป็น​เพียง​ทดสอบ​กระแส​

ผล​ตอบรับ​ของ​กระแส​เป็นไป​ได้ดี​

ไม่ว่า​จะเป็น​ญาติ​และ​เพื่อน​ของ​พนักงาน​ธนาคาร​หรือ​พนักงานไปรษณีย์​ต่าง​พา​กัน​อิจฉาตาร้อน​เมื่อ​เห็น​บ้านพัก​สวัสดิการ​

เมื่อ​เธอ​เปิดตัว​บ้าน​เชิงพาณิชย์​ใน​เมืองหลวง​ในเวลานี้​ แน่นอน​ว่า​เธอ​ไม่ต้อง​กลัว​ว่า​จะไม่มีใคร​ซื้อ​

ทันทีที่​วันหยุด​ฤดูร้อน​สิ้นสุดลง​ ครอบครัว​จะย้าย​ออกจาก​บ้าน​สไตล์​ตะวัน​ตกไป​ยัง​เรือน​สี่ประสาน​ใน​เขต​ซีเฉิง

การ​ย้าย​ครั้งนี้​ง่าย​มาก​ เธอ​แค่​ต้อง​นำ​เสื้อผ้า​สำหรับ​ฤดูร้อน​ไป​เท่านั้น​ ไม่มีสิ่งอื่น​ใด​อีก​

อยู่​เพื่อ​พักร้อน​เท่านั้น​ แล้วจึง​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​สไตล์​ตะวันตก​อีกครั้ง​

อา​หวง​มีความสุข​ที่สุด​เมื่อ​มัน​ได้​กลับ​มายัง​เรือน​สี่ประสาน​

ใน​ตึก​สไตล์​ตะวันตก​ อา​หวง​สามารถ​วิ่งเล่น​ได้​อย่าง​อิสระ​ภายใน​สวน​หลังบ้าน​เท่านั้น​ และ​ต้อง​ใช้เชือก​ล่าม​เมื่อ​ออก​ไป​ข้างนอก​

ซึ่งแตกต่าง​จาก​การอาศัย​อยู่​ใน​เรือน​สี่ประสาน​มาก​ การอาศัย​อยู่​ใน​เรือน​สี่ประสาน​ทำให้​อา​หวง​สามารถ​วิ่ง​จาก​ลาน​ด้านหน้า​ไป​ยัง​ลาน​ด้านหลัง​และ​ย้อนกลับ​ได้​อีกครั้ง​ ทำให้​มีพื้นที่​กว้างขวาง​สำหรับ​กิจกรรม​ต่างๆ​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางชอบ​อยู่​ใน​เรือน​สี่ประสาน​ที่​มีสวน​ขนาดใหญ่​และ​มีผลไม้​มากมาย​

ลุง​หยาง​ผู้ดูแล​บ้าน​มีความรับผิดชอบ​มาก​ เขา​ไม่เพียง​ดูแล​บ้าน​อย่าง​ดี​ แต่​ยัง​ดูแล​ดอกไม้​และ​ต้นไม้​ใน​สวน​อย่าง​ดี​ด้วย​

หลิน​ม่าย​ให้รางวัล​พิเศษ​แก่​เขา​ 100 หยวน​ และ​บอก​ให้​เขา​กลับบ้าน​ แล้ว​ค่อย​กลับมา​ทำงาน​เมื่อ​โรงเรียน​เปิด​ใน​เดือน​กันยายน​

ลุง​หยาง​รับ​โบนัส​และ​กลับบ้าน​อย่าง​มีความสุข​

หลังจากที่​ครอบครัว​เก็บ​ของ​กลับ​เข้า​ที่แล้ว​ หลิน​ม่าย​พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​และ​เริ่ม​ทำ​อาหารกลางวัน​

เวลานี้​อากาศ​ร้อน​มาก​ ปู่​ฟางและ​ย่า​ฟางรู้สึก​หิว​เล็กน้อย​ หลิน​ม่าย​กำลังจะ​ทำ​ตีน​ไก่​มะนาว​ให้​ทุกคน​เพื่อ​เรียก​น้ำย่อย​

ตีน​ไก่​มะนาว​ทั้ง​เผ็ดร้อน​และ​เปรี้ยว​ ซึ่งโต้​ว​โต้​ว​ชอบ​มัน​มาก​

ขณะที่​หลิน​ม่าย​กำลัง​ทำ​ตีน​ไก่​มะนาว​ โต้​ว​โต้​ว​ก็​มายืน​เกาะ​อยู่​ข้าง​เตา​ดู​เธอ​ทำ​ น้ำลาย​ที่​มุมปาก​เด็กน้อย​แทบ​ไหล​หยด​ลงพื้น​

หลิน​ม่าย​เคาะ​หน้าผาก​หนู​น้อย​และ​พูดว่า​ “ดู​สิลูก​กิน​ไป​มาก​แค่​ไหน​แล้ว​ ตัว​อ้วน​จน​จะเหมือน​แตงโม​อยู่แล้ว​ ลูก​ต้อง​ควบคุม​อาหาร​บ้าง​นะ​”

โต้​ว​โต้​ว​แค่​หัวเราะ​คิกคัก​

ทันทีที่​ตีน​ไก่​มะนาว​เสร็จ​เรียบร้อย​ ก็​มีเสียงดัง​มาจาก​ประตู​ลานบ้าน​

ดูเหมือน​จะเป็น​เสียง​ชาย​หญิง​กำลัง​โต้เถียง​กัน​ โดย​มีเสียง​เห่า​เสียง​เอะอะ​ของ​อา​หวง​และ​น้า​ถูผสม​ปนเป​กัน​

หลิน​ม่าย​ขมวดคิ้ว​ ล้างมือ​ใต้​ก๊อกน้ำ​ แล้ว​เดิน​ออกจาก​ครัว​ไปดู​

เมื่อ​ออก​ไป​ก็​เห็น​ว่า​เป็น​เห​ลย​ซิ่งภรรยา​ของ​ทัง​อี้​กำลัง​พยายาม​ลาก​ทัง​อี้​มาที่​เรือน​สี่ประสาน​ แต่​เนื่องจาก​อา​หวง​และ​น้า​ถูปิด​กั้นประตู​ไม่ให้​พวกเขา​เข้ามา​ หล่อน​จึงต้อง​โต้เถียง​กับ​ทัง​อี้​ที่​หน้า​ประตู​

เสื้อผ้า​ของ​ทั้งคู่​ขาด​รุ่งริ่ง​ ใบหน้า​มีรอย​ฟกช้ำ​ สะบักสะบอม​เป็น​อย่างยิ่ง​

เมื่อ​เห็น​สิ่งนี้​ หลิน​ม่าย​ขมวดคิ้ว​ยิ่งกว่า​เดิม​ และ​พูด​ด้วย​ความไม่พอใจ​เล็กน้อย​ “พวกคุณ​กำลัง​ทำ​อะไร​?”

เห​ลย​ซิ่งกำลัง​โกรธจัด​ จึงตะโกน​ใส่เธอ​ว่า​ “ประธาน​หลิน​ ทัง​อี้​กำลัง​มีชู้”

หลิน​ม่าย​ตอบกลับ​ด้วย​ความหงุดหงิด​ “เขา​กำลัง​มีชู้แล้ว​ทำไม​ถึงมาบอก​ฉัน​? ฉัน​ไม่ใช่คณะกรรมการ​ครอบครัว​นะ​”

ดวงตา​ของ​เห​ลย​ซิ่งเบิก​กว้าง​ และ​สวน​กลับ​ไป​ว่า​ “แต่​คุณ​เป็น​หัวหน้า​ของ​เขา​นะคะ​ ทำไม​คุณ​ถึงไม่สนใจ​ล่ะ​?”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ “มีเพียง​รัฐวิสาหกิจ​เท่านั้น​ที่จะ​กังวล​เกี่ยวกับ​จรรยาบรรณ​ใน​การทำงาน​ของ​พนักงาน​ ฉัน​ทำ​ธุรกิจส่วนตัว​ และ​ฉัน​ไม่ใส่ใจกับ​เรื่อง​ดังกล่าว​”

เห​ลย​ซิ่งนั่งลง​บน​ธรณีประตู​ของ​ลานบ้าน​ “ถ้าคุณ​ไม่สนใจ​ ฉัน​จะไม่ยอม​ไป​จาก​ที่นี่​”

หลิน​ม่าย​สั่งทัง​อี้​ด้วย​เสียง​เคร่งขรึม​ “พา​ภรรยา​ของ​คุณ​ออก​ไป​ อย่า​มายุ่ง​กับ​ชีวิต​ของ​ฉัน​!”

ทัง​อี้​หน้า​แดงก่ำ​ เขา​พูด​ขอโทษ​ขอ​โพย​หลายครั้ง​ และ​พยายาม​กระชาก​ลาก​ถูภรรยา​ของ​ตัวเอง​ออก​ไป​อย่าง​แรง​

อย่างไรก็ตาม​เห​ลย​ซิ่งมีรูปร่าง​ค่อนข้าง​สูงใหญ่​ ส่วน​ทัง​อี้​นั้น​ผอม​และ​เตี้ย​ เขา​จึงไม่สามารถ​ลาก​หล่อน​ออก​ไป​ได้​

ถ้าเขา​ลาก​หล่อน​ออก​ไป​ได้​ ตัว​เขา​เอง​ก็​คง​ไม่ถูก​ลากตัว​มาถึงหน้า​ประตู​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​แบบนี้​

ในที่สุด​ทัง​อี้​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​ยอมแพ้​ เขา​ปล่อยมือ​หล่อน​และ​โพล่ง​ออก​ด้วย​ความโกรธ​ “งั้น​คุณ​ก็​อยู่​ที่นี่​ไป​!”

ภายใต้​สายตา​ที่​จับตามอง​ของ​เพื่อนบ้าน​จำนวนมาก​ที่​เฝ้าดู​ความตื่นเต้น​ เขา​เดิน​จากไป​อย่าง​รวดเร็ว​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​

เมื่อ​เห​ลย​ซิ่งเห็น​เช่นนี้​ หล่อน​ก็​วิ่งหนี​ไป​เช่นกัน​

ขณะที่​วิ่ง​ตาม​ หล่อน​ก็​ด่าทอ​ทัง​อี้​ไล่หลัง​ว่า​ไร้ยางอาย​ มีลูก​แล้วก็​ยัง​นอกใจ​ไปหา​ผู้หญิง​ข้างนอก​อีก​

และ​อื่นๆ​ อีก​มากมาย​ ซึ่งล้วน​เป็น​ถ้อยคำ​แสน​หยาบคาย​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​ไป​ยัง​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​เพื่อ​ซื้อ​ผัก​ ก่อน​จะบังเอิญ​เจอ​ทัง​อี้​ที่​กำลัง​ตรวจ​ความ​เรียบร้อย​ของตลาด​

แม้ว่า​เขา​จะสวม​แว่นกันแดด​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​ปกปิด​รอยแผล​ฟกช้ำ​บน​ใบหน้า​ได้​

เมื่อ​ทัง​อี้​เห็น​หลิน​ม่าย​ เขา​ก็​กล่าว​ทักทาย​เธอ​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​

หลิน​ม่าย​ตอบ​อย่าง​สบาย​ ๆ และ​ไม่รีบ​ซื้อ​ของชำ​ เธอ​เรียก​เขา​ไป​ที่​มุมอาคาร​และ​เอ่ย​วิจารณ์​เขา​

ไม่ว่า​เขา​จะมีชีวิต​ที่​ดี​กับ​ภรรยา​คน​ปัจจุบัน​ของ​คุณ​หรือ​หย่าร้าง​ ก็​อย่า​คิด​ว่า​จะละ​จาก​ธงแดง​ที่​ยังอยู่​บ้าน​เพื่อ​ไปหา​ธงหลาก​สีด้านนอก​ที่​กำลัง​โบกสะบัด​*ได้​

(*家里红旗不倒,外面彩旗飘飘 เป็น​สำนวน​ หมายถึง​การ​เห็น​ภรรยา​เป็น​ของ​ตาย​เพื่อ​แสวงหา​ความตื่นเต้น​ข้างนอก​)

ทัง​อี้​หน้าแดง​และ​ปกป้อง​ตัวเอง​ “ประธาน​หลิน​ครับ​ ผม​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ ลูกชาย​ของ​ผม​-”

หลิน​ม่าย​ขัดจังหวะ​ “ไม่สำคัญ​ว่า​จะด้วย​เหตุผล​อะไร​ ถ้าคุณ​ไม่อยาก​อยู่​กับ​หล่อน​แบบ​สามีภรรยา​ก็​แค่​หย่าร้าง​กัน​ไป​ กฎหมาย​ไม่ได้​กำหนด​ว่า​แต่งงาน​แล้ว​ต้อง​อยู่​ด้วยกัน​ไป​ตลอดชีวิต​นี่​ แต่​การ​มีความสัมพันธ์​นอกสมรส​โดยที่​ยัง​ไม่หย่าร้าง​ถือ​เป็นเรื่อง​ผิดศีลธรรม​เต็มๆ​ นะ​!”

ทัง​อี้​พึมพำ​คำ​เบา​ “งั้น​… ผม​จะคุย​กับ​ภรรยา​เรื่อง​การหย่า​~”

“หน​อย​! ฉัน​ถึงว่า​สิว่า​ทำไม​ไอ้​ขยะ​แซ่ทัง​ถึงเล่นชู้​อยู่​ข้างนอก​อย่าง​ไร้ยางอาย​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​เธอ​สนับสนุน​เขา​นี่เอง​ ฉัน​จะตี​พวก​แก​ทั้งคู่​ให้​ตาย​ไป​เลย​!”

เห​ลย​ซิ่งไม่สามารถ​ยอมรับ​เรื่อง​การ​นอกใจ​ของ​ทัง​อี้​ได้​ หล่อน​จึงไล่ตาม​เขา​ตั้งแต่​ที่​บ้าน​มาถึงตลาด​ผัก​เพื่อ​ระบาย​ความโกรธแค้น​ต่อ​เขา​

เมื่อ​มายัง​ตลาด​ผัก​แล้ว​ไม่เห็น​ทัง​อี้​ จึงได้​ถามไถ่พนักงาน​คนอื่น​

พนักงาน​ไม่รู้เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ระหว่าง​สามีภรรยา​ จึงชี้นิ้ว​บอก​เห​ลย​ซิ่งว่า​ ประธาน​หลิน​กำลัง​คุย​กับ​ทัง​อี้​ที่​มุมนั้น​

เห​ลย​ซิ่งเดิน​ไป​ทาง​นั้น​อย่าง​เงียบงัน​ เพื่อ​ต้องการ​ฟังว่า​หลิน​ม่าย​และ​ทัง​อี้​พูด​อะไร​กัน​

และ​ไม่คาดคิด​ว่า​ทัง​อี้​คิด​จะหย่าร้าง​หลังจาก​ฟังคำ​ของ​หลิน​ม่าย​

เห​ลย​ซิ่งโกรธ​มาก​ ตำหนิ​หลิน​ม่าย​สำหรับ​ทุกสิ่ง​อย่าง​ โดย​คิด​ว่า​หลิน​ม่าย​กำลัง​ยุยง​ให้​ทัง​อี้​หย่า​กับ​หล่อน​

หลิน​ม่าย​ได้​เรียนรู้​ศิลปะ​การต่อสู้​จาก​อาจารย์​ที่​มีชื่อเสียง​เป็นเวลา​หลาย​เดือน​กระทั่ง​ผู้ชาย​อกสามศอก​ยัง​ไม่กลัว​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​เห​ลย​ซิ่งที่​เป็น​ผู้หญิง​ธรรมดา​!

เมื่อ​อีก​ฝ่าย​ยื่นมือ​ข้าม​ไหล่​มา เธอ​ก็​จับ​เห​ลย​ซิ่งโยน​ทุ่ม​ลงพื้น​และ​พูด​กับ​หัวหน้า​หน่วย​รักษา​ความปลอดภัย​ที่​ตาม​เข้ามา​ว่า​ “จัดการ​เรื่อง​นี้​ซะ”

จากนั้น​เธอ​เหลือบมอง​ทัง​อี้​เล็กน้อย​ ก่อน​เดิน​ออก​ไป​เลือก​ซื้อ​อาหาร​ต่อ​

หลังจาก​ซื้อ​อาหาร​และ​เดินทาง​กลับบ้าน​ คุณย่า​ฟางได้​บอกข่าว​เศร้า​กับ​เธอ​ว่า​ คุณยาย​เถียน​เสียชีวิต​เนื่องจาก​อาการป่วย​กะทันหัน​ และ​โจว​ฉาย​อวิ๋น​เพิ่ง​โทร​มารายงาน​เรื่อง​งานศพ​

แม้ว่า​คุณยาย​เถียน​จะมีญาติพี่น้อง​หลาย​คน​ แต่​พวกเขา​ไม่ค่อย​ได้​ติดต่อกัน​มาก​นัก​

หลิน​ม่าย​จำเป็นต้อง​กลับ​ไป​จัดการ​งานศพ​ของ​คุณยาย​เถียน​

แผนการ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​เชิงพาณิชย์​ใน​เมืองหลวง​จึงถูก​เลื่อน​ออก​ไป​ก่อน​

หลิน​ม่าย​วางแผน​ที่จะ​บิน​ไป​เมือง​เจียง​เฉิงหลัง​อาหารกลางวัน​

ขณะนี้​เป็น​ฤดูร้อน​ และ​ต้อง​จัด​งานศพ​ให้​เร็ว​ที่สุด​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางเกรง​ว่า​เธอ​ยัง​เด็ก​เกินไป​และ​ไม่สามารถ​จัดการ​งานศพ​ได้ดี​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงอยาก​ติดตาม​ไป​เมือง​เจียง​เฉิงเพื่อ​สามารถ​ให้​คำแนะนำ​กับ​เธอ​ได้​ตลอดเวลา​

แต่​หาก​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​ต้องการ​ติดตาม​ไป​ด้วย​ ก็​ไม่สามารถ​ทิ้ง​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ไว้​ที่นี่​

ใน​ท้ายที่สุด​ ยกเว้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​ที่​ไม่สามารถ​ทิ้ง​งาน​ได้​ และ​น้า​ถูที่​ต้อง​ดูแล​ชีวิตประจำวัน​ของ​เขา​ ทุกคน​ที่​เหลือ​ต่าง​ติดตาม​หลิน​ม่าย​ไป​ยัง​เมือง​เจียง​เฉิง

เมื่อ​พวกเขา​มาถึงเมือง​เจียง​เฉิงและ​กลับ​เข้า​ที่พัก​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ติดต่อ​หา​โจว​ฉาย​อวิ๋น​และ​นั่ง​แท็กซี่​ไป​ยัง​สถานที่​จัด​งานศพ​เพื่อ​พบ​กับ​คุณยาย​เถียน​เป็น​ครั้งสุดท้าย​

ระหว่างทาง​ หลิน​ม่าย​ถามโจว​ฉาย​อวิ๋น​ถึงสาเหตุ​การ​เสียชีวิต​ของ​คุณยาย​เถียน​

“หัวใจ​ล้มเหลว​น่ะ​” โจว​ฉาย​อวิ๋น​ตอบ​ “เช้าวันนี้​คุณยาย​เถียน​ทำ​บะหมี่​ให้​หลาย​ชาย​กิน​ ขณะที่​กำลัง​ล้างจาน​ ท่าน​บ่นว่า​เจ็บ​หน้าอก​ เสี่ยว​เห​วิน​ตั้งสติ​ได้​ดีมาก​ เขา​พา​คุณย่า​นอนลง​บน​โซฟา และ​ไป​ล้างจาน​แทน​ท่าน​ เมื่อ​เขา​ล้างจาน​เสร็จ​ เขา​เดิน​ออกมา​ถามคุณยาย​ว่า​อาการ​ดีขึ้น​หรือไม่​ แต่กลับ​พบ​ว่า​คุณยาย​จากไป​แล้ว​”

หลิน​ม่าย​จินตนาการ​ถึงอาการ​ที่​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​และ​หวาดกลัว​ของ​เสี่ยว​เห​วิน​ในเวลานั้น​ได้​ เธอ​รู้สึก​สงสาร​เขา​อย่างยิ่ง​

ทั้งสอง​มาถึงสถานที่​จัด​งานศพ​ในไม่ช้า​

ไม่มีญาติ​ตระกูล​เถียน​คนอื่น​ มีเพียง​เจิ้งซวี่ตง​และ​หลี่หมิง​เฉิงที่นั่ง​กับ​เสี่ยว​เห​วิน​อยู่​ด้านหน้า​โลงศพ​คุณยาย​เถียน​

เจิ้งซวี่ตง​และ​หลี่หมิง​เฉิงกำลัง​นั่ง​ก้มหน้า​ ขณะที่​เสี่ยว​เห​วิน​กำลัง​คุกเข่า​ร้องไห้​ ทว่า​ไม่มีเสียง​เล็ดลอด​ออกมา​

หลิน​ม่าย​เกิด​ความสงสาร​ เดิน​ไป​นั่งคุกเข่า​ลง​ด้าน​ข้าง​และ​ถามว่า​ “กินข้าว​หรือยัง​?”

“ผม​ไม่หิว​” เด็กน้อย​ปาด​น้ำตา​พลาง​ตอบกลับ​ละล่ำละลัก​

หลี่หมิง​เฉิงกำลัง​ด้าน​ข้าง​พูด​ขึ้น​ “จะไม่หิว​ได้​อย่างไร​ ตั้งแต่​ที่​คุณยาย​จากไป​ เธอ​ก็​ไม่แตะต้อง​แม้แต่​ข้าว​เม็ด​เดียว​มาจนถึง​ตอนนี้​”

เสี่ยว​เห​วิน​ตอบ​คำ​เบา​ “ผม​ไม่หิว​จริงๆ​”

หลิน​ม่าย​ลด​เสียง​ลง​ “เพื่อ​มาร่วม​งานศพ​ของ​คุณยาย​ ฉัน​รีบ​มาที่นี่​ทันทีที่​ได้​รับโทรศัพท์​ใน​เมืองหลวง​ และ​ยัง​ไม่ได้​กิน​อาหารเย็น​เลย​ ตอนนี้​ฉัน​หิว​มาก​ เธอ​ช่วย​ไป​เพื่อน​ฉัน​กิน​บะหมี่​เนื้อ​สัก​ชามได้​ไหม​?”

เสี่ยว​เห​วิน​จำได้​ว่า​ตอนที่​คุณยาย​มีชีวิต​อยู่​ นาง​สอน​เขา​เสมอ​ว่า​อา​หลิน​มีบุญคุณ​ต่อ​ครอบครัว​ของ​เขา​มาก​

ถ้ามีโอกาส​ชดใช้​ในอนาคต​ เขา​ต้อง​ตอบแทน​อา​หลิน​ให้ได้​

ตอนนี้​อา​หลิน​ม่าย​แค่​ขอให้​เขา​กิน​บะหมี่​เนื้อ​กับ​หล่อน​หนึ่ง​ชาม และ​เขา​ก็​ไม่ควร​ปฏิเสธ​

เขา​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​พยักหน้า​เห็นด้วย​

ผู้ใหญ่​ทุกคน​ต่าง​ก็​ดีใจ​ที่​เห็น​แบบ​นั้น​

หลี่หมิง​เฉิงลุกขึ้น​ทันที​และ​พูด​อย่าง​กระตือรือร้น​ว่า​ “ผม​จะไป​ซื้อ​บะหมี่​สอง​ถ้วย​มาให้​เอง​”

โจว​ฉาย​อวิ๋​นรี​บ​เตือน​เขา​ “ต้อง​เป็น​บะหมี่​เนื้อ​นะ​!”

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ หลี่หมิง​เฉิงกลับมา​พร้อมกับ​บะหมี่​น้ำ​ใส่เนื้อ​ตุ๋น​สอง​ชาม ซึ่งสำหรับ​หลิน​ม่าย​และ​เสี่ยว​เห​วิน​คนละ​ชาม

ท้ายที่สุด​เสี่ยว​เห​วิน​ยังคง​เป็น​เด็ก​ จู่ ๆ คุณยาย​ก็​มาด่วน​จากไป​ เขา​จึงเสียใจ​มาก​จน​แทบ​ไม่ได้​คิดถึง​เรื่อง​กิน​และ​ดื่ม​

แต่​เมื่อ​บะหมี่​เนื้อ​หอมกรุ่น​ถูกวาง​ตรงหน้า​ เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กลืนน้ำลาย​

หลังจาก​กิน​บะหมี่​น้ำ​ใส่เนื้อ​ร้อน​ ๆ ชามหนึ่ง​ แม้ว่า​เสี่ยว​เห​วิน​ยังคง​โศกเศร้า​มาก​ แต่​อารมณ์​ของ​เขา​ก็​ดีขึ้น​กว่า​เดิม​อย่าง​เห็นได้ชัด​

ทุกคน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​

เสี่ยว​เห​วิน​นอนไม่หลับ​ หลิน​ม่าย​และ​คนอื่น​ ๆ จึงยัง​ไม่เข้านอน​และ​คอย​อยู่​เป็นเพื่อน​เด็กชาย​

……………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ได้​แต่งงาน​ไป​แล้ว​ก็ดี​ อย่า​มายุ่ง​กับ​บ้าน​หลิน​ม่าย​อีก​ล่ะ​ยัย​ต้น​ไผ่​กลาง​แสงจันทร์​

เมื่อไหร่​ยัย​ป้า​ประสาท​คน​นี้​จะคิดได้​หนอ​ว่า​ทำไม​สามีถึงไม่อยาก​อยู่​ด้วย​ แถมมาระราน​เจ้านาย​สามีอีก​ ก็​โดน​จับ​ทุ่ม​หลัง​เดี้ยง​ไป​สิคะ​

สงสาร​เด็กน้อย​ ยาย​เพียง​คนเดียว​จู่ๆ จากไป​แบบนี้​ แถมไม่มีญาติ​คน​ไหน​มาช่วย​งาน​ด้วย​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท