บทที่ 872 ห้ามผู้ใดจาบจ้วงคุณชาย มิฉะนั้นจะต้องชดใช้!
โลกหลังฉากนั้นลึกล้ำทั้งยังใกล้ชิดความมืดมิดมากกว่า เซี่ยเหยียนไม่ต้องการเอิกเกริก นางตัดสินใจกำหนดพื้นที่แจ้งข่าว บอกเพียงสิ่งมีชีวิตที่พ่นใยได้เท่านั้น
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเสนอตัวให้ไปยังเผ่าของนาง ใช้สมาชิกในเผ่านางไปแจ้งข่าวตามสถานที่ที่กำหนดไว้
กับโลกหลังฉาก เซี่ยเหยียนเรียกได้ว่ามืดแปดด้าน ข้อมูลที่ทราบมามีอยู่อย่างจำกัดจริง ๆ
ข้อเสนอของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนับว่าดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ข้าขอเตือนให้เจ้าอยู่อย่างเจียมตัวจะดีกว่า”
เซี่ยเหยียนชำเลืองมองปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ไฉนเลยจะไม่รู้อุบายในใจนาง
หลังเข้าไปในดินแดนเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง เหตุการณ์ย่อมไม่สงบ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอาจคิดสลัดนางทิ้งด้วยการนี้ ได้มาซึ่งอิสรภาพ
“หาใช่เช่นนั้นไม่ เป็นไปได้อย่างไรกัน แม่นางเซี่ยเหยียนดูแคลนข้าเกินไป ข้าเพียงแค่ต้องการช่วยแม่นางเซี่ยเหยียนเท่านั้น”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมองเซี่ยเหยียนอย่างจริงใจ “ข้าเป็นคนสัตย์ซื่อ อืม เป็นจิ้งจอกสัตย์ซื่อสุด ๆ!”
“…”
เซี่ยเหยียนพูดไม่ออก ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางคิดใช้วิชามารยาต่อหน้านางหรือ
จิ้งจอกสัตย์ซื่อ ซ้ำยังต้องเสริมว่า ‘สุด ๆ’ อีกด้วย!
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางช่างกล้าพูดยิ่งนัก!
สัตย์ซื่อตรงไหนกัน นางนั้นอำมหิตกินคนไม่คายกระดูกชัด ๆ!
“หยุดหว่านวิชามารยาของเจ้าเถิด มันไม่มีผลกับข้า”
นางปรายตามองปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางยิ้มเจื่อน “เอ่อ…ข้าเกิดมาพร้อมความเย้ายวน เรื่องนั้นโทษข้าก็คงไม่ถูก มันเป็นไปเอง ควบคุมได้ที่ไหน!”
“เอาล่ะ ข้าได้กล่าวคำที่ต้องกล่าวไปหมดแล้ว เจ้าตรึกตรองเอาเองเถิด”
เซี่ยเหยียนเอ่ย “หากยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี เผ่าของเจ้าย่อมไม่เสียเปรียบ แต่หากแปรพักตร์เป็นอื่น เผ่าของเจ้าย่อมได้เห็นดีแน่!”
“มีใจแปรพักตร์อะไร ไม่มี ไม่เคยมีเลย!”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางรีบบอก
“ไม่มีก็ดี”
เซี่ยเหยียนเอ่ย “ไปกันเถิด ไปที่เผ่าของเจ้า”
นางออกเดินทางกับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางไปยังดินแดนเผ่าของนาง
สมาชิกเผ่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีจำนวนไม่น้อย ทั้งยังขอบเขตสูงส่งกันถ้วนหน้า เซี่ยเหยียนนั้นฝึกฝนจนอยู่ในขอบเขตลอยชายแล้ว ทว่าหลังมาถึงที่นี่ มิอาจสู้ผู้ใดได้เลย สมาชิกขอบเขตสูงส่งกว่านางมีให้เห็นอยู่ถมเถ
“องค์หญิงกลับมาแล้วหรือ!”
“เป็นอย่างไรบ้าง สิ่งแวดล้อมของของโลกหน้าฉากดีหรือไม่”
หลังพวกนางเข้ามาในดินแดนเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง สมาชิกเผ่าจิ้งจอกเก้าหางทุกตนต่างคำนับทักทายปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
เซี่ยเหยียนยังคิดไม่ถึง ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตนนี้คือองค์หญิงของเผ่าหรือนี่ และบิดาของนางคือหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง!
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตอบรับสมาชิกเหล่านั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มิได้มีท่าทีผิดปกติอันใด
ทว่าเซี่ยเหยียนรู้ดี เรื่องนี้ไม่มีทางมีเพียงเท่านี้ นางลอบเตรียมตัวไว้แล้ว มิได้ชะล่าใจ คอยระแวงปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอยู่ตลอด
“เยว่เอ๋อร์ เจ้ายังรู้จักกลับมาด้วยหรือ!”
เสียงตวาดทุ้มต่ำดังขึ้น หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง บิดาของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางก้าวออกมา
เผ่าจิ้งจอกเก้าหางนั้นสมแล้วที่เกิดมาพร้อมความเย้ายวน บิดาของนางผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเปี่ยมไปด้วยความองอาจมาดขรึม มีความพิเศษบางอย่างในตัว ยามเซี่ยเหยียนได้พบหน้าบิดาของนาง ก็รู้สึกดีกับเขามาก รู้สึกว่าบิดาของนางนั้นน่าหลงใหลอย่างยิ่ง
ทว่าไม่นานนางก็ได้สติ รู้ตัวว่าติดกับ ได้รับผลกระทบจากเสน่ห์แต่กำเนิดในตัวบิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
มิฉะนั้น นางไม่มีทางรู้สึกดีกับบิดาของนางทันทีที่ได้พบหน้า!
นางตั้งจิต จี้ห้อยที่คอถ่ายทอดพลังเข้าไปในกายนาง
จากนั้น ความรู้สึกดีที่นางมีต่อบิดาก็ของนางหายวับไปทันตา
“ผู้นี้คือ?”
บิดาของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางประสาทสัมผัสเฉียบแหลม จ้องมองเซี่ยเหยียนด้วยดวงตาเป็นประกาย
เขาสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของเซี่ยเหยียน ไม่ได้รับผลกระทบจากเสน่ห์แต่กำเนิดของเขา!
แม้ว่าเขาจะมิได้จงใจสำแดงวิชามารยา ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติ ทว่าผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเสน่ห์ของเขาเลยก็มีอยู่ไม่มาก!
“ผู้นี้หรือ เก่งกาจอย่างยิ่ง อืม เป็นนายหญิงของข้า!”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางแปรพักตร์ตามคาด เอ่ยประโยคนี้ออกมา
แน่นอนว่ามิใช่ประโยคน่าฟัง แฝงไว้ด้วยความยั่วยุอารมณ์ หลังบิดาของนางได้ยินก็เปลี่ยนสีหน้าไปในบัดดล
เขาหันมองปีศาจจิ้งจอกเก้าหางด้วยดวงตาวาวโรนจ์ พลังพิเศษบางอย่างซัดสาดเพื่อตรวจจับสถานการณ์ภายในร่างของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
“นายหญิงหรือ? เช่นนั้นนับว่าเก่งกาจจริง ๆ บังอาจใช้พลังเข้าข่มธิดาของข้า เจ้ากล้าดีอย่างไร!”
เขาเบนสายตามาที่เซี่ยเหยียน ให้ความรู้สึกหนาวสะท้านเสียดกระดูก เขาทรงพลังเหลือล้น ลำพังสายตานี้ สิ่งมีชีวิตทั่วไปก็มิอาจรับไหว
อย่างเช่นจ้าวอสนีบาต ข่งอวิ๋น และระดับเดียวกับพวกเขาล้วนรับไม่ไหว หากถูกจ้องด้วยสายตาเช่นนี้ คงต้องสติแตกในเสี้ยวลมหายใจ
ทว่าเซี่ยเหยียนกลับไม่เป็นอันใดเลยสักนิด นางรีดเร้นพลังจากจี้ห้อยคอ พลังบางอย่างไหลเวียนอยู่ในตัวนาง สายตาที่บิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมองมาเสมือนสายตาทั่วไปสำหรับนาง
นางถอนหายใจ หันมองปีศาจจิ้งจอกเก้าหางพลางกล่าว “ความเชื่อใจที่ควรมีระหว่างมนุษย์เล่า นี่หรือคือความสัตย์ซื่อที่เจ้าว่า”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ นางหัวเราะเสียงหวาน “ข้ามิใช่มนุษย์ ข้าคือจิ้งจอก หากจะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าไร้เดียงสาเกินไป เชื่อได้ทุกถ้อยคำ กล้าเข้าไปเสียทุกที่!”
บัดนี้กลับมาถึงเผ่าของนางแล้ว นางไฉนเลยจะยอมอยู่เฉย อยู่ใต้อาณัติของเซี่ยเหยียนอีก เป็นไปไม่ได้ นางจักชิงอิสรภาพของตนกลับมา!
ต้องรู้ว่าบิดาของนางคือหนึ่งในยอดฝีมือระดับสูงสุดในโลกหลังฉาก อยู่อันดับต้น ๆ ในรายนามทำเนียบ ไยนางต้องกลัวเซี่ยเหยียนอีก ย่อมต้องชิงอิสรภาพของตนเองกลับมาอยู่แล้ว
นอกจากนี้ นางยังคิดจะกำราบเซี่ยเหยียน แล้วใช้เซี่ยเหยียนเพื่อขู่ให้ลั่วสุ่ยมาที่นี่ กำราบลั่วสุ่ยให้เป็นข้ารับใช้ของนาง นับถือนางเป็นนายหญิง!
นางเคียดแค้นลั่วสุ่ยเป็นที่สุดที่กำราบนางแล้วนำไปทิ้งไว้ในเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ คอยฟังคำสั่งสอนจากสมาชิกเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ทุกวี่วัน จนนางรำคาญจะตายอยู่แล้ว!
เซี่ยเหยียนมีสีหน้าราบเรียบ ขณะหันมองปีศาจจิ้งจอกเก้าหางพลางกล่าว “เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการทำเช่นนี้ สิ่งที่ข้าต้องกล่าวได้กล่าวไปหมดแล้ว”
“บังอาจนัก อยู่ต่อหน้าข้ายังกล้าข่มขู่ธิดาข้าอีก เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร!”
บิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตวาดเสียงเย็น โทสะโลดแล่นในแววตา
ธิดาของเขาสูงศักดิ์เหลือคณา แต่กลับถูกกำราบอยู่ใต้อาณัติ ตัวการอย่างเซี่ยเหยียนยังริอ่านพานางมายังดินแดนเผ่าของเขาอย่างเหิมเกริม จะให้เขาทนได้อย่างไร จิตสังหารพลุ่งพรวดขึ้นในใจ!
เสียงดังตู้ม เขาลงมือทันที ลำแสงสยดสยองพุ่งออกจากดวงตา แฝงไว้ด้วยพลังอันน่าสะพรึง ถล่มใส่เซี่ยเหยียน
เซี่ยเหยียนระวังตัวไว้ก่อนแล้ว นางเร่งพลังอาภรณ์ทุกตัวที่สวมใส่อยู่ จังหวะแห่งเต๋าสูงส่งไหลเวียน กฎระเบียบสูงส่งถักทอจนเป็นม่านแสง ยับยั้งการโจมตีไว้ได้
อาภรณ์อะไรกัน?
สายตาบิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางทอประกายประหลาดใจ มิน่าเซี่ยเหยียนถึงกล้ามายังดินแดนเผ่าของเขาโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว ที่แท้มีอาภรณ์วิเศษระดับนี้อยู่ในตัวนี่เอง
“นี่หรือคือไม้ตายของเจ้า เจ้าเห็นเผ่าจิ้งจอกเก้าหางของเราเป็นอะไร คิดจริงหรือว่าลำพังอาภรณ์ตัวหนึ่งสามารถช่วยให้เจ้าทำตัวกำแหงอยู่ที่นี่ได้?!”
สายตาของบิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเย็นเยือก จิตสังหารพวยพุ่ง
เขาลงมืออีกครั้ง สำแดงมหาวิชาพิฆาตบางอย่าง ฟ้าดินเปลี่ยนสี คลื่นพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงซัดสาดไปหาเซี่ยเหยียน
อาภรณ์ของเซี่ยเหยียนนั้นได้จากคุณชาย เจือไปด้วยพลังยิ่งใหญ่สูงส่ง ม่านแสงที่เชิดขึ้นนั้นน่ากลัวเป็นพิเศษ หยุดยั้งมหาวิชาพิฆาตนี้ไว้ได้
คราวนี้สีหน้าของบิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
มหาวิชาพิฆาตที่เขาสำแดงออกไปถูกปัดป้องได้ง่าย ๆ โดยที่ม่านแสงไม่เป็นอันใดสักนิด ผิดคาดเขาไปมากจนแทบไม่อาจทำใจเชื่อได้เลย!
อีกด้าน สีหน้าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเปลี่ยนไปเช่นกัน
เหตุใดคนข้างกายหลี่จิ่วเต้าถึงมียอดศาสตรากันหมดเลยเล่า!
หลี่จิ่วเต้าได้รับรากฐานพิเศษจากโลกหน้าฉากไปเท่าใดกันแน่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หลี่จิ่วเต้าต้องได้รับรากฐานพิเศษไปแล้วมหาศาลแน่ ๆ มิฉะนั้น ไม่มีทางมอบให้ผู้อื่นมากมายเพียงนี้
“นางจาบจ้วงคุณชาย สมควรต้องถูกลงโทษแล้ว นอกจากนี้ การลงโทษที่ว่านับว่าเบามากแล้ว”
เซี่ยเหยียนหันมองปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง “เจ้าควรตระหนักดีว่า ลั่วสุ่ยฆ่าเจ้าได้หรือไม่!”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมิได้เอ่ยวาจา
จริงดังที่ว่าลั่วสั่ยมีพลังพอให้สังหารนาง ทว่าลั่วสุ่ยมิได้ทำเช่นนั้น เพียงแต่กำราบนางแล้วทิ้งไว้ในเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์
และเมื่อคราวอยู่ในเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ นางมิได้ถูกทรมานแต่อย่างใด มีเพียงคำสั่งสอนจากสมาชิกเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ อย่างอื่นนั้นปกติทุกอย่าง
“คุณชาย? หลี่จิ่วเต้าผู้นั้นน่ะหรือ”
บิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางรู้จักหลี่จิ่วเต้า
เรื่องราวเกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้าเลื่องลือมาถึงโลกหลังฉากแล้ว เขาเองก็เกิดความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ฉุนจวินในตัวหลี่จิ่วเต้า หรือรากฐานพิเศษแห่งโลกหน้าฉากที่อีกฝ่ายได้ไป เขาไม่คิดพลาดสักอย่าง ตั้งใจไปเยี่ยมเยียนชายผู้นี้ดูเสียหน่อย
“เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตต้อยต่ำในโลกหน้าฉาก โชคดีได้รับรากฐานพิเศษแห่งโลกหน้าฉากไปจำนวนหนึ่งเท่านั้น บังอาจกำเริบสืบสานปานนี้เชียวหรือ!”
เขาหัวเราะเสียงเย็น “ต่อให้เยว่เอ๋อร์จาบจ้วงเขาแล้วอย่างไร ฆ่าเขาไปก็ไม่เห็นเป็นอันใด!”
เขาทะนงตนว่าสูงส่ง ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตหน้าฉากในสายตา มองว่าหลี่จิ่วเต้าเพียงแค่ดวงดีเท่านั้น ไม่อาจเทียบชั้นพวกเขาได้เลย
“เจ้าจงระวังคำพูดด้วย อย่าได้พลั้งปากกล่าวคำใดออกมา!”
สีหน้าเซี่ยเหยียนขึงขังขึ้น “เจ้าว่าร้ายข้าอย่างไรก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ห้ามว่าร้ายคุณชายแม้เพียงครึ่งประโยค!”
“น่าขัน คิดจะวางมาดต่อหน้าข้าจริงหรือ”
บิดาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางแค่นเสียงเย็น “ข้าว่าร้ายเขาแล้วอย่างไร เจ้าทำอันใดข้าได้หรือ ที่นี่เป็นถิ่นของข้า ต่อให้ตัวเจ้าเต็มไปด้วยของวิเศษก็เท่านั้น!”
ในฐานะหนึ่งในยอดฝีมือระดับสูงสุดของโลกหลังฉาก ผู้อยู่ในขอบเขตอิสระขั้นห้า มิหนำซ้ำที่นี่ยังเป็นดินแดนเผ่าของเขา เขามั่นใจได้เต็มเปี่ยม!
พลังปราณสยดสยองจากตัวเขาปะทุ ประกายเจิดจ้าพวยพุ่งออกจากรอบตัว เขาเผยร่างจริงออกมา ซึ่งเป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมหึมาขนาดเท่าขุนเขา บดบังดวงอาทิตย์บนฟากฟ้า สะท้อนลงพื้นเป็นเงาใหญ่ไม่เห็นที่สิ้นสุด น่าสะพรึงกลัวเหลือคณา
ก่อนนี้เขาอยู่ในร่างมนุษย์มาตลอด ซึ่งมิใช่สภาวะทรงพลังที่สุด ร่างจิ้งจอกเก้าหางต่างหากคือสภาวะทรงพลังที่สุดของเขา!
เขาบันดาลโทสะขึ้นมาแล้วจริง ๆ เซี่ยเหยียนไฉนเลยจะกำราบเขาในดินแดนเผ่าของเขาได้?
เป็นไปมิได้เลย!
“ข้าตั้งใจจะไปหาหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นพอดี ยามนี้ขอปราบเจ้าก่อน แล้วค่อยไปปราบชายผู้นั้น!”
ดวงตาจิ้งจอกของเขามีเปลวเพลิงลุกโชติช่วง หางทั้งเก้าซึ่งอยู่ด้านหลังเสมือนมังกรฟ้าฉวัดเฉวียนไปมา ลำพังคำว่าน่ากลัวพอนิยามที่ไหน!
“ถึงครานั้น ข้าจะเหยียบหลี่จิ่วเต้าอยู่ใต้เท้า ให้พวกเจ้าได้เข้าใจความห่างชั้นระหว่างโลกหน้าฉากและโลกหลังฉาก มิใช่ว่าพวกเจ้าได้รับรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากไปจำนวนหนึ่งแล้วจะต้านทานไหว!”
สายตาของเขาดุดัน ไม่เก็บคำเตือนเมื่อครู่ของเซี่ยเหยียนมาใส่ใจ
“สมแล้วที่พวกเจ้าเป็นพ่อลูกกัน สืบทอดสายเลือดเดียวกันมาจริง ๆ…”
สีหน้าเซี่ยเหยียนเย็นเยียบลง
“ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ ว่าห้ามผู้ใดจาบจ้วงคุณชาย เจ้าก็ไม่ได้ฟัง! ผู้ใดจาบจ้วงคุณชายย่อมต้องชดใช้!”
นางดึงปิ่นหยกลงจากศีรษะ
พลันปิ่นหยกส่องแสง จังหวะแห่งเต๋าสูงส่งวิเศษบางอย่างไหลเวียน กลายเป็นทวนยาวเล่มหนึ่งในมือเซี่ยเหยียน
เซี่ยเหยียนยกทวนยาวขึ้นเล็งไปที่บิดาของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง!