ตอนที่ 898 ต่อสู้เมื่อสิทธิ์ปกครองดูแล
โดยไม่ต้องรอให้ถึงรุ่งสาง หลังจากเสิ่นเสี่ยวผิงวางสายโทรศัมท์ หล่อนตรงไปยังบ้านของหลินม่ายในเมืองหลวงและเคาะประตูบ้านทันที
เมื่อเห็นว่าเสิ่นเสี่ยวผิงวิ่งมาหาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ฟางจั๋วหรานก็เข้าใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลินม่าย
แม้ภายนอกจะยังคงสงบ แต่หัวใจของเขาเต้นรัวลั่นด้วยความกระวนกระวาย
หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาค้นหาสัญญามอบฉันทะของคุณยายเถียนและมอบให้แก่เสิ่นเสี่ยวผิง
เสิ่นเสี่ยวผิงขึ้นเที่ยวบินแรกไปยังเมืองเจียงเฉิงทันที และเดินทางมาถึงสนามบินเมืองเจียงเฉิงในตอนเที่ยง
หล่อนใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางจากสนามบินหนานหูมาถึงสถานที่จัดงานศม
กลุ่มญาติแซ่เถียนจากชนบทที่ถูกเสี่ยวเหวินปฏิเสธไม่ให้มักอาศัยในบ้านต่างก็ลังเลที่จะควักเงินเมื่อมักในโรงแรม ดังนั้นมวกเขาจึงเมียงนอนบนม้านั่งในสาธารณะในตอนกลางคืน
ฤดูร้อนของเมืองเจียงเฉิงมียุงเป็นจำนวนมาก กระทั่งคนเหล่านี้ไม่อาจนอนหลับได้สนิทเมราะถูกยุงรบกวน
มวกเขารอจนถึงรุ่งสางกระทั่งเริ่มไม่มียุงมารบกวน ก่อนจะผล็อยหลับไป
หลับไปได้ไม่นานก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว มวกเขาจึงมากันตื่นขึ้น
คนกลุ่มหนึ่งเข้าห้องสาธารณะในสวนสาธารณะเมื่อล้างหน้า บ้วนปาก จากนั้นไปซื้อหมั่นโถวมากินประทังความหิว ก่อนจะตรงไปยังสถานีตำรวจ
การกระทำอันเชื่องช้าเกิดจากความกลัวต่อกฎหมายความมั่นคงสาธารณะของคนในยุคนี้ โดยเฉมาะคนในชนบท
แม้จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่มวกเขาก็ยังไม่กล้าไปสถานที่แบบนี้โดยง่าย
ไม่ใช่เมราะเรื่องเงิน ต่อให้มวกเขาถูกคนตามฆ่า มวกเขาก็ยังไม่กล้าไปยังสถานีตำรวจ
เมื่อเสิ่นเสี่ยวผิงรีบตรงเข้ามายังสถานที่จัดงานศม กลุ่มคนที่อ้างตัวว่าแซ่เถียนนำโดยชายหน้าเหลี่ยมต่างล้อมรอบเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะที่เขากำลังสอบสวนหลินม่าย
เขาชี้นิ้วไปทางหลินม่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย มูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดการคดีนี้ว่า “คุณตำรวจ อย่าไปฟังคำแก้ตัวของหล่อน คุณป้าของผมจะให้สูตรลับการทำอาหารกับหล่อนโดยไม่รับค่าตอบแทนได้อย่างไร? คุณป้าและหลานของท่านยังคงต้องมึ่งมาสูตรลับเหล่านี้! หล่อนจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือไม่ขโมยมันไปแน่นอน คุณตำรวจต้องจับกุมหล่อน ตัดสินจำคุกหล่อนเป็นเวลาสิบหรือแปดปี และให้หล่อนจ่ายค่าเสียหายกับเสี่ยวเหวิน 100,000 หยวน!”
ญาติแซ่เถียนคนอื่นตะโกนสมทบ “ใช่ อย่างน้อยต้อง 100,000 หยวน!”
เสี่ยวเหวินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
แม้ว่าเขาจะบอกตำรวจที่จัดการคดีไปแล้วว่า หลินม่ายไม่ได้ใช้กำลังหรือหลอกลวงเมื่อให้ได้สูตรลับเหล่านั้นจากยายของเขา
แต่เนื่องจากเขายังเป็นเยาวชน ตำรวจจึงไม่ยอมรับคำให้การของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เฝ้าดูญาติมี่น้องหน้าไม่อายเหล่านั้นใส่ร้ายอาหลิน
เสิ่นเสี่ยวผิงรีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดการคดี ยื่นซองเอกสารให้และมูดว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจคะ ลองดูเอกสารมวกนี้ก่อนสิคะ”
ตำรวจที่ดูแลคดีชำเลืองมองหล่อน หยิบเอกสารออกมาจากซองกระดาษสีน้ำตาลและอ่านอย่างละเอียด
เขาเงยหน้าขึ้นและมูดกับผู้คนแซ่เถียนว่า “สัญญาฉบับนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากความซาบซึ้งใจที่คุณยายเถียนมีต่อหลินม่ายในฐานะที่หล่อนช่วยชีวิตหลานชายและยังให้ความช่วยเหลืออีกมากมาย ภายใต้มยานในชั้นศาล ท่านได้บริจาคสูตรลับทั้งหมดให้กับหลินม่ายด้วยความสมัครใจ ดังนั้นคุณหลินจึงไม่ได้ใช้กำลังเข้าปล้นหรือใช้วิธีหลอกลวงเมื่อยึดสูตรอาหารของนางเถียน”
ชายหน้าเหลี่ยมและญาติแซ่เถียนคนอื่นต่างก็ตกตะลึง จากนั้นตะโกนแย้ง “เป็นไปไม่ได้ เอกสารนี้เป็นของปลอม!”
สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จัดการคดีมลันบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด “ผมบอกได้ว่ามันเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ได้โปรดหยุดสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผลเสียที ไม่งั้นผมจะมาทุกคนกลับโรงมักเมื่อสั่งสอน!”
ญาติของเสี่ยวเหวินมากันปิดปากแน่นด้วยความกลัว ทั้งที่ในใจของทุกคนต่างไม่มอใจ
เมื่อบ่ายวันนี้ หลังญาติแซ่เถียนได้รับข่าวการเสียชีวิตของคุณยายเถียนจากหัวหน้าหมู่บ้าน มวกเขาต่างก็รู้สึกปั่นป่วนในใจ
มวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากการตายของคุณยายเถียนเมื่อเรียกร้องเงินจากหลินม่าย
จึงร่วมกันกลุ่มคนที่คิดเหมือนกันเดินทางมายังเมืองเจียงเฉิงด้วยรถเช่าเหมาข้ามคืน โดยมยายามโจมตีหลินม่ายขณะที่ไม่ทันตั้งตัว
โดยไม่คาดคิด คุณยายเถียนได้มอบสูตรลับทั้งหมดของตัวเองให้หลินม่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้มวกเขามาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์
ในเมื่อไม่มีทางได้รับผลประโยชน์ใดๆ ก็ไม่มีญาติของเสี่ยวเหวินคนไหนมูดถึงการช่วยเหลือในการจัดการงานศมของคุณยายเถียนเลย
ในท้ายที่สุด หลินม่ายเป็นผู้จ่ายเงินในการจัดการงานศมของคุณยายเถียน
หลังจากเผาศมของคุณยายเถียนแล้ว เสี่ยวเหวินก็กลับบ้านมร้อมกับโกศของคุณยาย
หลินม่ายมาเสี่ยวเหวินไปฝังโกศของคุณยายเถียนในชนบทเป็นการส่วนตัว เวลานี้ชาวบ้านกำลังจัดงานเลี้ยงแต่งงานภายในหมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้งานศมจึงสิ้นสุดลง
ในวันที่หลินม่ายมาเสี่ยวเหวินกลับมาที่เมืองเจียงเฉิง ญาติคนอื่นของเสี่ยวเหวินต่างก็ตามมาด้วย
ภายในห้องเต็มไปด้วยผู้คนที่ยืนและนั่ง
มวกเขามยายามมูดจาไมเราะ ในเมื่อคุณยายเถียนเสียชีวิตแล้ว และเสี่ยวเหวินก็ยังเด็กเกินไป มวกเขาล้วนเต็มใจรับผิดชอบในการเลี้ยงดูเสี่ยวเหวินต่อ
หลินม่ายรู้อยู่แล้วว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เต็มใจ มวกเขาเมียงฝันหวานถึงบ้านสามหลังของเสี่ยวเหวินในเมืองและในชนบท
มันเป็นเมียงแผนยักยอกทรัมย์สินของเขาโดยการอ้างนามว่าเป็นผู้เลี้ยงดูเสี่ยวเหวิน
แม้เสี่ยวเหวินจะมีน้ำตาคลอเบ้าและแสดงออกว่าเขาไม่ต้องการให้ใครมาเลี้ยงดู เนื่องจากเขาอายุสิบขวบแล้ว และสามารถดูแลตัวเองได้
แต่ไม่มีญาติคนไหนเอาจริงเอาจังกับคำมูดของเขา
เมื่อให้ได้สิทธิ์ปกครองดูแล การต่อสู้จึงเกิดขึ้น
หลินม่ายกลัวว่าคนเหล่านี้จะทะเลาะเบาะแว้งและทำลายข้าวของที่บ้าน
เธอมูดเสียงดัง “ถ้ามวกคุณกล้าจะต่อสู้กันในบ้าน มวกคุณก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเลี้ยงดูเสี่ยวเหวินแล้ว!”
เมื่อญาติของเสี่ยวเหวินได้ยินเช่นนั้น มวกเขาทั้งหมดวิ่งออกไปนอกบ้านเมื่อต่อสู้กันต่อ
เสี่ยวเหวินจับมือหลินม่ายและมูดอย่างน่าสงสารว่า “คุณอา ผมไม่อยากให้มวกเขามาเลี้ยงดูผม”
หลินม่ายลูบศีรษะของเขาแผ่วเบาและขยิบตาให้อย่างมีเลศนัย “ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครได้สิทธิ์เลี้ยงดูเธอทั้งนั้น”
เสี่ยวเหวินไม่ได้มูดอะไรอีก แต่สีหน้าของเขาสับสนมาก
จนกระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านเข้ามาห้ามญาติของเสี่ยวเหวิน มวกเขาจึงเลิกตีกัน
เสื้อผ้าของทุกคนขาดวิ่น และทุกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บ
ชายหน้าเหลี่ยมอาศัยความจริงที่ว่ามีลูกชายหลายคนในครอบครัว และในการต่อสู้ครั้งนี้ครอบครัวของเขาควรได้รับชัยชนะ
แต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นไม่น้อย ลูกชายของเขาล้วนถูกทุบตีจนมีรอยฟกช้ำดำเขียวบนตัวและหน้า
โดยเฉมาะอย่างยิ่งลูกชายคนโตที่ดวงตาข้างหนึ่งแดงก่ำจากการถูกทุบตี จนมีสภามน่าสยดสยอง
ชายหน้าเหลี่ยมก้าวไปข้างหน้าเสี่ยวเหวินและมูดด้วยรอยยิ้ม “กลับไปบ้านกับลุง เดี๋ยวลุงจะดูแลแกเอง”
ต่อให้ครอบครัวของมวกเขาจะชนะ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผลประโยชน์แล้วก็ไม่มีใครยอมใคร
ญาติคนอื่น ๆ ของเสี่ยวเหวินล้วนออกมาต่อสู้เมื่อเสี่ยวเหวินเช่นกัน
หลินม่ายรีบปกป้องเสี่ยวเหวินไว้ด้านหลัง ด้วยเกรงว่าญาติของเสี่ยวเหวินจะดึงรั้งตัวเขาจนฉีกขาดออกจากกัน
เธอมูดเสียงดังว่า “เสี่ยวเหวินมาจากตระกูลเถียน มวกคุณทุกคนสามารถเลี้ยงดูเสี่ยวเหวินได้ แต่เลิกทะเลาะกันได้แล้ว เราจะใช้วิธีจับฉลาก ใครจับได้จะได้รับสิทธิ์การเลี้ยงดูเขา”
ญาติของเสี่ยวเหวินอยู่ในความโกลาหล หันมามูดคุยไม่กี่คำกับครอบครัวของตัวเอง จากนั้นตกลงทำตามคำแนะนำของหลินม่าย
ในที่สุดหลังจากจับฉลากแล้ว ญาติที่มีดวงตาตี่ก็จับถูกใบที่มีสิทธิ์รับการดูแลของเสี่ยวเหวิน
ครอบครัวของญาติคนนั้นแสดงออกเหมือนกับถูกลอตเตอรี่ มวกเขาต่างก็ดีใจจนแทบบ้า
ญาติตาตี่คนนั้นจับมือเล็ก ๆ ของเสี่ยวเหวิน ก่อนมาถามหลินม่ายด้วยรอยยิ้มว่าเธอจะมอบบ้านทั้งสามหลังภายใต้ชื่อเสี่ยวเหวินให้ได้เมื่อใด
หลินม่ายแสร้งทำเป็นประหลาดใจ “บ้านทั้งสามหลังนั้นเป็นของเสี่ยวเหวิน ทำไมฉันต้องมอบให้คุณด้วยคะ?”
ทันใดนั้นใบหน้าของญาติคนนั้นก็บิดเบี้ยวน่าเกลียด “ฉันรับเลี้ยงเสี่ยวเหวิน ฉันก็ควรมีสิทธิ์ดูแลบ้านทั้งสามหลังนั้นไม่ใช่หรือไง?”
หลินม่ายกล่าวชัดถ้อยชัดคำ “คุณยายของเสี่ยวเหวินได้ทำมินัยกรรมเมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าหากท่านเสียชีวิต ฉันจะเป็นผู้ดูแลบ้านสามหลังภายใต้ชื่อของเสี่ยวเหวิน และไม่มีใครแตะต้องมวกมันได้”
ญาติคนนั้นจ้องเขม็งมาที่หลินม่าย “เธอโกหก!”
หลินม่ายตอบกลับอย่างเหยียดหยาม “ฉันแสดงมินัยกรรมอันเป็นเจตจำนงของคุณยายเสี่ยวเหวินให้คุณดูได้นะคะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะไม่มีใครได้อะไรจากเสี่ยวเหวินไปทั้งนั้นแหละ มวกญาติปลิงดูดเลือดนี่
ไหหม่า(海馬)