แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 901 เสี่ยวเหวินสอบผ่าน

ตอนที่ 901 เสี่ยวเหวินสอบผ่าน

ชตอนที่​ 901 เสี่ยว​เห​วิน​สอบผ่าน​

วันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​กลับ​ไป​ยัง​เมืองหลวง​พร้อมกับ​กลุ่ม​เด็ก​และ​ผู้ใหญ่​

ครั้งนี้​เธอ​กลับ​ไป​ยัง​เมือง​เจียง​เฉิงเพื่อ​จัดการ​งานศพ​ของ​คุณยาย​เถียน​และ​ชนะ​การประมูล​โครงการ​สะพาน​ ซึ่งใช้เวลา​มากกว่า​สิบ​วัน​

อา​หวง​ไม่ได้​เห็น​นาย​น้อย​ทั้งสอง​มานาน​กว่า​สิบ​วัน​แล้ว​ เมื่อ​มัน​เห็น​เสี่ยว​มู่ตง​และ​โต้​ว​โต้​วก​ลับ​มา หาง​ของ​มัน​ก็​ส่าย​ไปมา​ด้วย​ความดีใจ​จน​แทบ​หัก​

บางครั้ง​สัตว์​ก็​เป็น​ผู้​เยียวยา​ความเจ็บปวด​ใน​ใจคน​ได้​ ในไม่ช้า​เสี่ยว​เห​วิน​ก็​เริ่ม​เล่น​กับ​อา​หวง​ จากนั้น​ความเศร้า​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ลดลง​อย่าง​เห็นได้ชัด​

ฟางจั๋ว​หรา​น​มีความสุข​ไม่ต่าง​กับ​อา​หวง​ เขา​ไม่ได้​เจอ​ภรรยา​สุดที่รัก​มากกว่า​สิบ​วัน​ และ​รู้สึก​คิดถึง​เธอ​มาก​

ใน​ช่วง​เย็น​เมื่อ​ทั้งคู่​เข้านอน​ใน​ห้อง​เดียวกัน​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​เปลี่ยน​ความ​ถวิลหา​เป็นความ​ร้อนแรง​ หลิน​ม่าย​ถูก​เขา​บดขยี้​อย่าง​รุนแรง​เจียน​ตาย​ และ​ไม่ยอม​หยุดยั้ง​ราวกับ​ต้องการ​กิน​หลิน​ม่าย​ทั้งตัว​

ศาสตราจารย์​มักจะ​เต็มไปด้วย​พลัง​เสมอ​เมื่อ​อยู่​บน​เตียง​

หลัง​อาหารเช้า​ หลิน​ม่าย​พา​เสี่ยว​เห​วิน​ไป​ติดต่อ​โรงเรียนประถม​ที่​รับ​เขา​ไว้​

ใน​เมือง​เจียง​เฉิง ขณะที่​หลิน​ม่าย​จัดการ​ขั้นตอน​การ​โอนย้าย​ทะเบียนบ้าน​สำหรับ​เสี่ยว​เห​วิน​ ครูประจำชั้น​ของ​เขา​ยังคง​ลังเล​ที่จะ​ปล่อย​ให้​เขา​ไป​

โดย​บอ​กว่า​ผลการเรียน​ของ​เสี่ยว​เห​วิน​ดีมาก​ เขา​ได้​คะแนน​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบ​กลาง​ภาค​และ​ปลาย​ภาค​ของ​แต่ละ​ปี​

เจียง​เฉิงเป็น​จังหวัด​การศึกษา​ที่​มีชื่อเสียง​ไป​ทั่วประเทศ​ ใน​ช่วง​ทศวรรษ​ 1980 แม้แต่​โรงเรียนประถม​ธรรมดา​ก็​มีการศึกษา​ที่​แข็งแกร่ง​

แม้ว่า​เสี่ยว​เห​วิน​จะไป​แค่​โรงเรียนประถม​ธรรมดา​ แต่​เขา​ก็​ยัง​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบ​ทุกปี​ ซึ่งพิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​เขา​เป็น​ต้นกล้า​ที่​ดี​ใน​การเรียนรู้​ และ​หลิน​ม่าย​ก็​วางแผน​ที่จะ​ปลูกฝัง​เขา​อย่าง​ดี​

ดังนั้น​เธอ​จึงต้องการ​ส่งเสี่ยว​เห​วิน​ไป​เรียน​ที่​โรงเรียนประถม​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ ซึ่งเป็น​โรงเรียนประถม​ชั้นนำ​

เมื่อ​หลิน​ม่าย​จัด​เตรียมการ​โอนย้าย​ทะเบียนบ้าน​ของ​เสี่ยว​เห​วิน​ และ​ติดต่อ​กับ​โรงเรียนประถม​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​เพื่อ​ลงทะเบียน​ใน​ภายหลัง​ แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่ยอมรับ​เสี่ยว​เห​วิน​อย่าง​ง่ายดาย​

เขา​จะต้อง​ได้รับ​การประเมิน​ และ​มีความเป็นไปได้​ที่จะ​ยอมรับ​เขา​หลังจาก​ผ่าน​การประเมิน​แล้ว​เท่านั้น​

หลิน​ม่าย​บอก​เขา​ว่า​ไม่ต้อง​ประหม่า​และ​ไม่ต้อง​กลัว​อะไร​ วันนี้​ขอให้​เขา​ทำ​ข้อสอบ​ตามปกติ​

เสี่ยว​เห​วิน​พยักหน้า​รับ​อย่าง​หนักแน่น​

เขา​จ้องมอง​รอย​คล้ำ​ใต้​ตา​ของ​หลิน​ม่าย​และ​พูดว่า​ “คุณอา​ครับ​ ผม​คิด​ว่า​คุณอา​คง​ไม่สบาย​ เรา​ค่อย​ไป​โรงเรียนประถม​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​เพื่อ​ลงทะเบียน​ใน​วันพรุ่งนี้​ก็ได้​”

ใบหน้า​ของ​หลิน​ม่าย​เปลี่ยนเป็น​สีแดง​

ทั้งหมด​เป็น​เพราะ​ฟางจั๋ว​หรา​นขา​ด​ความยับยั้งชั่งใจ​ แม้แต่​เด็ก​ ๆ ยัง​สังเกตเห็น​ร่องรอย​ความรัก​ของ​พวกเขา​

โชคดี​ที่​เสี่ยว​เห​วิน​อายุ​เพียง​สิบ​ขวบ​ ดังนั้น​เขา​จึงคาดเดา​ความจริง​ไม่ได้​ และ​คิด​ว่า​เธอ​ไม่สบาย​ มิฉะนั้น​หลิน​ม่าย​จะต้อง​อับอาย​

หลิน​ม่าย​แสร้ง​ทำเป็น​กระแอม​ “ฉัน​สบายดี​ เมื่อคืน​แค่​นอน​ไม่ค่อย​หลับ​น่ะ​”

เสี่ยว​เห​วิน​เชื่อ​คำพูด​ของ​เธอ​ทันที​

หลิน​ม่าย​ขับรถ​พา​เสี่ยว​เห​วิน​ไป​ยัง​โรงเรียนประถม​แห่ง​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​

และ​เป็น​อย่าง​ที่​เธอ​คาดเดา​ไว้​ โรงเรียนประถม​แห่ง​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​นั้น​ไม่ง่าย​นัก​ที่จะ​เข้าเรียน​ และ​จำเป็นต้อง​ทำบท​ทดสอบ​

เสี่ยว​เห​วิน​สามารถ​ทำ​คะแนนเต็ม​ได้​ทั้ง​ภาษาจีน​และ​คณิตศาสตร์​ แต่​เนื่องจาก​โรงเรียนประถม​ทุกแห่ง​ใน​เมือง​เจียง​เฉิงไม่ได้​สอน​ภาษาอังกฤษ​ เขา​จึงได้​ศูนย์​คะแนน​ใน​วิชา​นี้​

แทบ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ใน​เมือง​เจียง​เฉิง แม้แต่​โรงเรียนประถม​ทั่วไป​ใน​เมืองหลวง​ก็​ไม่ได้​เปิด​สอน​ภาษาอังกฤษ​

มีเฉพาะ​โรงเรียน​ประถมศึกษา​ชั้นนำ​ที่​เปิด​สอน​ภาษาอังกฤษ​เท่านั้น​

มัน​จึงเป็นเรื่อง​ปกติ​ที่​เสี่ยว​เห​วิน​จะไม่ผ่านการทดสอบ​ เขา​เศร้า​จน​เกือบ​ร้องไห้​ ราวกับ​เขา​อาจ​ทำให้​หลิน​ม่าย​ผิดหวัง​

แม้ภาษาอังกฤษ​ระดับ​ประถม​จะไม่ยาก​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​เขา​ไม่สามารถ​เข้าเรียน​โรงเรียนประถม​แห่ง​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ได้​เพราะ​สอบตก​ภาษาอังกฤษ​

หลิน​ม่าย​หารือ​กับ​รอง​อาจารย์ใหญ่​ที่​รับผิดชอบ​การ​รับสมัคร​ เพื่อ​ดู​ว่า​เขา​สามารถ​ยกเว้น​และ​ยอมรับ​เสี่ยว​เห​วิน​เข้าเรียน​ได้​หรือไม่​

รอง​อาจารย์ใหญ่​กล่าวว่า​มีความยืดหยุ่น​บางอย่าง​ที่​เป็นไปได้​ แต่​ไม่อาจ​ยกเว้น​การ​รับ​เข้าเรียน​ได้​

ทาง​โรงเรียน​จะให้โอกาส​เสี่ยว​เห​วิน​สอบ​อีกครั้ง​ใน​ปลายเดือน​สิงหาคม​

หาก​เสี่ยว​เห​วิน​ผ่านการทดสอบ​ภาษาอังกฤษ​ใน​ครั้งนี้​ ทาง​โรงเรียน​จะยอมรับ​เขา​

นี่​เป็น​เพราะ​โรงเรียน​ให้โอกาส​เขา​เนื่องจาก​คะแนน​ภาษาจีน​และ​คณิตศาสตร์​ของ​เสี่ยว​เห​วิน​นั้น​ดีมาก​

ระหว่างทาง​กลับบ้าน​ หลิน​ม่าย​เห็น​ว่า​เสี่ยว​เห​วิน​มีอาการ​เซื่องซึม​ เธอ​จึงให้กำลังใจ​เขา​ไป​ว่า​ “อย่า​กังวล​เรื่อง​ภาษาอังกฤษ​เลย​ อา​จะจ้างครู​สอน​ภาษาอังกฤษ​มาให้​เมื่อ​เรา​กลับบ้าน​แล้ว​”

เสี่ยว​เห​วิน​พยักหน้า​รับ​

บ่าย​วันนั้น​ หลิน​ม่าย​ได้​จ้างครู​สอน​ภาษาอังกฤษ​ให้​กับ​เสี่ยว​เห​วิน​ ซึ่งเป็น​ครู​สอนพิเศษ​ของ​โต้​ว​โต้​ว​

หลังจาก​จัดการ​เรื่อง​ของ​เสี่ยว​เห​วิน​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​เริ่ม​ทำงาน​ใน​โครงการ​บ้านจัดสรร​เชิงพาณิชย์​แห่ง​แรก​ใน​เมืองหลวง​

หาก​ต้องการ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​เชิงพาณิชย์​ อันดับ​แรก​เธอ​ต้อง​มีที่ดิน​

หลิน​ม่าย​พา​เจียว​อิง​จวิ้น​ไป​ที่​สำนักงาน​ที่ดิน​เพื่อ​ขออนุมัติ​ที่ดิน​

ปัจจุบัน​เจียว​อิง​จวิ้น​เป็น​ผู้ดูแล​ว่า​นท​งก​รุ๊ป​ใน​เมืองหลวง​ เขา​จึงคุ้นเคย​กับ​ขั้นตอน​การขออนุมัติ​ที่ดิน​จาก​สำนักงาน​ที่ดิน​และ​หน่วยงาน​อื่น​ ๆ ที่​เกี่ยวข้อง​

เนื่องจาก​เคย​พบ​คน​หลาย​คน​จาก​สำนักงาน​ที่ดิน​ผ่าน​ผู้จัดการ​เซี่ย​มาก่อน​ ที่ดิน​สำหรับ​โครงการ​บ้านจัดสรร​เชิงพาณิชย์​จึงได้รับ​การอนุมัติ​โดย​ไม่ต้อง​ใช้ความพยายาม​มาก​นัก​ และ​ทำเลที่ตั้ง​ก็​ไม่เลวร้าย​เลย​

ในอนาคต​หาก​เธอ​ต้อง​การพัฒนา​อสังหาริมทรัพย์​ใน​เมืองหลวง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ เธอ​จะต้อง​ไป​ที่​สำนักงาน​ที่ดิน​เพื่อ​ขออนุมัติ​ที่ดิน​ จากนั้น​จะต้อง​สร้างความสัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​ผู้นำ​ที่​เกี่ยวข้อง​ของ​หน่วยงาน​

ด้วยเหตุนี้​ หลิน​ม่าย​จึงสั่งให้​เจียว​อิง​จวิ้น​เชิญผู้นำ​เหล่านั้น​ไป​ร่วม​ดื่ม​และ​รับประทาน​อาหาร​ใน​ภัตตาคาร​ที่​มีชื่อเสียง​มาก​ที่สุด​ใน​เมืองหลวง​

เครื่องดื่ม​ต้อง​เป็น​เหมา​ไถ ยาสูบ​ต้อง​เป็น​ยี่ห้อ​หอ​กระเรียน​เหลือง​ปี​ 1916 เท่านั้น​ และ​อาหาร​ก็​ต้อง​เป็น​เมนู​ที่​แพง​ที่สุด​เช่นกัน​

ห​ลิ​น่​มาย​ลำบากใจ​เรื่อง​เครื่องดื่ม​มาก​ที่สุด​ หนึ่ง​คือ​เธอ​ไม่สามารถ​ดื่ม​แอลกอฮอล์​ได้​ และ​สอง​คือ​เธอ​รู้สึก​อึดอัด​เมื่อ​เมา

ภารกิจ​สำคัญ​ใน​การ​ดื่ม​กับ​ผู้นำ​จึงถูก​ส่งมอบให้​กับ​เจียว​อิง​จวิ้น​

การ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​เชิงพาณิชย์​นั้น​แตกต่าง​จาก​การ​สร้าง​ที่อยู่อาศัย​ของ​ครอบครัว​

ใน​การ​สร้าง​พื้น​ที่พักอาศัย​ของ​พนักงาน​ สิ่งสำคัญ​อันดับ​แรก​คือ​เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​สามารถ​จัดสรร​บ้าน​ให้​พนักงาน​ได้​มาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​เป็นไปได้​ ความ​สะดวกสบาย​และ​คุณภาพ​ของ​บ้าน​มาเป็น​อันดับ​สอง​ ในขณะที่​จำนวน​บ้าน​ที่​สามารถ​สร้าง​ได้​มีความสำคัญ​สูงสุด​

ในทางกลับกัน​นัก​พัฒนา​เชิงพาณิชย์​ให้ความสำคัญ​กับ​ความ​สะดวกสบาย​ของ​บ้าน​มากกว่า​ ดังนั้น​พวก​จึงต้อง​ออกแบบ​อาคาร​อพาร์ตเมนต์​

หน่วย​ที่อยู่อาศัย​มีสี่ประเภท​ แบบ​สอง​ห้องนอน​พร้อม​ห้องนั่งเล่น​หนึ่ง​ห้อง​ ห้องนอน​สอง​ห้อง​พร้อม​ห้องนั่งเล่น​สอง​ห้อง​ ห้องนอน​สามห้อง​พร้อม​ห้องนั่งเล่น​หนึ่ง​ห้อง​ และ​ห้องนอน​สามห้อง​พร้อม​ห้องนั่งเล่น​สอง​ห้อง​ อาคาร​ทั้งหมด​มีหก​ชั้น​

ใน​ปัจจุบัน​อาคาร​สวัสดิการ​ครอบครัว​ใน​เมืองหลวง​มีตั้งแต่​สามถึงห้า​ชั้น​

อาคาร​ของ​พวกเขา​มีมากกว่า​เพียง​ชั้นเดียว​ ดังนั้น​มัน​จึงไม่ใช่เรื่อง​ยาก​สำหรับ​คน​ทั่วไป​ที่จะ​ยอมรับ​มัน​

หลิน​ม่าย​กำหนด​กรอบ​ทั่วไป​สำหรับ​ที่อยู่อาศัย​เชิงพาณิชย์​เท่านั้น​

ไม่ว่าการ​ออกแบบ​จะเก่า​แค่​ไหน​ เจียว​อิง​จวิ้น​จะต้อง​รับผิดชอบ​คุณภาพ​ของ​บ้าน​

หลิน​ม่าย​รับหน้าที่​เป็น​ผู้จัดการ​โดยตรง​ คอย​ตรวจสอบ​ความคืบหน้า​ของ​โครงการ​และ​เรื่อง​อื่น​ ๆ ที่​เกี่ยวข้อง​เป็นระยะ​

ส่วนใหญ่​เธอ​ต้อง​คอย​ดูแล​ลูก​ที่​บ้าน​ เมื่อ​ลูก​หลับ​ เธอ​จึงไป​อ่านหนังสือ​เพื่อ​เรียนรู้​ ชีวิต​ของ​เธอ​นั้น​มีความ​สงบสุข​อย่าง​มาก​

อย่างไรก็ตาม​ความเงียบสงบ​นี้​ถูก​ทำลาย​จาก​เสียง​โทรศัพท์​จาก​ผู้กำกับ​ใน​อีก​สอง​วัน​

ผู้กำกับ​บอก​หลิน​ม่าย​ทาง​โทรศัพท์​อย่าง​ปลาบ​ปลื้มใจ​ว่า​ ภาพยนตร์​ดอก​แดน​ดิ​ไล​ออน​ที่​ปลาย​ฟ้าจะเข้า​ฉาย​ใน​จีน​แผ่นดินใหญ่​ใน​เร็ว ๆ นี้​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​ แต่​ก็​กังวล​เช่นกัน​

แม้ว่า​ภาพยนตร์​ดอก​แดน​ดิ​ไล​ออน​ที่​ปลาย​ฟ้าจะเปิดตัว​ใน​ฮ่องกง​ มาเก๊า​ ไต้หวัน​ และ​บาง​ประเทศ​ใน​เอเชียตะวันออกเฉียงใต้​ และ​ยัง​คว้ารางวัล​บ็อกซ์​ออฟฟิศ​อีกด้วย​

แต่​สุดท้าย​แล้ว​ตลาด​ก็​มีจำกัด​ หลิน​ม่าย​ใน​ฐานะ​นักลงทุน​ทำกำไร​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ หาก​เธอ​ต้องการ​ทำกำไร​ก้อน​โต​ ท้ายที่สุด​เธอ​ต้อง​พึ่งพา​ตลาด​ใน​แผ่นดินใหญ่​

หนัง​เรื่อง​นี้​กำลังจะ​เข้า​ฉาย​ใน​จีน​แผ่นดินใหญ่​ เธอ​ไม่รู้​ว่า​มัน​จะทำ​สถิติ​บ็อกซ์​ออฟฟิศ​ทะลุ​ 600 ล้าน​เหมือน​ชาติที่แล้ว​หรือเปล่า​

ชีวิต​ใน​ชาติที่แล้ว​ หนัง​เรื่อง​นี้​ทำ​รายได้​บ็อกซ์​ออฟฟิศ​ 600 ล้าน​ใน​แผ่นดินใหญ่​ตอนที่​เข้า​ฉาย​ก่อน​วัน​ชาติ​

แต่​ใน​ชีวิต​นี้​ ภาพยนตร์​ถูก​ปล่อย​ออกมา​ใน​ช่วง​ปิด​ภาคเรียน​ฤดูร้อน​

เวลา​ต่างกัน​มาก​ ไม่มีใคร​คาดเดา​ได้​ว่า​มัน​จะเกิด​ทฤษฎี​ผีเสื้อ​ขยับปีก​แบบ​ไหน​?

ภาพยนตร์​เรื่อง​นี้​มีแผน​จะเข้า​ฉาย​ที่​เมือง​เจียง​เฉิงก่อน​เพื่อ​ทดลอง​ตลาด​

หาก​เสี่ยง​ตอบรับ​ดี​จะถูก​นำ​ไป​ฉาย​เซี่ยงไฮ้​

ถ้ากระแส​ตอบรับ​ยัง​ดี​อยู่​ ก็​จะเข้า​ฉาย​พร้อมกัน​ทุก​โรงภาพยนตร์​ทั่วประเทศ​

ผู้กำกับ​หวัง​ว่า​หลิน​ม่าย​จะสามารถ​โปรโมต​ภาพยนตร์​เรื่อง​นี้​ได้​เมื่อ​เข้า​ฉาย​ใน​เมือง​เจียง​เฉิงและ​เซี่ยงไฮ้​

หลิน​ม่าย​ตอบ​ตกลง​อย่าง​ว่าง่าย​

เธอ​ต้อง​ทำงาน​อย่าง​หนัก​เพื่อ​โปรโมต​ภาพยนตร์​ที่​เธอ​ลงทุน​

แต่​เธอ​ยัง​ต้อง​พา​ลูก​ไป​ด้วย​

ครั้งสุดท้าย​ที่​ไป​ฮ่องกง​ หลิน​ม่าย​ต้อง​แยกจาก​ลูก​ของ​เธอ​ประมาณ​ครึ่ง​เดือน​

เมื่อ​แม่ลูก​พบกัน​อีกครั้ง​ ลูก​น้อย​แทบ​จำหน้า​ของ​เธอ​ไม่ได้​ ซึ่งเธอ​ยัง​จดจำ​สิ่งนี้​อยู่​ใน​ใจ

หลิน​ม่าย​ไม่ต้องการ​แยกจาก​ลูก​น้อย​อีก​ ตราบใดที่​เธอ​สามารถ​พา​ลูก​ไป​ด้วย​ได้​ เธอ​ก็​จะพา​เขา​ไป​ด้วย​อย่าง​แน่นอน​

และ​น้า​ทัง​จะตาม​ไป​ช่วยดูแล​ลูก​น้อย​เช่นกัน​

เพียง​ไม่กี่​วัน​หลังจากที่​หลิน​ม่าย​กลับ​จาก​เมือง​เจียง​เฉิง เธอ​ก็​ต้อง​พา​น้า​ทัง​และ​ลูก​น้อย​เดินทาง​ไป​อีก​ ซึ่งแทบ​เป็นการ​ฆ่าฟางจั๋ว​หรา​น​ทางอ้อม​

ไม่ว่า​ใคร​ก็​ต้อง​คิด​ว่า​หลิน​ม่าย​ทะเลาะ​กับ​สามีและ​หนี​ออกจาก​บ้าน​พร้อมกับ​ลูก​

หลิน​ม่าย​ดูถูก​จินตนาการ​อัน​ทรงพลัง​ของ​เขา​ด้วย​ความ​เหยียดหยาม​

เธอ​อาจจะ​ทะเลาะ​กับ​ใครก็ได้​ แต่​เธอ​จะไม่ทะเลาะ​กับ​สามี กลับกัน​เธอ​จะถนอม​ผู้ชาย​คน​นี้​ไว้​อย่าง​ดี​

ภาพยนตร์​ดอก​แดน​ดิ​ไล​ออน​ที่​ปลาย​ฟ้าฉาย​รอบ​ปฐมทัศน์​ใน​เมือง​เจียง​เฉิง และ​ทำ​รายได้​มากกว่า​สอง​พัน​ตั้งแต่​ใน​วัน​แรก​

จากนั้น​มัน​ไต่​ระดับ​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ และ​ใน​เวลา​ไม่ถึงสี่วัน​ บ็อกซ์​ออฟฟิศ​ทะลุ​มากกว่า​ 100 ล้าน​แล้ว​

ไม่ใช่แค่​ผู้กำกับ​ แม้แต่​หลิน​ม่าย​ก็​ตื่นเต้น​มาก​

แม้เธอ​จะรู้​อยู่แล้ว​ว่า​ว่า​บ็อกซ์​ออฟฟิศ​ของ​ภาพยนตร์​ทุน​ต่ำ​เรื่อง​นี้​น่าทึ่ง​ แต่​การ​ได้​รู้​และ​ได้​เห็นด้วย​ตา​ของ​เธอ​เอง​นั้น​เป็น​สอง​สิ่งที่​แตก​ต่างกัน​ ยิ่งกว่านั้น​รายได้​ครึ่งหนึ่ง​ของ​บ็อกซ์​ออฟฟิศ​ยัง​เป็น​ของ​เธอ​

นอกจาก​รายได้​จาก​บ็อกซ์​ออฟฟิศ​แล้ว​ ความนิยม​ของ​ภาพยนตร์​เรื่อง​นี้​ใน​แผ่นดินใหญ่​ยัง​ทำให้​ร้าน​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​และ​เครื่องประดับ​ไป๋​เห​อ​โด่งดัง​เป็น​พลุ​แตก​อีกครั้ง​

ผลกำไร​พลอย​ได้​ก็​น่าทึ่ง​มาก​เช่นกัน​

ใน​ช่วง​วันหยุด​ฤดูร้อน​ทั้งหมด​ หลิน​ม่าย​พา​ลูก​น้อย​และ​น้า​ทัง​ติดตาม​ทีมงาน​ฝ่าย​ผลิต​ทั่วประเทศ​เพื่อ​โปรโมต​ภาพยนตร์​ และ​ไม่ได้​กลับ​ไป​ที่​เมืองหลวง​จนกว่า​จะถึงสิบ​วันก่อน​วัน​เปิดเทอม​

การ​วิ่งเล่น​เกือบ​หนึ่ง​เดือน​ทำให้​ลูก​น้อย​ได้​เห็น​สิ่งต่าง ๆ​ มากมาย​ใน​โลก​นี้​

เมื่อก่อน​เขา​ฉลาด​มาก​ แต่​ตอนนี้​เขา​ฉลาด​ยิ่งขึ้น​กว่า​เดิม​ และ​ความสามารถ​ใน​การปรับตัว​ของ​เขา​ก็​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ด้วย​

ไม่เหมือน​เด็ก​คนอื่น​ ๆ ที่​มัก​ร้องไห้​เมื่อ​ถูก​คนแปลกหน้า​สัมผัส​ เสี่ยว​มู่ตง​ไม่ได้​เป็น​แบบ​นั้น​

ทันทีที่​เขา​มาถึงเมืองหลวง​ หลิน​ม่าย​ถามเสี่ยว​เห​วิน​ว่า​ทักษะ​ภาษาอังกฤษ​ของ​เขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​

โต้​ว​โต้​ว​พูดแทรก​ขึ้น​ทันที​ “ภาษาอังกฤษ​ของ​พี่ชาย​ดีมาก​เลย​ค่ะ​ อาจารย์​เอ่ยปาก​ชมเขา​ตลอด​!”

เสี่ยว​เห​วิน​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ “ถึงอาจารย์​จะคิด​ว่า​มันดี​ แต่​ผม​ยัง​ต้อง​สอบ​ให้​ผ่าน​เพื่อ​เข้า​โรงเรียนประถม​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​น่ะ​ครับ​”

เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​พา​เสี่ยว​เห​วิน​และ​ลูก​น้อย​ไป​โรงเรียนประถม​แห่ง​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​

เสี่ยว​เห​วิน​ทำ​ข้อสอบ​ใน​สำนักงาน​ ส่วน​หลิน​ม่าย​ช่วย​เสี่ยว​มู่ตง​หัด​เดิน​ใน​สนามเด็กเล่น​

แม้เสี่ยว​มู่ตง​จะมีอายุ​เพียง​เจ็ด​เดือน​ แต่​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​เป็น​เด็กผู้ชาย​และ​มีพรสวรรค์​ด้าน​กีฬา​ เขา​เริ่ม​ที่จะ​เรียนรู้​วิธีการ​เดิน​ตั้งแต่​อายุ​ได้​เพียง​ห้า​เดือน​

ตอนนี้​เขา​สามารถ​เดิน​ด้วยตัวเอง​ราว​สอง​ถึงสามนาที​โดย​ไม่มีคน​ช่วย​ แต่​การ​เดิน​ของ​เขา​ยัง​ไม่มั่นคง​และ​มัก​ล้ม​บ่อยครั้ง​

แม่ลูก​กำลัง​เดินเล่น​อยู่​ใน​สนามเด็กเล่น​ นั่ง​พักผ่อน​ใต้​ร่มไม้​ข้าง​สนามเด็กเล่น​ กว่า​จะรู้ตัว​ก็​ล่วง​เลยเวลา​ไป​สิบ​โมงเช้าแล้ว​

หลิน​ม่าย​อุ้ม​เสี่ยว​มู่ตง​ขึ้น​มาและ​กำลัง​ไป​ที่​สำนักงาน​เพื่อ​ดู​เสี่ยว​เห​วิน​

และ​เป็นเวลา​เดียว​กับ​ที่​เสี่ยว​เห​วิน​วิ่ง​ไป​มาหา​พวกเขา​ ซึ่งใบหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความสุข​

หลิน​ม่าย​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ “เธอ​ทำ​ข้อสอบ​เสร็จ​หมด​แล้ว​หรือ​?”

เสี่ยว​เห​วิน​พยักหน้า​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​

“คิด​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​?”

“ควร​ได้​เกิน​ 90 คะแนน​ใน​การ​สอบ​ทุก​วิชา​ครับ​”

“เสี่ยว​เห​วิน​ของ​อา​สุดยอด​มาก​!” หลิน​ม่าย​กล่าว​ชื่นชม​เขา​ จากนั้น​เดิน​ไป​ยัง​สำนักงาน​ทันที​ และ​ยืน​รอ​อยู่​ข้างนอก​เพื่อ​รอ​ฟังผล​

การ​วัดผล​แบบทดสอบ​ของ​โรงเรียนประถม​นั้น​มีประสิทธิภาพ​มาก​ ครู​ 1 คน​สำหรับ​วิชา​ภาษาจีน​ คณิตศาสตร์​ และ​ภาษาอังกฤษ​อีก​วิชา​ละ​ 1 คน​ และ​ภายใน​เวลา​ไม่ถึง 15 นาที​ กระดาษ​ทั้งหมด​ก็​ถูก​ตรวจ​คะแนน​เรียบร้อย​

เสี่ยว​เห​วิน​ยังคง​สอบ​ได้​อย่าง​ยอดเยี่ยม​ ใน​การ​สอบ​สามวิชา​ เขา​ได้​คะแนนเต็ม​ทุก​วิชา​ ยกเว้น​วิชา​เรียงความ​ภาษาจีน​ ซึ่งเสีย​ไป​สอง​คะแนน​

รอง​อาจารย์ใหญ่​ตัดสินใจ​ยอมรับ​เสี่ยว​เห​วิน​ทันที​

เสี่ยว​เห​วิน​มีความสุข​มาก​จน​ยิ้ม​หน้าบาน​

แต่​เมื่อ​เขา​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ควัก​เงิน​หลาย​พัน​หยวน​เพื่อ​ชำระ​ค่า​ลงทะเบียน​ เขา​ก็​ปฏิเสธ​ทันที​

เขา​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​หลิน​ม่าย​พลาง​กระซิบ​ “คุณอา​ เรา​ไม่เรียน​ที่นี่​กัน​เถอะ​~”

หลิน​ม่าย​ถามอย่าง​สงสัย​ “แล้ว​เรียน​ที่​ไหนล่ะ​?”

“โรงเรียน​ไหน​ถูก​ก็​ไป​โรงเรียน​นั้น​”

หลิน​ม่าย​ดึง​เขา​ออกจาก​สำนักงาน​และ​เคาะ​ศีรษะ​ของ​เขา​แผ่วเบา​ “เธอ​โง่หรือ​ยังไง​ เธอ​จ่าย​เงิน​เพื่อ​เข้าเรียน​โรงเรียนประถม​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ไม่ได้​ และ​เธอ​ต้อง​ทำงานหนัก​เพื่อ​สอบ​ให้​ผ่าน​ เช่นนั้น​อย่า​ยอมแพ้​ง่าย ๆ​ สิ!”

“แต่​ค่าธรรมเนียม​แพง​เกินไป​!”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “หาก​เธอ​ไม่มีใบอนุญาต​พำนัก​ใน​เมืองหลวง​ ไม่ว่า​จะไป​โรงเรียนประถม​ที่ไหน​ใน​เมืองหลวง​ เธอ​ก็​ต้อง​จ่าย​ค่าเล่าเรียน​ด้วยตัวเอง​ สำนักการศึกษา​กำหนด​ค่าธรรมเนียม​เท่ากัน​ ไม่ว่า​เธอ​จะไป​เรียน​โรงเรียนประถม​ศึกษาที่ไหน​ ค่าธรรมเนียม​การศึกษา​ก็​จะเท่ากัน​ทั้งหมด​ ใน​เมื่อ​ค่าธรรมเนียม​การศึกษา​เท่ากัน​ ทำไม​เรา​ไม่ไป​โรงเรียนประถม​ชั้นนำ​ล่ะ​?”

เสี่ยว​เห​วิน​ไม่ได้​พูด​สิ่งใด​ตอบ​

หลิน​ม่าย​พูด​อีกครั้ง​ “ถ้าเธอ​เสียใจ​ที่​ฉัน​ต้อง​จ่าย​ค่าธรรมเนียม​การศึกษา​จำนวนมาก​ เช่นนั้น​เธอ​ก็​ตอบแทน​ฉัน​ด้วย​การ​ตั้งใจ​เรียน​”

เสี่ยว​เห​วิน​พยักหน้า​รับ​อย่าง​หนักแน่น​

หลังจาก​กลับบ้าน​ คุณปู่​ฟางและ​คนอื่น​ ๆ ได้​ทราบ​ข่าว​ว่า​เสี่ยว​เห​วิน​ได้​เข้าเรียน​โรงเรียนประถม​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ พวกเขา​จึงตัดสินใจ​ออก​ไป​ทานอาหาร​มื้อ​ใหญ่​เพื่อ​เลี้ยง​ฉลอง​

ใน​ระหว่าง​รับประทาน​อาหาร​ คุณย่า​ฟางอด​ไม่ได้​ที่จะ​วิจารณ์​โต้​ว​โต้​ว​เล็กน้อย​ “ดู​สิว่า​เสี่ยว​เห​วิน​เก่ง​แค่​ไหน​ ใน​วันหยุด​ฤดูร้อน​เพียง​ครั้ง​เดียว​เขา​ก็​พัฒนา​ภาษาอังกฤษ​ดีมาก​แล้ว​ โต้​ว​โต้​ว​เอง​ก็​ต้อง​ทุ่มเท​กับ​การเรียน​ให้​มากขึ้น​ด้วย​”

เมื่อ​ถูก​ดุ​ขณะที่​เพลิดเพลิน​กับ​อาหาร​ ความ​กระตือรือร้น​ของ​โต้​ว​โต้​ว​ก็​ลดน้อยลง​ หล่อน​ก้มหัว​ลง​เล็กน้อย​ แม้แต่​หมู​บะช่อ​น้ำ​แดง​จาน​โปรด​ก็​ไม่อร่อย​อีกต่อไป​แล้ว​

ขณะที่​คุณย่า​สั่งสอน​เด็ก​ ๆ หลิน​ม่าย​มักจะ​ไม่เข้าไป​ยุ่ง​วุ่นวาย​

แต่​หลังจาก​ครุ่นคิด​เรื่อง​นี้​ เธอ​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ “คุณย่า​คะ​ แต่​โต้​ว​โต้​ว​วาดภาพ​เก่ง​มาก​เลย​”

คุณย่า​ฟางไม่ได้​พูด​อะไร​

นาง​ไม่เคย​คิด​ว่าการ​วาดภาพ​จะมีอนาคต​ที่​ดี​ และ​เชื่อ​เสมอ​ว่า​เทคโนโลยี​ต่างหาก​ที่​สามารถ​ช่วย​ประเทศ​ได้​

วันรุ่งขึ้น​ ครอบครัว​ย้าย​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​หลัง​เล็ก​ทาง​ทิศตะวันตก​ของ​เมือง​ เพื่อให้​หลิน​ม่าย​และ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​เดินทาง​ไป​โรงเรียน​ได้​สะดวก​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

คุณย่า​ใจเย็น​ ต่อให้​หัวอ่อน​เรื่อง​วิชาการ​ก็​มีพรสวรรค์​อย่าง​อื่น​ได้​ค่ะ​ ขอให้​เป็นเลิศ​ใน​ด้าน​นั้น​ก็​พัฒนา​ประเทศ​ได้​เหมือนกัน​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท