บทที่ 878 ตัวปลอมประจันหน้าตัวจริง ได้แต่กลั้นน้ำตาโจมตีพี่น้องคนสนิท!
พวกตงฟางเวิ่นออกเดินทาง
ระหว่างทางนั้น ตงฟางเวิ่นแสดงความขอบคุณต่อแมงมุมปริภูมิเวลาอีกครั้ง และเอ่ยว่าหลังเรื่องจบจะแนะนำแมงมุมปริภูมิเวลาให้คุณชายรู้จัก
เขาพูดได้ตรงใจแมงมุมปริภูมิเวลายิ่ง อย่าให้เอ่ยเลยว่านางดีใจแค่ไหน
แน่นอนว่านางมิได้เผยความยินดีปรีดาออกมาให้เห็น
แต่พยายามคุมอารมณ์ตัวเองพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “คุณชายหลี่หรือ หากมีโอกาสได้รู้จักก็นับว่าไม่เลวจริง ๆ และข้าสนใจในตัวคุณชายหลี่มาก”
“ไม่มีปัญหา ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง มีข้าช่วยแนะนำ คุณชายต้องยอมพบเจ้าแน่”
ตงฟางเวิ่นเอ่ยยิ้ม ๆ
พวกเขามุ่งหน้าต่อไป มาถึงอีกสถานที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว ที่นี่มียอดฝีมือหลังฉากซึ่งใคร่อยากจัดการคุณชายเช่นกัน
ระหว่างนั้น ตงฟางเวิ่นสนทนาเรื่องของคุณชายกับแมงมุมปริภูมิเวลาอยู่ตลอด
ตงฟางเวิ่นทำไปด้วยความจงใจ เพื่อให้ยอดฝีมือหลังฉากที่นี่รู้ว่าเขาคือผู้ติดตามคุณชาย ยั่วยุยอดฝีมือหลังฉากที่นี่ให้ลงมือ
แน่นอนว่าเรื่องที่เขาสนทนากับแมงมุมปริภูมิเวลาล้วนเป็นเรื่องที่มิได้สลักสำคัญอันใดของคุณชาย
ข้อมูลสำคัญจริง ๆ เขาย่อมไม่มีทางบอกกับแมงมุมปริภูมิเวลา
“ใช้ได้จริง ๆ!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงชื่นชมตงฟางเวิ่นเป็นอย่างยิ่ง
ฝีมือการแสดงของตงฟางเวิ่นนั้นยอดเยี่ยมมาก ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ จับพิรุธมิได้เลยสักนิด
หากไม่ใช่ว่าเขารู้ความจริง ย่อมต้องถูกฝีมือการแสดงของตงฟางเวิ่นตบตาเอา
“สมกับเป็นอดีตสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียน สุดยอดจริง ๆ! มิน่าครานั้นถึงกล้าปลอมตัวเป็นผู้เฒ่าที่ชื่นชอบการเล่นหมากล้อม ล่อคุณชายออกจากเมืองได้!”
เขารู้เรื่องในอดีตของตงฟางเวิ่น
ด้านการแสดง ตงฟางเวิ่นเคยมีประวัติมาแล้ว
“หลี่จิ่วเต้า?”
อย่างที่คิด ยอดฝีมือหลังฉากในสถานที่นี้ถูกดึงดูดออกมากันหมด นี่คือบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่ง ดวงตาเฉียบคมดุจเหยี่ยวจ้องมองตงฟางเวิ่น
“ข้าสนใจในตัวหลี่จิ่วเต้ามาก เจ้าอยู่สนทนากับข้าดีกว่า”
เขาลงมือทันทีเพื่อกำราบตงฟางเวิ่น เดิมทีก็ตั้งใจว่าจะลงมือกับหลี่จิ่วเต้าในงานชุมนุมพ่นใยอยู่แล้ว หากได้รู้ข้อมูลหลี่จิ่วเต้ามากขึ้นย่อมเป็นการดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
อาภรณ์สีขาวพลิ้วไหว แมงมุมปริภูมิเวลาบุกเข้าไปปะทะ หยุดยั้งการโจมตีจากบุรุษวัยกลางคนผู้นี้
“เจ้าเป็นใคร”
บุรุษวัยกลางคนถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เขาประมือกับแมงมุมปริภูมิเวลาเพียงกระบวนท่าเดียว แต่จากกระบวนท่านี้ เขารับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแมงมุมปริภูมิเวลา
นี่คือคู่ต่อสู้ที่มิได้ด้อยไปกว่าเขา!
“ศิษย์แดนสุขาวดีสระหยก อี้เหยา!”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอย
ยามเอ่ยนามอี้เหยาอีกครั้ง นางรู้สึกลื่นไหลขึ้น
“ศิษย์แดนสุขาวดีสระหยกหรือ? มิน่า!”
บุรุษวัยกลางคนมิได้เคลือบแคลงอันใด แดนสุขาวดีสระหยกลึกลับมากในโลกหลังฉาก เขาไม่รู้จักก็นับเป็นเรื่องปกติ
“ทุกคนกำลังช่วงชิงโอกาสกันหมด มิมีอันใดให้พูดกันอีก!”
เขาบุกไปข้างหน้า มิได้ไม่กล้าลงมือเพราะหวั่นเกรงต่อแดนสุขาวดีสระหยก
รากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากคือความหวังในอนาคต ทว่ารากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากหายากเหลือเกิน ครั้นเห็นหลี่จิ่วเต้าได้ครอบครองความลับของรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากแล้ว เขาย่อมไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือ
อีกอย่างกระบี่ฉุนจวินยังอยู่ในมือหลี่จิ่วเต้า เขายิ่งไม่มีทางปล่อยไป
ฟึ่บ!
แสงกระบี่ทะยานนภา แมงมุมปริภูมิเวลาท่าทางองอาจสง่างาม ตวัดกระบี่ยาวในมือห้ำหั่นกับบุรุษวัยกลางคนอย่างดุเดือด
นางทรงพลังมากจริง ๆ แสงกระบี่ถาโถมออกไปอย่างไร้เทียมทาน จนบุรุษวัยกลางคนต้องยอมล่าถอย
“แดนสุขาวดีสระหยกหรือ? ข้าจะจำไว้!”
บุรุษวัยกลางคนมองแมงมุมปริภูมิเวลาตาขวาง ก่อนจะจากไปด้วยความแค้นเคือง
‘ไม่ต้องกลัวนะพี่หญิง คนพวกนี้เป็นเพียงตัวละครต่ำต้อยกันทั้งนั้น คง…คงไม่เป็นภัยคุกคามต่อแดนสุขาวดีสระหยกกระมัง!’
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ยในใจ กระนั้นดูมีชนักติดหลังอย่างเห็นได้ชัด
ถึงอย่างไรนางก็อ้างสถานะเป็นอี้เหยา ซ้ำยังกระทำแต่เรื่องไม่ดี เป็นการสร้างศัตรูให้อี้เหยา
‘ไม่เป็นไรหรอกพี่หญิง จบเรื่องนี้ข้าจะชดเชยให้ท่าน ท่านหมายปองภาพวาดกล้ามท้องศิษย์พี่ใหญ่อวิ๋นชิงของท่านมาตลอดมิใช่หรือ วางใจเถิด ข้าหามาให้ท่านได้แน่นอน!’
แมงมุมปริภูมิเวลาคิดของกำนัลแทนคำขอโทษไว้แล้ว
นางกับอี้เหยาเป็นพี่น้องคนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง อี้เหยามีใจให้ศิษย์คนโตแห่งแดนสุขาวดีสระหยก อวิ๋นชิง อยากเห็นกล้ามท้องของอวิ๋นชิงเหลือแสน
นางตัดสินใจได้แล้ว หลังนางบรรลุภารกิจไส้ศึก จักใช้วิชาลับปริภูมิเวลาจับตาดูอวิ๋นชิงไว้ตลอด หลังอวิ๋นชิงเผยกล้ามท้องออกมา นางจะวาดออกมาทันที แล้วมอบให้อี้เหยาเป็นของกำนัลแทนคำขอโทษ
“แม่นางเก่งกาจยิ่งนัก! ยังดีที่มีแม่นางร่วมเดินทางมากับข้า มิฉะนั้น ข้าคงตายไม่รู้ตัว”
ตงฟางเวิ่นรีบประจบประแจงแมงมุมปริภูมิเวลา เอ่ยว่าแมงมุมปริภูมิเวลานับเป็นผู้มีพระคุณของเขาจริง ๆ รอให้เขาได้พบคุณชายเมื่อใด จะแนะนำแมงมุมปริภูมิเวลาให้คุณชายรู้จักเป็นอย่างดี
“เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ พวกเราเดินทางต่อกันเถิด”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ยยิ้ม ๆ
พวกเขารุดหน้าต่อ หลังมาถึงอีกสถานที่ก็ได้เจอกับยอดฝีมือหลังฉากอีกครั้ง
ยอดฝีมือหลังฉากผู้นี้ไม่เคยรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างตงฟางเวิ่นและหลี่จิ่วเต้าเช่นกัน
ทว่าเขาเห็นยอดศาสตราบนตัวตงฟางเวิ่น หลังพินิจดูแล้วก็แน่ใจว่ายอดศาสตราชิ้นนี้เกี่ยวข้องกับรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก
พลันเขาปะทุพลังพุ่งเข้าโจมตี
นั่นเป็นจี้หยกพวงหนึ่งที่ตงฟางเวิ่นแขวนไว้ตรงเอว จงใจใช้เพื่อล่อหลอกให้ยอดฝีมือหลังฉากลงมือ
แน่นอนว่าเขาแขวนไว้นานแล้ว แขวนไว้ก่อนเขาไปหาคุนเขมือบห้วงเหวเสียอีก
เขาวางแผนแต่แรก ย่อมไม่มีทางจงใจแขวนจี้หยกพวงนี้กลางทาง
หากเป็นเช่นนั้น แมงมุมปริภูมิเวลาต้องสงสัยแน่
อันที่จริง แมงมุมปริภูมิเวลาสังเกตเห็นจี้หยกที่เอวของตงฟางเวิ่นนานแล้ว ทว่านางมิได้เอื้อนเอ่ยอันใด
นางคิดว่าออกตามหาสิ่งมีชีวิตไปเข้าร่วมงานชุมนุมพ่นใยคงมิเป็นอันใด จึงมิได้เตือนตงฟางเวิ่นให้เก็บจี้หยกตรงเอวไว้ก่อน
ทว่าผู้ใดเล่าจะคิด ตลอดทั้งทางนี้ต้องพานพบสิ่งมีชีวิตหลังฉากนับคณา!
‘ต้องบอกให้เขาเก็บก่อน เด่นเกินไปแล้ว!’
นางรู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตหลังฉากเหล่านี้ล้วนมาเพราะแรงดึงดูดจากจี้หยกที่เอวของตงฟางเวิ่น จึงตัดสินใจว่าหลังจัดการสิ่งมีชีวิตหลังฉากตนนี้เสร็จ จะขอให้ตงฟางเวิ่นเก็บจี้หยกแสนโดดเด่นนี่ไปก่อน
จากนั้นนางต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตหลังฉากตนนั้น และไล่เขาไปสำเร็จ
“เจ้าลูกศิษย์แดนสุขาวดีสระหยกเดนตาย ข้าจะจำไว้!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากตนนี้เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน จากที่ไปด้วยโทสะคุกรุ่น
“เก็บจี้หยกนี้เสีย เด่นเกินไปแล้ว”
แมงมุมปริภูมิเวลาบอกตงฟางเวิ่น
“ได้”
ตงฟางเวิ่นมิได้ละล้าละลัง เก็บจี้หยกที่เอวกลับไปทันที
พวกเขาเดินทางกันต่อ หลังมาถึงอีกสถานที่หนึ่ง ตงฟางเวิ่นก็หยุดชะงัก
“ไม่ทราบว่าแมงมุมสวรรค์จันทร์เงินอยู่หรือไม่ ข้าคือตงฟางเวิ่น อยากเรียนเชิญท่านไปเข้าร่วมงานชุมนุมพ่นใยที่คุณชายจัด”
เขาตะโกนเข้าไป
“งานชุมนุมพ่นใยหรือ เจ้าเป็นผู้ติดตามของหลี่จิ่วเต้า!”
สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งก้าวออกมาจากด้านใน หาใช่แมงมุมสวรรค์จันทร์เงินแต่อย่างใด หากแต่เป็นหมีดำตัวมหึมา
แมงมุมปริภูมิเวลาปวดหัว นี่มันเรื่องอะไรกัน เหตุใดถึงเป็นสิ่งมีชีวิตหลังฉากอีกแล้ว
นางรู้ภูมิหลังของหมีดำตนนี้ มันคือปีศาจมารกล้าแกร่ง ชื่อเสียงระบือนามในโลกหลังฉาก
“ซ้ำยังมิมีตนใดธรรมดา ก่อนพวกเขาปรากฏตัว ข้าไม่อาจจับสัมผัสอันใดได้เลย…”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากเหล่านี้ใช้วิชาบางอย่างกลบพลังปราณไว้หมด นางคลี่แผ่ญาณสัมผัสอยู่ตลอด กระนั้นก็มิเคยรู้ตัว
“เอ๊ะ เหตุใดถึงเป็นหมีดำไปได้ แมงมุมสวรรค์จันทร์เงินเล่า ถูกเจ้ากินไปแล้วหรือ?!”
ตงฟางเวิ่นถลึงตา ทำทีเป็นตื่นตระหนก
“สุดยอด! ข้าขอยกให้เป็นเพดานของการแสดง!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าวชมตงฟางเวิ่นในใจอีกครั้ง การแสดงนี้เรียกได้ว่าสุกงอมได้ที่ ล้ำเลิศถึงขีดสุด!
“กินไม่กินอะไรเล่า เจ้ามานี่สิ ข้าขอคุยกับเจ้าหน่อย!”
หมีดำคลี่ยิ้มกว้างพลางเอ่ย ก่อนจะบุกออกไปข้างหน้า
“ศิษย์แดนสุขาวดีสระหยกอี้เหยาอยู่นี่ ไม่ยอมให้เจ้าได้ก่อกรรมทำเข็ญแน่!”
ตงฟางเวิ่นตวาดลั่นโดยที่แมงมุมปริภูมิเวลายังมิได้เอื้อนเอ่ยคำใด ตงฟางเวิ่นชิงประกาศศักดาของแมงมุมปริภูมิเวลาอี้เหยาไปก่อนแล้ว
เดี๋ยวสิ!
แมงมุมปริภูมิเวลาอยากร่ำไห้
ศัตรูตนเดียวยังดี นี่ปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว?
นางไม่อยากอ้างชื่ออี้เหยา สร้างศัตรูให้นางอีกแล้ว!
“แสร้งคุยโวอยู่ได้ ท่านหมีผู้นี้ไม่ติดกับหรอก!”
หมีดำหาได้หยุดยั้ง ที่นี่มิใช่โลกหลังฉาก หากแต่เป็นโลกหน้าฉาก แดนสุขาวดีสระหยกไม่อาจเป็นภัยต่อเขาในที่แห่งนี้!
ช่วยไม่ได้ แมงมุมปริภูมิเวลาจำต้องออกโรงอีกครั้ง ต่อสู้อยู่กับหมีดำ
นางเหนื่อยใจเหลือแสน อะไรกันนักหนา นางมายังโลกหน้าฉากเพื่อจัดการหลี่จิ่วเต้า เหตุใดถึงกลายเป็นปฏิปักษ์กับสิ่งมีชีวิตหลังฉากไปทั่วเสียได้?!
ไส้ศึกนี่เป็นยากจริง ๆ!
ตอนนี้นางนึกอยากกลับบ้านแล้ว!
“แดนสุขาวดีสระหยกดียิ่ง อยู่ที่โลกหน้าฉากแล้วยังจะอวดเบ่งบารมีอีก! เรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่!”
หมีดำถูกซัดจนต้องล่าถอย ก่อนไป มันมิวายเอ่ยต่อแมงมุมปริภูมิเวลาด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม เอ่ยว่ามันจะจำเหตุการณ์ครานี้ไว้!
“เฮ้อ น่าเสียดายจริง ได้ข่าวว่าแมงมุมสวรรค์จันทร์เงินพ่นใยเป็นสีเงินงดงามประณีต สุดท้ายกลับถูกหมีดำตนนี้กินไปเสียแล้ว!”
ตงฟางเวิ่นสั่นศีรษะระรัวพลางกล่าวว่า “พวกเราจำต้องไปต่อ หวังว่าตัวต่อไปจะไม่เกิดเรื่องอีก!”
“ใช่แล้ว อย่าเกิดเรื่องอีกเลย”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ยจากใจจริง
นางหวังให้ทุกอย่างรีบยุติลงอย่างแท้จริง อย่าได้มียอดฝีมือหลังฉากตนอื่นปรากฏอีกเลย
แล้วพวกเขาก็เดินทางต่อไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ตงฟางเวิ่นเอ่ยว่าที่นี่มีแมงมุมหิมะอยู่
เขายังคงประกาศศักดาตนเองและตะโกนเข้าไปในนั้น เพื่อเชื้อเชิญแมงมุมหิมะไปเข้าร่วมงานชุมนุมพ่นใย
แน่นอนว่าที่นี่ไม่มีแมงมุมหิมะ มีเพียงยอดฝีมือหน้าฉาก
สตรีอาภรณ์สีเขียวครามนางหนึ่งก้าวออกมา เอ่ยว่าต้องการจับตงฟางเวิ่นไว้ที่นี่
หลังแมงมุมปริภูมิเวลาได้เห็นสตรีอาภรณ์เขียวครามก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันควัน
นี่…นี่มันตัวจริง!
ศิษย์แดนสุขาวดีสระหยก พี่น้องคนสนิทของนาง อี้เหยาตัวจริง!
นางรีบร้อนต้องการหยุดตงฟางเวิ่นมิให้เขาประกาศศักดาของนาง สุดท้าย…นางก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
“จับข้าไว้ที่นี่หรือ เจ้าวาดฝันไว้งดงามยิ่ง! ข้างกายข้าคือศิษย์แดนสุขาวดีสระหยก อี้เหยา! เจ้ารีบล้มเลิกความคิดเลว ๆ เช่นนี้เถิด!”
ตงฟางเวิ่นชี้แมงมุมปริภูมิเวลาพลางกล่าว
“อะไรนะ? นางคือ…อี้เหยา?”
สตรีอาภรณ์เขียวคราม อี้เหยาตัวจริงมองจ้องแมงมุมปริภูมิเวลาด้วยความสนอกสนใจ
ผู้ใดกัน ริอ่านปลอมตัวเป็นนาง?
ที่สำคัญยังปลอมตัวมาถึงตรงหน้านางอีก?!
คิดอะไรอยู่!
แมงมุมปริภูมิเวลาจำแลงกายให้อยู่ในรูปโฉมอื่นด้วยกลัวจะถูกเปิดโปง ทั้งยังใช้วิชาลับบางอย่างผนึกพลังปราณแต่เดิมของตน อี้เหยาจึงจำแมงมุมปริภูมิเวลามิได้
“หากนางเป็นอี้เหยา แล้วข้าเป็นใคร? น่าสนใจจริง ๆ ปลอมตัวใส่ตัวจริงอย่างข้าเชียวหรือ!”
อี้เหยาหัวเราะเสียงเย็นพลางกล่าว
“ว่าอย่างไรนะ เจ้าคืออี้เหยาหรือ”
ตงฟางเวิ่นตะลึง เขายังคิดจะพาแมงมุมปริภูมิเวลาไปต่อกรกับยอดฝีมือหลังฉากตนอื่น รวมถึงปรโลกด้วย สุดท้ายต้องจบเห่ลงตรงนี้หรือนี่
แมงมุมปริภูมิเวลากำลังจะความแตกแล้ว?
“ไม่จริง!”
แมงมุมปริภูมิเวลาดุดันผิดปกติ บุกไปหาอี้เหยาทันที
นางมาถึงขั้นนี้แล้ว ไฉนเลยจะยอมให้ความแตก เพื่อการนี้ นางยอมลงมือกับพี่น้องคนสนิท
“เจ้าตัวปลอม คิดจะยุแยงพวกเราหรือ เจ้าตัดสินใจพลาดแล้ว!”
แมงมุมปริภูมิเวลาแผดเสียง
“…”
อี้เหยาหมดคำพูดในบัดดล
เหตุใดตัวปลอมผู้นี้ถึงมีอารมณ์กว่าตัวจริงอย่างนางอีกเล่า!