บทที่ 880 คุณชายคนเดียวคือท้องฟ้าทั้งผืน!
“เห็นท้องฟ้าจำกัดอะไร อย่างเจ้าจะรู้อะไร คุณชายคนเดียวก็คือท้องฟ้าทั้งผืน ได้พบคุณชายเท่ากับได้พบแล้วทุกสิ่ง!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางอากาศ จากนั้น ลั่วสุ่ยมาถึงที่นี่
นางจับตาดูสถานการณ์ที่นี่อยู่ตลอด ด้วยกลัวจะเกิดเรื่องกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่น
เวลานี้ นางต้องออกโรงแล้ว จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นจัดการแมงมุมปริภูมิเวลาไม่ไหว
“นี่หรือคือความมั่นใจของพวกเจ้า เพราะมีกำลังหนุนอย่างนั้นหรือ พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว! ต่อให้วันนี้หลี่จิ่วเต้ามาด้วยก็เท่านั้น!”
แมงมุมปริภูมิเวลาบุกออกไปข้างหน้า ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางปล่อยจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นไป
ลั่วสุ่ยก้าวไปข้างหน้า ปะทะกับแมงมุมปริภูมิเวลา
จี้เพชรบนคอนางส่องแสงเจิดจรัส บันดาลทุกสิ่งตามใจลั่วสุ่ย ช่วยให้ลั่วสุ่ยมีพลังพอจะต่อสู้กับแมงมุมปริภูมิเวลา
แมงมุมปริภูมิเวลาตกตะลึง นี่มัน…เรื่องอะไรกัน?!
ทั้งที่ยามลั่วสุ่ยเพิ่งมาถึงที่นี่ นางสัมผัสได้ว่าลั่วสุ่ยอยู่ที่ขอบเขตผู้บงการเท่านั้น เหตุใดหลังนางประมือกับลั่วสุ่ย ลั่วสุ่ยถึงระเบิดพลังกล้าแกร่งปานนี้ออกมาได้?!
พลังระดับนี้นางต้านทานมิไหว เริ่มสู้มิได้
นางตระหนักได้ทันทีว่าลั่วสุ่ยต้องใช้วิชาบางอย่างซ่อนเร้นขอบเขตแท้จริงของตนไว้แน่!
“เลิกมัวแต่ยืนดูเสียที เข้ามาช่วยข้าด้วย!”
นางหันไปตะโกนใส่อี้เหยาเพื่อขอความช่วยเหลือ หากมีเพียงนาง คงยากจะกำราบลั่วสุ่ยได้ไหวจริง ๆ
หารู้ไม่ อี้เหยากลับไม่มีทีท่าขยับเขยื้อนแต่อย่างใด
“ท่านอ้างชื่อข้าในการบาดหมางกับยอดฝีมือตั้งมากมาย สร้างศัตรูให้ข้าคณานับ บัดนี้กลับหวังให้ข้าช่วยท่านอย่างนั้นหรือ มีเรื่องดีขนาดนั้นที่ไหน!”
อี้เหยาเอ่ย “ไม่เอา! ท่านจัดการเอาเองเถิด”
แมงมุมปริภูมิเวลารู้จักอี้เหยาดียิ่ง รู้ว่าอี้เหยาฉวยโอกาสรีดไถนางอยู่!
“ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องภาพวาดกล้ามท้องของศิษย์พี่ใหญ่อีกต่อไป ให้ตายอย่างไรข้าก็จะหามาให้ท่านจงได้!”
นางตะโกนลั่น
อี้เหยาหน้าแดงก่ำในบัดดล
อะไรกัน ความลับระหว่างพี่น้องคนสนิทถูกแมงมุมปริภูมิเวลาตะโกนออกมาต่อหน้าธารกำนัลเสียอย่างนี้
ขืนแพร่หลายออกไป ชื่อเสียงบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางคงสูญสิ้น ใคร ๆ ต่างรู้กันหมดว่านางหน้าไม่อาย หมายปองศิษย์พี่ใหญ่ของตน
“ท่านอย่าได้พูดเหลวไหล!”
อี้เหยากล่าวตำหนิ กระนั้นนางยังเลือกลงมือ ร่ายรำเพลงกระบี่ช่วยแมงมุมปริภูมิเวลาต่อสู้
“ท่านจำคำพูดตนเองไว้ด้วย ต้องหามาเพื่อข้าให้ได้ มิฉะนั้น ข้าจักหักกระดูกของท่านให้หมดตัว!”
นางเอ่ยกับแมงมุมปริภูมิเวลาเสียงเบา
“วางใจเถิด หากท่านต้องการ ข้ายังขอให้ยอดฝีมือปริภูมิเวลาช่วยสร้างมิติพิเศษเพื่อท่าน ให้เวลาในนั้นช้าขึ้นหลายเท่าตัว หนึ่งร้อยปีในนั้น เป็นเพียงหนึ่งชั่วโมงของมิติด้านนอก”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ย “จากนั้นค่อยส่งศิษย์พี่ใหญ่ของท่านเข้าไป ให้ท่านได้อยู่กับเขาในนั้น”
ศิษย์พี่ใหญ่ของอี้เหยาคือลูกศิษย์คนโตแห่งแดนสุขาวดีสระหยก พลังในตัวลึกล้ำเกินหยั่ง ลำพังตัวนางย่อมจัดการไม่ไหว ต้องให้ยอดฝีมือผู้เก่งกาจกว่านี้ออกโรง
“ถุย ท่านเห็นข้าเป็นคนเช่นไร?!”
อี้เหยาสบถ
ทว่าหลังจากนั้น นางยังเอ่ยต่อ “ที่ท่านว่ามานับว่าเป็นแผนดี อืม ดำเนินการขณะศิษย์พี่ใหญ่หลับแล้วกัน ให้ดีต้องทำอย่างเงียบเชียบ ให้ศิษย์พี่ใหญ่เข้าใจว่าได้พบข้าในความฝัน”
นางเปิดเผยตนเองอย่างสิ้นเชิง ถึงอย่างไรที่นี่ก็มิมีผู้อื่น ไม่มีทางแพร่งพรายออกไป
หลังจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นได้ยิน ก็พากันตาโต
ยามสตรีเหี้ยมโหดขึ้นมา บุรุษหมดหน้าที่ในบัดดลอย่างที่เขาว่าจริง ๆ
ดุดันเกินไปแล้ว!
หนี่งชั่วโมงเทียบเท่าหนึ่งร้อยปี คืนหนึ่งเท่ากับกี่ปีกัน!
นี่อี้เหยาคิดใช้เวลากับศิษย์พี่ใหญ่ในนั้นนานสักเพียงใดเชียว!
“วางใจเถิด ข้ารักษาคำพูด! แต่ก่อนอื่นท่านต้องช่วยข้าจัดการพวกเขาก่อน!”
แมงมุมปริภูมิเวลากล่าว
“ไม่มีปัญหา!”
อี้เหยาเบิกบานขึ้นมาในบัดดล แสงกระบี่นับล้านฟาดฟันออกไป เพลงกระบี่ทรงพลังที่สุดถูกตวัดออกไป มิมีการกักเก็บอีก
อีกด้าน แมงมุมปริภูมิเวลาระเบิดพลังเช่นกัน นางสำแดงมหาวิชาปริภูมิเวลา ปราณแห่งกาลเวลาอันไร้ที่สิ้นสุดคืบคลาน นางต้องการย้อนเวลาการเติบโตของลั่วสุ่ย เปลี่ยนนางเป็นทารก!
อนิจจา พวกนางคิดมากเกินไป
พวกนางคิดว่าเท่านี้คือพลังทั้งหมดของลั่วสุ่ย หารู้ไม่ นี่มิใช่เลย
ลั่วสุ่ยตั้งจิต จี้เพชรส่องประกาย นางได้รับการเสริมพลังอีกครั้ง ก่อนจะยื่นมือขาวผ่องออกไปลบล้างแสงกระบี่ทั้งหมดในพริบตา
ขณะเดียวกัน กฎระเบียบสูงส่งโลดแล่นอยู่บนตัวนาง บดขยี้พลังกาลเวลาที่โถมทับเข้ามา!
“นี่มันอะไรกัน!”
แมงมุมปริภูมิเวลาสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เต็มไปด้วยความพรั่นพรึง
ขอบเขตแท้จริงของลั่วสุ่ยคือระดับใดกันแน่?
เหตุใดถึงแร่งกล้าได้ปานนี้?!
นางกับอี้เหยาอยู่ในขอบเขตอิสระขั้นสองมานาน เรียกได้ว่ามาถึงจุดสูงสุดของขั้นสองแล้ว พวกนางร่วมมือเท่ากับไร้เทียมทานในหมู่ขั้นสอง
สุดท้ายเมื่ออยู่ต่อหน้าลั่วสุ่ย พลังของพวกนางกลับไร้ซึ่งฤทธิ์เดช ห่างชั้นตั้งไม่รู้เท่าใด!
“ขอบเขตอิสระขั้นสามหรือ?!”
สีหน้าอี้เหยาเปลี่ยนไปมากเช่นกัน ดูตื่นตกใจ
จากพลังที่ลั่วสุ่ยสำแดงออกมา อย่างน้อย ๆ ก็ต้องอยู่ที่ขั้นสาม!
อารมณ์นางหม่นหมองในบัดดล ขั้นสามเชียวนะ ให้สู้อย่างไรไหว ไม่มีทางสู้ได้เลย!
ความห่างชั้นระหว่างขั้นสู่ขั้นในขอบเขตอิสระนั้นมหาศาล ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการต่อสู้ข้ามขั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตตนใดทำได้มาก่อน
“อืม ที่จริงพวกเรามิได้สนิทสนมเท่าใด มาจากคนละกองกำลัง ท่านมาจากปริภูมิเวลา ข้ามาจากแดนสุขาวดีสระหยก เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็มิได้เกี่ยวข้องอันใดกับข้านัก!”
อี้เหยาเอ่ย ตั้งใจจะเผ่น
“สัมพันธ์พี่น้องของเราจบสิ้นง่าย ๆ เพียงนี้เชียวหรือ?!”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ยด้วยใบหน้าเศร้าหมอง “เอาเถิด วันนี้ข้าได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของท่านแล้ว ท่านไปเสียเถิด!”
จากนั้น นางหันมองลั่วสุ่ยพลางกล่าว “ความผิดผู้ใดผู้นั้นรับโทษ เจ้าปล่อยนางไป ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับนาง! แม้นนางไร้คุณธรรม ทว่าข้ามิอาจตัดสายใย!”
“ใช่ ๆๆ เรื่องนี้มิได้เกี่ยวข้องกับข้าจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องกัดข้าไม่ปล่อย จะฆ่าจะแกงนางก็แล้วแต่พวกเจ้าเลย”
อี้เหยาที่อยู่ด้านข้างเอ่ย “ปล่อยข้าไปเถิด”
นางทำทีราวกับไม่แยแสความเป็นความตายของแมงมุมปริภูมิเวลาจริง ๆ ทว่าลั่วสุ่ยมองออกชัดเจน นี่เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
ที่อี้เหยาทำเช่นนี้ก็เพื่อหนีไปจากที่นี่ แล้วไปตามกำลังเสริมมา
“พอที เลิกแสดงละครได้แล้ว ลูกไม้ตื้น ๆ เช่นนี้ไม่คณามือข้าจนต้องเปิดโปงพวกเจ้าหรอก”
ลั่วสุ่ยกล่าว กำราบทั้งแมงมุมปริภูมิเวลาและอี้เหยา
แมงมุมปริภูมิเวลาและอี้เหยามิได้เอ่ยวาจาใดอีก
ใช่แล้ว พวกนางพี่น้องผูกพันลึกซึ้ง ไฉนเลยจะทอดทิ้งกันและกันง่าย ๆ พวกนางกำลังแสดงละคร เป้าหมายคือให้อี้เหยาหนีไป จะได้เรียกหากำลังเสริม
“ปล่อยพวกนางให้พวกเจ้าจัดการแล้วกัน หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นข้าค่อยมาใหม่”
ลั่วสุ่ยเอ่ยกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่น ก่อนไปจากที่นี่
“เป็นอย่างไร สนใจเป็นไส้ศึกให้คุณชายหรือไม่”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มกว้าง
พลังของแมงมุมปริภูมิเวลาและอี้เหยาถูกลั่วสุ่ยสะกดไว้หมด เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวล แมงมุมปริภูมิเวลาและอี้เหยาทำอันใดมิได้อีก
“ไม่สนใจ!” แมงมุมปริภูมิเวลาตอบกลับทันควัน “ต่อให้เจ้าฆ่าข้า ข้าก็ไม่มีทางทรยศปริภูมิเวลา และไม่มีทางเป็นไส้ศึกรับใช้หลี่จิ่วเต้า!”
“หากไม่ยอม พวกเจ้าก็คือศัตรู เช่นนั้นข้าจำต้องฆ่าพวกเจ้าเท่านั้น!”
ตงฟางเวิ่นก้าวเข้ามาด้วย
“เช่นนั้นก็ฆ่าเลย! แมงมุมปริภูมิเวลาผู้นี้ไม่ยี่หระจะไปเป็นกบฏ!”
แมงมุมปริภูมิเวลายึดมั่นในท่าที
“ไม่เอาน่า ท่านอยากหลุดพ้นจากการควบคุมของปริภูมิเวลามาตลอดมิใช่หรือ คราวนี้ถือเป็นโอกาส…”
อี้เหยาเอ่ยขึ้นข้างกาย “แดนสุขาวดีสระหยกอยู่อย่างสันโทษ ลูกศิษย์ในดินแดนมิเคยออกเดินทางไปที่อื่น หนนี้ข้าลอบหนีออกมาเพื่อตามหารากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากไปให้ท่าน ช่วยให้ท่านพ้นทุกข์”
ว่าไป แมงมุมปริภูมิเวลานั้นมีชีวิตแสนรันทด นางเป็นเพื่อนเล่นกับแมงมุมปริภูมิเวลาตั้งแต่ยังเล็ก อนิจจา หลังแมงมุมปริภูมิเวลาเผยพรสวรรค์ด้านปริภูมิเวลาอันน่าทึ่งก็ถูกด้านปริภูมิเวลาหมายตา ก่อนจะบังคับพาตัวไป
รอจนนางได้พบแมงมุมปริภูมิเวลาอีกครั้ง ก็ผ่านไปแล้วหลายพันปี แมงมุมปริภูมิเวลาสูญเสียอิสรภาพ มีผนึกสลักอยู่เต็มกาย อยู่ในการควบคุมของฝ่ายปริภูมิเวลา
นางสงสารแมงมุมปริภูมิเวลามาก เคยขอร้องประมุขแห่งแดนสุขาวดีสระหยกอยู่หลายครา ขอให้ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกออกโรงช่วยเหลือแมงมุมปริภูมิเวลา
“นี่มิใช่เรื่องที่ข้าช่วยได้…”
จนถึงตอนนี้ นางยังจำได้ดี ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกผู้มิเคยก้มหัวให้อำนาจเอ่ยวาจานี้ออกมาด้วยความไร้เรี่ยวแรง
ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกไม่อาจคลายผนึกในตัวแมงมุมปริภูมิเวลา และไม่อาจเป็นปรปักษ์กับปริภูมิเวลา
ครานั้น ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกกล่าวอย่างชัดเจน ปริภูมิเวลานั้นไม่ธรรมดา เบื้องหลังนั้นน่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างยิ่งยวด กระทั่งโลกหลังฉากยังเต็มไปด้วยกฎแห่งปริภูมิเวลา สะท้อนให้เห็นถึงความน่ากลัวของปริภูมิเวลาอย่างไม่ต้องสงสัย
หลายปีมานี้ จากที่นางได้อยู่กับแมงมุมปริภูมิเวลา นางรู้ดีว่าแมงมุมปริภูมิเวลาเพียงแค่แสดงออกว่ามีความจริง แท้จริงในใจทุกข์ระทมนักหนา
ฝ่ายปริภูมิเวลามิเคยทรมานแมงมุมปริภูมิเวลา ตรงกันข้าม ฝ่ายปริภูมิเวลาดีกับนางมาก น้อยนักจะส่งแมงมุมปริภูมิเวลาออกไปปฏิบัติภารกิจอันใด ทั้งยังสนับสนุนการฝึกฝนของนางเต็มที่
ทว่าดีปานนั้นแล้วมีประโยชน์อันใด
แมงมุมปริภูมิเวลาไม่มีอิสระ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ฝ่ายปริภูมิเวลาเห็นนางเป็นเพียงเครื่องมือ ที่ดีกับแมงมุมปริภูมิเวลาปานนี้ก็เพื่อให้ใช้งานนางได้สะดวก
อิสรภาพ!
นี่คือสิ่งที่แมงมุมปริภูมิเวลาปรารถนาที่สุด!
นางจำไม่ได้แล้วว่ากี่คราที่แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ยว่าต้องการหลุดพ้นจากการควบคุมของปริภูมิเวลา เป็นอิสระอีกครั้ง!
ยามข่าวลือว่าในโลกหน้าฉากมีรากฐานพิเศษอยู่ นางก็ผุดความคิดอยากไปยังโลกหน้าฉาก ได้มาซึ่งรากฐานพิเศษ ช่วยให้แมงมุมปริภูมิเวลาพ้นทุกข์
อนิจจา แดนสุขาวดีสระหยกไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ
ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกเคยกล่าวไว้ว่า โลกหน้าฉากนั้นลึกล้ำยิ่งกว่า เมื่อรากฐานพิเศษปรากฏดูคล้ายเรื่องดี แท้จริงแล้วอาจเป็นภัยใหญ่หลวง มองดูห่าง ๆ เป็นการดีกว่า
หากมิใช่เช่นนี้ นางคงมาที่นี่นานแล้ว มิใช่จนป่านนี้แล้วเพิ่งมา
ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกตั้งใจปิดผนึกแดนสุขาวดีทั้งผืนเพื่อป้องกันมิให้ลูกศิษย์เดินทางไปยังโลกหน้าฉาก นางเปลืองแรงไปมากกว่าจะหนีออกจากแดนสุขาวดีมาได้
“ข้าก็ว่าเหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่โลกหน้าฉาก…”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ยน้ำตารื้น “จากกันคราวก่อน ท่านเอ่ยว่าต้องศึกษาวิชาร่วมกับศิษย์พี่ใหญ่ของท่าน ต้องใช้เวลานานโข ขอให้ข้าเลิกไปหาท่านสักระยะ ที่แท้เพราะสาเหตุนี้เองหรือ”
สิ่งใดหรือคือพี่น้องรักใคร่กลมเกลียว
นี่อย่างไร พี่น้องรักใคร่กลมเกลียว!
แมงมุมปริภูมิเวลาซาบซึ้งใจเหลือแสน อี้เหยาตัดสินใจมายังโลกหน้าฉากนานแล้ว ก่อนนี้เอ่ยเช่นนั้นก็เพื่อมิให้นางเป็นห่วง
รากฐานโลกหน้าฉากได้มาง่าย ๆ ที่ไหน
ยอดฝีมือหลังฉากหมายตากันตั้งเท่าไร!
การกระทำเช่นนี้อันตรายมาก อาจถึงขั้นจบชีวิตลงก็ได้!
“ข้าพูดอะไรท่านเชื่อหมดเลยหรือ! ท่านนี่ ทั้งใสซื่อและไร้เดียงสา! ศิษย์พี่ใหญ่นั้นประเสริฐ แต่จะเทียบกับท่านได้อย่างไร! ต่อให้ข้าต้องอยู่กับศิษย์พี่ใหญ่นานเพียงใด ก็ไม่มีทางมิให้ท่านไปหาข้า ในใจข้า ท่านคือพี่น้องที่ข้าสนิทที่สุด ขาดไปไม่ได้!”
อี้เหยากล่าว
ในใจของนาง แมงมุมปริภูมิเวลาสำคัญกว่าศิษย์พี่ใหญ่มากนัก…