บทที่ 881 ไม่จำเป็นต้องให้คุณชายลงมือ ข้าคนเดียวก็พอ!
“พี่น้อง…”
แมงมุมปริภูมิเวลาพึมพำ ดวงตารื้นชื้น คำว่าพี่น้องนี้ยิ่งใหญ่คับฟ้า นางสัมผัสได้แล้วอย่างแท้จริง
“โอกาสอะไรกัน อย่าได้ฝันลม ๆ แล้ง ๆ รังแต่จะกลายเป็นชนักให้ผู้อื่นใช้ข่มขู่เอาเท่านั้น”
นางสั่นศีรษะ เอ่ยให้อี้เหยาตั้งสติ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้อีก เพื่อป้องกันมิให้พวกจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงใช้เพื่อขู่กรรโชก
อย่างเช่นขอเพียงนางยอมหักหลังฝ่ายปริภูมิเวลา รับใช้หลี่จิ่วเต้า อีกฝ่ายย่อมช่วยคลายผนึกในตัวนาง
ผนึกในตัวนางไฉนเลยจะขจัดได้ง่าย ๆ ฝ่ายปริภูมิเวลาทุ่มเทในตัวนางอย่างมาก ผนึกที่ลงไว้ก็เป็นผนึกที่สยดสยองที่สุด มิฉะนั้น ปริภูมิเวลาคงไม่ส่งนางไปเป็นไส้ศึกอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้าโดยไม่ต้องกังวลว่านางจะแปรพักตร์
อี้เหยาถอนหายใจ มิได้เอื้อนเอ่ยคำใดอีก
หากลองไตร่ตรองดูดี ๆ นางไร้เดียงสาเกินไปจริง ๆ
หลี่จิ่วเต้าได้รากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากไปก็จริง ทว่าปริภูมิเวลานั้นมิได้ธรรมดา ลึกล้ำน่าพรั่นพรึง ต่อให้ตอบตกลงไปตอนนี้ความหวังก็ยังริบหรี่ อาจตกเป็นเพียงเครื่องมือให้หลี่จิ่วเต้าให้ใช้ประโยชน์เท่านั้น
“แคบเกินไป ทัศนวิสัยคับแคบยิ่งนัก เปิดสายตาให้กว้างไว้!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าว “พวกเจ้าประเมินคุณชายต่ำไป และประเมินพวกเราต่ำไป ขู่กรรโชกพวกเจ้าอย่างนั้นรึ คิดอะไรอยู่ เรื่องต่ำช้าเช่นนี้พวกเราไม่แยแสที่จะทำ”
“วาจาน่าฟังผู้ใดก็พูดได้ แน่จริงคลายผนึกในตัวข้าให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ย “ข้าหรือไม่รู้จักพวกเจ้า คิดจะหลอกข้าโดยอ้างว่าสามารถคลายผนึกในตัวข้า แล้วสั่งให้ข้าอุทิศชีวิตรับใช้พวกเจ้า ทว่าแท้จริงแล้วพวกเจ้าไม่อาจคลายผนึกในตัวข้าได้เลย”
นางกล่าวต่อ “หากพวกเจ้าคลายผนึกในตัวข้าได้ก่อน ข้าจักรับปากพวกเจ้า!”
“เรื่องนั้นมิใช่ปัญหาเลย เพียงแต่…”
จักรพรรดิหมากล้อมปริปาก ทว่าเขาพูดไม่ทันจบ แมงมุมปริภูมิเวลาก็ตัดบทขึ้นมาก่อน
“เพียงแต่ตอนนี้ยังทำมิได้ใช่หรือไม่ พอที หยุดทำเรื่องไร้สาระได้แล้ว ข้ามองพวกเจ้าออกอย่างทะลุปรุโปร่ง”
แมงมุมปริภูมิเวลากล่าว
หลี่จิ่วเต้าได้รับรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากมาแล้ว ฝ่ายปริภูมิเวลามิได้ต่าง ได้รับรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากมาแล้วจำนวนหนึ่งเช่นกัน หาได้ต่อกรด้วยง่าย ๆ
“ผู้ใดว่าตอนนี้ไม่ได้”
เวลานี้ลั่วสุ่ยปรากฏตัวอีกครั้ง แม้นนางจากไปแล้ว กระนั้นยังคอยจับตาดูสถานการณ์ฟากนี้อยู่ตลอด
“ผนึกในกายใช่หรือไม่ ไม่จำเป็นต้องให้คุณชายลงมือ ข้าก็พอ”
นางเอ่ยเสียงเบา มั่นใจเต็มเปี่ยม
“อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นเจ้าลองดูสิ…”
แมงมุมปริภูมิเวลาเผยร่างจริง ซึ่งเป็นแมงมุมขาวดุจหิมะตัวหนึ่ง
เมื่อจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นได้เห็นร่างจริงของแมงมุมปริภูมิเวลาต่างสูดปากอย่างอดมิได้
ผนึกมากมายเหลือเกิน!
บนร่างจริงของแมงมุมปริภูมิเวลาเต็มไปด้วยผนึกตั้งแต่หัวจรดเท้า ผนึกนี้แทรกซึมเข้าไปในเลือดเนื้อ สลักลงไปบนกระดูก แมงมุมปริภูมิเวลาเผยดวงวิญญาณออกมา ซึ่งปกคลุมไปด้วยผนึกชนิดเดียวกัน
“นี่มัน…”
อีกด้าน อี้เหยาผงะ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นผนึกเหล่านี้บนตัวแมงมุมปริภูมิเวลา เยอะเหลือเกิน หัวใจของนางเจ็บแปลบอีกครั้งราวกับถูกเข็มทิ่มแทง
โดยเฉพาะเมื่อนางนึกถึงยามแมงมุมปริภูมิเวลาอยู่ต่อหน้านางมิเคยแสดงความทุกข์ทนตรอมตรม ทุกครั้งที่ได้พบหน้านางมักมีใบหน้าแย้มยิ้มเริงร่า หัวใจของนางยิ่งร้าวราน
การซุกซ่อนความเจ็บปวดหมองเศร้าและเผยเพียงความเบิกบานเท่านั้น ในใจแมงมุมปริภูมิเวลาต้องโศกศัลย์สักเพียงใด…
ยิ่งหน้าตาแย้มยิ้ม จิตใจก็ยิ่งเจ็บปวด…
“ตกใจหรือ ทว่านี่แหละคือความจริง คุยโวนั้นผู้ใดก็ทำได้ อย่าได้คิดหลอกข้าง่าย ๆ”
แมงมุมปริภูมิเวลาหัวเราะเหมือนเย้ยหยันตนเอง
นางมิได้ใฝ่ฝันถึงอิสรภาพอีกแล้ว อิสรภาพดูจะหรูหราเกินไปสำหรับนาง ผนึกเหล่านี้ล้วนไม่เห็นความหวังในการทลาย
“เหตุใดต้องตื่นตกใจ ใช่ว่าข้าเพิ่งเคยเห็น ข้าเห็นมันตั้งแต่แรก”
ลั่วสุ่ยมีสีหน้าราบเรียบ เมื่อครั้งประมือกับแมงมุมปริภูมิเวลา นางก็เห็นผนึกเหล่านี้ในกายแมงมุมปริภูมิเวลาแล้ว
นางตั้งจิต ม่านแสงสาดส่องออกจากจี้เพชรรูปหัวใจ ศักดิ์สิทธิ์สูงส่งประดุจฝนแสงที่โปรยปรายลงมา กระทบบนตัวแมงมุมปริภูมิเวลา
ชั่วขณะนั้น ภาพประหลาดบังเกิด ยามม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ทาบทับบนตัวแมงมุมปริภูมิเวลา ผนึกบนร่างเดิมของแมงมุมปริภูมิเวลาหายไปอย่างรวดเร็ว!
“!!!”
แมงมุมปริภูมิเวลาอึ้งไปทันที
นางตระหนักถึงความน่าสะพรึงของผนึกเหล่านี้ดี ไฉนเลยจะลบล้างได้ง่าย ๆ พลังดาษดื่นไม่อาจแตะต้องผนึกเหล่านี้ได้เลย
หากคิดจะฝืนทลายผนึก ย่อมต้องถูกพลังจากผนึกสะท้อนกลับ และนำร่องพลังน่าครั่นคร้ามทั้งหมดในผนึกออกมา
นอกจากนี้ ฝ่ายปริภูมิเวลายังจะรับรู้ได้ในทันที
ทว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเหนือกว่าขอบเขตความเข้าใจของนางไปมาก!
ม่านแสงที่สาดส่องลงมาแฝงพลังเช่นไรไว้กันแน่ ผนึกกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งพลังน่าครั่นคร้ามในผนึกยังมิเคยถูกนำร่องออกมา!
ทำได้อย่างไรกัน?!
นางคิดไม่ตกเลย!
“น่ากลัวว่าฝ่ายปริภูมิเวลายังไม่รู้เลยว่าผนึกถูกคลายแล้ว…”
นางยิ่งรู้สึกสะท้าน พลังซึ่งแฝงไว้ในม่านแสงนี้เหนือชั้นกว่าผนึกมากนัก นางรู้สึกว่าฝ่ายปริภูมิเวลาคงยังไม่รู้เลย
มิฉะนั้น เหตุใดถึงสงบปานนี้?
ฟึ่บ!
ม่านแสงตกกระทบลงมาไม่หยุด ผ่านไปไม่นาน ผนึกทั้งหมดในตัวแมงมุมปริภูมิเวลาก็ถูกขจัดจนหมด จากนั้น ผนึกซึ่งสลักอยู่บนดวงวิญญาณของแมงมุมปริภูมิเวลาก็เริ่มสลายไปเช่นกัน
“นี่มัน…สุดยอดเกินไปแล้ว!”
ดวงตาอี้เหยาเบิกกว้าง แทบไม่อาจเชื่อสิ่งที่นางได้เห็น
นางเคยอ้อนวอนประมุขแดนสุขาวดีสระหยก หวังให้ประมุขแดนสุขาวดีสระหยกช่วยคลายผนึกในกายแมงมุมปริภูมิเวลา ทว่าประมุขแดนสุขาวดีสระหยกได้กล่าวไว้แล้วว่า ต่อให้แผดเผาแก่นกำเนิดชีวิตของท่าน ทุ่มเทวิชาทั้งหมดก็มิอาจคลายได้
แต่กับลั่วสุ่ยเล่า
เพียงครู่เดียวเท่านั้น ผนึกบนตัวแมงมุมปริภูมิเวลาก็คลายออกจนหมด กระทั่งผนึกบนวิญญาณแมงมุมปริภูมิเวลายังสลายไปด้วยความว่องไว เชื่อว่าอีกไม่นานคงหายไปจนสิ้น
พลังอะไรกัน?
นางไม่กล้าแม้แต่จะคิด
‘นางเป็นเพียงผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้าเท่านั้น สวรรค์ แล้วเขาต้องทรงพลังปานใด?!’
นางคิดในใจอย่างอดมิได้ หลี่จิ่วเต้าต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่สะท้านโลกันตร์แน่!
“เดี๋ยวก่อน ครานั้นกระบี่ฉุนจวินมีปัญหาจริงหรือ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเป็นเพราะกระบี่ฉุนจวินถูกหลี่จิ่วเต้ากำราบ คนนอกไม่อาจมองวิชาของหลี่จิ่วเต้าออกเล่า?!”
นางใคร่ครวญอีกครั้ง รู้สึกว่านี่ต่างหากคือความจริง
ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะคิดแบบไหน หลี่จิ่วเต้าก็แกร่งกล้าน่าพรั่นพรึงเกินไป!
ม่านแสงสาดส่องลงมาเรื่อย ๆ และใช้เวลาเพียงไม่นานจริง ๆ ผนึกบนดวงวิญญาณแมงมุมปริภูมิเวลาก็ถูกขจัดสมบูรณ์ แมงมุมปริภูมิเวลารู้สึกโล่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีพันธะใด ๆๆ บนร่างกายอีก!
“อิสระแล้ว…จริง ๆ หรือ?!”
จนบัดนี้นางยังเชื่อไม่ลง รู้สึกว่าทั้งหมดนี้อยู่เหนือความเป็นจริงเกินไป สายตายังคงล่องลอย
“อิสระแล้ว เจ้าเป็นอิสระแล้วจริง ๆ!”
อี้เหยาข้างกายยิ้มทั้งที่น้ำตารินไหล
นางดีใจกับพี่น้องคนสนิทของนางจริง ๆ นับแต่นี้ไป พี่น้องของนางไม่ต้องตกอยู่ในการควบคุมของปริภูมิเวลาอีกแล้ว
“ข้าได้บอกแล้ว คุณชายคือท้องฟ้าทั้งผืน ได้พบคุณชาย เท่ากับได้พบท้องฟ้าทั้งผืน”
ลั่วสุ่ยเอ่ยเสียงเบา นี่เป็นเพียงจี้ห้อยชิ้นหนึ่งที่คุณชายมอบให้นางเท่านั้น หาใช่พลังทั้งหมดของคุณชาย
คุณชายช่างเหนือจินตนาการถึงขีดสุด!
“ข้า…”
แมงมุมปริภูมิเวลาก้มหน้าด้วยความละอาย อับอายกับความโง่เขลาของตนก่อนหน้า
นางเคยเอ่ยว่า ต่อให้หลี่จิ่วเต้ามานี่ก็ไม่ไหว บัดนี้คิดดูแล้ว นางช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย
ตัวตนระดับนาง น่ากลัวว่าไม่คู่ควรให้ผู้ยิ่งใหญ่อย่างหลี่จิ่วเต้าลงมือด้วยซ้ำ เขาใช้เพียงนิ้วเดียวก็สามารถบี้นางให้ตายได้แล้ว
“ข้ายินดีเป็นกำลังให้คุณชาย!”
นางกล่าวต่อ ไม่เหลือความลังเลใดอีก
“เพียงแต่ ข้าหวังว่าหลังเสร็จสิ้นหน้าที่ ข้าสามารถตัดสายสัมพันธ์ทุกอย่าง ที่ข้าทำไปเพื่อตอบแทนบุญคุณเท่านั้น”
นางกล่าว
นางมีขอบเขตของนาง มีคุณธรรมที่ยึดถือ ไม่มีทางนับถือหลี่จิ่วเต้าเป็นนาย อยู่ใต้การควบคุมของเขาเพียงเพราะผนึกถูกคลาย
เป็นเช่นที่นางว่า หนนี้นางทำเพื่อตอบแทนบุญคุณ บุญคุณที่ช่วยทลายผนึก
นางมิใช่พวกเนรคุณ
“อย่างนั้นหรือ เจ้ายังมิเคยได้พบคุณชาย หลังเจ้าได้พบคุณชายแล้ว เจ้าจักไม่มีความคิดเช่นนี้อีก”
ลั่วสุ่ยกล่าว “อีกอย่าง เจ้าไม่ต้องคิดมาก คุณชายไม่มีทางควบคุมผู้ใด เจ้ามีอิสรภาพของเจ้า เจ้าเป็นของตัวเจ้าเอง”
แล้วนางก็ไปจากที่นี่ ทั้งยังคลายผนึกพลังของแมงมุมปริภูมิเวลาและอี้เหยา
“ต่อไปต้องทำอย่างไร ให้ข้ากลับไปที่ปริภูมิเวลาอีกครั้งหรือ”
แมงมุมปริภูมิเวลาถามจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง
“ไม่ต้อง ฝ่ายปริภูมิเวลาสั่งให้เจ้าคอยกบดานอยู่ข้างกายคุณชายมิใช่หรือ เช่นนั้นเจ้าส่งข่าวสารผิด ๆ กลับไปให้ฝ่ายปริภูมิเวลาเป็นครั้งคราวก็พอ”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยยิ้ม ๆ “เจ้ารับบทไส้ศึกสองหน้าเป็นพอ”
“ไส้ศึกสองหน้า? ข้าจะไหวหรือ”
แมงมุมปริภูมิเวลาหวั่นใจเหลือแสน นางไม่เคยเป็นไส้ศึกด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงไส้ศึกสองหน้า
“วางใจได้ มีข้าอยู่ด้วย ข้าจะชี้แนะเจ้าอย่างเต็มที่”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าว
ความฝันไส้ศึกสองหน้าที่ไม่เป็นจริงของเขา ก็ให้เป็นจริงกับแมงมุมปริภูมิเวลาแล้วกัน
“ข้าเล่า มีโอกาสได้พบคุณชายหลี่ผู้นี้ด้วยหรือไม่”
อี้เหยาถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
ยามนี้นางสนอกสนใจในตัวคุณชายหลี่ผู้นี้มาก อยากพานพบคุณชายหลี่ผู้นี้เหลือคณา
“ถุย ท่านได้ใหม่ลืมเก่าง่ายไปหรือไม่ ลืมศิษย์พี่ใหญ่ของท่านได้ไวปานนี้เลยหรือ ไม่ทันไรก็หมายตาคุณชายหลี่เสียแล้ว”
แมงมุมปริภูมิเวลาเอ่ย “ข้าทำอะไรคุณชายหลี่มิได้หรอก หากท่านอยากเห็นกล้ามท้องของคุณชายหลี่ ท่านต้องลงมือเอง!”
“ท่าน…ท่านพูดเหลวไหลอะไร!”
อี้เหยาแดงก่ำไปทั้งตัว แมงมุมปริภูมิเวลานี่นิสัยแย่จริง ๆ!
…
เวลาล่วงเลยผ่านไปทีละน้อย เซี่ยเหยียน จักรพรรดินี และหยวนอีทยอยกลับมาถึง พร้อมด้วยสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ผู้พ่นใยได้
หลี่จิ่วเต้าก็มิได้อยู่ว่าง ๆ ในระยะนี้
เขามัวถักทออาภรณ์และรองเท้า
“พอใช้ได้แล้ว ที่เหลือรอเพียงเส้นไหมมาเย็บถุงน่อง”
ผ่านไปอีกหลายวัน หลี่จิ่วเต้าถักทออาภรณ์และรองเท้าเสร็จ เหลือเพียงรอเส้นไหมอันเหมาะสมมาเย็บถุงน่อง
จากนั้น งานชุมนุมเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
หลี่จิ่วเต้าพาพวกลั่วสุ่ยออกเดินทางไปยังสำนักไท่หัว
“ถุงน่องเชียวนะ หลังเย็บเสร็จต้องได้รับความนิยมไปทั่วโลกแห่งการฝึกตน ทุกที่ต่างเต็มไปด้วยทิวทัศน์เฉิดฉิน”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม ตั้งตารออย่างยิ่ง
เขาอยากเผยแพร่ถุงน่องออกไปเป็นวงกว้างจริง ๆ ทำให้ถุงน่องเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในโลกแห่งการฝึกตน
ผู้ฝึกตนนั้นแตกต่างจากปุถุชน ต่อให้อากาศหนาวเพียงใดก็ไม่สะทกสะท้าน ผู้ฝึกตนสตรีมากมายแต่งกายน้อยชิ้นตลอดปีไม่ว่าฤดูใด
หากถุงน่องเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางได้ ถึงครานั้นย่อมต้องเป็นตามที่เขาว่าจริง ๆ ทุกฤดูกาลล้วนเต็มไปด้วยทิวทัศน์เฉิดฉัน
‘หวังว่าจะได้พบเส้นไหมที่เหมาะสมนะ’
เขาคิดในใจ