แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 910 หวังเหวินฟางทำตัวน่าสงสัย

ตอนที่ 910 หวังเหวินฟางทำตัวน่าสงสัย

ตอนที่​ 910 หวัง​เห​วิน​ฟางทำตัว​น่าสงสัย​

วัน​เวลา​ผ่าน​ไป​แล้ว​เกือบ​หนึ่ง​สัปดาห์​

เย็น​วันนั้น​ ทุกคน​เริ่ม​รับประทาน​อาหารเย็น​ด้วยกัน​ แต่​หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ไม่เห็น​หน้า​ของ​เถาจืออวิ๋น​

เธอ​ถามออกมา​อย่าง​ประหลาดใจ​ “พี่​เถาไป​โรงพยาบาล​อีกแล้ว​เหรอ​คะ​?”

“แบบนี้​ไม่ถูกต้อง​แล้ว​!” คุณย่า​ฟางหันมา​พูด​กับ​หวัง​เห​วิน​ฟาง “หลังจาก​มื้อ​เย็น​แล้ว​ เธอ​ควรจะ​ไป​ผลัดเปลี่ยน​กับ​จืออวิ๋น​บ้าง​ จืออวิ๋น​ทำงานหนัก​มาหลาย​วัน​ คน​เป็น​แม่อย่าง​เธอ​ทำ​อะไร​บ้าง​?”

หลังจาก​ฟางจั๋วเยวี่ย​ผ่าตัด​แล้ว​ หวัง​เห​วิน​ฟางก็​เลิก​โศกเศร้า​และ​ยัง​กิน​ดื่ม​อย่าง​ต่อเนื่อง​ หล่อน​ใช้ชีวิต​อย่าง​คุ้มค่า​และ​มีความสุข​

แม้จะไป​โรงพยาบาล​เพื่อ​เยี่ยม​ลูกชาย​ทุกวัน​ แต่​ก็​ทำได้​เพียง​มอง​ลูกชาย​ผ่าน​กระจก​ของ​ห้อง​ผู้​ป่วยหนัก​ ไม่อาจ​สัมผัส​ร่างกาย​ของ​เขา​ได้​

ใน​สายตา​ของ​คุณย่า​ฟาง การ​ที่​หล่อน​ทำ​แบบนี้​เป็นเรื่อง​เห็นแก่ตัว​มาก​

ตอนนี้​คุณย่า​ฟางรู้สึก​ทน​ไม่ได้​อีกต่อไป​ ขอให้​หวัง​เห​วิน​ฟางไป​ที่​โรงพยาบาล​เพื่อ​ดูแล​ลูกชาย​ของ​ตัวเอง​

หวัง​เห​วิน​ฟางวาง​ลูกชิ้น​หัว​สิงโต​ตุ๋น​น้ำ​แดง​ลง​ก่อน​จะพูดว่า​ “จั๋วเยวี่ย​ยังอยู่​ใน​ห้อง​ผู้​ป่วยหนัก​ ถึงฉัน​จะไป​ที่นั่น​ก็​เข้าไป​ไม่ได้​หรอก​ค่ะ​ ไม่มีประโยชน์​อะไร​ถ้าเรา​จะไป​เยี่ยม​เขา​ตอนนี้​”

เวลานี้​สีหน้า​ของ​คุณย่า​ฟางถึงกับ​มืดมน​ ทำให้​หล่อน​รู้สึก​หวาดกลัว​ไม่น้อย​ก่อน​จะเปลี่ยน​คำพูด​ “หลัง​มื้อ​เย็น​ฉัน​จะไป​โรงพยาบาล​เพื่อ​สับเปลี่ยน​กับ​เสี่ยว​เถาค่ะ​ เด็ก​คน​นี้​ก็​จริง ๆ​ เลย​ สุดท้าย​ก็​รู้​อยู่แล้ว​ว่าการ​รอ​อยู่​ข้างนอก​แบบ​นั้น​มัน​ไร้ประโยชน์​ แต่​หล่อน​ก็​ยัง​ยืนยัน​”

หล่อน​อยาก​จะพูด​ออก​ไป​ แต่​ไม่รู้​จะพูด​อย่างไร​ เวลานี้​กลัว​ว่า​คุณย่า​ฟางกับ​คุณปู่​ฟางจะโกรธ​ เลย​ต้อง​กลืน​ประโยค​เหล่านั้น​ลง​ไป​ครึ่งหนึ่ง​

คุณปู่​ฟางหัน​มอง​แม่เถาที่​กำลังกิน​อย่าง​เงียบ ๆ​ พร้อม​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ขุ่นเคือง​กับ​หวัง​เห​วิน​ฟาง “จืออวิ๋น​ยัง​คงอยู่​ที่​โรงพยาบาล​เพื่อ​ตาม​ดู​อาการ​ของ​จั๋ว​เย​วี่ย​ หล่อน​จะอยู่​ที่นั่น​ทำไม​ถ้าไม่ใช่เพราะ​เป็นห่วง​จั๋ว​เย​วี่ย​ เป็นเรื่อง​ที่​คน​เป็น​แม่อย่าง​เธอ​สมควร​ยินดี​ แต่กลับ​คิด​ว่า​ไม่เกี่ยวข้อง​และ​พูดจา​ประชดประชัน​ได้​อีก​!”

หวัง​เห​วิน​ฟางถูก​คุณปู่​ฟางต่อว่า​อย่างนี้​ก็​ไม่กล้า​พูด​ต่อ​

หลัง​รับประทาน​อาหาร​เสร็จ​แล้ว​ หวัง​เห​วิน​ฟางก็​รีบ​กระวีกระวาด​ไป​โรงพยาบาล​

ฟางเว่ยกั๋ว​เห็น​อย่างนั้น​จึงไป​โรงพยาบาล​ด้วย​เช่นกัน​

ทุกครั้งที่​เขา​ไป​เปลี่ยน​เวร​กับ​เถาจืออวิ๋น​ อีก​ฝ่าย​มักจะ​ปฏิเสธ​เสมอ​

เขา​ที่​เป็น​พ่อ​สามีในอนาคต​ไม่อาจ​โน้มน้าว​หล่อน​ได้​ จึงต้อง​กลับมา​เสมอ​

ถ้าคืนนี้​สามารถ​ไป​สับเปลี่ยน​กับ​เถาจืออวิ๋น​ได้​ เขา​ก็​จะพัก​ค้างคืน​ที่​โรงพยาบาล​

สุดท้าย​เขา​ไม่คิด​สนใจ​หวัง​เห​วิน​ฟาง มัน​ก็​คงจะ​ดี​ถ้าเขา​สามารถ​ช่วยเหลือ​ได้​สัก​ชั่วโมง​สอง​ชั่วโมง​

หลังจาก​ดู​ข่าว​แล้ว​ หลิน​ม่าย​และ​สามีขึ้นห้อง​ชั้นบน​ ก่อน​จะเริ่ม​อ่านหนังสือ​

ก่อน​หลิน​ม่าย​จะอ่านหนังสือ​ เธอ​นึกถึง​เรื่องสำคัญ​ขึ้น​มาได้​

เธอ​วาง​ปากกา​ก่อน​จะโทร​หา​เจียว​อิง​อวิ้น​และ​ถามเขา​ถึงสถานการณ์​ใน​ไซต์​ก่อสร้าง​

เจียว​อิง​อวิ้น​ถอนหายใจ​ “เกิด​ความวุ่นวาย​หลายครั้ง​ แต่​พวกเรา​ก็​ยัง​ทำงาน​อยู่​ครับ​”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​สับสน​เล็กน้อย​ “ก็​ฉัน​เปลี่ยน​แผน​แล้ว​ ที่ดิน​ก็​ยก​ให้​กับ​ชาวบ้าน​แล้ว​ จะเกิด​ความวุ่นวาย​ได้​ยังไง​?”

ตอนนี้​เจียว​อิง​อวิ้น​จึงเล่าเรื่อง​ทั้งหมด​ให้​เธอ​ฟัง

คุณ​อวี๋​ใช้เวลา​แค่​สอง​วัน​สำหรับ​ออก​แบบพิมพ์เขียว​ของ​โครงการ​ และ​ปรับเปลี่ยน​แผนผัง​ต่าง ๆ​ สำหรับ​ร้านค้า​

ขณะเดียวกัน​เขา​ก็​ติดสินบน​เจ้าหน้าที่​ใน​หมู่บ้าน​ตามคำแนะนำ​ของ​หลิน​ม่าย​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​ทำได้​สำเร็จ​

เจียว​อิง​อวิ้น​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ขุ่นเคือง​ “ผม​บอก​ได้​ว่า​เจ้าหน้าที่​พวก​นั้น​กับ​ชาวบ้าน​เป็น​พวก​เดียวกัน​”

“แล้ว​จากนั้น​ล่ะ​”

“ผม​เลิก​ตอแย​พวกเขา​และ​คิด​ยก​ที่ดิน​ตรงนั้น​ให้​ชาวบ้าน​ไป​ตามที่​หัวหน้า​หลิน​บอก​”

นี่​คือ​สิ่งที่​หลิน​ม่าย​วางแผน​เอาไว้​แต่แรก​ เธอ​จึงไม่เข้าใจ​ว่า​มัน​จะมีความวุ่นวาย​อะไร​เกิดขึ้น​

เจียว​อิง​อวิ้น​เล่า​ต่อว่า​ “แต่​เมื่อ​ทีม​ก่อสร้าง​ของ​พวกเรา​เริ่ม​ทำงาน​ ชาวบ้าน​ก็​เริ่ม​เข้ามา​ก่อกวน​และ​ไม่ให้​พวกเรา​ทำงาน​โดยสะดวก​”

หลิน​ม่าย​ถามต่อว่า​ “หรือว่า​คุณ​ยัง​ไม่ได้​เซ็น​สัญญาซื้อขาย​ที่นา​ของ​หมู่บ้าน​กับ​คณะกรรมการ​หมู่บ้าน​?”

หาก​เป็น​กรณี​ของ​ประเทศ​จีน​ เมื่อ​ซื้อ​ที​ดิ่น​จาก​สำนักงาน​ที่ดิน​ ตราบใดที่​มีบ้าน​และ​ที่นา​ จะต้อง​ชดเชย​ค่าเสียหาย​ให้​กับ​เจ้าของบ้าน​และ​ที่นา​แห่ง​นั้น​ด้วย​

รัฐ​มีเงินชดเชย​ที่​ค่อนข้าง​ต่ำ​ และ​เกษตร​ย่อม​ไม่พอใจ​เม็ดเงิน​ พวกเขา​จึงจะเจรจา​กับ​นัก​พัฒนา​แทน​

อย่างไร​เสีย​ หมู่บ้าน​ใน​เมือง​แห่ง​นี้​เป็น​ของ​หมู่บ้าน​โดยตรง​ แม้เจียว​อิง​อวิ้น​และ​คณะกรรมการ​หมู่บ้าน​จะยอม​ตกลง​เงื่อนไข​การ​รื้อถอน​แล้ว​ แต่​ชาวบ้าน​ก็​ต้อง​เซ็น​แยกส่วน​เป็น​ครัวเรือน​อยู่ดี​

และ​ถ้าหาก​ใช้คณะกรรมการ​หมู่บ้าน​ช่วยเหลือ​ ทุกอย่าง​จะง่าย​ขึ้น​

ส่วน​เรื่อง​ที่นา​ของ​เหล่า​เกษตรกร​แตกต่าง​ออก​ไป​ สิ่งเหล่านั้น​คือ​ทรัพย์สิน​ส่วนรวม​

ตราบใดที่​คณะกรรมการ​หมู่บ้าน​และ​เจียว​อิง​อวิ้น​ลงนาม​ซื้อขาย​เสร็จสิ้น​ มัน​ก็​จะไม่มีปัญหา​

ชาวบ้าน​ก็​จะมีสิทธิ์​ใน​เงินปันผล​ ไม่ส่งผลกระทบ​ต่อสัญญา​

แต่​เพราะ​ชาวบ้าน​กล้า​ขัดขวาง​การ​ก่อสร้าง​ หลิน​ม่าย​จึงลอบ​สงสัย​ว่า​เจียว​อิง​อวิ้น​กับ​คณะกรรมการ​หมู่บ้าน​ยัง​ไม่ได้​ลงนาม​ซื้อขาย​ที่ดิน​กัน​หรือ​

เจียว​อิง​อวิ้น​ตอบกลับ​ “เรา​ลงนาม​กัน​ไป​ตั้ง​นานโข​แล้ว​ครับ​ คุณ​หลิน​ครับ​ ผม​ไม่เห็นด้วย​กับ​เหตุผล​งี่เง่าที่​ชาวบ้าน​เสนอ​ออกมา​ และ​ตอนนี้​พวกเขา​จงใจสร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​เรา​”

“แล้ว​คุณ​หยุด​ชาวบ้าน​พวก​นั้น​ยังไง​?”

ถ้าไม่สามารถ​หยุด​ชาวบ้าน​พวก​นั้น​ ก็​ไม่สามารถ​เริ่ม​งาน​ได้​

เจียว​อิง​อวิ้น​ตอบกลับ​ “ผม​ไม่มีความสามารถ​จะหยุดยั้ง​พวก​ที่​เข้ามา​ก่อน​กวน​ เพื่อ​เป็นการ​เอื้อประโยชน์​ให้​กับ​ผู้​ที่มา​ปฏิบัติงาน​ใน​หมู่บ้าน​ จึงให้​เจ้าหน้าที่​หมู่บ้าน​มาจัดการ​เรื่องราว​ ผม​แค่​ไป​บอก​เจ้าหน้าที่​หมู่บ้าน​กับ​ชาวบ้าน​กลุ่ม​นั้น​ ตราบใดที่​ผู้ปฏิบัติงาน​ใน​หมู่บ้าน​ไม่ละเมิด​ ชาวบ้าน​ก็​จะไม่ยุ่ง​เกี่ยวกับ​พวกเขา​! เจ้าหน้าที่​ของ​หมู่บ้าน​แสร้ง​ทำตัว​ว่า​เป็น​เพียง​ผู้รับผิดชอบ​ แต่กลับ​บอก​กล่าวว่า​ชาวบ้าน​ไม่ยินยอม​ที่จะ​เซ็นสัญญา​รื้อถอน​และ​ไม่สามารถ​ห้ามปราม​พวกเขา​ได้​”

“แต่​ฉัน​ไม่คิด​อย่างนั้น​” หลิน​ม่าย​เริ่ม​คิด​ “ที่นา​คือ​ทรัพย์สิน​ส่วนรวม​ และ​คณะกรรมการ​หมู่บ้าน​ลงนาม​เสร็จ​แล้ว​ ถ้าพวกเขา​ไม่ออกมา​ห้ามปราม​ชาวบ้าน​ พวกเขา​เสี่ยง​ที่จะ​ผิดสัญญา​และ​ต้อง​เสียเงิน​ให้​กับ​เรา​ แต่​บ้าน​ของ​ชาวบ้าน​เป็น​สมบัติส่วนตัว​ ถ้าเรา​ไป​บังคับ​พวกเขา​มาก​ ๆ ก็​จะกลายเป็น​ศัตรู​กัน​เปล่า​ ๆ สุดท้าย​แม้ภายหลัง​การ​รื้อถอน​หมู่บ้าน​ใน​เมือง​จะจบสิ้น​ลง​แล้ว​ก็ตาม​ แต่​หลังจาก​การ​รื้อถอน​เสร็จสิ้น​ ชาวบ้าน​ก็​ยังอยู่​ด้วยกัน​ ถ้าพวกเขา​สร้าง​ความขุ่นเคือง​ให้​กับ​ชาวบ้าน​ ชาวบ้าน​ก็​จะรวมตัวกัน​เพื่อ​โต้กลับ​ไม่ใช่เหรอ​? เจ้าหน้าที่​พวก​นั้น​ไม่ได้​ทำงานหนัก​เพราะ​การ​รื้อถอน​อย่าง​เดียว​หรอก​ แต่​ก็​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​การปะทะ​”

เจียว​อิง​อวิ้น​นึก​ขึ้น​มาได้​ “เป็น​อย่างนี้​นี่เอง​”

หลิน​ม่าย​ถามต่อว่า​ “แล้ว​หลังจาก​ก่อสร้าง​แล้ว​ชาวบ้าน​เป็น​ยังไง​บ้าง​?”

“ก็​ไม่มีท่าที​ยังไง​นะ​ครับ​” เจียว​อิง​อวิ้น​หัวเราะ​ “หัวหน้า​หลิน​ คุณ​กำลังจะ​เสีย​เงินเดิมพัน​ให้​ผม​แล้ว​ล่ะ​ครับ​ ถ้าแพ้​ อย่า​ลืม​โอน​เงิน​ให้​ผม​นะ​”

หลิน​ม่าย​หัวเราะ​ “ใน​สายตา​คุณ​ฉัน​น่าชื่นชม​ขนาด​นั้น​เชียว​? เอาล่ะ​ คอย​ดู​แล้วกัน​ ฉัน​ก็​ไม่รู้​ว่า​ใคร​จะแพ้​”

พริบตาเดียว​ วัน​เสาร์​ก็​มาถึง หลิน​ม่าย​กลับ​จาก​มหาวิทยาลัย​ใน​ตอนบ่าย​ และ​ยาก​มาก​ที่จะ​ได้​พบ​เจอ​เถาจืออวิ๋น​ยุ่ง​อยู่​ใน​ครัว​

หลิน​ม่าย​ยืน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ห้องครัว​โดย​ถือ​กระเป๋านักเรียน​ไว้​ ก่อน​จะถามติดตลก​ว่า​ “แฟน​สาว​ดีเด่น​แห่งชาติ​ของ​เรา​ไม่ได้​ไป​โรงพยาบาล​เหรอ​คะ​วันนี้​?”

ใบหน้า​ของ​เถาจืออวิ๋น​แดง​เรื่อ​ขึ้น​มา “การ​ตุ๋น​ซุป​ตะพาบน้ำ​ให้​เขา​ไม่ใช่เรียก​กว่า​การ​ดูแล​เหรอ​?”

หล่อน​เงยหน้า​ขึ้น​พร้อม​พูด​กับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ “จั๋วเยวี่ย​เคย​บอ​กว่า​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ที่​ฉัน​ตุ๋น​ไม่อร่อย​เท่า​ของ​เธอ​ ลอง​ชิมให้​ฉัน​หน่อย​ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​นึก​ขำ​ “พี่​เพิ่ง​เรียน​ทำอาหาร​จาก​ฉัน​ไม่กี่​วัน​ จะให้​เก่ง​เท่า​ฉัน​เลย​เหรอ​? จั๋วเยวี่ย​นี่​ปาก​เก่ง​จริง ๆ​ ที่​กล้า​ดูหมิ่น​ฝีมือ​การ​ทำอาหาร​ของ​พี่​!”

เถาจืออวิ๋น​กล่าว​ออกมา​อย่าง​จริงจัง​ “เพราะ​เขา​ยัง​เป็น​คนป่วย​ ฉัน​เลย​ไม่รู้​จะทำ​ยังไง​”

หลิน​ม่าย​ตบ​ไหล่​ของหล่อน​เบา​ ๆ ก่อน​จะพูดว่า​ “เดี๋ยว​ฉัน​เอา​กระเป๋า​ไป​เก็บ​ก่อน​แล้วกัน​ ก่อน​จะลงมา​เป็น​หนูทดลอง​เพื่อ​ชิมตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ของ​พี่​”

หลังจาก​พูด​จบ​แล้ว​ เธอ​ก็​เดิน​ออกจาก​ครัว​ขึ้นไป​ชั้นบน​ ขณะ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ เธอ​โยน​กระเป๋านักเรียน​ไว้​บน​โซฟาก่อน​จะวิ่ง​ลง​ไป​ชั้นล่าง​

เมื่อ​เดินผ่าน​ชั้นสอง​ ประตู​ห้อง​ของ​หวัง​เห​วิน​ฟางเปิด​ออก​เงียบ ๆ​

หล่อน​เม้มปาก​แน่น​หัน​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​หลิน​ม่าย​แล้ว​มอง​ขึ้นไป​ชั้นบน​

หลังจาก​ร่าง​ของ​หลิน​ม่าย​ลับสายตา​ไป​ หล่อน​เดิน​ขึ้นไป​ชั้นบน​อย่าง​แผ่วเบา​

หลิน​ม่าย​วิ่ง​ลง​ไป​ชั้นล่าง​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​เธอ​ก็​หมกมุ่น​อยู่​กับ​การ​ชิมตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ของ​เถาจืออวิ๋นจน​ลืม​ปิดประตู​ห้อง​

เพราะ​มีแขก​มากมาย​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ แม้จะไม่มีแขก​คนใด​ทำตัว​เป็น​ขโมย​ แต่​หลิน​ม่าย​มักจะ​ปิดประตู​เมื่อ​มีคนนอก​อยู่​ด้วย​ภายในบ้าน​เสมอ​

เธอ​รู้สึก​กลัว​ว่า​จะมีเรื่อง​บางอย่าง​เกิดขึ้น​

เวลานี้​เธอ​วิ่ง​ขึ้นไป​ชั้นบน​อีกครั้ง​

เมื่อ​เธอ​วิ่ง​ขึ้น​มาถึงชั้น​สาม เธอ​เห็น​ว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางกำลัง​ปิดประตู​ให้​

หลิน​ม่าย​โพล่ง​ถามทันที​ “คุณ​รู้​ได้​ยังไง​คะ​ว่า​ฉัน​เปิด​ประตู​ทิ้ง​ไว้​?”

หวัง​เห​วิน​ฟางยก​ยิ้ม​บิดเบี้ยว​ “ฉัน​อยุ่​ใน​ห้อง​และ​ได้ยิน​เสียง​เธอ​เข้า​ห้อง​ แต่​จังหวะ​กลับ​ออกมา​ไม่ได้ยิน​เสียง​เปิดประตู​ ฉัน​เลย​คิด​ว่า​เธอ​คง​ไม่ได้​ปิดประตู​ เลย​ขึ้น​มาปิด​ให้​”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ว่า​มัน​แปลก ๆ​

เธอ​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​มีแขก​คน​ไหน​เดิน​ขึ้น​มาปิดประตู​ให้​เจ้าของบ้าน​

หลิน​ม่าย​มอง​หวัง​เห​วิน​ฟางด้วย​ความสงสัย​

หวัง​เห​วิน​ฟางเดินผ่าน​เธอ​ด้วย​ความสงบ​และ​ลง​ไป​ชั้นล่าง​

ก่อน​จะลอบ​ดีใจ​เล็กน้อย​ที่​ได้ยิน​เสียง​หลิน​ม่าย​วิ่ง​ขึ้น​มา ไม่อย่างนั้น​หาก​ถูก​จับได้​คงจะ​น่าเกลียด​แล้ว​

หลิน​ม่าย​ใช้กุญแจ​เปิด​ประตู​ที่หวัง​เห​วิน​ฟางเพิ่ง​ปิด​เมื่อ​ครู่​ เธอ​ตรวจสอบ​ทุกอย่าง​เพื่อ​ดู​ว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางเข้ามา​ใน​ห้อง​ของ​เธอ​ทำไม​

แม้สิ่งที่​เห็น​คือ​ภาพ​ที่หวัง​เห​วิน​ฟางปิดประตู​ให้​

แต่​เธอ​รู้สึก​ว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางเข้ามา​ใน​ห้อง​

และ​อีก​ฝ่าย​คง​ได้ยิน​เสียง​ฝีเท้า​ของ​เธอ​ขึ้น​มาชั้นบน​ จึงรีบ​ออกจาก​ห้อง​และ​แสร้ง​ทำเป็น​ปิดประตู​ให้​

หลิน​ม่าย​ตรวจสอบ​ทุกอย่าง​ และ​เธอ​ก็ได้​พบ​บางอย่าง​

โต๊ะ​ลิ้นชัก​เครื่อง​แป้ง​ถูก​รื้อ​ค้น​ ข้าวของ​ภายใน​ยุ่งเหยิง​และ​ไร้​ระเบียบ​

โดยเฉพาะ​กล่อง​เครื่องประดับ​สร้อยคอ​ทองคำ​ก็​ถูก​เปิด​ออก​ และ​ยัง​ไม่ได้​ปิด​คืน​กลับ​

หลิน​ม่าย​สงสัย​ว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางกำลัง​ค้นหา​อะไร​ใน​ห้อง​ของ​เธอ​? หล่อน​กำลัง​คิด​อยากได้​อะไร​?

………………………………………………………………………………………………………………………..

สาร​จาก​ผู้แปล​

จะขโมย​ทอง​ไป​ใช้หนี้​อะไร​ให้​แม่เฒ่าหวัง​ที่​บ้าน​นั้น​หรือเปล่า​นะ​ ท่าทาง​น่าสงสัย​มาก​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท