บทที่ 885 บรรดายอดฝีมือหลังฉากปรากฏ ศึกชุลมุนเริ่มขึ้น!
ทุ่งเหมันต์กว้างไกลมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด หิมะปกคลุมอยู่ทั่วขุนเขา สิ่งที่สะท้อนอยู่ในสายตามีเพียงสีขาว
หิมะแผ่นใหญ่โปรยปราย มองไม่เห็นร่องรอยมนุษย์ที่นี่ หลี่จิ่วเต้าเหยียบอยู่บนกระบี่ฉุนจวิน มาถึงที่นี่ในพริบตาราวกับแสงดาวตก
เด็กหนุ่มบุกเข้ามาด้วยความเร็วทะลุขีดจำกัด ทันทีที่เห็นหลี่จิ่วเต้าก็ฟาดตราประทับออกไป สัมภเวสีส่งเสียงคร่ำครวญ วิญญาณร้ายคำราม
ตราประทับนี้คือตราประทับผี ผู้ถูกวิชาจักถูกผีสางนับหมื่นกลืนกิน สูญเสียการเชื่อมต่อระหว่างกายเนื้อกับวิญญาณ กลายเป็นวิญญาณหยินด้วยการกัดกินจากผีสางนับหมื่น อยู่ใต้อาณัติของกฎปรโลก
นี่เป็นวิชาลับของปรโลก ใช้ต่อกรกับสิ่งมีชีวิตเป็น ๆ โดยเฉพาะ ฝืนเปลี่ยนเป้าหมายเป็นวิญญาณหยิน จวบจนอยู่ใต้การควบคุม!
ฟึ่บ!
หลี่จิ่วเต้ากระโจนตัวจากกระบี่ฉุนจวิน ยืนอยู่บนธารน้ำแข็ง แสงกระบี่นับล้านพวยพุ่งออกจากกระบี่ฉุนจวิน สะท้อนอยู่ในฟ้าดิน ก่อนจะฟาดฟันไปข้างหน้า
ผีสางนับหมื่นคำราม ตราประทับผีแฝงไว้ด้วยพลังอึมครึมชั่วร้าย ม่านหมอกทะมึนคืบคลาน ราวกับอยู่ในรัตติกาลมืดมิด คลี่แผ่ปกคลุมทั้งทุ่งเหมันต์เอาไว้
ภาพนี้น่าประหวั่นพรั่นพรึงเหลือแสน เสียงหายใจจากวิญญาณร้ายดังอยู่ข้างหู ประกายชวนผวาแผ่ซ่านออกจากตราประทับผี วาดผ่านท้องฟ้าจู่โจมไปหาหลี่จิ่วเต้าอย่างรวดเร็ว
กระบี่ฉุนจวินจู่โจมมาด้วยความองอาจไร้เทียมทาน แสงกระบี่บดขยี้ทุกสิ่ง เงาผีร้ายพินาศย่อยยับไปนับคณา
เงาผีสยดสยองพุ่งออกจากตราประทับผี ดุดันน่าสะพรึง พุ่งเข้ามาหมายจะกลืนกินแสงกระบี่ แต่กลับถูกแสงกระบี่บั่นจนแหลกลาญ!
“ไหนว่ากระบี่ฉุนจวินมีปัญหาอย่างไร?!”
แววตาเด็กหนุ่มไหวระริก คาดไม่ถึงนิดหน่อย ลักษณะของกระบี่ฉุนจวินผิดจากที่เขาคิด
กระบี่ฉุนจวินมีปัญหาตรงไหนกัน?!
อย่างไรเสียเขาก็ดูไม่ออก กระบี่ฉุนจวินอยู่ในสภาพดีเยี่ยม ยามกวัดแกว่งมีพลังเหลือล้นเคลื่อนตรงออกมา สมกับเป็นกระบี่ในตำนาน!
ไม่เพียงเขาที่คิดไม่ถึง ยอดฝีมือหลังฉากตนอื่น ๆ ก็คิดไม่ถึงเช่นกัน
เพราะจากที่พวกเขารู้มา กระบี่ฉุนจวินเกิดปัญหาบางอย่าง อยู่ในสภาพผิดปกติ
สายตาพวกเขาพลันทอประกาย นี่คือกระบี่ในตำนาน ผู้ใดครอบครองจักเป็นหนึ่งในโลกหลังฉาก ไม่มีปัญหาย่อมเป็นการดีที่สุด พวกเขาล้วนอยากได้กันทั้งสิ้น
“ต่อให้เป็นกระบี่ในตำนาน ก็ต้องดูว่าอยู่ในมือผู้ใด!”
เด็กหนุ่มแค่นเสียงเย็น หาได้เกรงกลัวไม่
กระบี่ฉุนจวินวิเศษอย่างแท้จริง แฝงไว้ด้วยพลังเหนือจินตนาการ แต่เป็นดั่งที่เขาว่า อาวุธทรงพลังปานใดยังต้องดูว่าอยู่ในมือผู้ใด
“ฆ่า!”
เขาสำแดงฤทธิ์เดช ใช้วิชาผีอันแกร่งกล้า แสงโลหิตพวยพุ่ง ตรงเข้าพันธนาการวิญญาณ
นี่คือวิชาพิฆาตวิญญาณโลหิต สุดยอดวิชาที่ใช้กำจัดวิญญาณโดยเฉพาะ แสงโลหิตกลายเป็นธนูสีเลือด ตรงเข้าสังหารวิญญาณอย่างมิอาจป้องกัน
กระบี่ฉุนจวินฟาดฟัน ทว่าธนูสีเลือดนั้นกลับเปรียบเสมือนไร้รูปไร้ลักษณ์ ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย นี่คือสุดยอดวิชาสังหารที่ไม่อาจป้องกันไม่อาจยับยั้งได้ ไม่ว่าพลังใดล้วนยากจะสร้างความเสียหายต่อธนูสีเลือด เรียกได้ว่ายามใช้วิชานี้ ถูกตัวเป้าหมายแน่นอน!
ยอดฝีมือหลังฉากเห็นการโจมตีนี้แล้วต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป
แม้แต่มารซินผู้ไม่เห็นสิ่งใดในสายตายังเปลี่ยนสีหน้าไปมหันต์
เขาเองก็ต้านทานมิไหว หากธนูสีเลือดเล็งมาทางเขา เขาก็ต้องถูกยิงอย่างแน่นอน!
“ผีสางมารร้าย เหล่าสัมภเวสีจะต้องถูกชะล้างทั้งหมด”
หลี่จิ่วเต้ายกมือเรียกก้านหลิวชะล้างออกมา ม่านแสงนุ่มนวลแผ่กระจาย ให้ความรู้สึกสดชื่นสบายราวกับถูกสายลมวสันต์พัดโชย
ธนูสีเลือดพุ่งเข้ามาในม่านแสงนุ่มนวล ประดุจหิมะปรากฏบนสุริยัน พริบตาเดียวก็มลายหายไปมิมีให้เห็นอีก ระเหยอย่างสิ้นเชิง
“นี่ต้องเป็นสุดยอดวิชาสังหารแสนสยดสยองแน่นอน อนิจจา เขาเจอกับผู้ที่ขัดทางวิชา ก้านหลิวในมือหลี่จิ่วเต้าขัดทางวิชาผีเช่นนี้อย่างเห็นได้ชัด…”
หวังจื้อ ศิษย์พี่ของว่านเซวียนสั่นศีรษะพลางเอ่ย
หากมิใช่ว่าหลี่จิ่วเต้ามีหลิวก้านนี้ ย่อมต้องถูกวิชานี้เล่นงาน โดนธนูสีเลือดขจัดวิญญาณ
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงจินตนาการของเขาเท่านั้น หาใช่ความจริงไม่
ต่อให้หลี่จิ่วเต้าไม่มีก้านหลิวชะล้าง ธนูสีเลือดสามารถโจมตีเข้าวิญญาณหลี่จิ่วเต้า ก็ไม่มีทางสร้างอันตรายต่อเขาได้เลย
อย่าล้อเล่นหน่อยเลย หลี่จิ่วเต้ายืนนิ่งไม่ไหวติง ปล่อยให้เด็กหนุ่มยิงธนูสีเลือดไม่หยุดจนเหนื่อยตาย วิญญาณของหลี่จิ่วเต้าก็ไม่มีทางเป็นอันใดไปสักนิด
“ข่มทางอะไรกัน ขอเพียงพลังมากพอก็ข่มกลับได้เสมอ!”
สายตาเด็กหนุ่มดุดัน คิดแล้วคงเป็นคนใหญ่คนโตฐานะไม่ธรรมดา เขามิได้ว้าวุ่นอยู่กับความเพลี่ยงพล้ำของวิชาพิฆาตวิญญาณโลหิต บุกไปหาหลี่จิ่วเต้าอีกครั้ง
นั่นบ่งบอกถึงความน่าครั่นคร้ามของเขาแล้ว โหดเหี้ยเด็ดเดี่ยว ไม่ถูกสิ่งอื่นรบกวนจิตใจโดยง่าย
อีกด้าน มารซินบนเขาไท่หัวเคลื่อนไหว
เขาบุกออกไปกะทันหัน เป้าหมายชัดเจน จู่โจมสังหารเซี่ยเหยียน คิดจะฉวยโอกาสที่สายตาของสิ่งมีชีวิตทุกตนจับจ้องการต่อสู้ระหว่างหลี่จิ่วเต้ากับเด็กหนุ่มในการสังหารเซี่ยเหยียน ชิงผลไม้ในมือเซี่ยเหยียนมา
ไม่ว่าจะเป็นหลี่จิ่วเต้าหรือเด็กหนุ่ม ล้วนต่อกรด้วยยากทั้งคู่ เขาเปลี่ยนใจ ต้องการชิงผลไม้พวกนั้นมาให้ได้ก่อน
นี่เป็นโอกาสอันดี ถึงอย่างไร ความสนใจทุกสิ่งมีชีวิตทุกตนต่างอยู่ที่หลี่จิ่วเต้าและเด็กหนุ่ม นอกจากนี้ เซี่ยเหยียนก็มิได้เก่งกาจเท่าใด
เสียงดังตู้ม เขาปรี่มาถึงในเสี้ยวลมหายใจ เร็วจนไม่ทันให้ตั้งตัว
เซี่ยเหยียนเองยังตั้งตัวไม่ทัน ยามนางรู้ตัว มารซินก็ปราดมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
มารซินลงมืออย่างเหี้ยมเกรียม ฝ่ามือทอประกายโลหิตน่าพรั่นพรึง พลังมหาศาลซัดสาด ฟาดเข้าหลังของเซี่ยเหยียนอย่างจัง
การโจมตีนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง เขาตั้งใจปลิดชีพ สังหารเซี่ยเหยียนให้สิ้นซาก
“ตายเสีย!”
เขาหัวเราะเสียงเย็น รอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความอำมหิต
สิ่งมีชีวิตขอบเขตลอยชายยังมิอาจต้านทานการโจมตีนี้ ต้องถูกสังหารอย่างสิ้นเชิง หากสิ่งมีชีวิตขั้นสามถูกการโจมตีนี้ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส กำลังรบลดทอนมหาศาล
เซี่ยเหยียนมิใช่ทั้งคู่ ห่างจากขอบเขตลอยชายตั้งไม่รู้เท่าไหร่ หากเซี่ยเหยียนถูกการโจมตีนี้เข้า ต้องจบชีวิตลงอย่างสิ้นเชิง วิญญาณแตกสลาย!
ทว่าเรื่องที่เขาคิดไม่ถึงคือ เขาต่างหากเป็นฝ่ายกระเด็น ฝ่ามือข้างที่ฟาดลงแผ่นหลังเซี่ยเหยียนรวมถึงแขนทั้งท่อนระเบิดแหลกเหลวกลายเป็นหมอกเลือด!
เนื้อตัวเซี่ยเหยียนส่องแสงเจิดจ้า กฎระเบียบพิเศษบางอย่างโลดแล่น อาภรณ์บนตัวนางไม่ธรรมดา เป็นอาภรณ์ที่คุณชายมอบให้ แฝงไว้ด้วยพลังเกินหยั่ง สามารถระงับการโจมตีจากมารซิน
“อะไรกัน!”
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร?!”
ยอดฝีมือหลังฉากไม่น้อยหันมองมาด้วยความตะลึงระคนไม่เชื่อ
พวกเขาได้เห็นอันใดกัน มารซินผู้เป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงในโลกหลังฉากจู่โจมกะทันหัน หมายจะลอบโจมตีเซี่ยเหยียน สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายกระเด็นออกไปเอง ทั้งฝ่ามือทั้งท่อนแขนระเบิดแหลกลาญจนสิ้น!
เรื่องเช่นนี้ประดุจนิทานปรัมปรา เชื่อได้ยากยิ่ง!
“มารซินเป็นที่เลื่องลือว่าน่ากลัวสยดสยอง อยู่ในขั้นสามตอนปลาย จู่ ๆ โจมตีเช่นนี้ น่ากลัวว่าแม้แต่ยอดฝีมือขั้นสี่ตอนต้นก็มิอาจตั้งตัวได้ทัน อาจไม่ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ต้องได้รับผลกระทบเป็นแน่! เซี่ยเหยียนกลับไม่เป็นอันใด ซ้ำยังสะท้อนพลังกลับจนมารซินกระเด็น บดขยี้แขนของเขาข้างหนึ่ง! อาภรณ์บนตัวนางเป็นอาภรณ์เช่นไรกันแน่?!”
“จะน่ากลัวเกินไปแล้ว! ของวิเศษจากรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากหรือ?!”
พวกเขาสะท้านเหลือแสน ตกตะลึงเป็นหนักหนา
อย่าว่าแต่หลี่จิ่วเต้าเลย กระทั่งคนข้างกายหลี่จิ่วเต้ายังต่อกรด้วยยากยิ่ง เต็มไปด้วยศาสตราวิเศษ!
“ไปตายเสีย!”
มารซินคำรามกราดเกรี้ยว เคยถูกหยามเหยียดปานนี้ที่ไหน?
ไม่เคยเลย!
ปราณเลือดในตัวเขาพลุ่งพล่านขึ้นนภา แขนข้างที่ถูกบดขยี้ฟื้นสภาพในเสี้ยวลมหายใจ เขาปล่อยกงล้อโลหิตออกไป หมุนคว้างอย่างรวดเร็ว พลังน่าครั่นคร้ามหมุนวนตามกงล้อโลหิต ดูน่าสะพรึงอย่างยิ่งยวด!
สิ่งมีชีวิตหลังฉากเหล่านั้นหน้าถอดสีไปไม่น้อย ออกห่างจากที่นี่อย่างอดมิได้
ชื่อเสียงมารซินน่ากลัวเกินไป พวกเขากลัวจะโดนลูกหลง ท้ายสุดต้องถูกปลิดชีพโดยมารซิน
ถึงอย่างไร มารซินนั้นมิมีขอบเชต ทำได้ทุกอย่าง
โดยเฉพาะยามนี้ที่มารซินบันดาลโทสะ พวกเขายิ่งหวาดกลัวเป็นกังวล
“พวกชั้นต่ำเท่านั้น!”
สีหน้าเซี่ยเหยียนเย็นชา ยกมือเก็บผลไม้ ก่อนจะดึงปิ่นหยกออกจากศีรษะ เปลี่ยนเป็นทวนยาว เข้าต่อสู้ดุเดือดกับมารซิน
ทวนยาวแกว่งไกว เปล่งแสงเจิดจ้า ร่างกายเซี่ยเหยียนจรัสแยงตา ท่วงท่าองอาจดุดัน ความต้องการรบท่วมท้น
สิ่งมีชีวิตหลังฉากมากมายสะท้อนใจอย่างอดมิได้
นี่หรือคือรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก
น่ากลัวจริง ๆ!
เซี่ยเหยียนเพิ่งอยู่ที่ขอบเขตอันใด ถึงสามารถดวลกับมารซิน รากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากไม่อาจคาดเดาได้ด้วยหลักตรรกะทั่วไปได้เลย!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดดังไม่หยุดหย่อน เซี่ยเหยียนและมารซินสู้กันจนถึงนอกอาณาจักร ม่านแสงนุ่มนวลแผ่กระจาย คลี่ปกคลุมเพื่อคุ้มกันเขาไท่หัว
นี่คืออานุภาพของภาพวาดเขาไท่หัว หากมิใช่ว่าภาพวาดเขาไท่หัวคลี่แผ่พลังนุ่มนวลช่วยคุ้มครอง ทั้งเขาไท่หัว รวมถึงสิ่งมีชีวิตในเขาต้องถูกกำจัดในพริบตา
“ในนี้ก็มีของวิเศษอยู่หรือ!”
หวังจื้อ ศิษย์พี่ของว่านเซวียนมองสำนักไท่หัวด้วยตาเป็นประกาย
เขามองเห็นว่าพลังที่คอยคุ้มกันเขาไท่หัวมีต้นกำเนิดจากภายในสำนักไท่หัว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในสำนักไท่หัวมียอดศาสตราอยู่เช่นกัน
ชั่วขณะนั้น เขาผุดความคิดอยากเข้าไปในสำนักไท่หัว แล้วชิงยอดศาสตราชิ้นนี้ไป
“ศิษย์พี่ พวกเราถอยกันก่อนเถิด!”
ว่านเซวียนเอ่ยอย่างวิตกกังวล นางรู้สึกว่าหากพวกตนลงมือย่อมเป็นเรื่องแน่ จึงไม่อยากให้หวังจื้อทำอันใด
“ศิษย์น้อง มาถึงขั้นนี้แล้ว เหตุใดเจ้ายังคิดถอยอีก อย่าได้เอ่ยให้มากความอีกเลย รีบตามศิษย์พี่เข้าไปชิงของวิเศษกันเถิด!”
หวังจื้อปริปาก ย่างฝีเท้าหมายจะบุกเข้าไปในสำนักไท่หัว
เขารู้ดีว่ายังมียอดฝีมือหลังฉากตนอื่นซ่อนตัวอยู่อีกแน่ จึงไม่ต้องการเสียเวลา กลัวว่ายอดฝีมือหลังฉากตนอื่นจะตัดหน้าชิงของวิเศษในสำนักไท่หัวไปก่อน
ว่านเซวียนถอนหายใจ ดวงตางามหมดจดเต็มไปด้วยความระอา
ศิษย์พี่บุกเข้าไปแล้ว นางมิมีทางเลือก จำต้องบุกเข้าไปตามศิษย์พี่
นางยกมือเรียกกระบี่ยาวเล่มหนึ่งออกมา อาภรณ์พลิ้วไหว ไม่อาจพรรณนาได้เลยว่าสูงส่งเพียงใด แสงกระบี่สะท้อนบนฟากฟ้า บุกเข้าไปยังสำนักไท่หัวเช่นกัน
“บังอาจ!”
ลั่วสุ่ยตวาดเสียงเย็น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยเกล็ดน้ำค้าง บุกตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า หยุดยั้งหวังจื้อและว่านเซวียนไว้
“แม่นางลั่ว อย่าปล่อยนางไปเด็ดขาด กำราบนางไว้แล้วมาอยู่เป็นเพื่อนข้า นางต้องได้รับการสั่งสอนเช่นกัน!”
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตะโกน
นางไม่ถูกกับว่านเซวียนตั้งแต่ที่โลกหลังฉาก อยากให้ว่านเซียนถูกสั่งสอนเฉกเช่นนาง
พูดมาถึงนี่ จำต้องกล่าวถึงบิดาแสนอาภัพของนาง จนป่านนี้ยังอยู่ที่เขาญาณ เคาะมู่อวี๋สวดมนต์กับพระภิกษุบนเขาญาณ
เซี่ยเหยียนพานางและบิดาของนางกลับมาด้วยกัน แล้วส่งต่อให้ต้าเต๋อช่วยสั่งสอน เพื่อเป็นการลงทัณฑ์พวกเขา
คราวนี้ต้าเต๋อมาด้วย นางตามเกลี้ยกล่อมอยู่นานจนได้รับอนุญาตให้ตามมา
ทว่าหลังกลับไปแล้วนางต้องรับทัณฑ์ต่อ เคาะมู่อวี๋สวดมนต์กับบิดาของนาง
ลั่วสุ่ยสู้หนึ่งต่อสอง เข้าประมือกับว่านเซวียนและหวังจื้อ สู้กันตั้งแต่เขาไท่หัวจนถึงผืนนภา
สิ่งมีชีวิตหลังฉากตะลึง ผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้าน่าพรั่นพรึงปานนี้กันหมดเลยหรือ?
เซี่ยเหยียน ลั่วสุ่ย ดุดันไม่แพ้กันเลย!
“พวกเราก็ลุยด้วย เณรน้อยผู้นั้นก็มีของวิเศษในตัวเช่นกัน!”
ในมุมมืด สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเอ่ยต่อมารกระดูก
มันเห็นลูกประคำบนคอต้าเต๋อ สัมผัสได้ถึงความอัศจรรย์จากลูกประคำเส้นนั้น จึงแน่ใจว่านี่ก็เป็นยอดศาสตราชิ้นหนึ่ง
“บรรดายอดฝีมือสู้ศึกกันชุลมุน ต่อกรด้วยยากไม่แพ้กันเลย เดิมข้าคิดว่าหนนี้มาเสียเที่ยวแล้ว หารู้ไม่ มิได้เสียเที่ยวทีเดียว ยังมีช่องโหว่ให้แทรกแซง!”
เบ้าตาแสนลึกของมารกระดูกมีเปลวเพลิงแห่งผีลุกโชน “เด็กอมมือคงมิได้จัดการยากเท่าใดกระมัง”
“เป็นไปได้อย่างไรเล่า! ไปกันเถิด!”
สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตหัวเราะเสียงเย็น บุกออกไปพร้อมกับมารกระดูกอย่างรวดเร็ว พุ่งไปหาต้าเต๋อ
“เจ้าโง่ทั้งสอง…รอโดนอัดได้เลย!”
“เณรน้อยผู้นี้ก็มีของวิเศษอยู่เต็มกายเช่นกัน!”
จ้าวอสนีบาต อสูรยักษ์ และข่งอวิ๋นก็อยู่ที่นี่ หลังเห็นสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตและมารกระดูกบุกไปทางต้าเต๋อ พวกเขาต่างไว้อาลัยให้กับสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตและมารกระดูกในใจ
ครานั้น พวกเขาทั้งสามหมายหัวต้าเต๋อเพื่อล้วงความลับหลี่จิ่วเต้า จึงไปหาต้าเต๋อที่เขาญาณ หมายจะกำราบต้าเต๋อ
สุดท้าย พวกเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายอนาถ…
บัดนี้ภาพเดียวกันนั้นกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตและมารกระดูกต้องน่าเวทนาเช่นเดียวกับพวกเขาในครานั้น
ต้าเต๋อมิได้ต่อกรด้วยง่าย ๆ เลย!