บทที่ 886 คุณชายไร้เทียมทาน ข้อนี้ไม่มีวันเปลี่ยน!
มารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตบุกออกไปอย่างว่องไว เล็งเป้าไปที่ต้าเต๋อ หมายจะลักพาตัวต้าเต๋อไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ถึงอย่างไร สถานการณ์ในที่แห่งนี้ยังคลุมเครือ อาจมียอดฝีมือหลังฉากพรางตัวอยู่ในความมืดอีก พวกมันมิกล้าชักช้า ลงมือย่างรวดเร็วด้วยกลัวจะเกิดเรื่องไม่คาดคิด
“หืม”
อีกด้านต้าเต๋อกำลังจิบสุราอยู่ พอดีกับที่หันไปเห็นมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตบุกเข้ามาหาเขา
ก่อนนี้ที่มารซิน หวังจื้อ ว่านเซวียนออกจู่โจมเป็นผลให้ต้าเต๋อระวังตัวขึ้น เขารู้สึกว่าอาจมียอดฝีมือหลังฉากผู้อื่นพร้อมบุกออกมาอีก จึงระวังตัวอยู่ตลอด
เพราะอย่างนั้น ยามมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตบุกมาหาเขา เขารู้ตัวในทันที
หากมิใช่ว่าเขาระวังตัวไว้ก่อนแล้ว ย่อมไม่มีทางรับรู้ถึงมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิต
ทว่าถึงคราวมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตบุกเข้ามา เขามิได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย กลับกันใบหน้าเล็ก ๆ นั่นยังเผยรอยยิ้มสดใส
“หมอนี่…ดูมีพิรุธ!”
มารกระดูกเอ่ยนอย่างไม่สบายใจ “เขากำลังยิ้มอยู่!”
สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตก็เห็นว่าต้าเต๋อกำลังยิ้มให้พวกมัน ยิ่งหวั่นใจเข้าไปใหญ่
ที่สำคัญพวกมันเสียเปรียบจากสือเฟิงครั้งใหญ่จนกลายเป็นปมในใจ
นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตยังฟื้นสภาพไม่เต็มที่ พลังมิได้อยู่ในระดับสูงสุด
“พวกเรา…ถอย!”
มันมิกล้าลงมือต่อ รอยยิ้มต้าเต๋อสร้างความตกใจให้มัน จนมันรีบเปลี่ยนทิศทาง เตรียมหนีจากที่นี่
มารกระดูกก็เบนทิศเพื่อหนีในทันที
“ไยต้องหนีด้วยเล่า ขี้ขลาดขนาดนี้ ไฉนเลยจะก่อการใหญ่ได้”
ต้าเต่อเอ่ยยิ้ม ๆ “กลับมาเถิด ข้าจะบริกรรมบทสวดให้พวกเจ้าฟัง เพื่อสำแดงให้เห็นถึงปรมัตถ์แห่งธรรมะ ช่วยให้พวกเจ้ากลับตัวกลับใจ”
เขายกมือเรียกมู่อวี๋ออกมาก่อนจะเริ่มเคาะ เสียงมู่อวี๋ดังก้องอยู่ในส่วนลึกของวิญญาณมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตในบัดดล
เสียงมู่อวี๋นั้นมิอาจยับยั้ง มารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเสียท่า วิญญาณได้รับผลกระทบมหาศาล ร่วงหล่นลงจากนภา
“อย่า…อย่าท่องอีกเลย!”
“ขอร้องล่ะ หยุดเถิด!”
มารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตทุกข์ทรมาน อย่าให้เอ่ยเลยว่ารู้สึกแย่เพียงใด พวกมันเหลือทนกับเสียงมู่อวี๋ คล้ายว่ามีแมลงวันนับคณามุดเข้าไปในหัวพวกมัน บินวนส่งเสียง ‘หึ่ง ๆ’ ไม่หยุด
พวกมันอยากขัดขืน ทว่าทำมิได้เลย ไม่อาจรีดเร้นพลัง เสียงมู่อวี๋สร้างความกระเทือนต่อพวกมันมากเกินไป พวกมันไม่อาจรวบรวมกำลังในกายได้เลย
อะไรกันนี่!
พวกมันสำนึกเสียใจทันที เอ่ยว่าเด็กอมมืออย่างต้าเต๋อจัดการได้ง่าย สุดท้ายต้าเต๋อจัดการพวกมันได้ในอึดใจเดียว
“สองคนนี้…มาเล่นตลกหรือไร!”
“น่าขันยิ่งนัก!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากต่างหัวเราะเมื่อได้เห็น
เอาตนเองไปมอบเยี่ยงนี้ ตลกสิ้นดี!
ทว่าหัวเราะไปหัวเราะมา พวกเขาก็หัวเราะไม่ออก สีหน้าหนักอึ้งกันถ้วนหน้า
มารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเอาตนเองไปมอบก็จริง ทว่ายามอยู่ในโลกหลังฉาก มารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตก็เป็นบุคคลที่ต่อกรด้วยยากยิ่ง
โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิต ต่อกรด้วยยากสุด ๆ มิมีสิ่งมีชีวิตตนใดรู้ว่าสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเป็นตัวอะไรกันแน่
สุดท้ายหลังพวกมันบุกเข้าไปกลับถูกกำราบในพริบตา น่าตกตะลึงยิ่งนัก!
นอกจากนี้ พวกเขายังสะท้านใจเหลือแสน
ต่างรู้ดีว่าที่ต้าเต๋อจัดการมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตได้ ล้วนเป็นเพราะมู่อวี๋ในมือต้าเต๋อ
มู่อวี๋นั้นเป็นยอดศาสตราในหมู่ยอดศาสตราอย่างไม่ต้องสงสัย แฝงไว้ด้วยพลังเกินหยั่ง พวกเขาพลันนึกได้ว่ามู่อวี๋นี้อาจมาจากรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก!
สวรรค์! หลี่จิ่วเต้าได้ของวิเศษจากรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากมาเท่าไหร่กันแน่?
หรือว่าผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้ามีของวิเศษนานัปการกันทุกผู้เลยหรือ
น่าตกใจเหลือเกิน!
“หลี่จิ่วเต้าเคยเอ่ยว่าของวิเศษเหล่านี้ได้มาจากการแลกเปลี่ยนกับบรรพจารย์ฝู มิได้หมายความว่า…เป็นบรรพจารย์ฝูหรอกหรือที่ได้สัมผัสรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉากจริง ๆ?! บางทีในมือบรรพจารย์ฝูอาจมีของวิเศษมากกว่านี้?!”
“พายุระลอกใหม่มาแล้ว น่ากลัวว่าวันหน้า ความสนใจทั้งหมดจะพุ่งไปที่บรรพจารย์ฝูผู้นี้!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากไม่น้อยเอ่ยบทสนทนาแลกเปลี่ยนกัน
“เข้ามาสิ!”
อีกด้าน ต้าเต๋อโบกมือเรียกให้มารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเหินไปหาเขา ขนาบซ้ายขวาของเขา
เขาถ่ายทอดพลังมู่อวี๋เข้าไปในร่างของมารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเพื่อกำราบทั้งคู่ เขาตั้งใจจะพามารกระดูกและสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตกลับไปยังเขาญาณเพื่อเทศนา
ตู้ม!
เวลานั้นเอง เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น จู่ ๆ ก็มีพลังสยดสยองพวยพุ่งออกจากโลงโลหิต สิ่งมีชีวิตในนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ ยังมีลูกไม้เหลืออยู่!
แสงโลหิตลำหนึ่งทะยานขึ้นฟ้า สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตหนีไปจากที่นี่
“ก้นใหญ่…สีขาว!”
“ระคายตายิ่ง!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากมากมายส่งเสียงครวญคราง สำนึกเสียใจยิ่ง เหตุใดพวกเขาต้องมองด้วยเล่า สุดท้ายภาพที่ได้เห็นคงต้องใช้ทั้งชีวิตในการลืมเลือน!
อุจาดตายิ่งนัก!
ขาวโพลนไปหมด พวกเขารึก็นึกว่าสิ่งใด ต่างพยายามเพ่งพินิจ หลังมองเห็นชัดเจนแล้วถึงรู้ว่าเป็นก้นใหญ่สีขาว!
ซ้ำยังมิใช่ก้นเด็ก ดูจากภาพเงาแล้วคงเป็นบุรุษวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วม
พวกเขาระคายตาแทบบอด!
สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเคยปรากฏตัวแล้วครั้งหนึ่งในรูปลักษณ์เด็กอ้วน แต่บัดนี้มิใช่ กลายเป็นบุรุษวัยกลางคนอ้วนท้วมผู้หนึ่ง คิดแล้วคงกระตุ้นรูปลักษณ์บางอย่างขึ้นมา
“หืม?!”
ต้าเต๋อขมวดคิ้ว ผิดคาดนิดหน่อย ภายใต้แรงพันธนาการจากพลังมู่อวี๋สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตยังหนีไปได้ นับว่าเหนือความคาดหมายของเขาจริง ๆ
“เฮ้อ สหายของเจ้านี่อย่างไร หนีไปคนเดียวโดยไม่สนใจเจ้าเลย ไร้คุณธรรมสิ้นดี”
ต้าเต๋อใช้ไม้เคาะมู่อวี๋เคาะกะโหลกศีรษะโล้นเตียนวาววามของมารกระดูกหนึ่งที
เบื้องหน้าความตาย คุณธรรมและความเป็นพี่น้องสำคัญไฉน!
มารกระดูกมิได้ติดใจอันใด แต่การที่ต้าเต๋อเคาะหัวมันด้วยไม้เคาะมู่อวี๋สร้างความเดือดดาลให้มันเหลือแสน ต้าเต๋อเห็นศีรษะมันเป็นอะไร?!
“อืม จะว่าไปเคาะแล้วถนัดมือยิ่ง เอาล่ะ จากนี้ไปข้าเลิกเคาะมู่อวี๋ยามบริกรรมบทสวดแล้ว เปลี่ยนไปเคาะหัวเจ้าแทนแล้วกัน พอดีเลย จะได้ช่วยชำระล้างจิตใจของเจ้า ให้เจ้าเกิดความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า ก้าวสู่เส้นทางประเสริฐศรี”
ต้าเต๋อเอ่ยยิ้ม ๆ ยกมือเคาะหัวกะโหลกของมารกระดูกอีกหลายทีด้วยความพึงพอใจ
“!!!”
มารกระดูกอยากตาย ต้าเต๋อทำเช่นนี้ทรมานยิ่งกว่าฆ่ามันเสียอีก!
ตู้ม!
เวลานั้นเอง สิ่งมีชีวิตมากมายเบนสายตาไปที่หลี่จิ่วเต้า
พวกเขาเห็นชายหนุ่มปะทุแสงกระบี่เจิดจ้า ก่อนจะฟาดฟันเด็กหนุ่มจนกลายเป็นหมอกเลือด!
“เจ้ามันสมควรตาย!”
เด็กหนุ่มคำรามกราดเกรี้ยว น่าครั่นคร้ามมากจริง ๆ เขายังไม่ตาย สามารถหลอมร่างใหม่ขึ้นท่ามกลางหมอกเลือดได้อย่างรวดเร็ว
เพียงแต่เขามิได้อยู่ในร่างเด็กหนุ่มอีกต่อไป หากแต่กลายเป็นบุรุษวัยกลางคน!
“เขาคือ…ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งนิกายกระบี่โบราณ กุยอี!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากอุทานเสียงหลงหลังจำภูมิหลังของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ ตกตะลึงเหลือล้น
มิน่าเด็กหนุ่มถึงวางมาดใหญ่โต ท่าทีประหนึ่งไม่เห็นทุกอย่างในสายตา ที่แท้เขาคือผู้อาวุโสสูงสุดแห่งนิกายกระบี่โบราณหรอกหรือ!
นี่คือยอดฝีมือระดับสูงสุดผู้หนึ่งแห่งโลกหลังฉาก อยู่ในขอบเขตอิสระขั้นห้า หาคู่มือได้ยากยิ่งในโลกหลังฉาก!
เหตุใดเขาถึงไปอยู่ที่ปรโลก
สิ่งมีชีวิตหลังฉากคิดไม่ตก หรือว่ากุยอีตายแล้ว กลายเป็นวิญญาณหยิน?!
ทว่าตัวตนแทบไร้เทียมทานอย่างกุยอีจะตายได้อย่างไร แล้วผู้ใดเป็นคนฆ่า?!
“อะไรนะ! ผู้อาวุโสกุยอีเองหรือนี่!”
อีกด้าน หวังจื้อซึ่งกำลังต่อสู้ดุเดือดอยู่กับลั่วสุ่ยได้เห็นภาพการณ์ฟากนั้น
เขาพลันรู้สึกเหลือเชื่อ อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นกุยอี ผู้อาวุโสสูงสุดในนิกายของเขา!
มิน่าเขาถึงรู้สึกคุ้นเคย มิให้คุ้นเคยได้อย่างไร เขาเคยได้รับการสอนสั่งจากกุยอี
เหตุใดผู้อาวุโสกุยอีถึงเข้าร่วมปรโลก?!
เขาคิดไม่ตกอย่างยิ่ง!
ผู้อาวุโสกุยอีฝึกฝนอยู่ในนิกายมาตลอดมิใช่หรือ
ทว่าไม่นานนักเขาก็เลิกคิดเรื่องนี้ เพราะลั่วสุ่ยแข็งแกร่งเกินไป และเพราะเขาใจลอยเผลอใคร่ครวญเรื่องนี้ถึงได้โดนโจมตีรุนแรง เลือดสาดกระจาย ระเบิดเละไปครึ่งร่าง!
มันรีบสงบจิตใจ มิกล้าวอกแวกอีกและตั้งใจต่อสู้กับลั่วสุ่ย
“ฆ่า!”
กุยอีหน้าตาเย็นชา สำแดงพลังในตัวทั้งหมด ไม่กักเก็บอีกต่อไป
เดิมเขาคิดว่าไม่ต้องใช้พลังทั้งหมดก็สามารถจัดการหลี่จิ่วเต้าได้
บัดนี้ดูแล้ว เขาไร้เดียงสาเกินไป หากไม่ใช้พลังทั้งหมดไม่มีทางกำจัดหลี่จิ่วเต้าได้เลย!
“ประตูนรก!”
เขาหัวเราะเสียงเย็น เปิดประตูนรก ลมปราณอึมครึมพิศวงคืบคลาน ฟ้าดินพลันหม่นหมอง
ประตูนรกปรากฏ บานประตูมหึมาจนท้องฟ้าแทบแตกออก ประตูบานนี้ก่อตัวขึ้นด้วยหัวกะโหลกมากมายนับไม่ถ้วน อย่าให้เอ่ยเลยว่าชวนขนลุกขนพองเพียงใด!
เงาดำแล้วเงาดำเล่าก้าวออกจากประตูนรก ทั้งหมดล้วนน่าประหวั่นพรั่นพรึง น่ากลัวเหลือคณา!
“นั่นคือ…พระเจ้าเทียนอู่!”
“เงาดำร่างนั้นดูหน้าคุ้นยิ่ง เดี๋ยวก่อน ข้านึกออกแล้ว นั่นคือจ้าวเซียวเหยามิใช่หรือ!”
“แล้วยังมีปีศาจสวรรค์อ้ายเหม่ยด้วย!”
“สวรรค์ ปรโลกดึงยอดฝีมือผู้ล่วงลับเข้าเป็นพวกหมด!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากตกตะลึงกันถ้วนหน้า แทบเชื่อไม่ลง
เหล่าเงาดำผู้ก้าวออกจากประตูนรกล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดในโลกหลังฉาก ตายไปด้วยเหตุผลบางประการ ทิ้งตำนานเล่าขานในโลกหลังฉากมากมาย บัดนี้กลับปรากฏตัวกันพร้อมหน้า!
การคาดเดาของพวกเขาก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง ปรโลกสะท้านโลกันตร์อย่างยิ่ง กระทั่งยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นห้ายังมิอาจไปสู่สุคติหลังสิ้นชีพ ต้องกลายเป็นวิญญาณหยิน อยู่ใต้อาณัติปรโลก!
คราวนี้ พวกเขายิ่งยำเกรงต่อปรโลก สิ่งมีชีวิตหลังฉากบางตนเริ่มคำนวณแล้วว่าสานสัมพันธ์ไมตรีกับปรโลกล่วงหน้าได้หรือไม่ รอจนพวกเขาตายเมื่อใด ให้ปรโลกช่วยดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี
ถึงอย่างไรเวลานี้ดูโกลาหลยิ่งนัก มิมีผู้ใดรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดเรื่อง ทุกคนล้วนมีโอกาสตายกันทั้งนั้น
“คราวนี้ ดูสิว่าเจ้าจะตายหรือไม่!”
สีหน้ากุยอีเย็นเยียบ จิตสังหารล้นฟ้า ยกมือเรียกกระบี่คมเล่มหนึ่งออกมา
นี่คือศาสตราประจำกาย สู้รบกับเขามาตลอดชีวิต
“ฆ่า!”
เขาตวัดกระบี่บุกออกไป ใช้พลังทั้งหมดโดยไม่กักเก็บ
พระเจ้าเทียนอู่ จ้าวเซียวเหยา ปีศาจสวรรค์อ้ายเหม่ยและวิญญาณหยินยอดฝีมืออื่น ๆ รวมแล้วห้าตนสำแดงวิชาอภินิหารทั้งหมดที่มีเมื่อครั้งยังมีชีวิต เปี่ยมไปด้วยความไร้เทียมทาน โจมตีใส่หลี่จิ่วเต้าจากทุกทิศทาง!
“ทุกอย่างถูกตัดสินไว้แล้ว ไม่มีทางพลิกผันอีก หลี่จิ่วเต้าจบสิ้นแล้ว!”
“ใช่แล้ว ต่อให้เขาแข็งแกร่งปานใดก็ยังมีขีดจำกัด กุยอีลงมือร่วมกับยอดฝีมืออีกห้าตน หลี่จิ่วเต้าไฉนเลยจะต้านไหว ต้องถูกสังหารแน่นอน”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากไม่น้อยเอ่ยขึ้น มองว่าจุดจบเป็นที่แน่นอนแล้ว หลี่จิ่วเต้ายากจะพลิกสถานการณ์อีก
“คุณชายจะเป็นอันใดหรือไม่ หากเกิดเรื่องจริง ๆ ข้ายังต้องเป็นไส้ศึกสองหน้าอีกหรือไม่”
แมงมุมปริภูมิเวลารู้สึกเช่นกันว่าหลี่จิ่วเต้าจะต้านไม่อยู่ จึงกระซิบถามจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงข้างกายเสียงเบา
“คิดอะไรอยู่! อย่าได้มีความคิดเช่นนี้อีก!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงว่าปราม “เจ้าเชื่อใจคุณชายได้เสมอ! อย่าว่าแต่แค่วิญญาณหยินเลย ต่อให้ในช่วงทรงพลังที่สุดของพวกเขาก็มิอาจแผ้วพานคุณชายได้อยู่ดี”
คุณชายไร้เทียมทาน ข้อนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในใจเขา!