แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 911 ชาวบ้านยินยอม

ตอนที่ 911 ชาวบ้านยินยอม

ตอนที่​ 911 ชาวบ้าน​ยินยอม​

หลิน​ม่าย​เดิน​เข้ามา​ใน​ครัว​ หลัง​ใช้เวลา​ออก​ไป​กว่า​ยี่สิบ​นาที​

เถาจืออวิ๋น​เสิร์ฟ​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ชามเล็ก​ให้​กับ​เธอ​ก่อน​จะถามว่า​ “ทำไม​วันนี้​จัด​กระเป๋า​เรียน​นาน​จังล่ะ​?”

ขณะ​หลิน​ม่าย​กำลังจะ​กล่าวตอบ​ เธอ​พลัน​เหลือบ​ไป​เห็น​หวัง​เห​วิน​ฟางที่​ลอบมอง​มาด้วย​แววตา​สำนึกผิด​

หลิน​ม่าย​จงใจกล่าว​เสียงดัง​ “ตอนที่​ฉัน​ขึ้นไป​จัด​กระเป๋า​ เหมือนว่า​ลิ้นชัก​ของ​ฉัน​จะถูก​รื้อ​ค้น​น่ะ​ค่ะ​ ฉัน​ก็​เลย​ต้อง​จัดการ​ให้​เรียบร้อย​ก่อนที่จะ​ลงมา​”

เถาจืออวิ๋นยก​ยิ้ม​เบา​ “ศาสตราจารย์​ก็​ดู​เป็น​คน​เรียบร้อย​อยู่​นะ​ ไม่คิด​เลย​ว่า​หลังจากที่​แต่งงาน​แล้ว​เขา​จะเก็บ​ข้าวของ​ไม่เป็นระเบียบ​อย่างนี้​”

หลิน​ม่าย​ตอบกลับ​ “ผู้ชาย​ก็​เหมือนกัน​หมด​นั่นแหละ​ค่ะ​ มอง​รูปลักษณ์ภายนอก​อย่าง​เดียว​ไม่ได้​”

ขณะนี้​เธอ​ก็​ลอบมอง​หวัง​เห​วิน​ฟางเล็กน้อย​

มีความ​ตื่นตระหนก​ฉาย​ชัด​อยู่​บน​ใบหน้า​ของ​หวัง​เห​วิน​ฟาง

หลิน​ม่าย​เริ่ม​ไตร่ตรอง​อย่าง​ลับ​ ๆ หวัง​เห​วิน​ฟางคิด​ค้นหา​อะไร​ใน​ห้อง​ของ​เธอ​?

ขณะ​หลิน​ม่าย​กำลังจะ​ชิมตุ๋น​ตะพาบ​ของ​เถาจืออวิ๋น​ โต้​ว​โต้​ว​กับ​ฉีฉีเดิน​เข้ามา​ ทั้งสอง​พา​เสี่ยว​มู่ตง​ที่​ยัง​เดิน​ไม่เก่ง​นัก​เข้ามา​ด้วย​

เสี่ยว​มู่ตง​ปล่อยมือ​จาก​ทั้งสอง​ก่อน​จะชี้นิ้ว​ไป​ที่​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ใน​มือ​ของ​หลิน​ม่าย​ ส่งเสียง​อ้อแอ้​พร้อมกับ​น้ำลายไหล​ย้อย​ออกมา​อย่าง​น่าเอ็นดู​

โต้​ว​โต้​ว​รีบ​บอกกล่าว​ “แม่คะ​ น้องชาย​อยาก​กิน​ซุป​ใน​มือ​แม่”

หลิน​ม่าย​ถามเถาจืออวิ๋น​ว่า​ “เด็กเล็ก​แบบนี้​กิน​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ได้​ไหม​?”

เถาจืออวิ๋น​ตกใจ​ทันที​ ก่อน​จะรีบ​ส่าย​หัว​ “ไม่รู้​เหมือนกัน​ ตอน​ฉีฉียัง​เด็ก​ พวกเรา​ไม่มีเงิน​เพียงพอ​จะทำ​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ให้​เขา​กิน​ด้วยซ้ำ​”

ตะพาบน้ำ​เป็น​สิ่งที่​คนชนบท​ห่างไกล​ไม่ค่อย​นิยม​กิน​

มัน​มีราคาแพง​มาก​ และ​จะมีขาย​ใน​เมือง​เจียง​เฉิงซึ่งเป็น​เมืองหลวง​เท่านั้น​ แม้ว่า​ท้ายที่สุด​แล้ว​มัน​ไม่ได้​แพง​มาก​นัก​ แต่​เป็น​เพราะ​เถาจืออวิ๋น​ต้อง​เลี้ยง​ครอบครัว​ถึงสามคน​ จึงไม่มีเงิน​เพียงพอ​สำหรับ​ความฟุ่มเฟือย​นี้​

หลิน​ม่าย​ลังเล​ ขณะ​ไม่แน่ใจ​ว่า​ป้อน​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ให้​เด็กน้อย​ได้​หรือไม่​ เวลานี้​เอง​เสียง​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ดัง​ขึ้น​ “เสี่ยว​มู่ตง​ของ​เรา​แข็งแรง​มาก​ เขา​กิน​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ได้​นะ​”

หลิน​ม่าย​ได้ยิน​อย่างนั้น​แล้วก็​คุกเข่า​ลง​ ก่อน​จะลอง​ป้อน​ซุป​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ให้​เสี่ยว​มู่ตง​

เสี่ยว​ตง​ตง​มีความอยาก​อาหาร​ล้นเหลือ​ เขา​กิน​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​หลาย​คำ​พร้อมกับ​ใช้มือ​คว้า​ชามเล็ก​ ๆ ตรงหน้า​อย่าง​มั่นหมาย​ หลังจาก​พึงพอใจ​แล้ว​เขา​ปล่อยมือ​จาก​ชามก่อน​จะชวน​โต้​ว​โต้​ว​และ​ฉีฉีออก​ไป​เล่น​ด้านนอก​

หลิน​ม่าย​ดื่ม​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ที่​เหลือ​ เธอ​ละเลียด​ชิมมัน​ก่อน​จะพยักหน้า​ให้​กับ​เถาจืออวิ๋น​ “ฝีมือ​การ​ตุ๋น​ของ​พี่​ดีขึ้น​มาก​เลย​ถ้าเทียบ​กับ​คราว​ที่แล้ว​ ลอง​เอา​ไป​ให้​จั๋วเยวี่ย​ชิมดู​สิ เขา​น่าจะ​หาย​เร็ว​เลย​ล่ะ​”

เถาจืออวิ๋น​พยักหน้า​ “หวัง​ว่า​จะเป็น​อย่างนั้น​นะ​”

หลังจาก​กินข้าว​อย่าง​เร่งรีบ​แล้ว​ เถาจืออวิ๋น​ก็​กำลังจะ​เอา​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​ไป​ส่งให้​กับ​ฟางจั๋วเยวี่ย​

หลิน​ม่าย​พูด​ขึ้น​ว่า​ “หลัง​ไป​ส่งตุ๋น​ตะพาบน้ำ​แล้วก็​กลับมา​ด้วย​นะคะ​ เขา​มีพยาบาล​คอย​ดูแล​อยู่​ใน​แผนกผู้ป่วยหนัก​เยอะ​แล้ว​ พี่​ไม่ต้อง​นอน​ที่​โรงพยาบาล​หรอก​ เดี๋ยว​หลังจาก​เขา​ย้าย​ไป​ห้อง​ทั่วไป​ค่อย​ไป​ดูแล​เขา​ก็ได้​”

เถาจืออวิ๋น​ตอบ​ว่า​ “จั๋วเยวี่ย​ย้าย​ไป​ห้อง​ทั่วไป​แล้ว​ล่ะ​”

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​ ก่อน​จะอุทาน​ออกมา​ว่า​ “ฉัน​ไม่เห็น​รู้เรื่อง​นี้​เลย​ เขา​ย้าย​ไป​ที่​ห้อง​ทั่วไป​หลังจาก​ผ่าน​หนึ่ง​สัปดาห์​ไม่ใช่เหรอ​? นี่​ยัง​ไม่ถึงเวลา​เลย​นี่​”

“เขา​ถูก​ย้าย​เมื่อเช้านี้​เอง​ เพราะ​เธอ​ยุ่ง​มาก​ใน​ทุกวัน​เลย​ไม่รู้​ ไม่แปลก​หรอก​”

เถาจืออวิ๋น​กล่าว​ด้วย​ความภูมิใจ​เล็กน้อย​ “จั๋วเยวี่ย​แข็งแรง​และ​ฟื้นตัว​ได้ดี​ หมอ​เลย​ให้​เขา​ย้าย​ไป​ที่​ห้อง​ทั่วไป​เร็ว​ขึ้น​น่ะ​” พูด​จบ​หล่อน​ออก​ไป​พร้อมกับ​อาหาร​ใน​มือ​

หลิน​ม่าย​ลอบมอง​ร่าง​ผอมบาง​ที่​เดิน​ออก​ไป​ พร้อม​นึก​คิดในใจ​ว่า​… การ​ย้าย​ฟางจั๋วเยวี่ย​ไป​ที่​ห้อง​ผู้ป่วย​ทั่วไป​คงจะ​เป็นเรื่อง​ดี​กับ​เถาจืออวิ๋น​

อย่าง​น้อย​หล่อน​ก็​จะได้​นอน​บน​โซฟาที่​ดี​ และ​ไม่รู้สึก​เหน็บ​หนาว​เช่น​เดิม​

เพราะ​การ​ที่​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ห้อง​ผู้​ป่วยหนัก​ เถาจืออวิ๋น​ทำได้​เพียง​มองดู​เขา​จาก​ด้านนอก​เท่านั้น​

นี่​ก็​เดือน​พฤศจิกายน​แล้ว​ ใน​เมืองหลวง​ถือว่า​เข้าสู่​ฤดูหนาว​

แม้ตอนกลางวัน​จะไม่หนาว​มาก​ แต่​ตอนกลางคืน​ก็​มีอุณหภูมิ​ที่​ค่อนข้าง​ต่ำ​ เถาจืออวิ๋น​ต้อง​หนาว​มาก​เมื่อ​อยู่​ด้านนอก​ของ​ห้อง​ผู่​ป่วยหนัก​ที่​ไม่มีเครื่องทำความร้อน​ช่วยเหลือ​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​ความรัก​ ผู้หญิง​ร่าง​บอบบาง​จะอดทน​ต่อ​ความยากลำบาก​พวก​นี้​ทำไม​?

หลังจาก​เสร็จสิ้น​ทุกอย่าง​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ลอบ​กระซิบ​กับ​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางเรื่อง​ลิ้นชัก​ที่​โดน​รื้อ​ค้น​ และ​บอกกล่าว​ให้​พวกเขา​เก็บ​ของ​สำคัญ​ไว้​ให้​ดี​

คุณย่า​ฟางเผย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ “เธอ​สงสัย​แม่ของ​จั๋วเยวี่ย​เป็น​ขโมย​เหรอ​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​รับ​ “แต่​ยัง​ไม่มีหลักฐาน​ค่ะ​ เลย​ยัง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ แน่นอน​ว่า​เมื่อ​จั๋วเยวี่ย​หายป่วย​ ป้า​หวัง​จะต้อง​กลับ​เมือง​เจียง​เฉิงไป​กับ​จั๋วเยวี่ย​ และ​หล่อน​จะไม่มีโอกาส​มาที่นี่​อีก​ในอนาคต​ ไม่ว่า​หล่อน​ต้องการ​จะค้นหา​อะไร​ใน​บ้าน​ หล่อน​ก็​คงจะ​ค้น​ไม่เจอ​หรอก​ ปล่อย​ให้​ทำ​ไป​แล้วกัน​ค่ะ​”

ใบหน้า​ของ​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางกลายเป็น​น่าเกลียด​ ทว่า​ทำได้​เพียง​พยักหน้า​รับ​เท่านั้น​

มีสมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​เถาจืออวิ๋น​สามคน​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ด้วย​ และ​การ​ทำให้​เรื่องราว​อื้อฉาว​นี้​ใหญ่โต​รังแต่​จะสร้าง​ความ​อับอาย​สู่สาธารณะ​

นอกจากนี้​หวัง​เห​วิน​ฟางยัง​เป็น​แม่ผู้ให้กำเนิด​ฟางจั๋วเยวี่ย​ด้วย​ หาก​จะไล่​หล่อน​ออก​ไป​ราวกับ​ไล่​หนู​ มัน​ก็​คง​สร้าง​ความ​อึดอัด​ให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​ไม่น้อย​

หลัง​กลับมา​ที่​ห้อง​ หลิน​ม่าย​พูด​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ โดย​บอก​ให้​เขา​ระมัดระวัง​หวัง​เห​วิน​ฟางเอาไว้​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ถึงกับ​สับสน​ กลายเป็น​ว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางต้องการ​บางอย่าง​ใน​บ้าน​ของ​เขา​งั้น​เหรอ​?

เมื่อ​นึกถึง​กล่อง​เครื่องประดับ​ที่​เธอ​มี ทั้ง​สร้อยคอ​ ทองคำ​ต่าง ๆ​ หลิน​ม่าย​ก็​ลอบ​คาดเดา​ “หล่อน​คิด​จะขโมย​เงิน​เหรอ​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​หัน​มองหน้า​ของ​เธอ​สักครู่​ก่อน​จะส่าย​หัว​ “ไม่น่าจะ​เป็นไปได้​ ถึงตอนนี้​หล่อน​จะยากจน​แต่​จะไม่ทำตัว​เป็น​ขโมย​แน่นอน​ หล่อน​ไม่ได้​ขาดแคลน​อาหาร​และ​เสื้อผ้า​เลย​”

ทั้งคู่​ไม่เข้าใจ​ว่า​หวัง​เห​วิน​ฟางอยากได้​อะไร​ เวลานี้​ทั้งหมด​จึงเลิก​คาดเดา​ก่อน​จะเก็บ​ของ​สำคัญ​ให้​มิดชิด​

วันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​พยายาม​ตื่น​ใน​ตอนเช้า​

ทันทีที่​เธอ​ขยับตัว​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​รู้สึกตัว​ทันที​

เขา​กระชับ​ร่าง​ของ​เธอ​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ “อากาศ​เริ่ม​เย็น​แล้ว​ อย่า​เพิ่ง​ตื่น​เลย​นะ​ นอน​ต่อ​อีกหน่อย​ดีกว่า​” เวลานี้​เขา​ก็​จูบ​หน้าผาก​ของ​เธอ​แผ่วเบา​

หลิน​ม่าย​ดิ้นรน​เล็กน้อย​ “ไม่ได้​ค่ะ​ ฉัน​จะลุก​ไป​ทำ​ซุป​ให้​จั๋วเยวี่ย​ ตอนนี้​จั๋วเยวี่ย​ย้าย​มาอยู่​ห้อง​ผู้ป่วย​ทั่วไป​แล้ว​ ฉัน​ต้อง​ไป​เยี่ยม​เขา​บ้าง​ หลังเขา​ออกจาก​ห้อง​ผ่าตัด​มา ฉัน​ยัง​ไม่ได้​ไป​โรงพยาบาล​เลย​นะคะ​”

“ถ้าอย่างนั้น​คุณ​ก็​ไม่เห็น​ต้อง​ทำ​ซุป​ให้​เขา​ด้วยตัวเอง​เลย​นี่​ เรา​ก็​แค่​ซื้อ​ตุ๋น​ตะพาบน้ำ​หรือ​ซุป​ไก่​จาก​โรงแรม​ก็​พอ​”

แน่นอน​ว่า​นี่​คือ​สิ่งที่​ผู้ชาย​ทั่วไป​คิดได้​

หลิน​ม่าย​คิด​สักครู่​ก่อน​จะพยักหน้า​อย่าง​เห็นด้วย​

เธอ​ซุก​ตัว​ลง​ใน​อ้อมแขน​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ ก่อน​จะยก​ขา​ก่าย​เขา​แล้ว​ผล็อย​หลับ​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

ยิ่ง​อากาศ​หนาว​ หลิน​ม่าย​ยิ่ง​ชื่นชอบ​ที่จะ​นอน​กอด​ฟางจั๋ว​หรา​นรา​ว​กับ​หมี​น้อย​โคอาล่า​

ร่างกาย​ของ​ผู้ชาย​จะอุ่น​มาก​ใน​ฤดูหนาว​ มัน​เปรียบเสมือน​ถุงน้ำร้อน​ใต้​ผ้าห่ม​นวม​

ทั้งคู่​หลับสนิท​จนถึง​เจ็ด​โมงเช้า ก่อน​จะลุกขึ้น​อย่าง​สดชื่น​

หลัง​รับประทาน​มื้อ​เช้าแล้ว​ ทั้งคู่​ไป​เยี่ยม​ฟางจั๋วเยวี่ย​ที่​โรงพยาบาล​

โต้​ว​โต้​ว​เอง​ก็​อยาก​ไป​ที่นั่น​ด้วย​

เสี่ยว​มู่ตง​เห็น​ว่า​พี่สาว​ของ​ตัวเอง​กำลังจะ​ไป​ข้างนอก​ เขา​ก็​ส่งเสียง​อย่าง​ต้องการ​จะไป​ด้วย​

แม้โรงพยาบาล​จะดู​สะอาด​ เป็นระเบียบเรียบร้อย​ มีการ​ฆ่าเชื้อ​ แต่​ความจริง​แล้ว​สถานที่​แห่ง​นี้​เต็มไปด้วย​เชื้อโรค​

ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​เสียง​เข้ม​ “เด็ก​ไม่ควร​ไป​โรงพยาบาล​”

โต้​ว​โต้​ว​เถียง​ทันที​ “แล้ว​ทำไม​ฉีฉีถึงได้​ไป​บ่อย​ล่ะ​คะ​?”

สุดท้าย​แล้ว​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงทำได้​เพียง​สวมหน้ากาก​อนามัย​ให้​กับ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ เวลานี้​ทั้ง​สี่คนใน​ครอบครัว​มุ่งหน้า​ไป​เยี่ยม​ฟางจั๋วเยวี่ย​ด้วยกัน​

แรกเริ่ม​พวกเขา​ต้อง​ไป​ที่​โรงแรม​ชื่อดัง​เพื่อ​ซื้อ​ซุป​เป๋าฮื้อ​

จากนั้น​ก็​ไป​ที่​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​เสี่ยว​ชือ​เตี้ย​นของ​หลิน​ม่าย​เพื่อ​ซื้อ​ของ​อื่น​ ๆ เพิ่มเติม​ ของว่าง​มากมาย​ที่​พวกเขา​หยิบยก​ให้​กับ​ฟางจั๋วเยวี่ย​

อีก​ทั้ง​ยัง​ซื้อ​ซุป​งาดำ​สำหรับ​เจ้าเด็กน้อย​ทั้งสอง​คน​อีกด้วย​

มีขนม​มากมาย​ใน​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​เสี่ยว​ชือ​เตี้ย​นข​อง​หลิน​ม่าย​ ทั้งหมด​ล้วนแต่​เป็นที่นิยม​และ​มีรสชาติ​อร่อย​ ใน​ทุก​ชั้น​จะต้อง​มีซุป​งาดำ​วาง​เอาไว้​อย่าง​หยิบ​สอย​ได้​ง่าย​

โต้​ว​โต้​ว​ดื่ม​ซุป​งาดำ​ด้วย​ตนเอง​ได้​ ส่วน​หลิน​ม่าย​อุ้ม​เสี่ยว​มู่ตง​เพื่อ​ป้อน​เขา​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ขับรถ​ช้าลง​เล็กน้อย​เพื่อให้​เด็ก​ทั้งสอง​คน​กิน​อาหาร​ได้​ง่าย​ขึ้น​

เขา​เหลือบมอง​ภรรยา​และ​ลูก​ที่นั่ง​อยู่​เบาะหลัง​ผ่าน​กระจก​มอง​หลัง​ และ​ยก​ยิ้ม​ใน​ใจว่า​ตน​คือ​ผู้ชาย​ที่​มีความสุข​ที่สุด​ใน​โลก​

เมื่อ​ครอบครัว​มาถึงโรงพยาบาล​แล้ว​ เถาจืออวิ๋น​ก็​กำลังจะ​ออก​ไป​ซื้อ​อาหารเช้า​ให้​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ ทันทีที่​เห็น​หลิน​ม่าย​เข้ามา​พร้อมกับ​อาหารเช้า​และ​ซุป​ หล่อน​จึงไม่ได้​ออก​ไป​ไหน​

หลิน​ม่าย​บอกกล่าว​ให้​หล่อน​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​บ้าน​ การ​นอน​บน​โซฟาทั้งคืน​คงจะ​ปวดหลัง​ไม่น้อย​แล้ว​

แต่​เถาจืออวิ๋น​ยืนยัน​ว่า​จะให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​กิน​มื้อ​เช้าก่อน​ แล้ว​หล่อน​จึงค่อย​กลับ​ภายหลัง​

ฟางจั๋วเยวี่ย​กิน​เกี๊ยว​น้ำ​ไป​สอง​คำ​ ก่อน​จะดื่ม​ซุป​ไก่​อีก​เล็กน้อย​ เวลานี้​เขา​หัน​มอง​ด้วย​แววตา​สิ้นหวัง​ก่อน​จะถาม “พี่สะใภ้​ คุณ​ไม่ได้​ทำ​เอง​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​ละอายใจ​เล็กน้อย​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เผย​สีหน้าบูดบึ้ง​ “พี่สะใภ้​แก​ยุ่ง​ขนาด​นี้​จะมีเวลา​มานั่ง​ทำอาหาร​ให้​แก​ได้​ยังไง​? ขนาด​ฉัน​ยัง​ไม่ได้​กิน​อาหาร​ฝีมือ​หล่อน​มาตั้ง​นาน​แล้ว​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ไม่กล้า​โต้แย้ง​โดยตรง​ เขา​เพียง​สบถ​อยู่​ใน​ใจ ก็​ผม​เป็น​คนไข้​ แต่​พี่​ไม่ใช่นี่​

หนึ่ง​สัปดาห์​ต่อมา​ อากาศ​ยิ่ง​เริ่ม​เย็น​ลง​ทุกที​

ในที่สุด​เจียว​อิง​จวิ้น​ก็​ยก​สายโทรศัพท์​ถึงหลิน​ม่าย​

เขา​กล่าว​ผ่าน​โทรศัพท์​ด้วย​น้ำเสียง​ตื่นเต้น​ “หัวหน้า​หลิน​ครับ​ ผม​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ทำไม​คุณ​ถึงมั่นใจ​ว่า​ชาวบ้าน​พวก​นั้น​จะยอม​เซ็นสัญญา​รื้อถอน​กับ​เรา​”

หลิน​ม่าย​รับโทรศัพท์​พร้อมกับ​ป้อน​อาหาร​ให้​เสี่ยว​มู่ตง​ไป​ด้วย​

สิ่งนี้​ทาง​ตอนเหนือ​จะเรียก​มัน​ว่า​ข้าวโพด​แท่ง​

ทันทีที่​ขนม​ถูก​ป้อน​เข้า​ปาก​ มัน​หายวับ​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ ใบหน้า​เด็กชาย​ยิ่ง​สดใส​

แน่นอน​ว่า​เด็ก​อายุ​ต่ำกว่า​หนึ่ง​ขวบ​สามารถ​รับประทาน​ได้​

หลิน​ม่าย​กล่าว​เสียง​ค่อย​ “เข้าใจ​อะไร​เหรอ​คะ​? ค่อยพูดค่อยจา​ก็ได้​ค่ะ​”

“การ​ออกแบบ​ปัจจุบัน​ของ​เรา​เป็น​เมือง​ล้อม​หมู่บ้าน​ ถ้ามีการ​สร้าง​อาคาร​ใหม่​ หมู่บ้าน​จะถูก​ล้อมรอบ​เอาไว้​ แล้ว​จะไม่มีใคร​เวนคืน​ที่ดิน​ของ​ชาวบ้าน​พวก​นั้น​ ผู้พัฒนา​คน​ไหนล่ะ​ครับ​อยาก​จะได้​พื้นที่​เล็ก​ ๆ แบบนี้​? ชาวบ้าน​พวก​นั้น​ต้อง​ใช้เงิน​ตัวเอง​เพื่อ​ซ่อมแซม​บ้าน​ของ​ตัวเอง​ สุดท้าย​แล้ว​ที่ดิน​มัน​ก็​เป็น​ของ​เรา​ ถ้าพวกเขา​จะปรับปรุง​บ้าน​ ก็​ยัง​ต้อง​ได้รับ​ความยินยอม​จาก​เรา​ก่อน​ แต่​สุดท้าย​เมื่อ​มัน​ถึงเวลา​ การบอกกล่าว​ให้​เรา​รื้อถอน​บ้าน​ของ​พวกเขา​แล้ว​ไปหา​ซื้อ​บ้าน​ใหม่​มัน​คุ้มค่า​ยิ่งกว่า​”

เจียว​อิง​จวิ้น​กล่าว​ด้วยความยินดี​ “เสียดาย​ที่​คุณ​ไม่ได้​อยู่​ที่​ไซต์​ก่อสร้าง​ด้วย​ คุณ​ไม่เห็น​ว่า​ชาวบ้าน​มาดู​พวกเรา​เจาะฐาน​ทุกวัน​ด้วย​ใบหน้า​สิ้นหวัง​และ​หดหู่​ ใน​สายตา​มีแต่​ความ​เศร้าหมอง​ แต่​เมื่อวาน​มีชาวบ้าน​หลาย​คน​มาหา​ผม​อย่าง​ลับ​ ๆ พวกเขา​บอ​กว่า​ยินดี​จะเซ็นสัญญา​ตามเงื่อนไข​ก่อนหน้านี้​ แต่​ผม​ยัง​ไม่ได้​ตอบรับ​พวกเขา​ทันที​หรอก​นะ​ครับ​ แค่​บอ​กว่า​จะรายงาน​เรื่อง​นี้​ให้​คุณ​ฟังก่อน​ คุณ​หลิน​ครับ​ เรา​จะยก​แห​กัน​หรือยัง​?”

“ยังก่อน​” หลิน​ม่าย​กล่าว​ “ใน​โลก​นี้​ไม่มีอะไร​ได้มา​ง่าย ๆ​ ชาวบ้าน​พวก​นั้น​ต้องการ​เรียกร้อง​ พวกเขา​ก็​เพียง​ตะโกน​เสียงดัง​ เมื่อ​ต้อง​การเซ็นสัญญา​ ก็​คิด​เซ็น​โดยง่าย​ ง่าย​เกินไป​! ปล่อย​ให้​พวกเขา​จมอยู่กับ​ความคิด​ตัวเอง​ไป​ก่อน​”

เจียง​อิง​จวิ้น​ตอบ​ “ครับ​”

หลิน​ม่าย​กล่าวย้ำ​ “ฉัน​ยินดี​เดิมพัน​และ​พร้อม​รับ​ความพ่ายแพ้​ อย่า​ลืม​หา​เวลา​ส่งเงิน​หนึ่ง​พัน​หยวน​ที่​ฉัน​เสีย​ไป​คืน​มาด้วย​ล่ะ​”

ตอนนี้​เจียง​อิง​จวิ้น​ยิ่ง​รู้สึก​ชื่นชม​หลิน​ม่าย​

นี่​คือ​วิธีการ​ที่​นุ่มนวล​ทว่า​เหี้ยมโหด​ที่สุด​ ไม่มีการ​เสียเลือดเสียเนื้อ​เพื่อ​ยอมให้​ชาวบ้าน​รื้อถอน​

และ​หนึ่ง​พัน​หยวน​เป็น​จำนวน​เงิน​ที่​เขา​ต้อง​สูญเสีย​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

ม่าย​จื่อ​คิด​ไว้​หมด​แล้ว​ ยังไง​อยู่​ต่อไป​ก็​ไม่คุ้ม​ รื้อ​บ้านเก่า​สร้างบ้าน​ใหม่​คุ้ม​กว่า​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท