องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 932 ก้าวแรกสู่ความอับอาย ลงมือ!

บทที่ 932 ก้าวแรกสู่ความอับอาย ลงมือ!

เวลา​หก​นาฬิกา​ ​ดวงอาทิตย์​ขึ้น​เป็น​สัญญาณ​แห่ง​เช้า​วัน​ใหม่

รถยนต์​สอง​สาม​คันเร่ง​ความเร็ว​ขึ้น​เมื่อ​อยู่​บน​ทางด่วน​จาก​ตอนเหนือ​ของ​ทิเบต​ ​มุ่ง​สู่​ด่าน​เก็บ​ค่า​ผ่าน​ทาง​ของ​เขต​อวิ​๋​นกุย

“​ลูกพี่​ ​สถานการณ์​ทาง​นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​ครับ​”

เสียง​ของ​วานร​ดัง​ขึ้น​จาก​หูฟัง​ ​แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยัง​นั่ง​อยู่​บน​รถ​ที่​กำลัง​พา​พวก​เธอ​ไป​สอบปากคำ​ ​เนื่องจาก​ไม่​สามารถ​ตอบ​ได้​ ​เธอ​จึง​เคาะ​หูฟัง​สองครั​้ง​พลาง​พยายาม​หลบเลี่ยง​สายตา​ของ​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​ไป​ด้วย

แต่​กล้อง​ตัว​จิ๋ว​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​ผม​ของ​เธอ​ยังอยู่​ที่​เดิม

การ​เปิด​ใช้งาน​กล้อง​ตัว​นี้​ตอน​ปฏิบัติภารกิจ​บน​รถไฟ​ย่อม​ไม่​สะดวก​นัก

แตกต่าง​จาก​สถานการณ์​ในเวลานี้​ ​เธอ​ส่งสัญญาณ​นี้​ให้​กับ​วานร​เพื่อ​ที่​เขา​จะ​ได้​เปิด​ใช้งาน​กล้อง​และ​บันทึกภาพ​เอาไว้

เมื่อวานร​ได้ยิน​สัญญาณ​นั้น​ ​เขา​ก็​รีบ​หยิบ​คอมพิวเตอร์​พกพา​ออกมา​แล้ว​ป้อน​รหัส​สอง​ตัว​ลง​ไป​ ​ทันใดนั้น​ภาพ​ภาพ​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​หน้าจอ

เขา​คุ้นเคย​กับ​ภาพ​ที่​แสดง​อยู่​บน​นั้น​อย่างมาก​ ​และ​ด้วยเหตุนี้​นี่เอง​ ​รอยยิ้ม​ที่อยู่​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​จึง​เปลี่ยนเป็น​เย็นชา​ไป​ในทันที​ ​“​เอ​ ​จิน​ ​พวก​ลูกพี่​ถูก​ควบคุมตัว​อยู่​ ​เรา​ต้อง​กำจัด​ร่องรอย​ทุกอย่าง​บน​รถไฟ​ขบวน​นั้น​ให้​หมด​“

“​ประเด็นสำคัญ​มัน​อยู่​ตรงนั้น​เสียที​่​ไหน​ ​เรื่อง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​เครื่องประดับ​ของ​ ​แอล​ ​ต่างหาก​ ​ถ้า​ที่นั่น​มี​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​นี้​อยู่​ละ​ก็​ ​พวกเขา​ต้อง​สังเกตเห็น​แน่ว​่า​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​”​ ​จิน​พูด​พร้อมกับ​กระดก​เหล้า​ดื่ม​ ​แล้ว​หันกลับ​ไป​มอง​เหล่า​เอที​่​เล่น​กับ​เด็ก​ๆ​ ​อยู่​ ​จากนั้น​รอยยิ้ม​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ ​“​แต่​จะ​สังเกตเห็น​ได้​ก็ต่อเมื่อ​เจ้า​เครื่องประดับ​ที่ว่า​นี่​ขึ้นไป​ถึง​เจ้าหน้าที่​ระดับสูง​เท่านั้น​ ​เจ้าหน้าที่​ธรรมดา​ไม่มีทาง​สังเกตเห็น​แน่ว​่า​เครื่องประดับ​พวก​นั้น​มี​การใช้งาน​อย่างไร​ ​ทุกอย่าง​ย่อม​เป็นไปได้​ด้วยดี​ตราบใดที่​ลูกพี่​และ​คนอื่นๆ​ ​สามารถ​หนี​ออกมา​ได้​ก่อนหน้า​นั้น​ ​เหล่า​เอ​เลิก​เอา​ความยิ่งใหญ่​ของ​นาย​น้อย​ไป​เล่า​ให้​เด็ก​พวก​นั้น​ฟัง​สักที​ ​พวกเรา​ควร​เริ่ม​ลงมือ​กันได​้​แล้ว​ ​ก่อน​จะ​เอา​ของขวัญ​ไป​ส่ง​ให้​ครอบครัว​ของ​คน​พวก​นั้น​ ​คุณ​ไป​ปลอมตัว​สักหน่อย​ดี​หรือเปล่า​ ​ไม่ต้อง​ทำ​อะไร​หรูหรา​นัก​หรอก​ ​แค่​รูปถ่าย​ใบ​เดียว​ก็​พอ​ ​ตอนนี้​เป็นเวลา​หก​โมง​เช้า​ ​และ​พวกเขา​น่าจะ​เริ่ม​กิน​อาหารเช้า​ใน​อีก​สามสิบ​นาที​หลังจากนี้​พอดี​ ​เวลา​นั้น​เป็นเวลา​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​ใน​การ​ดูรูป​พวก​นี้​“

เหล่า​เอวาง​ตุ๊กตา​ยัด​นุ่น​ที่อยู่​บน​ศีรษะ​ลง​ ​จากนั้น​จึง​ปลอบ​เด็ก​ๆ​ ​ทั้ง​สาม​คน​ ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​ปลอม​เป็น​บุรุษไปรษณีย์​ก็​น่าจะ​ได้​ ​นาย​ไป​ซื้อ​รถจักรยานยนต์​มือสอง​มาสั​กคั​นก​็​แล้วกัน​ ​หลังจาก​เสร็จ​งาน​แล้ว​ฉัน​จะ​ได้​โยน​มัน​ทิ้ง​ได้​ก่อน​ไป​พบ​กับ​พวก​นาย​”

“​อ๊ะ​ ​จริง​ด้วย​!​”​ ​จิน​ลุกขึ้น​แล้ว​ยิ้ม​ทะเล้น​ ​“​ก่อนหน้านี้​ลูกพี่​เคย​สั่ง​ไว้​ว่า​ถ้า​ถึง​เวลา​เหมาะ​ๆ​ ​เมื่อไหร่​ ​ให้​วานร​เอา​ภาพ​จาก​กล้อง​ของ​ลูกพี่​มาถ​่าย​ทอด​สด​ลง​บน​อินเตอร์เน็ต​โดย​ใช้​ที่อยู่​ไอ​พี​ปลอม​ ​แล้วก็​ระวัง​อย่า​ให้​ถูกจับ​ได้​ด้วย​ล่ะ​”

“​ไม่มีปัญหา​!​”​ ​วานร​ใช้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​พิมพ์​ต่อ​ ​พร้อมกับ​ยกมือ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ทำท่า​ ​’​โอเค​’

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ส่ง​คำพูด​สอง​คำ​นั้น​เป็น​สัญญาณ​ผ่าน​ไป​ทาง​หูฟัง​ ​แม้ว่า​เธอ​จะ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ล้วนแต่​เข้าใจ​ข้อความ​นั้นและ​ทำตาม​คำสั่ง​ได้​เป็น​อย่างดี

นี่​ยัง​รวมถึง​ชาย​สวม​ชุด​สูท​ที่​ชื่อ​ ​เอส​และ​เด็กหนุ่ม​ชื่อ​ ​แอล​ ​อีกด้วย​ ​แอล​ ​เป็น​คนที​่​สวม​เครื่องประดับ​เยอะ​ที่สุด​ ​แต่​พวก​มัน​ก็​ถูก​ซ่อน​เอาไว้​อย่างดี​ ​คนที​่​ไม่ใช่​ผู้เชี่ยวชาญ​ย่อม​มอง​ไม่​ออก​ว่า​เครื่องประดับ​ชิ้น​เล็ก​ๆ​ ​พวก​นี้​จะ​สามารถ​ประกอบ​เป็น​ปืนพก​ได้

มี​แต่​เด็ก​อัจฉริยะ​ด้าน​อาวุธ​อย่าง​ ​แอล​ ​เท่านั้น​ที่สามา​รถ​ทำได้​ ​และ​คน​ของ​หน่วย​พิเศษ​หน่วย​นี้​ก็​ยัง​มุ่ง​ความสนใจ​ของ​ตัวเอง​ไป​แค่​ที่​เด็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​ถึง​พวกเขา​จะ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ ​แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​กำลัง​รอฟั​งคำ​อธิบาย​ที่​สมเหตุสมผล​กับ​เรื่อง​นี้​อยู่

เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ไม่​ให้​เกิด​ความ​ตื่นตระหนก​ ​พวกเขา​จึง​รู้ดี​ว่า​จะ​ให้​ทุกคน​รู้เรื่อง​นี้​ไม่ได้

แต่​ตอนนี้​มันต​่า​งกัน

พวกเขา​เคย​ผ่าน​เหตุการณ์​ดิน​ถล่ม​ ​เคย​ช่วยชีวิต​คน​จาก​เหตุ​ไฟไหม้​ ​และ​ยัง​พร้อม​ที่จะ​สละ​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​เพื่อ​ต่อสู้​กับ​ผู้รุกราน​จาก​ต่างแดน

ทั้งหมด​ที่​พวกเขา​ทำ​ก็​เพื่อ​รับประกัน​ว่า​ประเทศ​ของ​พวกเขา​จะ​ดีขึ้น​ ​และ​สงบสุข​ขึ้น

แต่​ภารกิจ​ใน​ครั้งนี้​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​อย่างเห็นได้ชัด​ ​เพราะ​เด็ก​พวก​นี้​ไม่ได้​อยู่​ใน​ภารกิจ​ของ​พวกเขา

ที่นี่​มี​เด็ก​เยอะ​เกินไป​ ​พวกเขา​ขึ้นรถ​ไฟ​ไป​ได้​อย่างไร

ถ้า​ไม่มี​ผู้มีอำนาจ​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​ ​ต่อให้​คนที​่​ทำ​เรื่อง​นี้​จะ​มีฝีมือ​ขนาด​ไหน​ ​ก็​ไม่มีทาง​ที่​เขา​จะ​สามารถ​พา​เด็ก​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​ขึ้นรถ​ไฟ​พร้อมกัน​ได้

คน​ควบคุม​รถไฟ​อยู่​ที่ไหน​ ​แล้ว​ตำรวจ​รถไฟ​ล่ะ

พวกเขา​ไม่​สังเกตเห็น​เรื่อง​พวก​นี้​เลย​เหรอ

คน​ของ​หน่วย​พิเศษ​จม​อยู่​ใน​ภวังค์​ ​ไม่มีใคร​พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว

แต่​จู่ๆ​ ​รถ​ก็​หยุด​วิ่ง​ ​เมื่อ​ประตู​รถ​เปิด​ออก​ก็​เห็น​หลิว​หง​เจียง​รอต​้อ​นรับ​พวกเขา​อยู่

เขา​มาร​ออยู​่​ที่​หน้า​ประตู​นาน​มาก​แล้ว​ ​เพราะ​เครื่องบิน​ส่วนตัว​ลำ​นั้น​จึง​ทำให้​มี​ผู้คน​มากมาย​ติดตาม​เรื่อง​นี้​อยู่​ใน​โลก​ออนไลน์

เขา​จะ​ต้อง​ทิ้ง​ความประทับใจ​อัน​ดีไว​้​ใน​ใจ​ของ​เพื่อนร่วมงาน​และ​สื่อ​ให้​ได้

เขา​จงใจ​ไม่​อาบน้ำ​ ​เพื่อให้​ตัวเอง​ดู​สกปรก​มอมแมม​เล็กน้อย

เขา​ยื่นมือ​ออก​ไป​จับมือ​กับ​หัวหน้า​หน่วย​ ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​”​ขอบคุณ​มาก​ครับ​ ​ทุกคน​คง​เหนื่อย​เลย​นะ​ครับ​ ​เอาล่ะ​ ​ในเมื่อ​คุณ​มาถึง​เขต​อวิ​๋​นกุย​แล้ว​ ​ไป​พักผ่อน​กัน​ก่อน​แล้ว​ยก​งาน​ที่​เหลือ​ให้​เจ้าหน้าที่​ท้องถิ่น​อย่าง​พวกเรา​รับช่วง​ต่อ​แทน​ดีกว่า​ครับ​“

”​ที่​ตู้​โดยสาร​ตู้​นั้น​ยัง​มี​เด็ก​เหลืออยู่​อีก​กลุ่ม​”​ ​ทันทีที่​หัวหน้า​หน่วย​เริ่ม​พูด​ ​หลิว​หง​เจียง​ก็​ตัดบท​เขา​ทันที​ด้วย​การ​บอกว่า​ ​“​แถว​นี้​คน​เยอะ​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​เรา​ก็​ควร​คุย​กัน​หลังจาก​การ​สอบสวน​และ​รวบรวม​ข้อมูล​เสร็จสิ้น​แล้ว​จะ​ดีกว่า​ครับ​”

พวกเขา​จำเป็นต้อง​รักษา​ภารกิจ​ให้​เป็นความลับ​ ​ยิ่งกว่านั้น​มัน​ก็​ยัง​มีคำ​ถาม​ที่​ไม่ได้​รับคำ​ตอบ​อยู่​อีก​เป็น​จำนวนมาก​ ​และ​คำถาม​ทั้งหมด​ก็​ล้วนแต่​อยู่​นอกเหนือ​ความรับผิดชอบ​ของ​พวกเขา​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​ไม่ได้​อยู่​ใน​สถานะ​ที่จะ​พูด​อะไร​ได้มาก​ไป​กว่านั​้น​ ​เพราะ​พวกเขา​เกรง​ว่า​ชื่อเสียง​ของ​พวกเขา​จะ​เสียหาย​ได้​หาก​พูด​ผิด​แม้​เพียง​คำ​เดียว

หลิว​หง​เจียง​ตระหนักถึง​ความจริง​ข้อนี​้​ดี​ ​เขา​ต้อง​ทำให้​มั่นใจ​ว่า​คดี​นี้​จะ​ถูก​ปิด​อย่าง​ลับ​ๆ​ ​โดย​ไม่​ก่อให้เกิด​ผลกระทบ​ใดๆ​ ​แล้ว​เปลี่ยน​มัน​ให้​กลายเป็น​คดี​ธรรมดา

นอกจากนั้น​ ​การติด​ตาม​ผล​การ​สืบ​คดี​นี้​ก็​ยัง​เป็น​หน้าที่​ของ​เขา​ ​ดังนั้น​ตราบใดที่​เขา​ยัง​มีหน้า​ที่​ใน​การ​ทำ​คดี​นี้​ ​การตัดสินใจ​ทั้งหมด​ย่อม​อยู่​ที่​เขา

หลิว​หง​เจียง​มั่นใจ​กับ​เรื่อง​นี้​มาก​ทีเดียว​ ​สิ่ง​เดียว​ที่​เขา​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ได้​ก็​คือ​หน่วย​พิเศษ​หน่วย​นี้​ ​แต่​ระเบียบวินัย​อัน​เคร่งครัด​ที่​ทหาร​เหล่านี้​ได้รับ​การ​ปลูกฝัง​มาย​่​อม​ไม่​อนุญาต​ให้​พวกเขา​เอ่ย​ข้อมูล​อัน​ใด​ใน​ที่สาธารณะ​อย่างแน่นอน

ไม่​บอก​ก็​รู้​ว่า​หลิว​หง​เจียง​ใช้​ไพ่​ที่อยู่​ใน​มือ​ได้​เป็น​อย่างดี

เขา​เป็น​คน​ทำงาน​ละเอียด​อย่างมาก​ ​และ​ยัง​รู้ดี​ว่า​จะ​แสดงท่าทาง​ภายนอก​ออกมา​อย่างไร

แม้​ดวงตา​ของ​เขา​จะ​แดงก่ำ​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​ยืนกราน​ที่จะ​ทำงาน​ของ​ตัวเอง​ต่อ​ด้วย​การ​สอบปากคำ​ผู้​ที่​ก่อความวุ่นวาย​บน​รถไฟ​ขบวน​นั้น​ด้วยตัวเอง

‘​ก่อความวุ่นวาย​’​ ​เป็น​คำพูด​ที่​ดูดี​อย่างมาก

หลิว​หง​เจียง​ใช้​คำ​นี้​เพื่อ​ตัดสิน​ความร้ายแรง​ของ​คดี​นี้​ด้วย​การ​ทำให้​ความสนใจ​ทั้งหมด​พุ่ง​เป้า​ไป​อยู่​ที่​เหตุ​วุ่นวาย​จาก​การนำ​เครื่องบิน​ลง​จอด​บน​หลังคา​รถไฟ​ ​แทนที่จะ​ยกระดับ​ปัญหา​เรื่อง​การลัก​ลอบ​ค้า​เด็ก​ขึ้น​มา

เขา​ไม่ได้​ปล่อยตัว​เหล่า​ลิ่ว​ ​เพราะ​เขา​รู้ดี​ว่า​ถ้า​เขา​ปล่อย​เหล่า​ลิ่ว​ไป​ตอนนี้​ก็​เท่ากับ​การ​ปล่อย​ให้​คนอื่น​พูดถึง​เขา​ได้​โดยง่าย

ดังนั้น​เขา​จึง​ตัดสินโทษ​ของ​เหล่า​ลิ่ว​ด้วย​ข้อหา​ก่อความวุ่นวาย​บน​รถไฟ

เขา​ดู​เป็นกลาง​ทีเดียว​เมื่อม​อง​จาก​ภายนอก​ ​แต่​อันที่จริง​ ​ถ้า​เรา​ลอง​เทียบ​ระดับ​ความรุนแรง​ของ​การลัก​ลอบ​ค้า​เด็ก​ ​การ​มี​อาวุธ​ปืน​ใน​ครอบครอง​ ​และ​การก​่อ​ความวุ่นวาย​บน​รถไฟ​แล้ว​ละ​ก็​ ​พวกเรา​ย่อม​รู้​ได้​ทันที​ว่า​ข้อหา​ไหน​ร้ายแรง​กว่า​กัน

โทษ​จาก​ข้อหา​แรก​สามารถ​ดับลม​หายใจ​ของ​เหล่า​ลิ่ว​ได้​เลย​ทีเดียว​ ​แต่​โทษ​จาก​ข้อหา​หลัง​นั้น​ ​อย่างมาก​ที่สุด​ก็​มี​แค่​สั่ง​จำคุก​เหล่า​ลิ่ว​ ​แล้ว​เขา​ก็​จะ​ได้​ออกมา​อย่างรวดเร็ว

หลังจาก​เสร็จ​งาน​ที่​เตรียม​ไว้​ ​เขา​ก็​เริ่ม​ทำการ​สอบปากคำ​จริง

แต่​เขา​ไม่ได้​สอบปากคำ​เหล่า​ลิ่ว​ ​เขา​กลับ​ข้าม​ไป​แล้ว​หยิบ​บันทึก​ที่​ตัวเอง​เตรียม​ไว้​ก่อน​การ​สอบปากคำ​ขึ้น​มา​ ​และ​เตรียมตัว​ที่จะ​สอบปากคำ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​และ​คนอื่นๆ​ ​แทน

เพราะ​ยิ่ง​ผล​การ​สืบ​คดี​เรื่อง​รถไฟ​ขบวน​นี้​ออกมา​เร็ว​เท่าใด​ ​มัน​ก็​จะ​ยิ่ง​ส่งผล​ดี​ต่อ​หลิว​หง​เจียง​มาก​เท่านั้น

ผู้บริหารระดับสูง​ยัง​รอ​ข่าว​เรื่อง​นี้​อยู่​ ​ถ้า​มัน​นาน​เกินไป​ ​มัน​อาจ​ทำให้​เขา​ไม่พอใจ​ได้

คน​แรก​ที่​หลิว​หง​เจียง​สอบปากคำ​คือ​ ​แอล​ ​เขา​คิด​ว่า​คน​คน​นี้​ดู​อายุ​น้อยกว่า​เขา​ ​และ​การ​รีด​ข้อมูลออก​มาจาก​เด็กหนุ่ม​คน​นี้​น่าจะ​ง่าย​สำหรับ​เขา​มากกว่า​ ​แต่​แม้​จะ​ผ่าน​ไป​แล้ว​กว่า​ยี่สิบ​นาที​ ​หรือ​ต่อให้​เขา​ถาม​อะไร​ไป​ ​เด็กหนุ่ม​คน​นี้​ก็​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท